Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(แบ่งปัน) ว่าด้วยเทคนิค "show, don't tell"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พบกับการกลับมาอีกครั้งของ Megan Ignacia คนเดิม เพิ่มเติมคือดองนิยาย (เฮ้ย!!) 

คราวนี้จะมานำเสนอเทคนิคการเขียนอีกอย่างหนึ่ง ที่หลายๆ คนคงคุ้นเคยกันดี "show, don't tell" หรือถ้าจะแปลออกมาตรงตัวเลยก็คือ "ทำให้ดู อย่าพูด" 

ก็คือ การแต่งนิยายแบบใช้การกระทำ ความรู้สึก ปฎิกิริยา หรือคำพูดแสดงแทนการบรรยาย มักใช้กับการสื่อลักษณะ หรือนิสัยของตัวละคร ซึ่งจะทำให้คนอ่านอินได้มากกว่าการพูดตรงๆ ดั่งสุภาษิตที่ว่า ... การกระทำสำคัญกว่าคำพูด

** อนึ่ง หลักการเลือกใช้ tell หรือ show แบบง่ายๆ คือ Tell : ใช้ในเหตการณ์ที่ไม่สำคัญ หรือต้องการดำเนินเรื่องเร็วในจุดนี้ ส่วน Show : ใช้เพื่อแสดงการเน้น เหตุการณ์หรืออารมณ์สำคัญที่มีผลกับเนื้อเรื่อง (โดยเฉพาะกับตัวเอก)

พูดไปก็ดูงง ลองมาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่าาาา


การบรรยายลักษณะของตัวละคร 

Tell
  นายแดงเป็นคนอ้วนมากกก แถมยังชอบพูดเสียงดัง

Show นายแดงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง เขาดึงเก้าอี้พลาสติกตัวหนึ่งออกมา แล้วทรุดตัวลงนั่งอย่างแรง ก้อนไขมันที่แผ่ขยายออกมาจากก้นและต้นขาทำให้เขาดูเหมือนลูกชมพู่ ขาเก้าอี้โย้ไปมาจนน่ากลัว เหมือนว่ามันพร้อมจะหักได้ทุกวินาที แล้วเขาก็หันไปทักทายเพื่อนที่นั่งข้างๆ ด้วยระดับเสียงที่น่าจะได้ยินไปถึงหน้าปากซอย


การบรรยายนิสัยของตัวละคร 

Tell  มายด์เป็นคนขี้งก เห็นแก่ตัว เธอไม่เคยแบ่งอะไรให้เพื่อนเลย แต่เวลาเพื่อนเอาของกินมา เธอมักจะไปกินด้วยเสมอ โดยไม่ขออนุญาต ทำให้เพื่อนๆ เอือมระอามาก แต่เพราะเธอเป็นลูกสาวของ ผอ. เลยไม่มีใครกล้าทำอะไร

Show 
"ขอยืมยางลบหน่อยสิ" เกดสะกิดมายด์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอเหลือบมองเพื่อนเล็กน้อย ส่ายหัวแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างว่า 

"ฉันไม่มี ทำไมไม่เอามาเองล่ะ"

เกดอึ้งไป เพราะเมื่อกี้เธอเพิ่งเห็นมายด์ใช้ยางลบอยู่เลย เธอลูบหน้าด้วยความเขิน แล้วหันหลังไปขอเพื่อนคนอื่นแทน

"ยัยนั่นก็แบบนี้แหละ ไม่เคยแบ่งอะไรให้เพื่อนๆ หรอก" ไอซ์กระซิบขณะยื่นยางลบให้

เสียงออกบอกเวลาพักดังขึ้น นักเรียนพากันวิ่งเฮโลออกไปนอกห้อง ไอซ์หยิบคิทแคทที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นตอนปิดเทอมออกมา แล้วส่งเสียงเรียกเพื่อนๆ 

"มากินกันถอะ!"

เพื่อนที่ยังไม่ออกจากห้องก็เดินเข้ามาหยิบไปคนละชิ้น แต่จู่ๆ มายด์ก็เดินเข้ามากลางวง ล้วงถุงขนมแล้วหยิบคิทแคทไปสามชิ้นแบบหน้าตาเฉย ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณ

เพื่อนๆ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก บางคนถึงกับพึมพัมว่า 'เอาอีกแล้วสิ' ไอซ์ขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจ แต่เธอก็ขี้เกียจไปต่อล้อต่อเถียงกับมายด์ ซึ่งเป็นถึงลูกสาวของ ผอ.

**ส่วนใหญ่ เวลาจะบอกว่าตัวละครนิสัยเป็นอย่างไร มักจะใช้สถานการณ์ต่างๆ หรือการกระทำมาเป็นตัวบ่งชี้ ก็เหมือนกับในชีวิตจริง ที่เราจะรู้ว่าใครเป็นอย่างไรโดยการสังเกตการกระทำของเขา


การบรรยายความรู้สึกของตัวละคร 

Tell  ซิสผงะเมื่อเห็นมังกรสีดำตัวใหญ่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ดวงตาของมันเป็นสีแดงเหมือนเบ้าหลอมเหล็ก เมื่อมันอ้าปาก ไฟสีฟ้าส่องแปลบปลาบอกมา ซิสกลัวจนแทบคลั่ง กลัวชนิดที่ว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน เขากลัวจนรู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้น 

Show ซิสผงะเมื่อเห็นมังกรสีดำตัวใหญ่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ดวงตาของมันเป็นสีแดงเหมือนเบ้าหลอมเหล็ก เมื่อมันอ้าปาก ไฟสีฟ้าส่องแปลบปลาบอกมา ซิสอยากจะวิ่งหนี แต่พบว่าขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง ร่างกายของเขาแข็งทื่อและสั่นสะท้าน ฝ่ามือเย็นเฉียบเหมือนเลือดทั้งร่างกายจับตัวเป็นน้ำแข็ง


หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับทุกท่านนะคะ 

แสดงความคิดเห็น

>

20 ความคิดเห็น

Octory 30 มิ.ย. 60 เวลา 20:21 น. 1

Tell "เรามาผ่านคืนนี้ไปด้วยกันเถอะค่ะ"

Show เธอเบียดกายชิดใกล้ เข้ามานั่งตัก แขนโอบคอเขา มืออีกข้างดึงเนคไท คีบด้วยปลายนิ้วไล้ไปจนถึงกระดุมเม็ดบนของเขา แล้วปลดออก

4
Seesor [COS] 30 มิ.ย. 60 เวลา 20:27 น. 2

เห็นคำว่า "Show, don't tell" แล้วแอบสะดุ้ง กาลครั้งหนึ่งในบอร์ดเคยใช้คำนี้ปาใส่หน้าไฮดร้าชนิดหนึ่งในการวอร์มาหลายครั้ง ก็เลยนึกว่ากระทู้นี้ดราม่าอะไรรึเปล่า 5555555 ฮือ


มีสาระมากค่ะ เห็นด้วยเลย อ่านกระทู้นี้แล้วได้กลับไปสำรวจตัวเองด้วย ขอบคุณค่ะ <3

0
หลับปุ๋ย`(CherisH) 30 มิ.ย. 60 เวลา 20:39 น. 6

พออ่าน Tell ดูแล้วพบว่ามันเหมือนกับ info dump กลายๆ มันเหมือนกันนะครับ แค่มันสั้นกว่าเฉยๆ ลองกลับไปอ่านนิยายตัวเองดู เจอ Tell เพียบเหมือนกันเลยแฮะ

1
Megan Ignacia 30 มิ.ย. 60 เวลา 21:10 น. 6-1

ทำนองนั้นอะค่ะ คือการ show คล้ายๆ กับขยายความ tell โดยใช้การกระทำแทนการบอกเล่า

0
Louis Forest 30 มิ.ย. 60 เวลา 21:00 น. 7

นี่สิ Show, don't tell ที่แท้จริง


Tell: ทุกคนกำลังมีความสุข


Don't: ห้ามไม่เห็นด้วย


Show: มีความสุขจังเลย

2
skeleton-king 30 มิ.ย. 60 เวลา 21:31 น. 8

Tell: คลินท์กับแอนเซลรู้จักกันมานานและสนิทกันเข้าขั้นเพื่อนตาย


Show: คลินท์ใช้เท้าเตะเศษคอนกรีตจากพื้นก่อนนั่งลงข้างๆ “เมื่อวานเห็นแกคุยโทรศัพท์เกือบครึงชั่วโมง แฟนใหม่เหรอวะ?”

“เผื่อแกไม่ได้สังเกต ตอนนี้เรากำลังอยู่ในสนามรบนะเว้ย”

เขากลอกตาขึ้น “เออ ตาไม่ได้บอดนี่หว่า แต่เราเพิ่งไล่พวกเลวนั่นไป คราวนี้จะเลิกลีลาได้หรือยัง-หัวทอง?”

แอนเซลหัวเราะพลางส่ายหน้า “แม่ฉันโทรมาน่ะ”

“จริงอ่ะ แล้วคาร่าเป็นยังไงบ้าง?” คลินท์วางไรเฟิลไว้ที่หน้าตักก่อนหยิบกระติกเครื่องดื่มให้พลังงานขึ้นมาดับกระหาย

เสนารักษ์หนุ่มยักไหล่ เขายกกระติกของตัวเองขึ้นมาบ้าง “แม่ก็แข็งแรงดี สงสัยเห็นรูปพวกเราในทีวีเลยพูดถึงแกด้วย” แล้วเขาก็แหงนหน้าขึ้น มีน้ำไหลออกมาเป็นสายเล็กๆไม่กี่วินาทีก่อนจะเหลือเป็นหยดซึ่งทำเอาแอนเซลเบะปาก

“เหรอ? แล้วว่าไง” คลินท์ยื่นกระติกของเขาให้เพื่อนซึ่งพยักหน้าขอบคุณ

“บอกว่าแกน่าจะโกนหนวดได้แล้ว แม่บอกว่าแกกับฉันผอมลงเลยลงขนมมาให้อีก แถมบอกให้ฉันโทรกลับด้วยถ้ามันส่งมาถึงเรา”

แน่ใจนะว่าที่คุยน่ะไม่ใช่แม่ฉัน “คาร่าทำเองใช่มั้ย?”

“แม่ฉันไม่เชื่อมือร้านเบเกอรี่แถวบ้าน อันนี้แกคงรู้อยู่แล้ว” คลินท์รับกระติกน้ำคืนจากเพื่อนพลางดึงเอาปืนพกมาตรวจ หลังจากใช้งานเจ้าตัวเล็กมาทั้งช่วงเช้า “ฉันก็เลยบอกไปว่า ‘แม่ ผมเข้าใจนะว่าแม่เป็นห่วง แต่หยุดส่งขนมอบกลิ่นอบเชยมาที่ฐานทัพของยูเอ็นได้แล้ว’ จริงๆนะเว้ย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ส่งขนมมาให้เราได้ไงตอนที่อยู่ญี่ปุ่น”

“เฮ้ย พูดกับแม่แกดีๆหน่อยสิวะ” คลินท์ถอดแม็กกาซีนออกจากปืนพกคู่กายแล้วคัดกระสุนที่อยู่ในรังเพลิงออกตาม เขาหรี่ตาข้างหนึ่งขณะมองเข้าไปในลำกล้อง “ถ้าคาร่าหยุดส่งของกินมาเดี๋ยวเราก็อดตายพอดี”

1
หวานจัe 30 มิ.ย. 60 เวลา 21:50 น. 9

ขอบคุณสำหรับเทคนิคนะคะ ขออนุญาตินำไปใช้

tell : นักอ่านคนนั้นดองอีกแล้ว

show :







ดองจริงๆด้วย

1
คุณพีทคุง พิธันดร 1 ก.ค. 60 เวลา 01:44 น. 12

เสริมนิดนะครับ


การแสดงให้คนอ่านเห็นด้วยตัวเอง (show) เป็นเทคนิคที่ดี เมื่อใช้ในจุดที่เหมาะสม ส่วนการเล่าสรุป (tell) ก็ไม่ใช่สิ่งต้องห้ามนะ เป็นเทคนิคที่มีประโยชน์ เมื่อใช้ในจุดที่เหมาะสมเช่นกัน


ลองนึกดูว่า ถ้านิยายเรื่องยาวเรื่องนึง ใช้ "โชว์" อย่างเดียว ไม่มี "เทล" เลยทั้งเรื่อง กว่าจะรู้ข้อมูลอะไรซักนิด เราต้องเดินฝ่าเข้าไปในดงเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย กว่าจะจบเรื่อง นอกจากจะเหนื่อยแล้ว ยังทำให้หลงทาง (หลงประเด็น) ได้ง่ายครับ


"โชว์" มีประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างความรู้สึกร่วมให้คนอ่าน เช่น ให้คนอ่านรู้จักตัวตนของตัวละครจริงๆ (การเห็นเองเชื่อเอง มีน้ำหนักมากกว่าฟังเขาเล่ามา บางทีเขาเล่ามาผิดอีก) ให้คนอ่านร่วมอยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นส่วนสำคัญๆ ของเรื่อง เป็นแกนปัญหาหลักของเรื่อง เป็นตัวแก้ปัญหาของเรื่อง หรือให้คนอ่านมีความรู้สึกร่วมไปกับอารมณ์ในเรื่อง


"เทล" ก็มีประโยชน์ครับ ใช้เวลาต้องการให้ข้อมูลเสริมที่ช่วยให้เรื่องรุดหน้าไปได้โดยเร็ว โดยที่ตัวข้อมูลเสริมเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องให้คนอ่านร่วมรู้สึกลึกซึ้งด้วยมากนัก ตัวประกอบชั้นรองๆ ถ้าเรา "โชว์" ให้เห็นบุคลิกได้ก็ดี แต่ถ้าการ "โชว์" นั้นทำให้เสียพื้นที่มาก "เทล" เสียเลยก็ช่วยให้เรื่องรุดหน้าได้เร็วขึ้น และไม่ทำให้คนอ่านหลงคิดว่าตัวประกอบนั้นสำคัญกว่าที่เป็นอยู่ด้วย อันนี้เป็นตัวอย่างครับ

3
Louis Forest 1 ก.ค. 60 เวลา 02:01 น. 12-1

ถ้าเป็นภาษา Star Wars โอบิวานเคยบอกว่า "only a Sith deals in absolutes"


นับว่าคุณพีทเป็นพวก Jedi


ที่มีลูกชายชื่อ Jaonaay //เอ๊ะ... มุกอะไรอี๊ก?

0
Megan Ignacia 1 ก.ค. 60 เวลา 07:04 น. 12-2

ถูกค่ะ มันต้องมีทั้งสองอย่าง แต่หลายๆ เรื่องนี่คือมีแต่ tell อย่างเดียวเลย (โดยเฉพาะนักเขียนมือใหม่อ่านะ)

0
ScarletWhite 3 ก.ค. 60 เวลา 03:25 น. 12-3

เห็นด้วยค่ะ

อีกอย่าง show มักใช้ในตอนที่ต้องการแสดงอารมณ์ลึกๆ ของตัวละคร เพราะมันจะอินมากๆ ส่วน tell เราเอาไว้โยนข้อมูลให้เหมือนเป็นเรื่องไม่น่าสนใจเวลาจะวางปริศนา อิอิ

0
ชนุ่น 1 ก.ค. 60 เวลา 08:44 น. 13

อันนี้ทำบ่อยครับ คือให้คิดซะว่าเราไม่รู้จะพูดไรแ้วก็แสดงออกเป็นการกระทำแทน

คือแทนที่นางเอกจะไปสารภาพรักตรงๆ ก็อ่อย...เฮ้ย ผิดๆ แบบแสดงให้รู้ว่าชอบ บอกอ้อมๆ ทำท่าทางเขินอาย เป็นต้น การ show มันเหมือนเพิ่มลูกเล่นในนิยายให้สนุกขึ้นด้วยนั่นแหละครับ

0
เจ้า(แมว)ขาว 1 ก.ค. 60 เวลา 18:12 น. 15

ตอนแรกๆ ก็ใช้ Tell เยอะครับ แต่หลังจากรีไรต์ก็เปลี่ยนเป็น Show เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ในนิยายของผมก็ยังมี การแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครแบบอ้อมๆ ผ่านทางฉาก

แทนการบอกเล่าแบบตรงด้วย

เช่น พ่อแม่ลูกไปเที่ยวกันอย่างมีความสุข

ก็เป็น ทั้งสามคนไปเที่ยวกันในเวลาเช้าที่อากาศแจ่มใสท้องฟ้าสีครามปลอดโปร่ง


เธอไปร่วมการประชุมที่หอประชุมด้วยความรู้สึกหดหู่

ก็เป็น ท้องฟ้ามีเมฆสีเทาปกคลุมไปทั่ว เธอออกจากรถเดินผ่านสนามไปที่หอประชุม

1
ตีสี่ 3 ก.ค. 60 เวลา 17:37 น. 15-1

ถ้าใช้สภาพอากาศสิ่งแวดล้อมบรรยายเพื่อโชว์ความรู้สึกต้องระวังนะคะ เพราะแทนที่จะอิน มันจะกลายเป็นไม่อินได้

อย่างที่คุณยกมา

"เธอไปร่วมการประชุมที่หอประชุมด้วยความรู้สึกหดหู่

ก็เป็น ท้องฟ้ามีเมฆสีเทาปกคลุมไปทั่ว เธอออกจากรถเดินผ่านสนามไปที่หอประชุม"

มันควรจะเขียนว่า "เธอรู้สึกว่าท้องฟ้ามีเมฆสีเทาปกคลุมไปทั่ว" เหมือนอารมณ์ของคนมีความรัก ต่อให้พายุเข้าโลกก็ยังสดใสอะไรทำนองนี้

เราเคยบทบรรยายทำนองประมาณว่า อกหัก เจอเรื่องทุกข์ระทมร้อยแปด เดินออกมาจากบ้านอาคารเจอฝนตกอีก อารมณ์ที่จะพีคเลยดิ่งวูบเพราะมันขัดกับสามัญสำนึกค่ะ แบบว่าตอนที่เราอ่านอยู่อากาศร้อนเหงื่อแตกซ่ก แถมก่อนหน้าผู้เขียนก็ไม่เคยบรรยายว่าในเรื่องมันอยู่ฤดูไหน และในเรื่องก็ไม่เคยเจอฝนสักกะเม็ด มันเลยดูจงใจไปนิด

0
Lady Venus 2 ก.ค. 60 เวลา 14:26 น. 16

ขอบคุณที่แชร์ค่ะ อาจดูง่ายแต่ไม่ง่ายเลยเน๊อะ สำหรับการ 'Show, don't tell' บางครั้งเราก็ไม่กล้า 'โชว์' เพราะกลัวรีดเดอร์จะไม่เข้าใจว่าเราต้องการสื่ออะไร พูดง่ายๆ ไม่มีความมั่นใจใน ภาษาโชว์ ของตัวเอง 555 ก็เลยได้แต่ tell จนเกินงาม


1
Megan Ignacia 2 ก.ค. 60 เวลา 15:58 น. 16-1

มันต้องฝึกเรื่อยๆ อะค่ะ เราเองก็ไม่ได้เก่งหรอก แต่ที่จับหลักได้เพราะอ่านมาเยอะน่ะค่ะ

0