Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คำแนะนำ+ประสบการณ์ในการไปหาจิตแพทย์ จากน้องหงอย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่าาา ต่อจากกระทู้น้องหงอยกระทู้ที่แล้ว กระทู้นี้เราจะมาแนะนำเรื่องการไปหาจิตแพทย์ค่ะ

(เราแนะนำในฐานะคนที่เคยไปหาหมอนะคะ อาจจะไม่มีรายละเอียดหรือข้อมูลด้านจิตวิทยาเท่าไหร่ แหะๆ)

อย่างที่เขียนในกระทู้ที่แล้วว่าชีวิตมอ4-5ของเราไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ เคยมีช่วงเหนื่อยๆเครียดๆเพลียๆ จนถึงช่วงที่เศร้าจนอยากฆ่าตัวตาย กระทู้นี้จะเป็นกระทู้ทั้งให้คำแนะนำและเล่าประสบการณ์ของการไปหาจิตแพทย์ เผื่อเพื่อนๆคนไหนรู้สึกไม่ค่อยสบาย ไม่โอเค อยากไปหาจิตแพทย์จะได้ไปหาได้ง่ายขึ้นค่ะ
 

1.ต้องหมั่นสำรวจตัวเองนะคะว่าตัวเอง/อาการตัวเองเป็นอย่างไรบ้างในแต่ละวัน เริ่มเมื่อไหร่ มีสาเหตุอะไรมั้ย อะไรทำให้มันลดลง ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรคทางจิต(mental illness) ดูอาการว่าเราเสี่ยงมั้ย ของเราเขียนเป็นไดอารี่วันต่อวันเลยค่ะว่ารู้สึกยังไง

 

2.ถ้าเสี่ยง อย่าปล่อยไว้เฉยๆนะคะ อย่าชะล่าใจ ให้คนที่มีความรู้ด้านจิตวิทยา เช่น นักจิตวิทยา แก้ปัญหาดีกว่า การที่เราปล่อยไว้เฉยๆ หรือแก้ปัญหาโดยที่ไม่ได้รับรอง มันจะทำให้แย่กว่าเดิมนะคะ และถึงแม้อาการจะเป็นช่วงเดียวแล้วหาย ก็ควรไปหาหมอนะคะ เพราะอาการมันมีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้ (การไปหาหมอในช่วงเวลาที่เราปกติจะโอเคที่สุด เพราะเรามีสติในการเล่าเรื่องหรืออธิบายอาการให้หมอค่ะ)
 

ส่วนข้างล่างนี้เป็นคำแนะนำสำหรับเพื่อนๆที่จะไปหาหมอนะคะ 
(เราไม่ค่อยรู้ศัพท์โรงพยาบาลต้องขออภัยด้วยนะคะ เพื่อนคนไหนที่รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ)

 

3.เราไปหาหมอที่แผนกจิตเวชเด็กและวัยรุ่นโรงพยาบาลรามาธิบดี(เขียนถูกปะวะ555) สิ่งที่เราควรเตรียมไป คือเตรียมว่าจะพูดอะไรให้หมอฟังบ้าง ข้อมูลที่เราเล่าจะเป็นช่วงที่มีอาการกับอาการเป็นยังไง (ถ้าเป็นของเราก็ตอนไปเดนมาร์ก กับตอนกลับไทยปีที่แล้ว) ขั้นตอนการหาหมอก็เหมือนไปหาหมอทั่วไปอ่าค่ะ ลงทะเบียนคนไข้ จากนั้นก็ไปแผนกจิตเวชเด็กวัยรุ่น (ถ้าไม่ได้นัดควรไปแต่เช้านะคะเพราะคนเยอะ) ถ้าพยาบาลที่ลงทะเบียนถามว่ามาหาหมอมีอาการอะไร ให้ตอบว่าเครียดนะคะ (เพราะสำหรับบางคนอาการมันเยอะ บอกไม่หมดหรอก5555) 
 

4.ได้พบหมอแล้ว หมอก็จะแนะนำตัว แล้วก็ถามว่าเราเป็นอะไร คิดว่ามีอาการอะไร แล้วก็ให้เราเล่าอาการ เราก็เล่าได้เรื่อยๆเลยค่ะ ไม่จำกัดเวลา เล่าออกมาให้หมดเลย ของเราเล่าไปแล้วร้องไห้ไปในห้องหมอก็มีทิชชู่ให้นะ5555 (แต่หมอไม่ปลอบ น่าจะเพราะอยากดูอาการ) ระหว่างเล่าหมอก็จะถามอาการเราด้วยค่ะ เราก็ตอบไปตามความเป็นจริง จากนั้นหมอก็จะถามเกี่ยวกับประวัติครอบครัว โรคทางจิตของคนในครอบครัว ประวัติสุขภาพ การใช้สารเสพติด และอื่นๆ แล้วหมอก็จะทดสอบไอคิว(ของเราหมอเรียกว่าเล่นเกม555) เราไม่บอกกระบวนการนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าบอกมั้ย แต่สนุกดีค่ะ หมอที่เราไปหาน่ารักมากกกกงืออออออ
 

5.หลังจากที่หมอได้ฟังอาการของเรา หมอก็จะบอกได้ว่าเราเป็นอะไร ต้องกินยามั้ย แล้วจากนั้นก็นัดต่อไป ส่วนใหญ่คนส่วนใหญ่พบหมอครั้งแรกไม่ต้องกินยา จะมีบางคนที่ต้องกินยา เราไม่ได้ยาค่ะ แต่ได้สมุดบันทึกเป็นของขวัญจากแผนกแทน5555
 

6.จากนั้นเราก็ไปจ่ายค่ายาและค่าหมอ ด้วยความที่โรงพยาบาลรัฐ ค่าหมอเลยแค่50 ส่วนค่ายาจ่ายตามที่เราจ่ายไหว แต่เพราะเราเป็นลูกค่าราชการอายุยังไม่ถึง 18 บวกกับไม่มียา เลยฟรีค่ะ
 

เรารู้สึกว่าการไปพบหมอมันเป็นทางออกที่ดีมากๆ เพราะถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกว่า โอเค ปกติ ทนไหว แต่เราไม่รู้ว่าที่ทนไหวอ่ะเราเจ็บไปเท่าไหนแล้ว หรือวันไหนมันจะระเบิดขึ้นมาอีก ถึงแม้เราจะปกติการไปหาหมอมันก็ไม่เสียหาย เพราะเราจะได้รู้เลยว่าเราป่วยหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าป่วยแต่ไม่รู้ตัว หรือมโนว่าป่วยค่ะ
 

อยากให้เพื่อนๆไปหาหมอกันค่ะ เราไม่อยากให้มันสายไป
#พบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

 

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Ja_Je 13 ก.ค. 60 เวลา 12:42 น. 1

เหมือนเราเลย เราก็พบแพทย์เหมือนกัน มันหนักเลยนะเราอ่ะ เรียนไม่รู้เรื่องเลย พบแพทย์ไม่น่าอายเลยถ้าเราไม่กล้าแบบนี้ เราจะแย่ลงๆ ไปหาแพทย์ด้านจิตคือหาทางออกนะ ถ้าไม่ไปจะแย่ลงนะ

0