Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คิดไปเองคนเดียวหรือเปล่าคะว่านิยายใหม่ๆในเด็กดีไร้ศิลปะในการตั้งชื่อเรื่อง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากถามเพื่อนๆว่าคิดเหมือนกันไหมคะ โดยเฉพาะนิยายแฟนตาซี เห็นชื่อเรื่องเเล้วก็งงว่าจะตั้งชื่อนี้จริงหรอ เข้าใจนะคะว่าชื่อเรื่องไม่มีผลต่อความสนุกของนิยาย เเต่ชื่อเรื่องก็มีส่วนที่จะทำให้ดึงดูดนักอ่านใหม่ๆให้เข้ามาอ่านมากขึ้นนะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

24 ความคิดเห็น

sunshadow 30 ก.ค. 60 เวลา 18:57 น. 2

แต่เราเห็นด้วยนะ นิยายบางหมวด(แต่ไม่ใช่หมวดแฟนตาซี)นี่อ่านไปชื่อแต่ละเรื่องมาเป็นแพทเทิร์นเดียวกันเลยอะ จำไม่ได้จริงๆ ว่าเรื่องไหนคือเรื่องไหน


ส่วนเรื่องของตัวเอง ยอมรับว่าชื่อเรื่องห่วยเหมือนกัน แต่จนปัจจุบันก็ยังคิดชื่อดีๆ ไม่ออก มีใครอาสาจะช่วยเราตั้งชื่อใหม่ไหม T^T

0
เจ้าแมวกุหลาบดำ 30 ก.ค. 60 เวลา 19:28 น. 3

ไม่น่าจะแปลกนะคะ ทุกวันนี้เรายังคิดนานสองนานว่าจะตั้งชื่อยังไงเพราะชื่อมันชอบไปซ้ำกับเรื่องอื่นแล้วใช้ไม่ได้น่ะค่ะ -*-

0
Topduck 30 ก.ค. 60 เวลา 19:34 น. 4

คงเรียนรู้จากแนวทางรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จมาล่ะมั้ง


ประมาณเห็นชื่อแนวนี้แล้วรู้เลยว่าเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้แน่ ๆ

0
Once upon a time in my dream 30 ก.ค. 60 เวลา 20:11 น. 5

ถ้าได้เขียนจริงๆจะรู้ว่าการตั้งชื่อดีๆสักชื่อมันยากแค่ไหนค่ะ

นักเขียนหน้าใหม่ส่วนมากแนวแฟนตาซีมักอยากให้ชื่อตัวเองดูเจ๋ง ดูเท่ ยิ่งใหญ่กันทั้งนั้น (เราก็เป็น) พอตั้งไปตั้งมามันเลยคล้ายกันหมดอย่างที่เห็น

0
TEALSheeP 30 ก.ค. 60 เวลา 20:18 น. 6

ของเราเขียนนิยายเเฟนตาซีเเล้วก็ตั้งชื่อเรื่องจากตัวละครที่มีอิทธิพลที่สุดในเรื่อง (เเม้จะไม่มีบทเลยก็ตาม) เเต่ก็ยอมรับเลยค่ะว่าเเม้ตัวเองจะถูกใจชื่อนี้เเล้ว เเต่ก็รู้สึกว่ามันยังดึงดูดคนอ่านไม่พอ T T เเต่เราก็เห็นด้วยกับจขกท.นะ รู้สึกว่าช่วงนี้พวกนิยายเเฟนตาซีเขาตั้งชื่อได้เเบบชวนอึ้งยังไงพิกล

0
Natascha Ouellette 30 ก.ค. 60 เวลา 20:20 น. 7

ไม่รู้สิ โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้ใส่ใจว่ามันจะหรูหรือไม่หรู ดูดีหรือไม่ดูดี ขอแค่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง และไม่ซ้ำกับใครก็พอแล้ว แต่การตั้งชื่อให้น่าดึงดูดสำคัญเหมือนกัน

0
SilverPlus 30 ก.ค. 60 เวลา 20:22 น. 8

ชื่อที่ตั้ง บางครั้งไม่ได้เน้นเพื่อความสวยงาม หรือมีความหมาย

ที่ตั้ง ๆ กัน เพราะแสดงถึงแนวเรื่องที่คนอ่านนิยม ใส่ความน่าอ่านเข้าไปในชื่อ ใครก็ตามที่หานิยายอ่านเกี่ยวกับแนวนี้จะเจอได้อย่างง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปอ่านที่เกริ่นนำให้เสียเวลา

0
อัจฉราโสภิต 30 ก.ค. 60 เวลา 20:50 น. 9

คันปากอยากพูด


ชื่อเรื่อง รวมทั้งเนื้อเรื่อง สำนวน คำผิด หลักการเขียน ความสมเหตุสมผล อะไรทั้งหลาย เอาจริงๆเดี๋ยวนี้ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ครับ คนอ่านขอแค่ถูกจริตเขาก็อ่านหมดนั่นแหละ


ปัญหาคือจริตคนอ่านสมัยนี้


ชื่อเรื่องไม่ต้องคิดนาน ไม่ต้องแปลกแตกต่างหรือโดดเด่น ซ้ำบางคำยังได้เลย ขอแค่มีคีย์เวิร์ด คำที่ตลาดต้องการ เช่น "นางร้าย" "เกิดใหม่" "ต่างโลก" ในบางกรณี "โกง" "เก่ง" "เทพ" และที่เริ่มซาไปบ้างแล้ว "ออนไลน์"


คิดมาก คิดยาก คิดต่างทำไม คิดไปแล้วไม่มีคนอ่านมันได้อะไร ?


ก็พูดไปงั้น ผมก็ยังพยายามคิดอยู่ดี แต่บางทีก็มีถอนหายใจบ้างเหมือนกัน

0
lb'skLyrmN 30 ก.ค. 60 เวลา 21:13 น. 10

ปกติผมมักจะตั้งชื่อเรื่องส่งๆ ก็เลยไม่ค่อยใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเท่าไหร่

ขอแค่ไม่ใช่ชื่อทำนอง "นาย xxx กับยัย xxx" ก็เป็นอันใช้ได้ละ


แต่คุณเจ้าของฯ เข้าใจถูกแล้วครับ นิยายที่เป็นแนวกระแสหลายเรื่องจะตั้งชื่อเอาเท่ หรือไม่ก็แค่มีคำสำคัญเอาไว้ล่อตาคนอ่านนิยายตามกระแสก็เป็นอันใช้ได้แล้วครับ อย่าง "ไปต่างโลกทั้งที มันต้อง---" หรือ "แวมไพร์" "โรงเรียน" "ออนไลน์ online" (ก็ไม่เข้าใจว่าจะออนไลน์ทั้งไทยกับอังกฤษไปทำไม) ส่วนเนื้อในก็อย่างที่เห็นคือคล้ายกันไปหมด แค่เลือกอ่านสักเรื่องก็พอจะเข้าใจพล็อตนิยายที่อยู่ด้านบน-ล่างนิยายเรื่องนั้นคร่าวๆ แล้ว

0
Oregon Trail 31 ก.ค. 60 เวลา 00:09 น. 12

เคยเจอบางเรื่องเห็นชื่อเรื่องผมแตะนิยายไม่เกิน 3 ตอน เพราะชื่อเรื่องสปอยบนเพจนิยายแล้ว

0
AnAn10 31 ก.ค. 60 เวลา 01:13 น. 13

เหตุผลหลักๆเลยคือมันตั้งง่ายครับ และตรงกับเนื้อเรื่องด้วย ขอแค่ใส่คีย์ว่า ต่างโลก,เกิดใหม่ 10นาทีก็ได้หลายชื่อแล้ว


ถ้าจะเอาชื่อหรูๆหน่อยก็ต้องคิดนาน แถมพอคิดได้ยังไปซำ้กับคนอื่นอีก จะได้สักชื่อนี่เลือดตาแทบกระเด็น


0
ScarletWhite 31 ก.ค. 60 เวลา 04:12 น. 14

นักอ่านมีส่วนในการสนับสนุนชื่อเรื่องแนวนี้ด้วยค่ะ เพราะถ้าชื่อเรื่องแนวนี้ไม่มีคนอ่าน ใครจะตั้งใช่มั้ยล่ะคะ

0
ควินติชา 31 ก.ค. 60 เวลา 04:25 น. 15

จะบอกว่าทุกคนก็มีความคิดต่างกันเป็นปรกติ การที่เขาตั้งชื่อแบบนั้นอาจจะเป็นชื่อที่เขาคิดว่าดีที่สุดแล้ว เเต่เราอาจจะคิดว่ามันไม่ดีในสายตาของเราน่ะค่ะ

0
ไส้เดือนป่าน้อยผู้น่ารัก 31 ก.ค. 60 เวลา 09:06 น. 16

ผมว่ามันก็ไม่ได้ไร้ศิลปะนะ ดูอย่างหนังสือของฝรั่งก็ได้ อย่างเช่น เรื่องหลอดออฟเดอะลิง แปลเป็นไทย แหวนของท่านหลอด


เห็นไหมมันยังไม่ไร้ศิลปะเลย ผมคิดว่าตัวนักเขียนก็อยากจะตั้งชื่อเรื่องที่อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที หรือไม่ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพวกหนังสือต่างประเทศ เลยมาตั้งชื่อกันตรงตามตัวอย่างนั้น

6
อัจฉราโสภิต 31 ก.ค. 60 เวลา 09:11 น. 16-1

เดี๋ยวนะครับ คำแปลภาาอังกฤษแปลจากหน้าไปหลังแบบนั้นได้ด้วยเหรอครับ


อีกอย่าง LotR เขียนตั้งแต่ปี 2492 เลยนะครับ มาตรฐานการตั้งชื่อยุคนั้นกับยุคนี้เทียบกันยากอยู่

0
Topduck 31 ก.ค. 60 เวลา 10:14 น. 16-2

LotR น่าจะแปลว่า "เจ้าแห่งแหวน" มากกว่านะ ถ้าแหวนของท่านลอร์ดน่าจะเป็น the rings of the lord มากกว่า (ฮา) แถมแต่ละภาคยังมีชื่อสร้อยตามด้วย อย่าง fellowship of the ring กิ๊บเก๋ดีออก


จริง ๆ แล้วนึกไปนึกมา ชื่อเรื่องตระกูล Lord ก็เยอะเหมือนกันนะ นอกจาก The Lord of the Rings แล้ว ยังมี Lord of flies, Lord of Light (ไม่ใช่จาก Game of thrones นะ), Lord of War บลาๆ เต็มไปหมด แต่เนื้อเรื่องมันคนละเรื่องกันเลย อย่าง lord of flies ก็เด็กติดเกาะ ส่วน lord of light ก็ไซไฟจ๋า lord of war ก็พ่อค้าอาวุธ


0
ไส้เดือนป่าน้อยผู้น่ารัก 31 ก.ค. 60 เวลา 10:37 น. 16-3

ฮิๆ ผมเอาความคิดของตัวเองเป็นหลัก ขนาดเรื่อง "Alien vs. Predator" ยังแปลง่ายๆ เลย ว่า "พรีเดเตอร์ประทะเอเลียน"

เอ๋... ความจริงมันกลับหน้ากลับหลังเหมือนอย่างที่คุณว่ามาเหมือนกันแฮะ ท้าย, บริเวณ

0
อัจฉราโสภิต 31 ก.ค. 60 เวลา 10:48 น. 16-4

เอาจริงๆ ผมคิดว่าแต่ละภาษาเทียบกันไม่ได้ครับ เพราะแต่ละชนชาติแต่ละภาษาก็มีค่านิยม มีสิ่งที่มองว่าเหมาะว่าดีต่างกัน


เหมือน "Aliens" ถ้าให้มาตั้งในภาษาไทย "มนุษย์ต่างดาว" "สัตว์ประหลาดนอกโลก" เชื่อได้ว่าวางบนแผงหนังสือหรือดีวีดีนี่ไม่มีคนหยิบ แต่ในภาษาอังกฤษมันโอเค (ชื่อในภาษาไทยถ้าจะเทียบกันตรงๆแบบนี้ไม่ใช่ "เอเลี่ยน" นะครับ เพราะเอเลี่ยนคือการทับศัพท์ ซึ่งคนไทยมักจะมองว่าคำทับศัพท์ดูเท่ดูดี)


หรือ "อายิโนโมะโตะ" ที่แปลไทยว่า "ต้นกำเนิดแห่งรสชาติ" "จุดกำเนิดรสชาติ" หรือเอาให้สั้นๆก็ "ต้นรส" "กำเนิดรส" ก็เป็นชื่อที่ญี่ปุ่นฟังแล้วปกติ แต่ไทยฟังแล้วลิเกจังเลย


หรือพวกชื่อบริษัท หลายๆที่ของญี่ปุ่นเอานามสกุลตั้ง หรือไม่ก็ชื่อเมืองตั้ง นามสกุลเขาส่วนใหญ่ก็พื้นๆ อย่างนาตะวัน (ฮีโน่) ญี่ปุ่นประดิษฐ์ (นิสสัน) ถามว่าลองเปรียบเทียบมาเป็นไทย คนไทยไม่คุ้นหรอกครับ เสื้อผ้ายี่ห้อ "สูงเนิน" "โนนแดง" "หนองกุง" อย่างมากก็ธุรกิจครัวเรือนหรือท้องถิ่น แต่แทบจะเป็นธุรกิจใหญ่ๆไม่ได้

0
Topduck 31 ก.ค. 60 เวลา 11:23 น. 16-5

ชื่อเรื่องตระกูล xxxx VS. yyyy ให้อารมณ์ความเป็นหนังเกรด B ดีนะ เหอ ๆ


0
tenยอริต้า 1 ส.ค. 60 เวลา 10:17 น. 16-6

เห็นด้วยกับคุณอัจฉราโภคินเรื่อง --แต่ละภาษาเทียบกันไม่ได้-- เพราะความและคำต่างกัน ของไทยสั้นๆ น่าอ่านก็มี ยาวๆ น่าอ่านก็มี

อีกอย่าง "The Lord of the Rings " อย่างที่คุณไส้เดือนป่าฯว่า เวลาแปลอาจจะไม่เพราะแต่ดูวิธีการใช้เสียงในภาษาต้นฉบับสิ เสียง L..หน้าและ R.. เป็นการซ้ำเสียงที่เพราะ แถมซ้ำเสียง The ไปอีกดอกด้วย ดูก็รู้ว่าเขาตั้งใจตั้ง ไม่ใช่ตั้งง่ายๆ แถมเข้ากับเนื้อเรื่องและมีพลังด้วยคำว่า "The" ถึง 2 ที่ ฟังเพราะพอๆ กับเรื่อง "ชั่วฟ้าดินสลาย" "ฟ้าจรดทราย" แต่มีพลังกว่าเพราะสองเรื่องหลังมันเป็นแนวโรแมนติก ถ้าเทียบเถียงคำสวยและมีพลังก็คงจะเรื่อง "อำนาจ" บอกเล่าเรื่องราวและแนวเรื่องได้ตั้งแต่ชื่อเรื่องมีเดียว

0
ปีศาจหัวโต 31 ก.ค. 60 เวลา 09:25 น. 17

บางเรื่องตั้งชื่อเหมือนๆกันมาก สับสนเลยว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องไหน

เนื้อเรื่องก็ดันคล้ายกันอีก มาแนวเดียวกันเลย เขามาฆบูชากันมาเขียนหรอ

บางเรื่องชื่ออาร์ตมากๆ อาร์ตขนาดนี้ไม่เรียกไร้ศิลปะหรอก

อาจจะเรียกว่าศิลปะหลบซ่อน (แบบเราเนี่ย ซ่อนจนไม่มีใครอ่าน555)


ปล.มาฆบูชาคือชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายนะฮับ

0
Foxtailz 31 ก.ค. 60 เวลา 12:16 น. 18

อืม นั่นสินะครับ จะว่าใครก็ไม่ได้เข้าตัวเองอีกต่างหากล่ะมัง คิดว่าชื่อเรื่องคงบ่งบอกถึงศิลปะการตั้งชื่อของนักเขียนอยุ่นะครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดอยู่ดีว่าเนื้อหาดีหรือไม่

ในความคิดผมก็คงดีแล้วล่ะครับ ชื่อเรื่องอ่านแล้วรู้เลยว่าเกี่ยวกับอะไรไม่ต้องเข้าไปอ่านแท็ก แถมชื่อเรื่องก็สามารถเปลี่ยนได้ ไว้มีอารมณ์อยากเปลี่ยนค่อยเปลี่ยนแล้วตอนนี้เขียนเนื้อเรื่องไปก่อน

0
crispyandroid 31 ก.ค. 60 เวลา 13:56 น. 19

ทำไมเรารู้สึกเหมือนคนตั้งกระทู้ เป็นพวกชอบเพลงยุค 90 แล้วมาบอกว่าเพลงในปัจจุบันไม่มีศิลปะในการแต่งเนื้อและทำนอง


มันเป็นเรื่องของรสนิยม จะมาบอกว่าของใครดีกว่ากันไม่ได้หรอก

0
Lunar Lethisia Lightseriars 31 ก.ค. 60 เวลา 14:40 น. 20

ก็เห็นด้วยว่าบางทีชื่อเรื่องมันไม่น่าอ่าน แต่มันคิดยากจริงๆแหละเวลาตั้งชื่ออะไรซักอย่าง


แต่เราจะดูจากเรื่องย่อ คำโปรยอีกทีถึงจะอ่าน

0