Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เราเรียนไปทำไมเยอะเเยะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คืออยากรู้ว่าเรียนไปทำไมเยอะเเยะบางทีจะเรียนวิศวะทำไมต้องมานั่งท่องกลอนไทย
มานั่งเรียนโน๊ตดนตรี รำไทย เเล้วพวกเป็นเเพทย์ต้องมานั่งเรียนเลข ไรไม่รู้เยอะเเยะคือเรียนไปก็ไม่ได้ใช้ไรเป็นเเค่ความรู้พื้นฐานไม่นานก็ลืมไม่ได้ใช้บ่อยๆเหมือนเห็นเด็กไทยว่างเลยยัดๆให้เรียนไปมันทุกอย่างเลย หรือคิดว่าเด็กไทยยังไม่ค้นพบตัวเอง
เลยจับยัดๆไปเพื่อจะเจอสิ่งที่ชอบอันไหนชอบก็ให้ไปเรียนมหาลัยเเบบนั้นอยากรู้จุดประสงค์ทำไมเรียนเยอะเเยะเเต่ไม่ได้ผลทำกับต่างประเทศ เป็นที่การวางเเผนจัดการเรียนมากกว่าอันดับเเรกใช่ไหมคือผมคิดเเบบนี้นะ โดยที่ไม่ต้องไปดูครูหรือนักเรียนก่อน คนที่จัดว่าต้องเรียนเเบบนี้เรียนในประเทศไทยไหม หรือเขาเรียนเเค่ต่างประเทศเลยไม่รู้ว่าเรียนหนักขนาดไหน ผมสงสัยอันนี้ไม่ได้ว่าใครนะ อยากรู้ความเป็นจริงว่าทำไมผมต้องมาเรียนทุกวิชาเยอะขนาดนี้ เเล้วผมก็ต้องไปเน้นเพิ่มกับสิ่งที่ผมอยากจะเรียนอีก

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

peiNing Zheng 31 ส.ค. 60 เวลา 22:14 น. 1

เรียนเพื่อให้โอกาสตัวเองค่ะ


ถ้ามนุษย์มีกล่องในชีวิตอยู่แค่กล่องแบบเดียว ไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้เปิดกล่องอื่น ก็จะโลกทัศน์แคบค่ะ ไม่เคยได้เปิดกล่องอื่น จะรู้ได้ยังไงว่าขีดจำกัดความสามารถตัวเองไปได้ไกลแต่ไหน 


ศาสตร์ทุกศาสตร์ในโลกนี้ล้วนเชื่อมโยงกัน จิ๊กซอแค่กลุ่มเดียว จะต่อเป็นภาพขนาดใหญ่ สร้างโลกที่กว้างไกลให้ตัวเองได้ยังไง ก็ได้แค่ภาพเล็กๆ เท่าที่ตัวเองมีในมือเท่านั้นเอง


โลกกว้างนั้นสำคัญยังไง มันช่วยให้ตัวเองไม่เป็นทุกข์ ช่วยให้เข้าใจ เหมือนอย่างที่คุณไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องเรียนในสิ่งที่ไม่อยากเรียน เป็นทุกข์ต้องเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ แต่หากคุณมีจิ๊กซอในหลายๆ ด้าน คุณก็จะรู้เองว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่คืออะไร และจะอยู่กับมันได้โดยที่ทุกข์น้อยลง


ยิ่งภาพนั้นกว้างเท่าไร คุณจะยิ่งเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้ได้มากขึ้นค่ะ


เรียนให้ดี ตั้งใจเข้าไว้ ทำสิ่งที่คุณไม่ชอบพวกนี้ให้ดีที่สุดในตอนนี้ เพราะมันเป็นสะพานให้คุณมุ่งไปสู่สิ่งที่คุณชอบได้ แต่ถ้าเกลียดมัน ทิ้งมันตอนนี้ เท่ากับทำลายสะพานโอกาสของตัวเอง หนทางในชีวิตข้างหน้าอาจจะไม่ใช่คุณที่เป็นคนเลือกสิ่งที่ชอบ แต่จะเป็นสิ่งที่ไม่ชอบบังคับให้คุณต้องเดินทางนั้น


ด้วยความหวังดีค่ะ :)

0
FLADHEAD 1 ก.ย. 60 เวลา 11:07 น. 2

จริงๆ คือ คุณสามารถตั้งใจในส่วนที่คุณชอบเท่านั้นก็ได้ครับ ส่วนอื่นที่ไม่ชอบก็โยนทิ้งไม่ต้องสนใจ

เพียงแต่ ผลที่ออกมาคุณจะมีความสามารถแค่ที่คุณชอบเท่านั้น

แล้วถามว่าถ้าเราเป็นนายจ้าง เราจะจ้างคนคนไหนระหว่างคนที่ทำได้หลายๆ อย่าง กับคนที่มีดีแค่ด้านเดียว ในเงินค่าจ้างที่เท่าๆ กัน หรือจะบอกว่า คุณรับได้กับเงินค่าจ้างที่แบ่งออกตามความสามารถ เป็นหมอก็รักษาคนไป คิดคำนวณปริมาณยาไม่เป็นค่อยจ้างคนใหม่มาช่วย สู้จ้างหมอที่รักษาได้คำนวนเป็นบ้างมาทำงานไม่สู้ประหยัดกว่าหรือ

ส่วนเรื่องว่าเด็กไทยค้นพบตัวเองหรือยัง ผมว่ายังมีหลายคนที่ยังไม่พบครับ และหลายคนที่พบแล้วก็ไม่ได้ไปตามที่หวังได้ อย่างเด็กบางคนมีฝีมือการเล่นเกม อยากเป็นนักกีฬา E-sport ถามว่าโอกาสที่เป็นไปได้มีเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้เป็นขึ้นมาเขาจะไปทำงานอะไร หารายได้อย่างไร สู้มีวิชาบางส่วนที่ไม่ค่อยชอบแต่พอทำได้ติดตัวสำรองไว้ไม่ดีกว่าหรือ

0
Dark_master 1 ก.ย. 60 เวลา 11:50 น. 3

บางคนก็ไม่ได้รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไรมาแต่ต้นๆ นะคะ

ก็ต้องเก็บเกี่ยว เอาสิ่งต่างๆ เข้าตัวเพื่อได้รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร

แล้วถ้าเราไม่รู้อะไรเลยเราจะคุยกับสังคมอื่นรู้เรื่องเหรอคะ

ถ้าคุณเป็นหมอ เรียนแต่เรื่องของหมอ เรื่องเกี่ยวกับการแพทย์เก่งมากๆ

แต่พออยู่บ้านตัวเอง มีของเล็กๆ น้อยๆ พัง ทำอะไรไม่ได้เลย จ้างช่าง ช่างหลอก ดีเหรอคะ

คนเรามันต้องมีความรู้บ้าง ไม่ต้องเยอะ แต่มันก็ต้องรอบๆ หลายๆ อย่าง

รู้มากดีกว่าไม่รู้ไม่ใช่เหรอ

0