ขอทราบสำนักพิมพ์มีชื่อที่รับผลงานแรกของนักเขียนใหม่ และจ่ายค่างานแบบไม่ขายขาด เพื่อให้เราไม่เสียสิทธิ์ของต้นฉบับไปหากมีการทำละคร หรืออื่นๆ
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพราะว่า ต้องการรวบรวมความเห็นซึ่งเป็นความรู้และความเข้าใจในการส่งต้นฉบับงานเขียนให้ถูกต้อง และทำอย่างไรนักเขียนจะไม่เสียเปรียบและเสียสิทธิ์ในต้นฉบับของเรา
กระทู้นี้มีวัตถุประสงค์ก็คือ ตั้งเพื่อนักเขียนผลงานใหม่ทุกท่าน และตั้งเพื่อเผยแพร่ต่อเสรีลิขิตกร
ผลที่ต้องการได้รับจากกระทู้นี้คือ ความคิดเห็นที่ตอบมาตรงคำถามตามหัวข้อกระทู้
คือ คำตอบซึ่งมีข้อมูลรายชื่อสำนักพิมพ์ อันมีหลักเกณฑ์ดั่งที่ตั้งคำถามไว้ว่าสำนักพิมพ์ไหนบ้างทำแบบนี้?
เพราะผมต้องการให้นักเขียนหลายหลายๆ ท่าน ได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกสำนักพิมพ์ด้วยตัวท่านเอง
กระทู้นี้มีวัตถุประสงค์ก็คือ ตั้งเพื่อนักเขียนผลงานใหม่ทุกท่าน และตั้งเพื่อเผยแพร่ต่อเสรีลิขิตกร
ผลที่ต้องการได้รับจากกระทู้นี้คือ ความคิดเห็นที่ตอบมาตรงคำถามตามหัวข้อกระทู้
คือ คำตอบซึ่งมีข้อมูลรายชื่อสำนักพิมพ์ อันมีหลักเกณฑ์ดั่งที่ตั้งคำถามไว้ว่าสำนักพิมพ์ไหนบ้างทำแบบนี้?
เพราะผมต้องการให้นักเขียนหลายหลายๆ ท่าน ได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกสำนักพิมพ์ด้วยตัวท่านเอง
และสำหรับผู้ที่เข้ามาตอบ 'ตรงกับคำถามตามหัวข้อกระทู้' ผมก็ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งนะครับ
และขออนุโมทนาด้วยที่คุณได้ทำกุศลในการเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจในอาชีพนักเขียนให้กับนักประพันธ์หน้าใหม่ทุกคนที่กำลังจะส่งต้นฉบับให้กับสำนักพิมพ์ แต่ยังไม่มีลู่ทางหรือยังไม่รู้ว่าสำนักพิมพ์ไหนจ่ายเงินยังไง
ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าสมัยนี้มีรูปแบบการจ่ายค่าต้นฉบับอยู่กี่ประเภทแต่ แต่ผมขอแนะนำนักเขียนหน้าใหม่ทุกคนเลยนะครับว่าหากคุณไม่ต้องการจะเสียสิทธิ์ขาดในงานของคุณเองแล้ว
คุณห้าม “ขายขาด” ต้นฉบับให้กับสำนักพิมพ์ *เด็ดขาด*
*ขอเตือนว่าห้ามเด็ดขาดเลยนะครับ ห้าม “ขายขาด” เป็นอันขาด* ไม่เช่นนั้นคุณจะเสียผลประโยชน์ทันที
ยกตัวอย่างเช่น
เอส่งต้นฉบับนิยายไปที่สำนักพิมพ์สำนักพิมพ์หนึ่ง สำนักพิมพ์ตอบรับงานเขียนเราจะตีพิมพ์ให้ โดยที่เราขายงานให้กับเขาในรูปแบบ 'ขายขาด' สัญญาผูกมัดห้าปี
ทั้งนี้ นิติกรรมสัญญาประเภท ขายขาด นี้ จะจ่ายเงินค่าต้นฉบับให้เราเพียงแค่ครั้งเดียว และเราก็จะหมดสิทธิ์ในนิยายของเราไปเลยจนกว่าจะหมดสัญญา
คือผมอยากให้นักเขียนรักษาผลประโยชน์ตัวเองบ้าง ผมอาจจะตอบคำถาม หรือให้ข้อมูลอะไรไม่ได้มากผมต้องขอถาม ความคิดเห็นของนักเขียนทั้งหลาย ที่มีประสบการณ์เชิญลงและติดตามความเห็นที่มีประโยชน์ในกระทู้นี้ได้เลยครับ
ขอบคุณครับ
7 ความคิดเห็น
เข้ามาปักหมุดรอนะครับ แน่ใจว่ามีอะไรดีๆ ให้ดูเยอะ
สนใจหัวข้อนี้เหมือนกัน รออ่านนะคะ
ขอกล่าวถึงสำนักพิมพ์เราพิมพ์งานนะคะ
สถาพรบุ๊คส์
จะมีเอกสารสัญญาถือสิทธิ์ในลิขสิทธิ์งานวรรณกรรม ส่วนแบ่งรายได้ขอไม่กล่าวถึงนะคะ มีเอกสารสัญญาสองฉบับ ฉบับละ 2 ชุด คือ ลิขสิทธิ์งานวรรณกรรมตีพิมพ์ และลิขสิทธิ์งานวรรณกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หากมีเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ในรูปแบบอื่นๆ จะมีรายละเอียดระบุไว้ในสัญญาอยู่แล้ว เราขอพูดถึงเฉพาะที่ทำเป็นหนังสือและอีบุ๊คนะคะ
สำนักพิมพ์รักคุณ
สัญญาไม่ขายขาด ระยะเวลาของสัญญาประมาณ 2 ปี สัญญาคล้ายกับของสำนักพิมพ์ใหญ่หลายๆ ที่ค่ะ
ส่วนรูปแบบอื่นๆ ขอพูดโดยรวมเท่าที่เคยได้ยินมาก็แล้วกันนะคะ ยกตัวอย่างการทำละคร เหมือนว่าต้องมีการตกลงโดยความยินยอมของนักเขียนค่ะ นักเขียนยังมีสิทธิ์ในลิขสิทธิ์ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับที่ทำสัญญาไปค่ะ
------------
สำหรับสำนักพิมพ์อื่น รอนักเขียนท่านอื่นมาเพิ่มเติมค่ะ
ขอปักหมุดรออ่านด้วยคน เพราะตัวเองก็เคยไปสอบถามตามสำนักพิมพ์ แต่ส่วนใหญ่กว่า 95 % ไม่ยอมเผยสัญญาหรือค่าตอบแทนให้เราอ่านก่อนตัดสินใจส่งงานไปให้พิจารณา หรือไม่ก็เปิดเผย แต่เปิดเผยแบบก้ำกึ่งหรือน้อยนิด น่าเบื่อ เสียเวลาไปตั้งหลายเดือนกับคำว่า ส่งงานมาให้เราตรวจดูก่อน แล้วเรื่องสัญญาค่อยมาตกลงกัน รอ... รอคอแค่คำว่า "ผ่าน" หรือ "ไม่ผ่าน" ฮือๆ....
ข้อมูลพวกนี้บางทีเขาถือเป็นความลับทางการค้าครับ แต่ก็นะ เราเลือกสำนักพิพม์ครับ แต่ก็ต้องให้สำนักพิมพ์เลือกเราด้วยเช่นกัน วันพระไม่ได้มีหนเดียว
อันนั้นก็เข้าใจ แต่ว่าสัญญาไม่ตรงอย่างที่เราต้องการ เราก็ต้องไปแสวงหาใหม่อีก เสียเวลาไปเป็นเดือนๆ อันนี้แหละครับที่เอาเราซะเบื่อ จะส่งแบบหว่านแหก็ไม่ได้ สำนักพิมพ์เกือบทุกแห่งรู้จักกัน
ปกติเราได้ตัวอย่างสัญญาจากสนพ.ก่อนตกลงให้ผลงานนะคะ บางสนพ.มีตัวอย่างสัญญาให้โหลดมาอ่านด้วยค่ะ
เท่าที่เคยถามสำนักพิมพ์ ปองรัก สถาพร JS
ละคร นักเขียนมีสิทธิ์ในลิขสิทธิ์
ไม่เกี่ยวข้องกับสัญญาหนังสือที่ทำไปค่ะ
ที่ได้ตีพิมพ์เป็นยังไงบ้าง ขายดีไหมจ๊ะ ^^
รอด้วยค่ะ
ขอออกความเห็นเกี่ยวกับการขายขาดนะคะ การขายขาดไม่ใช่เรื่องเสียหายขนาดนั้น ทั้งนี้แล้วแต่มุมมองและความดังของนักเขียนด้วย บางครั้งนักเขียนโนเนมไม่เป็นที่รู้จัก ผลงานยังไม่เข้าตาสนพ.ใหญ่ๆ การได้สนพ.สักแห่งรับตีพิมพ์โดยการเหมาจ่ายครั้งเดียว (แบบที่เรียกกันว่าขายขาด) ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นทางเลือกที่เลวร้าย เท่าที่ดูจากสนพ.ที่จ่ายลักษณะนี้ ก็เห็นให้ราคากันที่หลักหมื่นต้นๆ จนถึงสามหมื่น (อาจมากน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่ขอตอบเท่าที่เห็น) ในขณะที่นักเขียนทำขายเอง อาจทำรายได้ไม่ถึงด้วยซ้ำหากไม่มีแฟนคลับจำนวนมากพอที่จะอุดหนุน
สมัยนี้หนังสือนิยายเต็มท้องตลาด นิยายที่ตีพิมพ์กับสนพ.ใหญ่ๆก็ใช่ว่าจะได้พิมพ์ซ้ำทุกเล่ม ถึงแม้ว่าในสัญญาของสนพ.ใหญ่มักจ่ายเป็นเปอร์เซนต์ แต่ถ้าไม่มีพิมพ์ซ้ำมันก็ไม่ต่างจากขายขาดเพราะนักเขียนได้ค่าต้นฉบับครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ว่าสนพ. ที่จ่ายเป็นเปอร์เซนต์ มักตีพิมพ์ด้วยยอดพิมพ์ที่ค่อนข้างสูงเพราะเป็นสนพ.ใหญ่ ทำให้ค่าตอบแทนก้อนแรกที่นักเขียนได้รับจากสนพ. มักจะได้เยอะกว่าที่ได้รับจากสนพ.ที่ขายขาด (ส่วนใหญ่จะเป็นสนพ.เล็กๆ หรือเปิดใหม่)
ส่วนเรื่องที่กังวลว่า ผลงานดีงามจนพิมพ์ซ้ำเป็นสิบๆ เที่ยวหรือมีช่องขอซื้อไปละคร แล้วนักเขียนจะเสียสิทธิ์นั้น ขอให้คิดดูว่าถ้าผลงานเขียนชิ้นนั้นดีเลิศขนาดนั้น สนพ.ใหญ่ก็คงรับพิจารณาแต่แรกแล้ว จริงไหม
ถ้าหากคุณไม่มีทางเลือกในการเสนอผลงานแล้ว เช่น เสนอสนพ.ใหญ่แล้วเขาไม่พิจารณาผลงานของคุณ ทำเองก็ไม่มีเงินทุนมากพอ หรือหากมีเงินทุุนแต่ไม่มีชื่อเสียงพอที่จะทำให้มีคนจองหนังสือหรือโหลดอีบุ๊กของคุณจนได้เป็นหลักหมื่น ระบบการจ่ายแบบเหมาจ่ายก็ไม่ได้เสียหายตรงไหน บางทีอาจดีกว่าเขียนแล้วไปขายอีบุ๊กที่ได้ยอดโหลดต่ำเตี้ย ครั้นจะนำไปเสนอสนพ. ส่วนใหญ่เขาก็ไม่รับแล้วเพราะถือว่าผลงานนั้นเคยจัดจำหน่ายมาแล้ว
นอกจากนี้การมีผลงานตีพิมพ์ ก็เป็นการสร้างโปรไฟล์ให้กับตัวนักเขียนเองด้วยว่าเคยมีผลงานอะไรมาก่อนด้วย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?