Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[เล่าเรื่องผี] กระทู้เล่าเรื่องผี ใครมีเรื่องผีหลอน ๆ มาแชร์กันค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เรื่องของเราเกิดขึ้น ตอนเราอายุประมาณ 16 ค่ะ ตอนนี้ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาเยอะนะ 55555 ที่บ้านเราเป็นครอบครัวที่มีความศรัทธาในของขลัง เครื่องรางอะไรทำนองนี้อะค่ะ เราเป็นคนไม่เคยเจอเรื่องลี้ลับอะไรเลยนะคะ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเจอตรง ๆ แบบจังๆ ส่วนใหญ่จะเจอแบบเสียงก๊อกแก๊ก เคาะกระจก(จากฝั่งที่ไม่มีระเบียง) เคาะประตูระเบียง ตอนตี 2 อะไรงี้ค่ะ  แต่ก็ไม่ได้อยากเจอจังๆ นะคะ เป็นคนกลัว ๆ เหมือนกัน (แต่ชอบอ่านเรื่องผีนะ)

มีอยู่คืนนึง เราก็เล่นเกม แล้วก็นอนดึกเป็นปกติค่ะ ช่วงประมาณตีสองตีสามละ ก็ปิดคอมนอนปกติค่ะ เตียงเราจะค่อนข้างกว้างมาก สำหรับการนอนคนเดียว  =___=; ตอนนั้นก็แบบง่วง ๆ แล้วล่ะค่ะ แต่ยังไม่หลับ ซักพักรู้สึกว่าเตียงยวบค่ะ อารมณ์แบบมีคนขึ้นมาบนเตียงอะไรงี้อะค่ะ เราก็แบบ เฮ้ยโดนแล้วปะ พ่อแม่ก็นอนหมดแล้วด้วย ชิหายและ 

คือเตียงเราจะเป็นแบบด้านนึงติดผนัง อีกด้านนึงจะติดที่โล่งๆ แล้วเราก็นอนหันหน้าเข้าฝั่งผนังอยู่ แล้วที่เตียงยวบๆ มันก็เริ่มเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ ค่ะ ตอนนั้นกลัวมาก กลัวแบบ เฮ้ยยยย อะไรเนี่ยยย ไม่เอาาาาาาาา อย่ามาจับตัวฉันนะเว้ยยยย อะไรแบบนี้ หลับตาปี๋เลยค่ะ แต่ว่าเตียงก็ยวบไม่หยุดเลยค่ะ อารมณ์เหมือนมีคนขึ้นมายืนบนเตียง แล้วก็เดินไปเดินมาอยู่ข้างๆที่เรานอน นึกออกมั้ยคะ เรากลัวมาก กลัวมากๆ T_T

แต่ตอนนั้นไม่รู้มีความกล้ามาจากไหน ไม่รู้เป็นเพราะพึ่งลงดันในเกมส์เสร็จแล้วมานอนหรือเปล่า เลยใจกล้ามากกกก ตัดสินใจหันกลับไปดูจ้า โฮ่ๆๆ โล่งแบบ ไม่มีอะไรเลย ไม่มีแม้แต่รอยเท้าหรืออะไรแบบนี้ ตอนนั้นกลัวแบบ เฮ้ยยย อย่ามาอยู่อีกฝั่งนะเว้ยย หรืออย่ามาจากเพดานนะ  (ดูหนังมากไปหน่อย) เลยแบบพยายามเดินหลับตาไปห้องนอนแม่เลย T_T กลัวมาก ไม่ปิดแอร์ไม่เอาโทรศัพท์ไม่เอาไรออกมาจากห้องทั้งนั้น รีบเดินในความมืดไปเปิดไฟ แล้วเผ่นเลยจ้า T_T

พอเช้ามาเราก็เลยถาม พ่อค่ะ พ่อเป็นคนชอบไปเช่าเครื่องราง ของขลังมา ก็คิดแบบ ต้องใช่แน่ๆ พ่อแน่ๆ เอาไรเข้าบ้านแน่ๆ เลย สรุปใช่จ้าา พ่อเอาเครื่องราง หรือของขลังที่มีชื่อเรียกว่า ลิงลม เข้ามา เราก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไรนะ แต่มาแบบนี้ก็ไม่เอาาา ถึงจะไม่ได้เห็นแบบจริงจังก็เถอะ TT

ส่วนคนอื่นในบ้าน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันก็มีโดนดึงขา แล้วลากออกมาจากที่นอนค่ะ พี่ชายเราโดน อารมณ์เหมือนนอนขวางทางเขาอะไรทำนองนี้อะค่ะ

เรื่องเราอาจจะไม่ได้น่ากลัวมาก แต่ตอนนั้นที่มันเกิดขึ้น คือกลัวจริงๆ T_T

อยากฟังเรื่องของเพื่อนๆ บ้าง แบบว่าจะเจอที่ไหนเค้าก็อยากฟังนะ ที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่เรียนพิเศษ หรือไรก็ได้ มาเล่ากัน 

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

kAew Dek-D Columnist 21 ก.ย. 60 เวลา 22:57 น. 1

เอ่อ น่ากลัวจริงๆ ด้วยอะ ฮือออ


ของพี่แก้วมีตอนไปญี่ปุ่นค่ะ ตอนนั้นนอนกับเพื่อน หันหน้าเข้าประตูห้องน้ำ ปิดไฟหลับตาได้สักสิบนาทีได้ อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงน้ำหยด ติ๋งๆ หยดเป็นจังหวะตลอดเวลา ทั้งที่ก่อนหน้านั่นไม่มีหยดเลย


สักพักก็มีลมอุ่นๆ ผ่านข้างแก้ม คือแบบ อารมณ์เหมือนมีคนมาหายใจใกล้ๆ อะ แล้วมันมาเป็นจังหวะแบบ ลมอุ่นวูบนึง แล้วหาย แล้วก็มาใหม่ อยู่สามสี่รอบ นี่ก็เริ่มจินตนาการนึกถึงหนังผีพวกจูออน มีผีมายืนค้ำหัว คือนึกในใจ ยังไงก็ไม่มีทางลืมตาแน่นอนค่ะ สวดมนต์ๆ ในใจก็นึกผีญี่ปุ่นจะเข้าใจเรามั้ยเนี่ย


สุดท้ายมันไม่หายค่ะ ในขณะที่เพื่อนนอนนิ่งมาก เงียบมาก จนนี่ไม่ไหวแล้วเลยตัดสินใจ เอาวะ เอาไงเอากัน อยู่ไปก็นอนไม่หลับ เลยเอื้อมมือไปเขย่าเพื่อนแล้วเรียกชื่อดังๆ ทั้งที่หลับตาอยู่นะ ตอนนั้นแบบไม่มองๆ ไม่ดูๆ คิดในใจแต่ว่า ถ้าเพื่อนยังนิ่งไม่ขยับ เราจะวิ่งคลำทางเปิดประตูออกไป


โชคดีมากที่เพื่อนตื่นค่ะ เพื่อนก็มาเขย่าๆ แกเป็นไรมั้ย ก็เลยยอมลืมตาดู โล่งใจมาก ที่โล่งใจกว่าคือ รู้ที่มาของลมอุ่นแล้วล่ะ มันคือฮีตเตอร์ที่เปิดแบบส่ายไปมาอะ แล้วมันมาตกตรงหน้าพอดี จะบ้าตาย นี่บอกตรงๆ ว่าบรรยากาศหนังผีในหัวชัดมากจริงๆ ไม่รู้เรียกเรื่องผีได้มั้ยอะ แต่นี่น่ากลัวสุดในชีวิตแล้วจริงๆ

0
เราเองงง 22 ก.ย. 60 เวลา 10:07 น. 2

เราไม่เคยเจอผีตัวเป็นๆนะคะแต่เคยสัมผัสได้อะไรแบบนี้มากกว่า คือแต่ก่อนเรานอนชั้นล่างของบ้าน นอนระหว่างประตูอยู่ตรงข้ามกันก็คือประตูครัวกับประตูโรงรถโบราณเชื่อว่ามันเป็นทางผีผ่านอ่ะค่ะ เราสะดุ้งตื่นมาตอนตี2ตลอดเหมือนมีคนมาเขย่าให้ตื่น บางครั้งก็เรียกชื่อเลยตื่น ตอนนั้นเราไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีแต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ เราคิดว่ามันหลอนตรงเราสะดุ้งตื่นตอนตี2เวลาเดิมทุกวันนี้แหละ55555

0
ตามลม เวียนหรดี 22 ก.ย. 60 เวลา 22:33 น. 3

เคยเจอครับ สมัยยังเป็นเด็กวัยรุ่น ก็เคยเล่นฟุตบอลอยู่ สนามที่เราใช้ฝึกสมัยนั้นมันจะอยู่ในสวน และโค้ชเขาเป็นมุสลิม บ้านของแกก็เลยอยู่ห่างจากกุโบร์ไม่เท่าไหร่ ปกติเราก็จะซ้อมกันตอนประมาณเย็นไปถึงตอนสามทุ่มได้ พอซ้อมเสร็จก็อาบน้ำแล้วก็กลับบ้าน แต่ปกติตอนเย็นๆจะมีตาคนหนึ่งมานั่งดูเราซ้อมแทบทุกวัน แกใจดีมาก ถ้าไปแข่งชนะมาแกจะให้เงินไปซื้อขนมมาเลี้ยงกัน แต่วันนั้นเราไม่เห็นตา ก็เลยถามจากโค้ช โค้ชก็ยุ่งๆ อยู่เพราะกำลังทำเอกสารสมัครแข่งบอลโค้กคัพ(จำได้แม่นเลย) แกเลยตอบว่า แกไปอยู่ในกุโบร์แล้ว... -เราก็คิดไม่ทันเนอะ ผมก็ช่วยโค้ชทำเอกสารต่อไป จนกระทั้งเสร็จ โค้ชก็บอกว่ากลับบ้านได้เพราะรถที่ไปส่งพวกเพื่อนๆที่กลับก่อนหน้าน่าจะใกล้มาถึงแล้ว ตอนนี้เหลือผมกับ-บัดดี้(ระบบการซ้อมของเราจะใช้ระบบคู่หู เรียกว่าบัดดี้) เราก็ไปนั่งรอตรงใกล้ๆประตูฟุตบอลด้านที่ติดกับถนนเข้าสนาม เพราะตรงนั้นจะมีแสงไฟทาง แล้วก็ใกล้กับจุดกลับรถพอดี จะได้ขึ้นรถได้เลย

นั่งๆอยู่ก็เห็นตาแกเดินมาจากฝั่งกุโบร์ เดินเหมือนแกจะกลับบ้าน

ผมก็เลยเรียก

ตาแกก็หันมา แต่ไม่ได้ยิ้มเหมือนทุกวัน พอผมถามว่าไปทำอะไรที่กุโบร์ มีฝั่งศพเหรอ แกก็ไม่ตอบ แต่เดินไปเลย

ผมกับ-บัดดี้ก็ไม่ได้สนใจ คุยกันเรื่องบอลโลก เพราะตอนนั้นใกล้จะแข่งฟุตบอลโลกพอดี สักพักรถก็มาเราก็ขึ้นรถไปตามปกติ

ตอนเรานั่งรถสองแถวออกมายังเห็นตาแกเดินท่อมๆอยู่ แต่เราไม่ได้เรียกให้ขึ้นรถเพราะบ้านแกอยู่แถวนั้นอยู่แล้ว

ผมก็ลืมไปแล้ว เพราะติดไปแข่งต่างจังหวัด

วันกลับมา ตอนรถวิ่งเข้ามาให้เราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเรารีบออกเดินทางกลับมาเลย แข่งเสร็จก็กลับเลยยังไม่ทันได้อาบน้ำอาบท่า ผมก็เห็นตาแกเดินสวนทางออกไป นึกในใจว่าอดกินขนมเลย เพราะเราแพ้ตกรอบ

พออาบน้ำเสร็จ ก็เลยคุยกับโค้ชว่า อดกินขนมตาแกเลย เพราะแพ้ ไม่รู้แกจะบ่นไหม

โค้ชก็ทำหน้าประมาณว่าแปลกใจ

"นี่กูยังไม่ได้บอก-เหรอ" โค้ชถาม

ผมก็ส่ายหน้า

"ตาแกตายไปแล้ว"

ผมก็ตกใจ โค้ชบอกต่อว่า

"แกตายไปอาทิตย์นึงแล้ว"

ผมก็นิ่งไปสักพัก ถามโค้ชว่า แกตายก่อนวันที่เรายื่นใบสมัครแข่งโค้กคัพไหม

โค้ชก็บอกว่าก็วันนั้นหละ แล้วก็นึกได้ว่าบอกผมไปแล้ว เพราะผมถาม

ผมก็ไม่ได้ตอบ แต่ใจน่ะรู้ดีว่า วันนั้นโค้ชบอกแค่แกไปอยู่กุโบร์ ไม่ได้บอกว่าตาย

หลังจากรู้ผมก็ไม่ได้เห็นตาแกอีกเลย แต่ผมก็ไม่ได้กลัวอะไรมากนะครับ แค่ไม่ค่อยไปนั่งตรงประตูฝั่งริมถนน แล้วถ้านึกได้ เวลาบอลออกไปด้านนั้นผมจะไม่ตามไปเก็บเอง... ขนาดซ้อมยิงฟรีคิกยังบอกให้โค้ชซ้อมอีกฟากเลยครับ(ไม่กลัวเลยเนอะ)

ผมเก็บเรื่องนี้ไว้นานจนกระทั้งเราย้ายจากสวนบ้านโค้ชไปที่สนามซ้อมใหม่แถวฝั่งธน ผมถึงได้บอกกับ-บัดดี้เรื่องนี้ มันเองก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน แต่มันจำได้เหมือนกันว่าวันนั้นเราเห็นตาแกจริงๆ เห็นกันสองคนด้วย


0
แวะมาเล่า 24 ก.ย. 60 เวลา 13:23 น. 4

จะบอกก่อนว่า ที่บ้านเชื่อว่าเราเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6 แต่สำหรับตัวเราเองไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าอาจเป็นการจินตนาการของเราไปเอง จนกระทั่งมีการเจอเรื่องที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดในชีวิตและค่อนข้างยืนยันได้ว่าเราไม่ได้จินตนาการไปเอง เรื่องมีอยู่ว่า..

 ด้วยความที่ทางบ้านเชื่อว่าเรามี sixth sense และมีความเชื่อเรื่องการเจ็บป่วยบางชนิดที่เกิดจากการโดนวิญญาณ หรือสัมภเวสีทัก จึงคิดว่าเราจะช่วยได้เลยลองให้เราดูให้ตอนแรกเราก็งงว่าจะเห็นได้ยังไงไม่ใช่ร่างทรงนะ ตอนนั้นคิดขำๆ แต่สักพักนึงก็สังเกตเห็นเป็นเงาลางๆข้างๆตัวของคนที่ป่วย แล้วมันก็ค่อยๆชัดขึ้น จนเห็นว่าเป็น ผช คนนึง ที่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำและพยายามพูดกับเรา แต่ตอนพูดมีแต่น้ำกับทรายออกมาจากปากเราเลยฟังไม่รู้เรื่อง จนเราแผ่เมตตาให้ เขาเลยให้เห็นภาพว่าเขาจมน้ำตาย อยู่บริเวณที่คนป่วยไปทำงาน เมื่อถามไถ่กันไปมาจนรู้ว่าเป็นใคร จึงได้โทรถามไปยังญาติที่มีชีวิตอยู่ของเขา (บังเอิญเคยรู้จักกัน) แล้วพบว่าเป็นจริงตามสิ่งที่ยังทำให้วิญญาณมีห่วง จึงให้จัดการธุระต่อเพื่อให้เขาหมดห่วง พอเคลียร์เสร็จเราก็นั่งกินข้าวตามปกติ โดยที่ตัวเรานั่งแล้วหันหน้าตรงกับหลังบันได เป็นบันไดแบบมีช่องลมเห็นได้ว่าใครขึ้นลงเรารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างแล้วทำให้เรามองไปตรงบันไดนั้น ภาพที่เห็นทำเราเกือบช็อค เพราะปกติเราเห็นวิญญาณในภาพของคนปกติทั่วไป แต่ครั้งนี้คือเห็นเป็นเงาดำๆของ ผญ ผมยาวรุงรัง ค่อยคลานลงมาจากบันได ทีละขั้นๆ ช้าๆ แล้วค่อยๆคลานมาหมอบอยู่ข้างๆเรา ตอนนั้นตัวเราแข็งทื่อหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ จนแม่ทักถาม เราเลยบอกในสิ่งที่เราเห็น ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ถูกแม่เลยถามให้ บอกก่อนว่าแม่ไม่ได้สัมผัสได้แบบเราแต่พูดลอยๆกับลมเพราะคงสงสารและเป็นห่วงเรา จนสามารถรู้ได้ว่าเขาเป็นใคร ต้องการอะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เราเริ่มเชื่อใน sense ของตัวเอง เพราะ ผญ ที่มานั้น เสียชีวิตมาเกือบ 30 ปี แต่ตอนนั้นเราอายุ 17 - 18 ปีเท่านั้นเอง

0
다이아몬드 7 ก.พ. 64 เวลา 20:14 น. 5

เคยค่ะคืออันนี้คือเป็นเรื่องเเรกที่เจอกับตัวเเล้วรู้สึกว่าหลอนมากคือโรงเรียนเราอ่ะมันเป็นป่าช้าเก่ามาก่อนคือครูเขาเล่าให้ฟังว่าทีีโรงเรียนจะชอบมีคนเอาศพมาทิ้งไว้เเล้วก็มีเเบบพวกการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์อะไรประมาณนั้นเเล้วคือเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะครูเขาให้เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเราย้ายที่ไปนั่งอีกที่หนึ่งเเล้วคือเพื่อนคนนั้นมันก็มาเล่าให้เรากับเพื่อนฟังว่าที่นั่งเก่าของมันมันนั่งข้างหลังติดหน้าต่างเเล้วข้างหลังมันจะมีตู้ตัวหนึ่งอยู่เป็นตู้เหล็กเก่าๆมีสนิมเกาะคือมันผ่านการใช้งานมาหลายรุ่นเเล้วอะเเล้วที่นี้มันก็บอกว่าตอนมันนั่งตรงนั้นมันชอบได้ยินเสียงคนร้องเพลงเเบบไทยๆคลอร้องช้าๆเเบบนี้บ่อยมากตอนที่มันนั่งอยู่ตรงตู้หลังห้องเเล้วมันก็ไม่กล้าบอกใครจนมันมาบอกเรากับเพื่อนในห้องเเล้วคือตอนนั้นเราไม่เชื่อเเบบเราก็เลยไปนั่งตรงตู้นั้นอ่ะเเล้วเอาหูไปเเนบเลยเเม่คือเรานั่งอยู่สักพักเเล้วเราไม่ได้ยิดอะไรเลยก็กำลังจะลุกไปหาเพื่อนเเล้วตอนนั้นทุกคนคือไปนั่งกันเป็นกลุ่มเเล้วฟังเพื่อนคนนั้นเล่ามีเรานั่งอยู่กับตู้นั้นอะคือตอนที่เราจะลุกเราได้ยินเสียงคนหายใจอ่ะเเบบตอนนั้นเราตกใจมากเราเก็้บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกใครตอนพักกลางวันเพื่อนเลเอาเรื่องนี้ไปบอกครูตอนั้นเรากลับมาที่ห้องเเล้วเพื่อนก็เล่าว่าครูเขามากัน3คนเเล้วเขาก็เข้ามาที่ห้องเราเเล้วเขาก็เดินไปเปิดประตูตู้นั้นเลยอะคือเพื่อนลอกว่าในนั้นอ่ะมีนมีสมุดไดอารี่เล่มหนึ่งมันเเบบเป็นไดอารี่ที่เก่ามากเลยนะคือกระดาษมันเป็นสีเหลืองเเล้วนะเเกเเล้วเขาก็เปิดอ่านครูคนนั้นเขามีเเบบเซนต์เขาเปิดเเล้วก็อ่านว่าสวัสดีเพื่อนห้องนี้(ห้องเนียนที่เราอยู่)เราเคยอยู่ที่นี้เราได้จากไปเเล้วเราเหงามากเลยนะเราอยากเล่นกับพวกเธอพวกเธอมาเล่นเป็นเพื่อนเราหน่อยได้มั้ยประมาณนี้คือเเบบเเกมันมีอะไรกันเเน่ตู้นั้นเเล้วประเด็นวันนั้นที่เราได้ยินเสียงคนหายใจกับวันที่ครูเรามาเปิดตู้มันคือวันพระใหญ่เเกคือตอนนั้นเเบบกลัวมากครูประจำชั้นเขาเข้ามาเพื่อนก็เลยบอกครูเรื่องตู้ครูเขาก็บอกว่าโรงเรียนเรามีจริงๆเรื่องเเบบนี้ห้องเราก็มีเรื่องเล่าเขาก็บอกว่าทำอะไรก็ระวังๆเขาคอยดูเเลรักษาโรงเรียนอยู่คือเราก็ยังไม่รู้นะว่าตู้นั้นคืออะไรกันเเน่เเล้วไดอารี่เล่มนั้นเป็นของใครคือเราผู้นั่งข้างหลังจ่าเเม่เลยกลัวเเบบขี้หดตดหายเลย

0