Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไมบางคนชอบพูดว่าเรียนเภสัชส่วนมากเคยไปสอบหมอมาแล้ว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราชอบเภสัชมาก แต่พอบอกใครว่าจะเรียนเภสัชก็มักบอกว่าทำไมไม่ไปสอบหมอเลย ไม่ได้ค่อยมาเรียนเภสัช ถามพี่ๆที่เรียนเภสัชว่าเป็นอย่างงั้นหรือเปล่า เราอยากเรียนเภสัชจุฬาหรือมหิดล แต่มีคนบอกว่าเภสัชจุฬาซิ่วไปสอบหมอเยอะแยะ งั้นคนที่มาเรียนก็มาเรียนเพื่อรอซิ่วเหรอคะเสียดายที่นั่งคนอยากเรียนเภสัชจริงๆจังเลย

แสดงความคิดเห็น

>

13 ความคิดเห็น

M_a_R_c_H 3 พ.ย. 60 เวลา 10:29 น. 1

มันก็ไม่เสมอไปหรอกครับ คนที่อยากเรียนเภสัชจริงๆ ก็มี แล้วก็มีเยอะกว่าคนที่มาเรียนเภสัชเพื่อรอซิ่วหมอด้วย ในอดิตอาจจะมีค่านิยมแบบนั้น แต่ตอนนี้คงน้อยลงไปเยอะหรืออาจจะไม่มีแล้ว เพราะเภสัชก็ต้องทำสัญญาใช้ทุนเหมือนกันกับแพทย์ ทันตแพทย์ ถ้าลาออกก็ต้องเสียเงินอีก คงไม่มีใครอยากเสียเงินหรอกครับ


แต่มันก็อาจจะมีคนที่เรียนเภสัช เพราะว่าคะแนนไม่ถึงแพทย์หรือทันตแพทย์ แล้วขี้เกียจซิ่ว เรียนอะไรก็ได้ขอให้ได้ทำงานเกี่ยวกับการรักษาคนไข้ แบบนี้ก็มีเหมือนกันครับ

0
Shalnark T Diabolus 3 พ.ย. 60 เวลา 11:38 น. 2

ค่านิยมโง่ๆอวยหมอ หมอเจ๋งสุดไงครับ อย่าไปบ้าตามเลยน้อง เอาจริงๆนะ หมอสั่งจ่ายยาได้ก็จริง แต่เอาหมอมาจัดยาเองหมอก็มีเอ๋อได้เหมือนกันละว่าอันไหนคือยาที่ตัวเองสั่งจ่าย หน้าที่มันคนละส่วน หมอเป็นผู้ปฏิบัติการตรวจรักษาและสั่งจ่ายยา เภสัชคือQCที่เช็คยาที่หมอสั่งจ่ายอีกทีไม่ให้เกิดเหตุผิดพลาดอย่างการสั่งจ่ายยาที่มีส่วนผสมที่ผู้ป่วยแพ้ พยาบาลคือผู้ดูแลเพราะลำพังแค่หมอดูแลคนไข้ทั้งโรงบาลไม่ได้ ไหนจะพวกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างบัญชีที่ดูแลงบโรงบาล ไอทีที่คอยจัดการระบบสารสนเทศภายใน แม่บ้านที่คอยทำความสะอาด ความสำคัญของแต่ละคนภายในองค์กรมันไม่มีใครด้อยกว่าใครหรอก ขาดตำแหน่งไหนไปคนไข้ก็ซวยทั้งนั้น - -

0
อดีตนิสิตเภสัช 6 พ.ย. 60 เวลา 19:02 น. 3-2

แล้วคนพูดนี่ติดอะไรซักที่ยังคะ? เภสัชที่คุณมองว่าเป็นคณะรอซิ่วนี่ตัวคุณเองติดได้รึยัง


ทุกอาชีพมีหน้าที่ที่ต้องแบกรับเป็นของตนเอง เภสัชเป็นวิชาชีพและมีหน้าที่ที่คนที่จบจากคณะอื่นมาทำแทนไม่ได้ หมอก็รู้เรื่องยาไม่เก่งเท่าเภสัช ทั้งสองอาชีพต้องเกื้อหนุนกันเพื่อรักษาคนไข้อย่างดีที่สุด


เราเคยเป็นนิสิตเภสัชมหาวิทยาลัยแถวสามย่านที่ซิ่วหมอติดค่ะ แต่เราก็คิดเสมอว่าคณะเภสัชศาสตร์เป็นคณะที่มีคุณค่าและให้อะไรเราหลายๆอย่าง เรารักและเทิดทูนคณะนี้ค่ะ

0
happy1154 15 ธ.ค. 61 เวลา 01:37 น. 3-3

พี่เรียนเภสัชต่อหรือไปเรียนหมอแทนหรอครับ

0
ฟหกด 3 พ.ย. 60 เวลา 19:42 น. 4

เป็นความจริงแน่นอนครับ แต่ก็มีคนที่อยากเรียนเภสัชอยู่แล้วอะครับ


สังเกตง่ายๆครับ คะแนน กสพท ปีก่อนฟ้องว่ามีคนคะแนนถึงหมอแน่ๆแล้วเลือกเภสัช

2
Mr. Clever 3 พ.ย. 60 เวลา 21:20 น. 5

เลือกเอาที่น้องสบายใจเลยครับ​ 5555555​ ชอบอะไรอยากเรียนอะไรก็เรียนอันนั้นอย่าให้ค่านิยมผิดๆเข้ามาชักจูงชีวิตเราได้​ พี่ก็เป็นอีกคนที่ติดหมอแต่สละสิทธิ์​มาเรียนเภสัช​เพราะพี่ชอบเภสัช, ยาแล้วก็แลปมากกว่า​ เภสัชให้อะไรน้องมากกว่าที่คิด​

แล้วก็เภสัชทำงานในสายต่างๆได้มากกว่าที่คิดนะครับ​ ถามว่าซิ่วเยอะมั้ย​ ก็เยอะนะรุ่น​พี่ซิ่วไป​ 70 จาก​ 200 แล้วครับ​​ ในจุดนี้มันขึ้นก็กับความคิดส่วนบุคคลแล้วหล่ะครับอันนี้พี่​ไปห้ามไม่ได้จริงๆ​

ส่วนที่หนึ่งคณะพี่ปีนี้คะแนนถึงศิริราช​แต่มาเรียนเภสัชอ่ะคับ​ สงสัยน้องเขาชอบจริง​ 55555555

ฉะนั้นเลือกตามความฝันน้องดีกว่านะครั​บ​ สู้ๆนะครับพี่เป็นกำลังใจให้

ปอลิง.​ พี่อยู่เภสัชของมหาลัยแถวสามย่านนะ​

0
นนนนนน 4 พ.ย. 60 เวลา 09:09 น. 6

เยอะจริงๆนั้นแหล่ะอย่างรุ่นของเพื่อนพี่ ซิ่วกันไป 30 คน

คิดเหมือนกันว่ามันควรจะเป็นที่ของคนที่อยากเรียนจริงๆ

ทำแบบนี้กันหลายๆมหาลัยหลายปีๆ เภสัชที่ผลิตได้แต่ละปีมันจะขาดแคลนเอาสักวัน

0
น้ำฟ้า 4 พ.ย. 60 เวลา 12:29 น. 7

เราเรียนหมออยู่ ก็มีคนซิ่วมาจากเภสัชนะคะ ก็เรียนได้เรียนเก่ง ไม่มีปัญหาอะไร

เรามองว่าเป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะตัดสินใจ และรองรับความเสี่ยง

ถ้าเขาซิ่วโดยไม่เลือกเรียนอะไรเลย แล้วซวยไม่ติด ใครจะรับผิดชอบชีวิตเขา?

0
bussarakaam 4 พ.ย. 60 เวลา 14:56 น. 8

เพื่อนเราเรียนเภสัชจุฬา เขาเองก็อยากได้หมอแต่ติดเภสัชก็เลยเรียนเภสัชและไม่ได้จะซิ่วนะ แต่เพื่อนบอกว่าส่วนที่เรียนแล้วรอซิ่วก็มี เพราะคิดว่าตอนนี้ได้เภสัชมันเหมือนอีกนิดก็ได้หมอแล้วทำนองนี้ แล้วที่ซิ่วออกไปแล้วก็มี เรื่องกั้กที่คนอยากเรียนจริงๆ อันนี้เราว่ามันทำไรไม่ได้อ่ะ 555 เอาจริงๆทุกคณะมันก็มีคนที่กั้กที่คนอื่นหมดแหละ แต่การที่เขาสอบเข้ามาได้มันก็แสดงว่าเขาพยายามมากเหมือนกัน ถ้าเราไม่อยากโดนกั้กที่เราก็แค่ต้องพยายามทำคะแนนให้ดีเพื่อให้สอบติดแค่นั้นแหละ ต้องมาเปลี่ยนที่ตัวเราเองจะไปเปลี่ยนเขาคงไม่ได้

0
Beloved Scholar 4 พ.ย. 60 เวลา 23:13 น. 9

อันนี้แล้วแต่ความชอบของจขกท.นะ คนที่ชอบเภสัชจริงๆก็มี แต่คนอยากซิ่วไปหมอ ทันตะก็ไม่น้อย(ว่าแล้วก็เศร้า ปีหน้าจะเหลือเพื่อนกี่คนไม่รู้) เอาจริงๆตามประวัติศาสตร์วิชาชีพเภสัช เดิมเภสัชก็รวมกับหมอแหละ แต่สุดท้ายสองอาชีพนี้ต้องแยกกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย คนนึงดูแลเรื่องการตรวจโรคและวิธีรักษา อีกคนดูแลเรื่องยา คิดดูสิหมอกับเภสัชเรียน 6 ปี(บางประเทศน้อยกว่านั้น) ถ้ารวมกันต้องเรียนกี่ปีล่ะ สิ่งสำคัญในการเลือกคณะคือน้องต้องรักและภูมิใจในคณะที่เลือก ทุกอาชีพสามารถช่วยเหลือคนได้ แต่คนละวิธีเท่านั้น ปล.พี่อยู่ปีหนึ่งเภสัชจ้า

0
ตามนั้น 5 พ.ย. 60 เวลา 13:08 น. 10

https://m.youtube.com/watch?v=D9YXYTp6snw


เอาคำตอบจากคนภายในไปดูเองเลย มันก็มีทั้งสองแบบนั่นแหละ ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ก็อยากเรียนหมอมาก่อน(หมอคน หมอฟัน) จะซิ่วหรือไม่ซิ่วมีหลายปัจจัยหลายเหตุผลแต่ละบุคคล


ส่วนความเห็นที่กล่าวหาว่าเรียนหมอเป็นค่านิยมโง่ๆนี่ไม่โอเคนะ ให้อีกฝ่ายมาดูถูกวิชาชีพเภสัชบ้าง(ซึ่งน่าจะมีช่องโหว่ให้ฝั่งแพทย์เค้าโจมตีมากกว่า เค้าแค่ไม่ทำ) เราก็ไม่โอเคเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ

0
กัลย์ 7 พ.ย. 60 เวลา 09:05 น. 11

เหตุที่คนเรียนเภสัชส่วนมากเคยสอบไม่ติดหมอมาแล้ว เพราะเด็กพวกนี้ก็เป็นเด็กเก่งอยู่แล้วเหมือนกัน แต่อาจจะทำข้อสอบผิดพลาดไปเล็กน้อย คะแนนใกล้เคียงกับคะแนนต่ำสุดของสถาบันที่เลือก หรือบางคนอาจจะได้คะแนนถึงคะแนนต่ำสุดของสถาบันแพทย์ หรือทันตะบางสถาบัน แต่ไม่ได้เลือก จึงไม่ติด และคะแนนแอดมิสชั่นได้สูงถึงคณะเภสัช ก็เลือกเรียนเภสัชไปก่อน ทั้งๆที่ใจรัก ชอบเรียนแพทย์ ทันตะมากกว่า จึงขอสอบแก้ตัวใหม่อีกครั้งตามสิทธิ์ เพราะ กสพท.ไม่ได้กำหนดห้ามไว้ ถ้าสอบไม่ติดแพทย์ ทันตะ กสพท.อีก ก็จะเรียนที่เดิมต่อไป ไม่เสียหายอะไร


ความเห็นส่วนตัว ถ้าเก่ง มีความสามารถที่จะสอบติดแพทย์ ทันตะได้ ก็ควรเลือกแพทย์ ทันตะก่อนเภสัช เพราะใช้เวลาเรียน 6 ปีเหมือนกัน แต่เวลาไปทำงานจริงบทบาท อำนาจ หน้าที่ไม่เหมือนกัน ถ้าอยากรู้ความจริง ให้ลองไปสอบถามความคิดเห็นของ พยาบาล เภสัช เทคนิกการแพทย์ กายภาพบำบัด หรือสหวิชาชีพอื่นๆ ที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วในโรงพยาบาล ก็จะได้รับความคิดเห็น ข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงที่สุด เพราะในทฤษฎีที่บอกว่า ทุกวิชาชีพในโรงพยาบาล มีความสำคัญเท่ากันหมด กับทางปฏิบัติจริงมันแตกต่างกัน ฉะนั้น เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน สหวิชาชีพอื่นๆที่มีประสบการณ์แล้ว เรียนเก่ง อายุไม่มาก ยังมีไฟ เช่น พยาบาล เภสัช เทคนิกการแพทย์ กายภาพบำบัด อื่นๆ จึงพยายามจะเปลี่ยนสายงานใหม่ สอบให้ติดแพทย์นิวแทรค หรือสอบให้ติดแพทย์ ทันตะ กสพท.ยอมเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ก็เอา เพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม

สรุป เลือกให้ถูกต้องตอนนี้ดีกว่า เลือกให้ถูกต้องตอนหลัง



1
กัลย์ 7 พ.ย. 60 เวลา 18:19 น. 11-1

รุ่นก่อนๆ นอกจากจะมีคณะเภสัชแล้ว ยังมีวิทย์สุขภาพ เช่น สหเวชฯ เทคนิกการแพทย์ กายภาพบำบัด โภชนาการ รังสีเทคนิก คณะวิศวะ คณะวิทยาศาสตร์ สัตวแพทย์ อื่นๆ ซิ่วสอบใหม่ไปแพทย์ ทันตะ และตั้งแต่ กสพท.ปี 59 เด็กบางคนเลือก สัตวแพทย์ กสพท.ปิดท้าย หรือ กสพท.ปี 60 เด็กบางคนเลือกสัตวแพทย์ หรือเภสัช ปิดท้ายกันพลาด กันหลุด เมื่อติด กสพท.สัตวแพทย์ หรือเภสัช เข้าไปแล้ว เห็นคะแนนต่ำสุดขาดเพียงเล็กน้อย ก็อยากจะสอบแก้ตัวใหม่อีกครั้งตามสิทธิ์ อยากติดแพทย์ หรือทันตะ ตามที่ใจรัก หากไม่ติดแพทย์ หรือทันตะ ก็เรียนต่อที่เดิม ไม่เสียหายอะไรเลย

0
Warewolf 7 พ.ย. 60 เวลา 20:18 น. 12

ค่านิยมผิดๆ ไม่ควรนำเข้ามาคิดในชีวิตเราครับ

จากใจคนอยากเป็นหมอ



ความจริงเพื่อนเก่งๆ ในโรงเรียนผมมีแต่คนอยากเป็นเภสัชนะครับ 555 รู้สึกโดดเดี่ยว

0
_RoseMarry 4 ธ.ค. 60 เวลา 22:04 น. 13

เราเป็นคนนึงที่พลาดจากหมอแล้วมาเรียนเภสัช ตอนแรกเราก็ไม่ได้ชอบนะแต่พอเรียนไปเรื่อยๆแล้วเรารู้สึกว่าเห้ยยยยยมันสนุกอ่ะ เอาจริงตอนนี้เรารู้สึกขอบคุณมากที่ตัวเองเลือกเรียนคณะนี้ สำหรับเราการเข้ามาอยู่คณะนี้เปิดโลกคำว่าเภสัชกรในความคิดเรามาก เราเพิ่งรู้ว่างานของเภสัชมีมากกว่าการจ่ายยาในโรงพยาบาลหรือร้านยา เราสามารถไปอยู่ในทีมพัฒนายา ทำงานที่ฝ่ายผลิต ทำงานในอย.และอื่นๆอีกมากมาย ถ้าเจ้าของกระทู้อยากเรียนเภสัชจริงๆก็ทำตามความอยากของเราเถอะค่ะ เราว่าเลือกเรียนสิ่งที่เรียนแล้วเรามีความสุขน่าจะดีกว่าการเลือกเรียนตามความเห็นของคนอื่นเพราะทุกคณะก็ต้องอ่านหนังสือสอบหนักๆเหมือนกันเกือบหมด ถ้าเราเลือกสิ่งที่ชอบเวลาอ่านหนังสือเหนื่อยๆจะได้ไม่ท้อค่ะ

0