ประสบการณ์แลกเปลี่ยน ECEUK46 3 Weeks England (Part 2)
กลับมาต่อกัน เย่ๆ
จ๊ะเอ๋ !!!!!!!!!!!!! แลนด์มาร์คที่สำคัญของลันดึ้นนน เสียดายซ่อม T_T
ไม่มีเงินจะมาใหม่นะ
เซลฟี่กับบิ๊กเบนที่เหลือแต่ยอด T_T
จากนั้นเราก็เดินข้ามถนนมาค่ะจะเป็นทางเดินไปอีกฟากหลังพระราชวังเวสต์มินสเตอร์นั่นก็คือ แม่น้ำเทมส์ นั่นเอง
และไม่ใกล้ไม่ไกลตรงนั้นก็คือลอนดอนอาย
พวกเราเดินชมไปรอบๆลอนดอนอายประมาณ 20 นาทีค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ขึ้นชม แต่อย่างน้อยก็ได้มาเห็นสัญลักษณ์นึงของลอนดอนเนอะ ช ของจริงใหญ่กว่าในภาพเยอะค่ะ 555555555555
ชมสมใจแล้วคือตอนนั้นแบตกล้องเราหมดถ่ายภาพต่อไม่ได้ T_T แต่จะเล่าว่าที่ต่อไปคือ oxford street เป็นแหล่งช้อปปิ้งอีกที่หนึ่งค่ะ พวกเราทุกคนก็พากันขึ้นรถไฟต่อมาสามสถานีก็ถึง เดินช้อปกันจนขาลากเลยแหละ เราก็จัดเต็มเนอะชีวิตนึงมีครั้ง ก็ซื้อพวกของฝาก พวงกุญแจ เครื่องเขียน รองเท้า ประมาณนี้แหละ มาลอนดอนบอกเลยว่าเสียเงินเยอะที่สุดแล้ว
17:30 น. จะเป็นเวลานัดให้เรากลับมาเจอกันทุกคนที่จุดนัดพบค่ะ
ใกล้ถึงเวลากลับ ก็มีปัญหาเกิดขึ้นค่ะ เป็นบทเรียนที่จดจำไปตลอดชีวิตเลยแหละ ก็คือว่ามีเพื่อนคนนึงไม่ได้มา oxford street กับพวกเราค่ะและยังอยู่ที่ london eye ตอนนั้นเครียดกันทั้งกลุ่ม ไกด์นำกลุ่มทริปนี้บอกว่าเดี๋ยวจะไปรับเพื่อนคนนั้นเอง แล้วให้พวกเรากลับ crewe กันไปก่อน ไกด์เขาก็มาส่งพวกเราทุกคน คตอนนั้นมันเสียใจและก็รู้สึกผิดมาก เพราะปัญหาของคนๆเดียวมันส่งผลกระทบได้หลายอย่างเลย ตอนนั้นเรากับเพื่อนก็เข้าไปขอโทษไกด์
แล้วอาฟเตอร์ช็อคที่ตามมาติดๆคือรุ่นพี่ในกลุ่มเราโดนขโมยกระเป๋าเงิน แล้วไม่รู้ตัวด้วยว่าโดนขโมยไปตอนไหน คือนักท่องเที่ยวมาเที่ยวก็เยอะ ยิ่งตอนมันวุ่นวายชุลมุนกันตอนนั้นจะเป็นตอนที่เราคาดไม่ถึงที่สุด ก็อยากให้คนที่จะไปเที่ยวเมืองใหญ่ๆในสถานการณ์คนเยอะๆไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ก็ให้ระวังของมีค่าของเราเพื่อความปลอดภัยเนอะ
หลังจากนั้นเราก็กลับไปที่ crewe ค่ะ นั่งรถไฟกลับตามเดิมก็เต็มไปด้วยบรรยากาศไม่ค่อยดีแหละ การมาแลกเปลี่ยนตอนนั้นบอกเราเลยว่าไม่ใช่จะเจอแต่เรื่องดีเสมอไปจริงๆ
.
.
วันต่อมาเป็นวันอาทิตย์
ตื่นสายกันไปตามระเบียบ เราก็อาบน้ำแต่งตัวลงมาเบรคฟาสต์ด้านล่าง วันนี้จิลบอกว่าจะพาไปเดินเล่นพร้อมกับแม็กซ์อ้อมหมู่บ้าน
เซเลปออฟเดอะเยียร์
อากาศดีไปอีก
ดอกแดนดีไลอ้อนนนน ได้เป่าด้วยย
นั่นไง Wychwood village ที่เราอาศัยอยู่ 555555 วันนี้รู้สึกเดินได้เยอะกว่าวันแรกๆตอนนั้นอีกเพราะเริ่มชินกับการเดินแล้ว เพราะวันนี้เดินไกลกว่าตอนนั้นอีกนะ รู้สึก healthy
หลังจากที่เดินกันเสร็จ จิลก็บอกว่าวันนี้จะพาไปกินไอติมมมมมมมและไปดูกระต่ายยักษ์
วาร์ป
Snugburys
การันตีความอร่อย ของ Snugburys
เดินออกมานิดหน่อยก็จะเจอเจ้ากระต่ายยักษ์ตรงนี้
มีความโมเดลไปอีก 5555
เสียดายไม่ได้ใส่แว่นดำ รู้สึกไม่เข้าพวก
.
.
NEXT DAY
MONDAY !!
เป็นวันที่ตื่นเต้นวันนึงคือจะได้ไปจอยคลาสกับเด็กมัธยม เราได้ไปโรงเรียน The oaks academy กับเพื่อนๆ แต่อีกบางส่วนจะได้ไปโรงเรียน Saint Thomas ส่วนเราก็จะได้มาจอยคลาสกับเด็กที่นี่ 4 วันค่ะคือวัน จันทร์ อังคาร พฤหัส และศุกร์ ส่วนวันพุธจะเป็นวันแสดงวัฒนธรรมไทยที่คุยกันตั้งแต่วันปฐมนิเทศนั่นเอง
First day at Oaks Academy
ทุกคนจะได้บัดดี้กันค่ะ คือจะได้แยกเรียนกันเลยแหละ แบบเด็กไทยจากเป็นกลุ่มๆก็กระจัดกระจายกันไป วันแรกคาบแรกที่เราเจอคือวิทยาศาสตร์ค่ะ และเป็นชีววิทยาด้วย แต่ความช็อคมันอยู่ตรงที่เป็นพาร์ทภาษาอังกฤษ แต่รวมๆแล้วเราก็เข้าใจนะเป็นการเรียนเกี่ยวกับโรคต่างๆว่ามีสาเหตุมาจากอะไร มีทั้งโรคของพืชและก็โรคของสัตว์เลย มาคาบที่สองกับสามเราได้เรียนภาษาฝรั่งเศส คือเราไม่เคยเรียนมาก่อนเล้ยยยย มาเรียนก็ได้แต่งประโยคเป็นเทนส์ๆ T_T จากที่โง่อิ้งก็มาโง่เฟรนช์อีก
อะต่อไป 55555
รูปแรกที่โรงอาหารเล็กๆของโรงอาหาร
คนซ้ายสุดชื่อ จอร์แดน เป็นบัดดี้เพื่อนของเราคนเสื้อขาวชื่อเบลค่ะ
คนขวาสุดเป็นบัดดี้ของเราเองชื่อ เจส บางคนก็เรียกชีว่า เจสสิก้า นางน่ารัก เฟรนด์ลี่มากกกกก แล้วทั้งสองคนนี้เป็นเพื่อนกันเราก็ได้เข้าไปเรียนทุกคาบกับเบลค่ะ 55555555555
.
.
SKIP TO WEDNESDAY !!
เป็นวันแสดงวัฒนธรรมไทยค่าา ช่วงเช้าเราจะได้จัดบอร์ดป้ายนิเทศเกี่ยวกับประเทศไทย แล้วก็ซ้อมรันคิวการแสดงกันนิดหน่อยก็จะมีการแสดงรำพัด รำวงวันลอยกระทง (เราเล่นขลุ่ยประกอบเพลงนี้ค่ะ ) การละเล่นไทย จะมีรีรีข้าวสาร และแม่งูเอ๋ย แฟชั่นโชว์และร้องเพลงพระราชนิพนธ์ การแต่งกายของแต่ละภาคในประเทศไทย หลังจากจบโชว์ก็จะเป็นการให้ชาวต่างชาติมาชิมรสชาติอาหารไทยของเราค่ะ
หลังจากที่จัดบอร์ดอะไรเรียบร้อยก็ออกไปซื้อของทำอาหารมาเพิ่มนิดหน่อย เผอิญเจอร้านขายของเครื่องเทศไทยอยู่ที่ถนนนานท์วิช ได้เจอกับคุณลุงเจ้าของร้านคนไทยค่ะ เป็นคนนครปฐม เราซื้อมาม่าเผ็ดเกาหลี พร้อมกับปลากระป๋องมาเพื่อประทังชีวิตตัวเองในวันต่อไป 5555555555555555 และก็ซื้อของสำหรับไปทำอาหารไทยสำหรับงานเย็นวันนี้ค่ะ เราก็ได้เข้าไปช่วยในครัวนิดหน่อย เช่นสับหมู สับไก่ ถ้าให้เราไปช่วยเรื่องผัดๆเกี่ยวกับไฟนี่บอกเลยครัวไหม้ 5555555555
อาหารที่ทำก็จะมี แกงเขียวหวาน ลาบหมู แกงฮังเล ข้าวผัด และของหวานเป็นบัวลอย
MC ของงาน
ถึงจะเป่าคู่กับเพื่อนก็เถอะ ความตื่นเต้นก็ไม่หาย แต่ภูมิใจมากที่ตอนนั้นเราสั่นนะแต่เป่าเพลงลอยกระทงออกมาแบบไม่เพี้ยนเลย T_T ภูมิใจ
มีเพื่อนบางส่วนที่โรงเรียนมัธยมมาร่วมงานด้วย
หวังว่าพวกเขาจะชอบอาหารไทยกันนะ
กับเพื่อนๆที่มาดูโชว์พวกเรา
MCCCCCCCCCCCCCCCCCCC
พี่น้องบ้านเดียวกัน
โอ้ยามเย็น จวบยามนี้เป็นเวลาสุดอาวรณ์
ยามไร้ความสว่างห่างทินกร
ยามรักจำจะจรจากกันไป
.
.
วันต่อมาเป็นวันพฤหัสบดี จะมีเรียนแค่ภาคเช้าส่วนตอนบ่ายเราจะได้พาบัดดี้ไปที่ South Cheshire College คือก็พากันเดินไปด้วยกันนี่แหละเพราะว่าโรงเรียนนี่ก็ใกล้ๆกับคอลเลจ แทบจะเรียกว่าเป็นเครือเดียวกันก็ได้ ประหนึ่งว่าจบที่นี่แล้วไปเรียนต่อที่คอลเลจนั้นได้เลย
วันนั้นจะเป็นวันที่มีงานเกี่ยวกับสายอาชีพต่างๆ ซึ่งจัดในยิมของคอลเลจ
มันก็จะมีเกี่ยวกับไนโตรเจนเหลว เราให้ความสนใจบูธนี้เป็นพิเศษ เพราะมันมีการทดลองโดยการเอาดอกไม้ใส่ลงไปแช่ในไนโตรเจนเหลว
ให้เราทำงี้ หยั่งกะจับหิมะ คือมันอเมซิ่งมาก แต่ก็อันตรายมาก 555555
Miss U
.
.
Next Day
วันศุกร์ วันสุดท้ายที่จะได้เรียนกับโรงเรียน Oaks Academy
ฺBye Bye Oaks Academy เราจะไม่ลืมความเกรียนของทุกคน 555555
วันเสาร์ต่อมา เป็นทริปที่จะได้ไป Llandudno ที่ Wales
เป็นเมืองริมทะเล ซึ่งต้องรอลุ้นกันว่าอากาศจะดีเหมือนตอนที่ไปลอนดอนไหมเพราะช่วงนั้นพายุเข้า T_T
On the way มองไปแล้วอากาศคือดี สดใสมาก
ถึงแล้ววว เมืองนี้คนแก่เยอะมาก 555555
มันก็จะมีฝนตกกะปริบกะปรอยหน่อยๆ ยังพอรับได้
ยอมนั่งลงหินแข็งที่มันเย็นๆเพื่อให้ได้รูปนี้มา
คิดถึงสหายเสมอ มีเรนโบว์ด้วย
เดินริมหาดกันมาเรื่อยๆ ตอนนั้นอากาศเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ฝนจากเม็ดเล็กๆก็เริ่มลงเม็ดใหญ่ ลมก็มาอีก หนาวมาก เปียกมากตอนนั้น ถ้าไม่ได้เสื้อกันหนาวที่ผ้ามันกันละอองฝนได้คือจะยิ่งหนาวกว่านั้นอีกอะ T_T
หนีอากาศร้ายๆมาฮีลใจกับ KFC
หลังจากกินเสร็จ พอออกมาไปเดินดูของนิดหน่อย เราซื้อโปสาร์ดแลนดัดโน่ค่ะ แล้วฝนมันก็เริ่มตกหนักเรื่อยๆ ลมแรงมากพัดพวกของที่ตั้งไว้หน้าร้านแบบพังกระจัดกระจายหมด แล้วหนาวมากจริงๆ หนาวยิ่งกว่าตอนไปลิเวอร์พูลอีก หลังจากนั้นก็รีบขึ้นบัสกลับ crewe เลย ถ้ามันอากาศดีคือจะดีมาก แต่ถ้าอากาศเป็นแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ T______T
.
.
วันอาทิตย์
เป็นการใช้เวลาฟรีเดย์วันสุดท้ายกับโฮสแฟมิลี่
มันก็แอบหน่วงๆในใจแหละ เพราะเราไม่อยากกลับเลย
วันนี้จิลบอกว่าจะพาแม็กซ์ไปซื้อเสื้อโค้ทเพื่อเตรียมใส่ตอนหน้าหนาว ไปเดินดูของเกี่ยวกับมันคริสต์มาสนิดหน่อย และก็จะพาไปดื่มชา (ตามสไตล์บริทิชเนอะ 555555) หาซื้อของเข้ามาทำกินเป็นอาหารเที่ยงและดินเนอร์สำหรับวันนี้
เป็นร้านแต่ละร้านเล็กๆ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าที่ไหนอะ แต่ของก็แพงอยู่นะ 55555555
จิลกำลังเลือกเสื้อให้แม็กซ์ เย่ๆ
แต่ตอนนั้นเราขอออกมาก่อนเพราะจะไปซื้อการ์ดเพื่อจะเอามาเขียนให้ครอบครัวนี้และแม็กซ์ 5555555555 หลังจากเลือกเสื้อเสร็จ ซื้ออะไรเสร็จเรียบร้อยก็ไปร้านกาแฟเล็กๆครั้งนี้ไม่ใช่ caffe nero แล้วนะ
เราสั่ง Hot Chocolate อร่อยมากและช่วยทำให้เราอุ่นขึ้นเพราะอากาศหนาว 555555555
ส่วนอันนี้ของจอห์น (จิลบอกให้ถ่าย) โชว์สองนิ้วด้วย 5555555
เสร็จจากนั้นก็กลับบ้าน ตอนเย็นเราก็แอบมาเขียนการ์ดให้จิลเงียบๆกับน้องอีกคนที่อยู่บ้านเดียวกัน ตอนเขียนก็รู้สึกหดหู่นะ เพราะว่าอีกไม่กี่วันก็กลับไทยแล้ว T_T เราเขียนการ์ดให้แม็กซ์ และก็เขียนการ์ดให้จิลกับจอห์น
.
.
วันต่อมาเป็นวันจันทร์ วันนี้จะเป็นวันมอบเกียรติบัตรให้สำหรับกลุ่มเราทุกคน เป็นเกียรติบัตรจากคอลเลจ
นี่ก็เป็นรูปเพื่อนๆของเราในกลุ่มตอนรับใบเกียรติบัตรน้า
คนนี้ครูประจำกลุ่มค่าาา
That's all
.
.
คืนสุดท้าย กับวิวตอนเย็นหม่นๆวันนี้ :(
วันนี้ดินเนอร์ครั้งสุดท้ายกับจิล จอห์นและแม็กซ์ จิลบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีของพวกเรามากที่พวกหนูมา ตอนนั้นแบบโอ๊ยน้ำตาคลอ อย่าทำให้หนูร้องไห้สิ T_T ดินเนอร์มื้อนี้เป็นมื้อที่พิเศษหน่อยเพราะจิลถามล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษในมื้อสุดท้ายไหม no Thai food เราก็เข้าใจแหละ เพราะตอนนี้เราก็คิดถึงอาหารที่นั่นนะ เช่น roast potato , fish and chips , fishcake เราก็บอกจิลไปว่าอยากกินฟิชเค้ก และในมื้อวันนั้นก็มี roast potato ที่ host dad เป็นคนทำ และอร่อยมากด้วย (จิลแอบบอกว่าจอห์นก็ทำแต่อันนี้อร่อยอย่างเดียวแหละ 55555) และก็มีฟิชเค้กตามคำขอของเรา garlic bread กรอบๆ และเราขอเอามาม่าเผ็ดเกาหลีที่เราซื้อตอนงานวันไทยวันนั้นมาทำกินพร้อมกันด้วย
หลังจากที่ดินเนอร์กันเสร็จ จิลบอกจะพาแม็กซ์ออกไปเดินเล่น แต่เสียดายที่วันนั้นเราไม่ได้ไปเพราะต้องไปเก็บของเข้ากระเป๋า ปรากฏว่ากระเป๋าเดินทางแน่นและบวมมาก เพราะขนมที่จะเอากลับนี่แหละ 555555 บอกเลยว่าการจะไปต่างประเทศเราต้องเผื่อน้ำหนักเผื่อพื้นที่ว่างของกระเป๋าเพราะเหตุผลนี้แหละ
พอจิลกับจอห์นกลับบ้านมา เรากับน้องก็ลงมาด้านล่าง เพราะเตรียมจะเอาการ์ดขอบคุณให้ทั้งสองคน จริงๆว่าจะให้วันสุดท้ายก็คือวันพรุ่งนี้ แต่จอห์นต้องออกไปทำงานแต่เช้าก็เลยไม่ทันบอกลาจอห์นพรุ่งนี้แน่ๆ เลยมาลาทุกคนโดยการให้การ์ดวันนี้เลย
ตื่นเต้นเหมือนวันแรกที่ให้ของฝากจากไทยเลย
พอเราเอาไปให้ทั้งสอง เขาก็เปิดอ่านการ์ดด้านในเลย อ่านไปก็ยิ้มไป น้ำตาก็เริ่มมา -บ้าเอ้ย 5555 เราตั้งใจเขียนมากเลย แล้วจิลก็มากอดเรากับน้อง
Always miss them
หลังจากนั้นเราก็ไปแพ็คกระเป๋าต่อและก็นอนเป็นคืนสุดท้ายกับ my sweet room :(
Next Day
วันที่ไม่อยากให้ถึงที่สุดในชีวิตก็มาถึง . . .
หลังจากจากลาบ้านโฮสมาแล้ว มาอยู่ที่คอลเลจซักสองชั่วโมงหาไรทำไปเรื่อยๆ เพื่อรอบัสจะมารับไปที่ Quarry Bank mill เป็นโรงงานทอผ้าเก่าๆ ที่สุดท้ายจริงๆของทริปในอังกฤษ
เมื่อรถบัสมาถึงเราทุกคนก็เอากระเป๋าเดินทางขึ้นบัสกันให้เรียบร้อย เราจำความรู้สึกวันนั้นได้ดี วันที่มันจำใจต้องจากจริงๆ จิลมาส่งเรากับน้องขึ้นบัส กอดลาจิลครั้งสุดท้าย ความรู้สึกตอนนั้นมันออกมาหมดเลย เราร้องไห้ หนักมาก ขึ้นมาทุกคนก็เงียบกัน เพื่อนเราก็ร้องไห้ ยิ่งกอดปลอบกันยิ่งร้องไห้หนักอีกเพราะก็นอกจากจะได้จากลาประเทศนี้แล้วก็ยังได้จากลากันเอง :(
หลังจากออกมาเมือง Crewe แล้วที่ต่อไปจะเป็น Quarry Bank Mill ตามที่บอกไว้ตอนแรก
มาถึงแล้ว
มันก็พอจะฮีลหัวใจได้บ้างกับบรรยากาศธรรมชาติสวยๆแบบนี้
ด้านในก็จะมีอะไรประมาณนี้
จากนั้นก็ออกมาด้านนอกกัน
มาโซนธรรมชาติบ้าง
miss u jaaa
จากนั้นเราก็ไปช้อปของที่นี่ เราซื้ออันนี้มาเพื่อเป็นของที่ระลึกราคา 5 ปอนด์ ที่ซื้อเพราะมันเป็นของแฮนด์เมดแล้วจะมีหลายรูปทรง มีหัวใจรูปร่างก็จะไม่เท่ากัน เท่ากับว่าเหมือนมีชิ้นนั้นชิ้นเดียวบนโลกอะไรทำนองนี้แล้ว ห้าปอนด์นี้จะเป็นการโดเนทให้โรงงานทอผ้าที่นี่ด้วยนะ
พอซื้อเสร็จเราก็กลับบัสเพราะอีกไม่นานก็จะได้ไปสนามบินกันแล้ว
มาถึงแล้ว บอกลาสตาฟที่คอลเลจคนสุดท้ายที่มาส่งเราถึงสนามบิน
It's time to back home :)
25 October 2017
กลับถึงไทยอย่างสวัสดิภาพ
ขอบคุณสำหรับโครงการดีๆที่ทำให้ความฝันเล็กๆในการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกับประเทศในฝันอย่างอังกฤษให้เป็นจริงนะคะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ทุกอย่างที่ได้เจอทั้งเรื่องดีๆและเรื่องร้ายๆ ขอบคุณครอบครัวอุปถัมภ์ สตาฟที่คอลเลจ คุณครูฝ้าย(ครูประจำกลุ่ม) ที่ดูแลเราดีมาโดยตลอดการใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ ขอบคุณโครงการที่ทำให้เราได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ ขอบคุณที่ทำให้เราก้าวไปอีกขั้นในการเติบโต
คิดถึงเพื่อนๆ UK1 ทุกคน ถ้ามีโอกาสซักวันเราคงได้เจอกันเนอะ
เยาวชนอีซีอี. แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ประเทศอังกฤษกลุ่ม 1 รุ่นที่ 46
-----------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตอนจบค่ะ ก็อยากให้ทุกคนไปแลกเปลี่ยนกันเยอะๆเนอะมันได้อะไรเยอะแยะกลับมาเลยแหละ ไม่ใช่แค่การฝึกภาษาอย่างเดียว ได้ทั้งเพื่อน ได้ทั้งประสบการณ์ ถึงจะเป็นการแลกเปลี่ยนระยะสั้นของเราแต่บอกเลยว่าคุ้มมากสำหรับการเกิดมาในชีวิตนี้ ตอนแรกเราก็เริ่มต้นการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโดยการอ่านกระทู้เด็กแลกเปลี่ยนนี่แหละค่ะ ก็ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสมาแชร์ประสบการณ์บ้าง
ขาดตกบกพร่องตรงไหนคอมเม้นบอกกันได้เด้อ หวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินไปจะไปแลกเปลี่ยนเนาะ พยายามเขียนให้ละเอียดที่สุดแล้ว อ่านตาแฉะกันไปเลย 55555 เราก็เคยผ่านจุดที่ลังเลว่าจะไปไม่ไปดีไหมเหมือนกันค่ะ แต่ขอแนะนำว่าให้มาดีที่สุดเพราะโอกาสของเรามันไม่ได้มาง่ายๆเนอะ
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ
2 ความคิดเห็น
สุดยอดเลยค่ะ รูปตอนไปลอนดอนนี่เรามีวิวเหมือนกันเป๊ะเลย
ว้าวว ไปตอนไหนอะะๆ
เราเสียดายมากบิ๊กเบนซ่อมอยู่ 5555555 ฮือ ;-;
ไปUCEรุ่นตุลา60ค่ะ เสียดายเหมือนกันTT
ผม ece รุ่น 50 ค้าบ. วันนี้พึ่งไปประชุม ผปค มาเอง กำลังจะไปตุลานี่เเล้ว. ปล. ไปเมือง crewe เหมือนกันเลย เรียนที่เดียวเดียวกันด้วยคับ
ดีจังเลยยย ขอให้เดินทางปลอดภัยนะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?