โลกเรานั้นกว้างใหญ่ มีหลายสิ่งที่กำลังรอการถูกค้นพบโดยใครสักคน แต่มนุษย์เรานั้นกับให้ความสนใจกับจักรวาลมากกว่าที่จะสนใจในโลกที่ตนอาศัยอยู่ แน่นอนว่าจัดรวาลนั้นกว้างใหญ่และแสนลึกลับ แต่โลกเรานั้นก็กว้างใหญ่และลึกลับไม่แพ้กัน มนุษย์หลายๆคนเชื่อว่าตนนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตบนสุดของห่วงโซ่อาหาร และยังมีภูมิปัญญาที่เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลก ทั้งๆที่เรานั้นก็อาศัยออกซิเจนในการหายใจเพื่อให้มีชีวิตอยู่เหมือนกับพวกเขา แต่ทำไมมนุษย์เราถึงได้เหยียดยามสิ่งมีชีวิตอื่นกัน.......
เอาล่ะมาเข้าเรื่องที่เราจะเล่ากันดีกว่า
วันนั้นเป็นวันออกพรรษา พ.ศ.2555 ตอนเช้าฉันก็เข้าวัดทำบุญเหมือนกันคนอื่นทั่วๆไป แล้วก็ใช้ชีวิตตามประสาเด็กอายุ 15 จนถึงตอนเย็นที่ต้องไปเวียนเทียน ฉันก็ไปเวียนเทียนปกติกันเพื่อนอีกคนหนึ่ง ตอนนั้นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งฉันและเพื่อนจะกลับบ้าน ฉันได้พาเพื่อนไปเติมเงินโทรสัพที่ร้านค้า และในระหว่างที่ฉันกำลังจะไปส่งเพื่อนของฉันที่บ้านเพื่อนฉันก็มีถ้าทีตกใจแล้วก็ชี้ให้ฉันดูอะไรบางอย่างที่อยู่บนท้องฟ้า พอฉันเงยหน้าขึ้นไปมองฉันก็ต้องตกใจเพราะสิ่งที่ฉันเจอนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังเดินอยู่บนท้องฟ้า คุณอ่านไม่ผิดหรอกค่ะ มันกำลังเดินอยู่หน้าพระจันทร์ ลักษณะภายนอกที่ฉันเห็นคือสิ่งมีชีวิตที่เหมือนคนมีหัวเป็นนกและมีปีกเหมือนกันเทพฮอรัสเทพเจ้าในตำนานอียิป สิ่งนั้นที่ฉันเห็นกำลังเดินอยู่ เหมือนกันเดินอยู่บนกระจกใส สิ่งนั้นทำให้ฉันและเพื่อนตกตะลึงเป็นอย่างมาก พวกเรายืนดูสิ่งนั้นอยู่นานจนกระทั้งสิ่งนั้นเดินหายเข้าไปในกลีบเมฆ ฉันจึงไปส่งเขาที่บ้านและฉันกับเพื่อนก็ได้เล่าสิ่งที่พบให้ที่บ้านฟัง แต่กลับถูกตอบกลับมาว่าพวกฉันแต่งเรื่องโกหกขึ้นมาและถูกมองว่าเป็นเรื่องตลก ฉันกับเพื่อนแน่ใจมากว่าเราสอนคนไม่ได้ตาฝาดแน่ๆเพราะเรายืนดูสิ่งนั่นด้วยกันประมาณเกือบชั่วโมงได้ แต่ฉันก็ไม่มีสิ่งที่สามารถจะเอามาพิสูตรได้ว่าเราสองคนพบเจอกับสิ่งนั้นจริงๆ นอกจากความทรงจำจากสิ่งที่เราพบเจอมา ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงทุกวันนี้ฉันกับเพื่อนก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ฉันพยายามหาคำตอบในทุกๆทางแต่ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร จนทุกวันนี้ฉันก็ยังเฝ้ารอที่จะเจอสิ่งนั้นอีก และฉันหวังว่าฉันและเพื่อนจะไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่พบเจอสิ่งนั้น.....
เรื่องจริง...
ติดตามเรื่องใหม่ๆก่อนใครที่เพจ ปลาทองใส่แว่น ค่ะ
#ปลาทองใส่แว่น
แสดงความคิดเห็น