Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รู้สึกอย่างไรเมื่อนิยายที่ท่านเขียนเอง (จบเเล้ว) หรือ (ยังไม่จบ)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
(สำหรับเรื่องที่จบเเล้ว)

ตามหัวข้อเลยครับ พอดีผมกำลังสงสัยอยู่ว่านักเขียนที่เขียนเรื่องของตัวเองจบเเล้ว ตอนเขียนจบพวกเขารู้สึกอย่างไรกัน? ด้วยความที่ว่าผมมีเรื่องให้เขียนเยอะมาก เเต่กลับไม่มีเรื่องไหนเลยที่เขียนจบไม่ว่ามันจะผ่านมานานเเค่ไหน คิดเเล้วคิดอีก เขียนเเล้วเขียนอีก ก็ไม่จบสักทีจนไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของความสำเร็จ ที่เรียกว่า เขียนจบเรื่อง ได้เลย

เลยอย่างทราบว่าท่านนักเขียนที่เขียนเรื่องของตัวเองจบเเล้ว มีความรู้สึกอย่างไร
ในตอนนั้นหรือเเม้เเต่ตอนนี้


รู้สึกดีมากที่เรื่องจบเเล้ว 
ตัวละครสมหวัง 
มีความสุขที่ในที่สุดก็มาถึงจุดสุดยอดของเรื่อง
หรือจะรู้สึกเศร้ากันที่เรื่องของตัวเองจบเเล้ว 
ตัวละครเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทางเเล้ว
เรื่องราวดีๆ เเบบนี้จะไม่มีอีกเเล้ว
ไม่รู้ว่าพอจบเเล้วจะเขียนอะไรต่อ

ว่ามาตามสบายเลยครับ


(สำหรับเรื่องที่ยังไม่จบ)

เเละไม่จำเป็นที่จะต้องเขียนจบก็สามารถออกความคิดเห็นได้นะครับ ผมสนใจสำหรับท่านที่ยังเขียนไม่จบเหมือนกัน 

เพราะดอง เพราะขี้เกียจ เพราะไม่มีเวลา เพราะต้องทำงาน ต้องเรียนต่อ
ไม่มีคนอ่าน ไม่มีเม้น ไม่มีใครสนใจเรื่องของเรา

เล่าได้ตามสบายครับ 

ช่วยบอกเล่าความรู้สึกหน่อยครับอยากรู้ 
เเละวางลิงค์ไว้ก็ได้ครับ ไม่ว่า 


เเละถ้าหากใครสงสัยว่าทำไมถึงมีสองหัวข้อ คือผมขี้เกียจเเยกเลยเขียนเอาไว้หน้าเดียวกันเลยก็ตามนั้นเเหละ เเละถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้พวกท่านลองเข้าไปอ่านเรื่องของผมหน่อยครับ ถ้าจะไม่ขอมากเกินไป รับได้หมดไม่ว่าจะวิจารณ์หรือเเค่เม้น


 

 

แสดงความคิดเห็น

>

21 ความคิดเห็น

valerie[วิฬารี] 5 ธ.ค. 60 เวลา 23:28 น. 1

เขียนจบ


ก็รู้สึกดีอย่างที่คุณว่าไว้นั่นแหละ

ส่งตัวละครซึ่งเป็นเหมือนเพื่อนไปถึงจุดหมายแล้ว

และช่วงเวลาแสนวิเศษที่เราได้ถ่ายทอดเรื่องราวมันจบลงแล้ว


เขียนไม่จบ


ก็เหมือนขรี้ยังไม่สุด แต่มันต้องลุกออกจากส้วมแล้ว

ไม่สิ! รู้สึกคาใจ

แต่ในเมื่อสัมผัส "โลก" ที่เราสร้างขึ้นเองไม่ได้อีกแล้ว

ก็จะไม่ฝืน แต่หวังลึกๆว่าสักวันเราจะสมองโล่งพอกลับไปเขียนได้อีกครั้ง


ปล.ช่วงนี้ยุ่งคงไปอ่านนิยายจขกท.ไม่ได้

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 06:24 น. 1-1

พอเราเขียนจบมันก็คงดีจริงๆ เเหละ เเต่พอหยุดเขียนคงต้องมีคันไม้คันมืออยากเกาเป็นธรรมดา ผมนี่บางที่ไม่ได้เขียนนานก็เหมือนคนอยากยาเลยนะ555

0
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 06:22 น. 2-1

555 ว่าตามตรงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องทำเเบบนั้น มันก็ไม่ต่างกับกลับไปเริ่มใหม่เลยสำหรับการเขียน เเต่ก็ดีเหมือนกัันผลงานจะได้ออกมาดีขึ้น สำหรับนักอ่าน อย่างที่คำกล่าวว่า หมดหน้าที่หนึ่งจึงมีหน้าที่ต่อไป

0
PangPhai 6 ธ.ค. 60 เวลา 00:22 น. 3

ความรู้สึกตอนเขียนจบแล้วไม่พีคเท่าตอนเริ่มเรื่องใหม่

//ชิบหายแล้วไง!! เรื่องที่แล้วจัดเต็มจนไม่เหลือให้เขียนเรื่องอื่น


ความจริงก็ดีใจแหละ รู้สึกโล่ง อาจจะมีติดคิดถึงอยู่บ้าง

ช่วงแรกๆจะคิดถึงมากหน่อย เพราะยังไม่หลุดจากตัวละครนั่นนี่

ถึงกับต้องถามตัวเองบ่อยๆ "นางเอกเรื่องใหม่มันชื่ออะไรนะ"

หลังๆก็รอฟีดแบ็คจากนักอ่าน (สายดอง) ว่าเป็นยังไง โอเคมั้ย

และกลับไปอ่านในฐานะนักเขียนอีกครั้ง

สามสี่เดือนให้หลัง รอความรู้สึกตกตะกอน ค่อยกลับไปรีไรท์

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 06:39 น. 3-1

เเบบคุณผมก็ว่าผมก็คงจะเป็นถ้าเขียนจบ เเต่งโชคยังดีที่เรื่องของผมมีหลายภาคเเละตัวละครมันก็ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ได้หายไปไหน เลยไม่ต้องรู้สึกเหมือนว่ามันไปจากเราไปเเล้ว อะไรประมาณนั้น ของผมมันเหมือนเรื่อง index น่ะ ก็เลยมีต่อเรื่อยโดยใช่ตัวละครเดิมได้ กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่า-เรื่องที่ใช้ตัวละคร ครั้งเดียวเเล้วทิ้งเลย เเเบบคนเขียนเขาทำกันได้ยังไงนะ เพราะเเบบกว่าจะคิดตัวหนึ่ง ชื่อหนึ่ง ลักษณะหนึ่งขึ้นมาได้ให้ตัวเเละคนอ่านชอบนี่ก็งานช้างเหมือนกันนะ

เเต่ช่วงที่เขียนก็คิดขึ้นได้ว่าอาจจะเป็นประมาณนี้


ตอนเริ่ม เงียบๆ กลางเรื่อง อลังการงานสร้าง ตอนจบ ซาบซึ่ง ผมอยากจะให้นิยายของผมเป็นเเบบนี้เเหละ เเละโดยส่วนใหญ่ที่ได้อ่านงานของคนอื่นถ้าเรื่องออกมาประมาณนี้จะเป็นเรื่องที่ดีเสมอเลยครับ


เเหมเรื่องรีไรท์ของคู่กันสินะ ส่วนนักอ่านสายดองนี่มันอะไรนะ!! เฮ้ยพวกเองจะอ่านก็รีบๆ มาอ่านสิ55

เเต่ว่าตามตรงถ้าเกิมีคนมาเม้นตัวละคร ของเราเพราะชอบ เพราะถูกใจ บางทีคงรู้สึกดีกว่ามาเม้นเรื่องอีกนะ อันนี้ผมคิดเอง

0
slimebox 6 ธ.ค. 60 เวลา 05:15 น. 4

ตอนนี้เขียนจบแค่ภาคงับ คงไม่รู้สึกเหมือนคนเขียนจบทั้งเรื่องอะ แต่ก็รู้สึกอึ้ง ๆ ว่าตัวเองเขียนไปได้ด้วยนะ นั่งเขียนความคิดตัวเองไป สี่ร้อย ห้าร้อย หน้าเอสี่ เราทำได้ด้วยเหรอเนี่ยไม่อยากจะเชื่อ 555

แล้วก็คิดว่า อยากจะเขียนภาคต่อแล้วล่ะ แต่พล็อตยังไม่เข้าที่และภาคเก่า ๆ ก็มีจุดบกพร่องเยอะเลยควรกลับไปรีไรต์ก่อน ก็ยังตื่นเต้นอยากเขียนภาคสามอยู่นะ ถึงแม้ว่าจะเซ็งๆ ที่ต้องกลับไปเขียนใหม่ แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา การรีไรต์กะนัก(อยาก)เขียนเป็นของคู่กาน

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 07:01 น. 4-1

พยายามเข้านะครับพอจบเเบบจบจริงๆ ความรู้สึกคงสุดยอดน่าดู เรื่องพล็อตนี่ทุกคนคงอยากจะเริ่มอะไรใหม่ๆ ตลอดตามจินตนาการเเหละ ว่าเเล้วความรู้สึกตอนเขียนได้ สี่ ห้า ร้อย เอสี่จะเป็นยังไงนะ เเบบผมลบเรื่องตัวเองมา หกครั้งเเล้วเลยไม่เคยเขียนถึงน่ะ55

0
lilin4646 6 ธ.ค. 60 เวลา 06:19 น. 5

เขียนนิยายเรื่องยาวจบมาแล้วหลายเรื่องครับ

ความรู้สึกตอนเขียนจบแต่ละเรื่องจะไม่เหมือนกันครับ ตอนเขียนนิยายจบเรื่องแรก (ยาว 12 เล่ม)

- รู้สึกใจหายมาก ว่าต่อไปเราจะไม่ได้เขียนนิยายถึงเหล่าตัวละครนี้อีกแล้วเหรอ แต่ถ้าเขียนยาวกว่านี้มันจะไม่สนุกแล้ว ก็คงอารมณ์ พ่อแม่ที่ต้องปล่อยลูกไปตามทางของตัวเองมั้งครับ ตอนเขียนนิยายจบเรื่องที่สอง (ยาว 4 เล่ม) - รู้สึกเสียดายเหมือนกัน แต่ไม่เท่าเล่มแรก เนื่องจากนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งตามใจ 100% แต่คนอ่านกลับชอบมาก จึงรู้สึกภูมิใจมากกว่าเสียดายครับ ตอนเขียนนิยายจบเรื่องที่สาม (ยาว 6 เล่ม) - เป็นนิยายทำมือที่ทำร่วมกับเพื่อน เป็นเรื่องที่ต้องเริ่มอะไรใหม่หลายๆ อย่างตั้งแต่แต่งใช้สำนวนใหม่เพราะเปลี่ยนจากพ็อกเก็ตบุ๊คส์เป็นไลท์โนเวล ต้องหัดทำหนังสือตั้งแต่จัดหน้ายาวไปถึงติดต่อโรงพิมพ์ ตั้งสำนักพิมพ์ของตัวเอง ตอนเรื่องนี้จบรู้สึกภูมิใจเหมือนกัน เพราะทำสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องที่ 3 เปิดจองอยู่นะครับเอิ้ก ส่งใจกดที่ลิ้งด้านล่างเลย https://goo.gl/pRD2mu


https://image.dek-d.com/27/0279/7163/125656022

3
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 06:49 น. 5-1

โหนี่มันนิยายฝีมือคนไทยเหรอ? ทำดีจนคิดว่าเป็นนิยายเเปลเลยครับ งานดีๆ ยินดีด้วยนะครับ ขอให้ขายได้เยอะๆ เเนวฮาเร็มด้วย55 (ประเมินจากปก)

0
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 06:51 น. 5-2

เเต่ผมเห็นตัวละครของตัวเองเป็นเหมือนเพื่อนมากกว่าครับ ประมาณว่าถ้าเตะพระเอกไปไกลๆ เราเองนี่เเหละจะได้ไปยืนคู่กับนางเอกเเทนอิอิ

0
lilin4646 6 ธ.ค. 60 เวลา 09:21 น. 5-3

ขอบคุณครับ แนวฮาเร็มครับ...โดนแซวบ่อยๆ ว่าดูปกแล้วเหมือนนิยายแปลเหมือนกันครับ

0
Miran/Licht 6 ธ.ค. 60 เวลา 06:22 น. 6

เขียนจบ


ในใจแทบจะยิงสลุต จบแล้วนะ ในที่สุดก็ทำสำเร็จ ส่งเจ้าพวกนี้ไปถึงฝั่งจนได้ ปลาบปลื้ม ปืติแล้วก็หันไปหาพล็อตที่คาไว้ จะได้เขียนเรื่องใหม่แล้ว เย้! ดีใจกว่าเดิม

2
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 06:46 น. 6-1

55 ผมก็คงเหมือนกันครับ เเต่ตอนใกล้จะจบคงรู้สึกดีมากไม่ต่างกัน ว่าเเล้วหากเป็นพล็อตเรื่องที่มีความเกี่ยวโยงกันมันจะเป็นยังไงนะ คงดีกว่าเดิม ไม่ก็คงรู้สึกเหมือนยังเขียนไม่จบเทียว

0
Miran/Licht 6 ธ.ค. 60 เวลา 10:13 น. 6-2

ถ้าเป็นนิยายภาคต่อ มันขึ้นอยู่กับว่า ภาคต่อนั้นมีความเกี่ยวโยงกับภาคแรกอย่างไร มากแค่ไหนค่ะ

ถ้าภาค 2 คือเนื้อเรื่องต่อกัน ตัวเอกเดียวกันก็จะรู้สึกว่ายังไม่จบ แค่โล่งอกไปเปลาะหนึ่งค่ะ

ซึ่งกรณีแบบนี้ จบภาคหนึ่งจะตรวจทานรีไรต์ทีค่ะ ถ้ารอจบทั้งหมดมารีไรต์ทีเดียวเราว่าสาหัสเอาการแต่ต้องทำเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา


เรื่องก่อนหน้านี้ที่เขียนจบไป (แต่ยังไม่ได้ลงรอเขียนภาค 2 จบลงทีเดียว) ภาคแรกจบเราก็ดีใจนะ แต่ภาคสองยังเขียนค้างไว้ไม่จบแต่ก็แยกกัน เพราะตัวเอกคนละชุดกันกับภาคแรก ถ้าเขียนภาคนี้จบ คงดีใจ 2 เท่าค่ะ แบบปลดแอกตัวเองจากการ inception ของตลค.ไปได้ (ฮา)


0
MeawNon 6 ธ.ค. 60 เวลา 07:29 น. 7

กําลังเขียนจบ


เฮ้อ นี่เราจะไม่ได้เขียนนิยายเสี่ยงรีพอร์ทอีกแล้วสินะ ทั้งกัญและฉากล่อแหลม ถ้าเขียนจบแล้วเราจะคิดถึงเธอนะ...เพราะเรื่องต่อไปคงไม่มีฉากพวกนี้ให้เขียนแล้วล่ะ

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 12:00 น. 7-1

ความรู้สึกประมาณว่าเด็ก ม.ปลายที่กำลังจะได้บอกลา ความชิวในห้องเรียนที่ได้เตะบอลระหว่างที่ครูสอนอยู่555 เเนวคิดที่ว่าได้เขียนเรื่องที่ตัวเองสนใจเป็นพิเศษเเล้วต้องบอกลามันตอนที่จะไม่ได้เขียนเเล้ว ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะครับ

0
✦หมอกสีฝุ่น✦ 6 ธ.ค. 60 เวลา 09:01 น. 8

จบก็เหมือนไม่จบเพราะต้องรีไรต์อีกค่ะ แล้วการรีไรต์นี่แหละทำให้มันไม่จบสักที กลายเป็นดองไปแล้วค่ะ ฮ่าๆ (หัวเราะทั้งน้ำตา)


ความรู้สึกก็..ท้อมากๆ เลิกเขียนแล้วค่ะ ผันตัวมาเป็นนักอ่านแทน

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 11:56 น. 8-1

ก็เข้าใจนะครับเพราะเขียนนิยายเรื่องหนึ่งมันก็ไม่ต่างจากการทำงาน project หนึ่งเลย

0
chiharu_sc 6 ธ.ค. 60 เวลา 11:29 น. 9

เขียนจบ


มันคือความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ ค่ะ ในที่สุดเราก็ได้แต่งฮากตอนจบอันสวยงามที่เราคิดไว้ตั้งนานแล้วเสียที ตัวละครก็เติบโตขึ้นและตัวละครสมหวัง ตราตรึงใจสุดๆ เลยค่ะ


ถ้ายังเขียนไม่จบก็... ดองต่อไป เอ๊ย! เขียนต่อไป


ตอนนี้เรากำลังแต่งนิยายเรื่องใหม่ไปได้แค่ไม่กี่ตอนค้่ะ ซึ่งดองหลายรอบแล้ว... ติดเรียนด้วย เหนื่อยด้วยล่ะ ไม่มีอารมณ์แต่งบ้างล่ะ รู้สึกผิดกับคนอ่านเหลือเกินค่ะตอนนี้

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 11:54 น. 9-1

อ่านเรื่องดีเเค่ไหนก็ไม่เท่าเรื่องที่ตัวเองได้เขียนเองสินะครับ ยังไงก็อย่าดองนิยายนะครับเดียวคนอ่านเสียใจ55

0
TEALSheeP 6 ธ.ค. 60 เวลา 15:58 น. 10

ตอนเรื่องเเรกที่เอาลงเด็กดีเขียนจบนีฟินมากค่ะ คือเเบบรู้สึกประมาณว่า...เฮ้ย นี่เราประสบความสำเร็จอีกขั้นเเล้วเฮ้ย! (เรื่องก่อนหน้าไม่จบสักเรื่อง555)

เเต่ปัญหาคือเรื่องนี้ดันมีภาคต่อด้วยสิ555

2
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 19:08 น. 10-1

ต่อเนื่องไปจนจบเเบบบริบูรณ์ พยายามเข้านะครับ ผมเองก็เหมือนไม่ต่างกัน555

0
น้องหมาจอกโต 6 ธ.ค. 60 เวลา 16:07 น. 11

เปรียบนิยายเหมือนด้ายสีดำ


จบแล้ว เหมือนมีกรรไกรทองคำมาตัดด้ายดำ

ยังไม่จบ ต้องตามหากรรไกรทองคำต่อไปจนกว่าจะเจอ


เฮ้อ //นั่งตกปลาต่อไป

3
Miran/Licht 6 ธ.ค. 60 เวลา 16:41 น. 11-1

ขอเมนท์นี้ไปวางพล็อตกรรไกรทองคำที่หายไปกับด้ายดำที่ทอดสู่จักรวาลอันไกลโพ้น

0
S.I.J. Potter 6 ธ.ค. 60 เวลา 16:21 น. 12

ตอนเขียนจบก็รู้สึกว่าในที่สุดก็จบซักที บรรลุเป้าหมายแล้ววว อะไรทำนองนั้น

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 19:13 น. 12-1

นั่นสินะครับ จบเเล้วก็ดีไป อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ได้ดอง

0
[兰兰] หลันหลัน 6 ธ.ค. 60 เวลา 17:36 น. 13

ยังไม่จบค่ะ


เพราะดอง+มีเวลาน้อย ติดเรียน

อยากสัมผัสความรู้สึกหลังเขียนจบเหมือนกัน จึงกลับมาเขียนอีกครั้ง หลังจากที่ดองนานมาก

น้ำตาจะไหล แต่ก็ยังเปิดเรื่องใหม่ต่อไปเรื่อยๆ 5555

เปิดทิ้งไว้จองชื่อเรื่องเฉยๆค่ะ

ไม่กล้าแตะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว มันจะทำให้เรื่องที่กำลังเขียนอยู่ไม่จบสักที พอดีว่าเราได้รับบทเรียนมาแล้ว T.T

ตอนนี้เรื่อยๆ ค่ะ กำลังพยายามเขียนเรื่องหนึ่งสุดความสามารถ วางพล็อตไม่หลายตอน เพราะกลัวเขียนไม่จบ เราเขียนทุกวันเลย วันละสองบรรทัดก็เขียน กลัวเหมือนเมื่อก่อนที่ทิ้งร้างไปนานแล้วจุดไฟต่อไม่ติด ตอนแรกฝืนๆ ต่อมาเหมือนมันเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ฝืนอีกแล้วค่ะ ^^


ปล.ถ้ามีเวลาจะเข้าไปอ่านนิยายของจขกท.ดูนะคะ

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 19:15 น. 13-1

ยินดีที่จะมีคนอ่านครับ ว่าเเล้วผมก็เป็นเหมือนกันนะวางพล็อตตั้งชื่อเรื่องทิ้งๆ ไว้ เเต่เเค่ไม่ได้เอามาลงเว็บ

0
~Wangzuu~ 6 ธ.ค. 60 เวลา 18:39 น. 14

ถ้าเป็นเรื่องที่เขียนจบแล้ว ก็รู้สึกสบายใจค่ะ บางทีกลับไปอ่านแล้วแทบเขินจนมุดดินหนีเลยก็มี(มันเป็นแฟนฟิคสไตล์รักใสๆหน่อยๆ)แบบ "เฮ้ย!นี่เราแต่งขนาดนี้เลยเหรอ?"เลยค่ะ


ส่วนเรื่องที่แต่งไม่จบ บางทีเราก็ปล่อยมันไปก่อนเพื่อค้นหาไอเดียกับความรู้เยอะๆ แต่บางทีก็ลืมเรื่องที่ค้างไว้ก็มีนะคะ

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 19:18 น. 14-1

รอจนกว่าจะถึงเวลาที่ดีที่สุดเเล้วเขียนก็โอเคนะครับ เเต่ก็อย่านานเกินไปละ มันกลับมาเขียนยาก เรื่องของนิยายที่เราเขียนๆ กันเอง พอถ้าเขียนอะไรที่มันดูน่าอายเเล้วเอามาอ่านเองมันก็ตลกดีครับเข้าใจๆ ประมาณว่าออกเเนวหวานๆ เเล้วพอมาอ่านเองมันก็อายๆ

0
~Only C. F.~ 6 ธ.ค. 60 เวลา 19:28 น. 15

ยังแต่งไม่จบสักเรื่องค่ะ แต่เรื่องที่ลงในเว็บใกล้จบภาคแรกแล้ว ซึ่งภูมิใจไหม ก็ภูมิใจแม้จะต้องรีไรท์ต่อก็ตาม แต่ยังไม่ภูมิใเท่าไหร่เพราะมันยังไปไม่ถึงฝั่งฝันอันสวยงามามที่หวังไว้อ้ะ


ส่วนเรื่องอื่นไม่กล้าลงเว็บค่ะ เพราะตั้งใจเขียนเกิน ลบบ่อย แก้พลอตเรื่องบ่อยมากกกก (แต่ความสมบูรณ์ก็เพิ่มแหละ) เลยไม่กล้าลง เดี๋ยวคนอ่านงง แต่เรื่องที่ไม่ลงนี่ถ้าแต่งจบคงใจหายอ่ะค่ะ ตั้งใจมาก รักมาก แต่คงอีกนานเลยล่ะ

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 19:49 น. 15-1

จนกว่าจะดีที่สุดค่อยลงก็ไม่มีใครเขาว่าหรอกครับ เรื่องของเขาคือเรื่องของเขา ทำตามใจเถอะครับ นักเขียนนิยายต้องเป็นอิสระจะได้เขียนง่าย

0
Blue Bell 6 ธ.ค. 60 เวลา 21:38 น. 16

ขอเป็นเรื่องที่จบก่อนนะคะ ความรู้สึกคือยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ5555 เขียนมานานจนผูกพันกับตัวละคร แต่อีกใจก็รู้สึกฟูๆ อิ่มๆ ค่ะ แบบว่าดีใจนะที่เขียนจบ

ส่วนเรื่องที่ยังไม่จบ ก็เมื่อไหร่จะจบสักทีน้า ในหัวไอเดียพลุ่งพล่าน จับคอมปุ๊บ อ้าว...ขี้เกลือขึ้นเต็มเลย ปัจจุบันก็พยายามทุบไหค่ะ555

1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 23:32 น. 16-1

เข้าใจความรู้สึกครับ เหมือนเราอยู่กับตัวละครมานานเเล้วไม่อยากบอกลาพวกเขา เเต่ก็รู็สึกที่ได้เป็นเรื่องเป็นราวเป็นเล่ม สามารถตีพิมพ์ได้ ไม่ว่าจะตีหรือไม่ก็ตาม -ความรู้สึกที่ว่าสำเร็จเเล้วนี่เเหละครับที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทั้งนักอ่านเเละนักเขียนหลงใหล เพราะนักอ่านก็สามารถอ่านเรื่องของเราเเล้วรู้สึกดีได้ไม่ต่างกับนักเขียนครับ (ผมกล่าวนอกประเด็นไปนิด) ว่าเเล้วส่วนที่ยังไม่จบก็เหมือนงานค้างหรือไม่ก็การบ้านที่ยังไม่เสร็จเลยนะ555

0
sweet_word 6 ธ.ค. 60 เวลา 22:07 น. 17

แต่งจบ


โคตรของโคตรความรู้สึกดี

เป็นความฟินที่มีความสุขสุด ๆ

อารมณ์ประหนึ่งกำลังเสวยวิมุตสุข 7 วัน 

พายเรือกลางทะเลมาจนถึงฝั่งได้แล้ว รอดตายแล้ว รีดเดอร์มะต้องทวงเราแล้ว เย้ ๆ


ที่ไหนได้ รีดเดอร์มาขอภาคต่อ ขอภาคพิเศษ ขอเรื่องต่อไป เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..เขียนแล้วเอาลงแล้วรับผิดชอบแฟนคลับด้วย



ยังมะจบ


อารมณ์ประมาณว่าเมื่อไหร่จะจบสะทีฟร่ะ จะต่อพิมพ์อะไรออกให้มันเร็ว ๆ เข้าถึงความคิดของฉันที่กำลังโล้อแล่นอยู่เนี่ย บางทีนะอาจจะมีสายแปลสัญญาณคลื่นสมองเลยเอามาแปะที่หัวเราแล้วส่งต่อเข้าคอมพิวเตอร์ แล้วประมวลออกมาเป็นนิยายตามที่เราคิด มันคงจะเริ่ดมาก


ฮาาาา...โดยมากที่ไม่จบเพราะเวลาล้วน ๆ เลย


1
AuthorK 6 ธ.ค. 60 เวลา 23:39 น. 17-1

ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีคนต้องการอ่านต่อในส่วนเนื้อเรื่องที่เราไม่ต้องมาคิดใหม่หมด ผมว่าก็ดีเหมือนกันนะครับ

ตัวละครจะได้เหมือนเดิม ทุกอย่างจะยังคงรู้สึกเเบบเดิม ความรู้สึกดีๆ ที่ได้เขียนเรื่องนี้จะได้คงเดิม (เว้นเเต่ตัวละครตาย)


เวลาเป็นอุปสรรค์ สำคัญสำหรับนักเขียนมาเเต่เนิ่นนานเเล้ว มันคือศัตรูคู่อาฆาตของนักเขียนตั้งเเต่ยุคหิน (ว่าไปนั่นสมัยนั้นไม่มีเเม้กระทั้งตัวอักษรด้วยซ้ำ)

0
cutie_zatan 7 ธ.ค. 60 เวลา 12:33 น. 18

เพิ่งเขียนจบเรื่องแรกค่ะ เหมือนได้ส่งลูกเรียนจบอะไรอย่างนั้น 555

ที่เขียนจนจบได้เพราะวางเรื่องไว้คร่าว ๆ ตั้งแต่ต้น ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

พอครบทุกเหตุการณ์คือจบ


ความรู้สึกคือโล่งใจ เพราะปกติเวลาแต่งเสร็จแล้ว post แต่ละตอน มันจะกดดัน รู้ว่ามีคนรออ่านตอนต่อไปอยู่


ปล.แต่ตอนนี้ก็โดนกดดันให้ทำภาค 2 อยู่ดี >.<

1
AuthorK 7 ธ.ค. 60 เวลา 14:09 น. 18-1

ดีครับ ถูกกดดันเเต่ก็แปลว่ามีคนพร้อมอ่านผลงานของคุณอยู่ตลอดพยายามเข้านะครับกับภาคต่อไป

0
AuthorK 7 ธ.ค. 60 เวลา 22:15 น. 19-1

เอาที่ตัวเองชอบที่สุดไม่ก็ เรื่องเเรกที่จบเเล้วก็ได้ครับ

0
SggR_KunG 7 ธ.ค. 60 เวลา 19:13 น. 20

เขียนไม่จบ... เพราะ...


ไอเดียมันชอบมาช่วงที่ยุ่งที่สุดในชีวิต เช่นช่วงปั่นงานใหญ่ๆ หรือช่วงสอบ เช่นช่วงนี้


ก็ไม่รู้เป็นอะไร เวลาว่างๆ หัวไม่แล่น เวลาจะสอบมันดั๊นวิ่งเร็วเสียยิ่งกว่าเน็ตเมืองไทยอีก 555


แล้วก็เหมือนจขกท.ด้วยล่ะครับ ดองงงมาก


ไม่พอยังเทด้วย ตอนนี้เพิ่งเปิดเรื่องใหม่ไป ตั้งใจละ จะไม่เท //ไม่รู้จะไปได้กี่น้ำ 555

1
AuthorK 7 ธ.ค. 60 เวลา 22:18 น. 20-1

ที่ว่าช่วงเวลาที่มีเวลาเเต่กลับไม่มีไฟจะเขียนนี่เหมือนผมเลยครับ ถ้าหากได้ปิดเทอมผมก็มักเอาไปเล่นเกมนอนเล่นเน็ตไปวันๆ เเต่พอเปิดเรียนก็ดันอยากเขียนนิยายซะงั้น555

0