มาแชร์ประโยคเด็ดในนิยายตัวเองกันเถอะ!
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีวันจันทร์ค่ะเพื่อนๆ นักเขียนทุกคน สารภาพอย่างเขินอายว่าเราเพิ่งจะได้กลับมาเขียนนิยายหลังจากวางมือไปถึงสองปีเต็ม! รู้สึกตื่นเต้นตอนได้กลับเขียนนิยายมาก เหมือนคนตกหลุมรักอีกครั้ง เขียนไปก็อินไป >///<
ไหนๆ ก็คัมแบ็ค วันนี้เลยขอชวนทุกคนมาแชร์ประโยคที่คิดว่าเด็ดที่สุดในนิยายตัวเองพร้อมบอกเหตุผลกันเถอะ >< กี่เรื่องก็ได้ไม่ว่ากัน ส่วนใครอยากทิ้งลิงค์นิยายไว้ก็จัดมา เดี๋ยวตามไปส่อง อิ้อิ้
มาเริ่มจากของเราก่อนนะ ตอนนี้ที่เขียนจริงจังมี 2 เรื่อง แฮ่
"...แต่เธอรู้อะไรไหม โรแซน บางทีเธออาจจะตกหลุมรักน้ำแข็งก็ได้นะ"
จากเรื่อง My Futuristic Beloved สะดุดรักอันตรายนายปีศาจตัวดี (รักแฟนตาซี)
ส่วนตัวเราชอบประโยคนี้มาก เป็นประโยคที่พระเอกเราบอกนางเอกเอง เพราะนางเอกชอบเรียกพระเอกว่าน้ำแข็ง ลองมโนว่าตัวเองเป็นโรแซน (นางเอก) แล้วอยู่ๆ มีผู้ชายหน้าตาดีมาพูดด้วยประโยคนี้พร้อมจ้องหน้า ก็เขินตายไปข้างนึงเลย
“หมวกใบนี้เข้ากับคุณมาก” เขาว่ายิ้มๆ เลื่อนนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมาสบกับนัยน์ตาสีฟ้าสดใสของฉัน...แววตาล้ำลึก หัวใจเต้นรัว เราสบมองกันอย่างนั้นอยู่ชั่วครู่ สาบานได้ว่าฉันลืมวิธีการหายใจ – แต่ก็นั่นแหละ ฌอน ลูอิสมักเก่งเรื่องที่ทำให้ฉันลืมหายใจได้เสมอ
ถามว่ามีคนอ่านนิยายเรามั้ย? ก็ไม่นะ แต่ก็ยังเขียนต่อไป #จะอัพวนไปจนกว่าจะมีคนอ่าน แล้วของคนอื่นเป็นไงบ้าง มาแชร์กันด้วยนะจากเรื่อง You, I and a Graveyard in Christmas Night (นิยายรักซึ้งใจ)
ตั้งแต่หันมาเขียนนิยายรักนะ ประโยคนี่้เป็นประโยคที่เราชอบที่สุดแล้ว โดยเฉพาะสองประโยคสุดท้าย คืออ่านเองแล้วเขินเองแบบไร้เหตุผล บ้าบอที่สุด แค่มโนว่าตัวเองเป็นนางเอก แล้วมีคนที่แอบชอบมาชมระยะประชิด (ถึงจะชมหมวกเราก็เถอะ) เราคิดว่าเราน่าจะรู้สึกเหมือนนางเอกนะ ฟีลแบบลืมหายใจไปเลยตอนได้สบตา (จริงๆ ก็เป็น 555555555555)
33 ความคิดเห็น
มีเยอะเลยล่ะค่ะ 555 คือชอบทุกตอนที่อีตาเมฆ (น้องชายนางเอก) ออกโรง ไม่รู้จะเลือกอันไหนดี... เอาฉากที่เค้าสารภาพรักกับผู้หญิงที่ชื่อมยุรี (ชื่อเล่นนกยูง) ละกันนะ (คนที่ชื่อ ซาช่า คือแฟนเก่าของเมฆ)
.....
เมฆยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดว่า
“แหม... เธอแอบย่องเข้าห้องฉันด้วยเหรอ... ต่อจากนี้ไม่ต้องแอบแล้วนะ เดี๋ยวฉันพาเข้าเอง... โอ๊ย!” เมฆร้องลั่นเมื่อมยุรีทุบอกเขาหนึ่งป้าบ
“บ้า... ตอนนั้นฉันแค่อยากรู้อะไรนิดหน่อย เรื่องอะไรฉันต้องอยากเข้าห้องนายด้วย แล้วไม่ต้องมาเฉไฉ ตอบ!” แก้มแดงขึ้นมาอีกครั้งกับคำพูดกำกวมนั้น
“ก้านนกยูงก็แทนตัวเธอไงนกยูง ฉันอยากมีอะไรสักอย่างที่จะแทนตัวคนที่ฉันรักในผลงานที่ฉันรักทุกชิ้น”
มยุรียิ้มหวานให้ก่อนถามต่อไปว่า
“ขอถามเพื่อความแน่ใจอะไรอีกอย่างนะ ตอนนี้นายเอาซาช่าไปไว้ที่ไหน”
มือทั้งสองที่ยังจับอยู่บนบ่าของหญิงสาวเลื่อนต่ำลงมาเป็นกระชับรอบเอวหลวม ๆ
“ไม่ได้เอาไปไว้ที่ไหนทั้งนั้น... บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้มีอะไรกับซาช่า เราเป็นแค่เพื่อนกัน” เมฆยืนยันหนักแน่น
“แน่ใจได้ไง”
“แน่ใจสิ... ก็วันนั้นที่เขามาที่บ้าน เรา... เอ่อ...” เมฆชะงักแล้วอึกอัก
มยุรีตัวแข็งส่งสายตาเพชรฆาตมาทางเมฆแล้วถามเสียงเยือกเย็นจนชายหนุ่มเสียวสันหลังวูบ
“พวกเธอทำอะไร...”
เมฆหน้าเจื่อนแล้วยิ้มแหย ๆ
“ซาช่าเขาเริ่มก่อนนะ” เมฆโยนความผิดให้ฝ่ายหญิงหน้าตาเฉย “แต่สาบานได้ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าไม่มี
อะไรเกินเลยหรือมากไปกว่าที่เราทำกันเมื่อกี้นี้ แล้วฉันรับรองได้ว่าเขาไม่ทำให้ฉันรู้สึกอะไรเลย... ไม่เหมือนกับที่ฉันรู้สึกกับเธอนะนกยูง”
.....
สาเหตุที่ชอบคือความกวนปนความหวานของนายเมฆ จริง ๆ นายเมฆมันกวนทุกซีน แต่นี่มันกวนด้วย ทะลึ่งด้วย จริง ๆ แค่ฉากเดียวคงสื่อได้ไม่ครบรส ต้องอ่านจากตอนแรกไปเรื่อย ๆ เนาะ
เรื่อง รอวันฟ้าใส ค่ะ
https://writer.dek-d.com/anolindee/writer/view.php?id=1752453
"อาจารย์ อาจารย์บอกว่าคุณคือเปลวเทียนใช่ไหม ถ้าเทียบกันดูแล้ว ผมก็คงเหมือนกับคุณนั่นแหละ
แต่ผมจะล้มลง ตกลงกลางห้องที่เต็มไปด้วยหลอดไฟนี่แล้วลุกไหม้ แล้วผมก็จะสร้างโลกที่ตัวเองต้องการให้เป็นได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่ตัวเองจะหลอมละลายไปก็ตาม"
...
เป็นบทสนทนาระหว่างตัวเอกกับครูของเขา ต้นเรื่องมาจากที่ครูเคยมีความพยายามอย่างตัวเอกมาก่อนที่ไฟนั้นจะค่อยๆ มอดลงไปตามกาลเวลา เมื่อรู้ว่าตัวเองก็ไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น รู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะทำตามฝันของตนโดยไม่สนใคร เปรียบได้กับเปลวเทียนที่ริบหรี่ท่ามกลางหลอดไฟสว่างนับล้านดวง
แต่ตัวเอกยังไม่หมดหวัง และยังใจสู้อยู่ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีพลังมากมายอะไร แถมยังถูกกดขี่อีกต่างหาก
ในเมื่อตัวเองทำได้แค่นี้ เขาจึงจะเป็น 'เปลวเทียน' ที่จะมอดไหม้ทุกอย่างที่ขวางหน้ารวมไปถึงตัวเองเพื่อทำให้ความปรารถนาเป็นจริง
แม้ว่าเขาจะมีโอกาสเห็นความสำเร็จนั้นแค่ชั่วครู่หรือไม่เห็นเลยก็ตาม
...
//ยาวจังแฮะ 555
ชื่อเรื่อง CONVERT คนเปลี่ยนโลก ภาค Evening Ray ค่ะ บทพูดตอนนี้ก็จากตอนล่าสุดด้วย
https://my.dek-d.com/shanahom555/writer/viewlongc.php?id=1576364
"แผลเป็นก็คือแผลชนิดหนึ่ง มันอาจจะไม่เจ็บปวดเหมือนแผลสด แต่เมื่อคุณมองเห็นมัน คุณจะนึกออกว่าความเจ็บปวดแบบนั้นเคยทำร้ายคุณอย่างไร"
เอาแค่นี้ละกัน คิดว่ามีเยอะนะ (โม้) 5555
จากเรื่อง Undisclosure (เห็นแปะเลยแปะด้วย)
https://writer.dek-d.com/jesjournal90/writer/view.php?id=1706888
ถ้าเป็นประโยคที่ชอบที่สุด ก็น่าจะเป็นประโยคนี้ที่ซีดาร์(เพื่อนนางเอก)ด่าอดีตอาจารย์ของนางเอกที่มาสบประมาทนางเอกค่ะ
“นี่-เตี้ย!” ซีดาร์โพล่งขึ้น เธอก้าวมาข้างหน้า สบตาอาร์กัสและพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆเหมือนอัดอั้นมานาน “ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะเก่งกาจมาจากไหน ฉันไม่ยอมให้คุณมาพูดจาดูถูกคนอื่นขนาดนี้ต่อหน้าฉันหรอก! โดยเฉพาะคนอย่างซินเทีย เผื่อคุณจะไม่ทันสังเกตนะ เธอเป็นที่มีความมุ่งมั่นมาก เธอมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำความฝันให้เป็นจริง คุณอาจเตี้ยเกินไปที่จะเห็นจากแววตาของเธอ แต่ฟังจากน้ำเสียงของเธอก็น่าจะรู้แล้วนี่นา และถ้าคุณมีสมองคิดซะบ้างก็คงจะคิดได้ว่าเธอคงไม่ยอมอยู่เป็นลูกกะจ๊อกคุณที่นี่หรอกถ้าเธอไม่คิดว่าคุณช่วยเธอได้จริงๆ ขอแค่คุณให้โอกาสเธอเท่านั้น แค่นี้ทำไม่ได้ใช่มั้ย! แล้วนี่คุณเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาตัดสินคนอื่นแบบนี้ มันไม่แฟร์เลย!”
มาจากตอนที่สองของเรื่องนี้ค่ะ https://writer.dek-d.com/earthnada/writer/view.php?id=1602952
เหตุผลที่ชอบก็คือ..แต่งแล้วสะใจดี(เอ๊ะ เดี๋ยว) และก็เราอยากมีเพื่อนที่ปกป้องเราแบบนี้บ้างน่ะค่ะ
“ฉันเฝ้ามองพวกแกมาตลอด แล้วก็ได้เห็นสิ่งที่พวกแกทำทั้งหมดแล้ว แกคงไม่เข้าใจคนที่เห็นคนตายอยู่ตรงหน้าทั้งที่อยากเข้าไปช่วยให้รอดหรอก จนเมื่อสองปีก่อน ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ฉันรอคอยมาตลอด ในที่สุด ฉันก็มีโอกาสยืนอยู่ในสนามรบเดียวกับเด็กพวกนั้นสักที ...ถึงเวลาแก้แค้นของฉันแล้ว... ฉันบอกกับตัวเองมาตลอด แต่ฉันมันอ่อนแอ พอสัญญาณเตือนภัยดังในวันที่พวกแกกำลังจะมา ภาพของเด็กพวกนั้นก็ย้อนกลับมา แล้วฉันก็เผลอนึกถึงตัวเองที่จะต้องมีสภาพนั้นเหมือนกัน สุดท้าย ฉันก็กลายเป็นคนดีแต่ปากที่เข้าไปหลบซ่อนในสถานหลบภัย เหมือนกับมนุษย์ไร้พลังคนหนึ่ง แต่นายรู้ไหม คำพูดของนายในตอนนั้น ต่อให้เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดก็ยังมีสิ่งที่พอทำได้อยู่ นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ฉันพอทำได้ ปกป้องคนที่แข็งแกร่งกว่าให้มีชีวิตอยู่ต่อ”
ยาวติดกันเป็นพืด แต่นี่เป็นบทพูดที่กลั่นจากน้ำตาของตัวละครที่เคยเอาแต่หนีมาตลอดชีวิต
เพราะรักมากจึงทรมาน เหมือนถือเหล็กที่ถูกเผาไฟร้อนจนแดงไว้ในมือ ทำให้มือพุพองเกิดความเจ็บปวด แต่ก็ไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังกำแน่นกว่าเดิม
พระเอก(?)คิดในใจ
แปะบ้าง: https://writer.dek-d.com/psychodoctor/writer/view.php?id=1726197
ของเรามันแนวObsessive love จะรักดีๆ กับเขาก็ไม่ได้
55555..เซี่ยวเก็งจู ช่างปราดเปรื่องสมตำแหน่งประมุขคนเล็กแห่ง ม้อเก็ง (วังอสูร) นัก
มิเพียงแตกฉานยอดวิชาของ มอเก็ง (วังอสูร) เท่านั้น ทว่ายังสามารถฝึกปรือฝีปากอัน
คมกริช ราวมีดชำแหละซากสนุขเถื่อน ของบิดาท่านมาจนครบถ้วนด้วย นับถือ นับถือ 5
5555555..
(ยกมาแค่นี้แหละ อาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
"ความจริงดิฉันไม่ได้รักคุณค่ะ"
ได้ยินเสียง'ว้า'มาจากกองเชียร์ที่แอบอยู่ในงานเลี้ยงด้วย
"ไม่ใช่รักเฉยๆนะคะ โคตรรักเลยค่ะ"ญาชาเอ่ยออกมาได้อย่างไม่ติดขัด เธอ'กล้า'ขึ้นมาหน่อยๆแล้วล่ะ
ความรักน่ะสวยงามเสมอ
ถ้ามีความรักแล้วทุกข์ แสดงว่าคุณยังไม่รู้จักความรักที่แท้จริงเลย
ชอบหลายประโยคเลยค่ะ แต่ขอยกมาเรื่องละประโยคแล้วกัน
"ข้อเสียของฉันคือการที่ฉันรักเธอมากเกินไป แต่ฉันไม่คิดจะเปลี่ยนมัน" เป็นประโยคที่พระเอกพูดกับนางเอก มาจากเรื่อง Queen's Wish ถึงคุณ...ในโลกใบนั้น ไม่มีเอามาลงค่ะ >__<
"เชื่อใจฉันหน่อยสิ ฉันอาจจะไม่เอาไหนด้านการต่อสู้ นิดๆ หน่อยๆ ก็บ่น ทำตัวไม่มีประโยชน์อย่างที่เธอว่า แต่แค่เรื่องของเธอเท่านั้นที่ฉันจะไม่อ่อนแอ" คำพูดสารภาพรักของพระเอกจากเรื่อง Prince and Spy สัญญาอันตรายเจ้าชายสายลับ ตอนนี้ปิดรีไรท์ไปแล้วว
"แล้วตอนนี้อยากจะหันกลับมามั้ยครับ แทนที่จะฝ่าฝนไปศาลเจ้าเก่าๆ อยากจะไปนั่งร้านคาเฟ่ดูบ้างมั้ย" คำพูดของพระรองผู้แสนดี >__< มีความนัยแฝงและเศร้า จากเรื่อง Invisibilis เงื่อนรักไขวิญญาณ ปิดรีไรท์แล้วเรียบร้อย
และเรื่องสุดท้าย อันนี้ยังไม่จบดีแต่อยากลง 5555
"ถ้าการที่ฉันไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากเธอคนนั้นแปลว่าชอบ ก็คงใช่" พระเอกยืนยันความในใจที่มีมายาวนานนน จากเรื่องใหม่แกะกล่องยังไม่เอามาลงเรื่อง Blue Fairy กาลครั้งหนึ่งเมื่อผมเจอเธอ
จากเรื่อง: อนุบาลมังกรน้อย
#นิยายวาย
...ทราบไหมว่าเหตุใดสายรุ้งจึงงดงาม นั่นเป็นเพราะมันว่างเปล่าอย่างไรเล่า
กำเนิดจากสิ่งที่มีและไม่มี ไม่เกาะเกี่ยวสิ่งใดเอาไว้...
"...เพราะนั่นคือหลักฐานว่าพวกเขาเคยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งไม่ปรากฎบนความเป็นจริงใด ๆ ทั้งสิ้น..."
จากบทอวสานในนิยายเกมออนไลน์ของผม และเป็นประโยคปิดท้ายเรื่องเลยด้วย ส่วนเหตุผลที่ชอบก็เพราะมันไหลลื่นออกมาเองโดยไม่ได้ผ่านการประดิษฐ์คำไว้ล่วงหน้า (จริง ๆ คิดจะเขียนคำปิดท้ายแบบอื่นไว้แล้ว แต่อันนี้ดีกว่า) โดยเป็นประโยคที่กล่าวสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาได้ในประโยคเดียว เลยแอบประทับใจตัวเองเล็ก ๆ
https://my.dek-d.com/inthedarkz/writer/view.php?id=1178002
ประโยคที่เด็ด? อืม(คนที่อ่านนิยายผมห้ามอ่านนะ นี่สปอยเพราะยังไม่เอาลง555)
.
.
.
.
.
.
[ไม่ว่านายจะเป็นอะไรนะไคล์ ไม่ว่านายจะเป็นคนหรืออันเดธ ไม่ว่านายจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ ไม่ว่านายจะซุ่มซ่ามหรือซื่อบื้อ ไม่ว่านายจะรู้สึกดีกับสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดรึเปล่า ฉันยังคงยืนยันที่จะบอกกับนาย ว่าฉันรักนายนะ] พูดเสร็จนางเอกก็....จากไป
“น้ำตาหยาดแรก คือ จุดเริ่มต้นของความเสียใจ
น้ำตาหยาดสุดท้าย คือ จุดเริ่มต้นของความแข็งแกร่ง”
ต้นแอปเปิ้ลฮัมเพลงปลอบอลิซ แต่หญิงสาวไม่รับรู้ เพราะเธอไม่เคยรู้ว่าต้นแอปเปิ้ลก็มีจิตใจเหมือนมนุษย์ เพียงแต่ภาษาพืชพรรณกับภาษามนุษย์แตกต่างกัน
https://my.dek-d.com/jingin/writer/view.php?id=814230
WildRose Court {คฤหาสน์กุหลาบป่า}
แนะนำเรื่องแบบย่อๆ
กุหลาบที่ผลิบานด้วยตัวเองกลับจำต้องโดนบ่มเพาะให้เป็นกุหลาบเลอค่า ก่อให้เกิดพันธะสัญญาที่ไม่ควรอุบัติขึ้น!! ~~เงื่อนงำมวลดอกไม้แห่งเดอ เฟลอร์ได้เริ่มขึ้นแล้ว~~
มี "รอคำนี้จากปากนายอยู่"
กับ "ไม่เป็นไร เราเข้าใจ" ประมาณนี้แหละครับ @....@
"ในสงครามน่ะ ไม่มีคำว่าสวยงามหรอกนะ"
"คนที่เอาเเต่ปฎิเสธตัวตนในอดีตอย่างนาย ฉันจะช่วยไว้เอง"
"ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ เเล้วเดินหน้าต่อไป"
ประโยคเด็ดคือ “ปะ เป็นผู้หญิงยิงเรือ เหตุใดเจ้าจึงแสดงกริยาไม่งามเช่นนี้เล่า!? หรือแท้จริงแล้วเจ้าเป็นพวกไม้งามกระรอกเจาะ!?”
5555555555555555555555555555555555555555
"ทำสิ่งโง่เง่าอย่างชาญฉลาด"
เขาเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบด้วยถ้อยคำปนเสียงหัวเราะ มันช่างเป็นสำนวนดูแปลกประหลาดดีเหลือเกิน
มีจากสองเรื่อง(ที่คิดเอาไว้แต่ยังไม่ได้แต่ง)
ประโยคแรก - กิเลสไม่ได้ควบคุมมนุษย์ มนุษย์ต่างหากที่ปล่อยตัวตามกิเลส (โดย ซาตาน บาปแห่งโทสะ ราชาแห่งไฟบรรลัยกัลป์)
ประโยคที่สอง - เป็นอีกาจอมฉวยโอกาศ ยังดีกว่าเป็นนกกระจอกที่หลอกตัวเองว่าเป็นพญาอินทรี (โดย ผู้นำแห่งกองกำลังปฏิวัติผู้ต่อต้านอำนาจขุนนาง)
ประโยคเด็ดไม่รู้ รู้แต่สโลแกนไล่ได้ไล่ดี แต่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป!! ><5555
ไตเติ้ลค่ะ
บุรุษชุดขาวได้กล่่าวไว้
"ข้าต้องการตอบแทน มีสิ่งใดที่แม่นางปรารถนาหรือไม่?"
ตัวข้าจึงตอบกลับไป
"กลับบ้านท่านไป"
บุรุษชุดแดงได้เอ่ยถาม
"เจ้ามีอะไรอยากได้หรือไม่?"
ตัวข้าจึงกล่าวเช่นเดิม
"กลับบ้านท่านไป"
บุรุษในชุดลายเมฆาได้เอ่ยกล่าว
"แม่นาง ขนมนี่อร่อยมากเลยนะ! เจ้าลองทานดูสิ เจ้ามีอะไรอยากได้อีกหรือไม่?"
"กลับบ้านของพวกท่านไป!!"
จากเรื่อง : ลำนำกระดิ่งสีเงิน
หมวด : ฟรีสไตล์ อดีต ปัจจุบัน อนาคต
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1752851
มีเยอะค่ะ แต่ที่คิดว่าเด็ดคือ
ประโยคที่หนึ่ง
" 'ยิ่งสูงยิ่งหนาว' 'อำนาจมากมายแต่ไม่อาจหาความสงบใจ' 'อำนาจมาพร้อมกับความทุกข์มหันต์' 'ต้องคอยระวังเสมอว่าจะมีคนแย่งไปจากตัวเอง' หึ! คำพูดพวกนี้ก็แค่คำพูดของพวกขี้แพ้เอาไว้ปลอบใจตัวเอง เป็นกุศโลบายของชนชั้นสูงเพื่อหลอกชนชั้นต่ำโง่ๆ ให้ไม่แสวงหาความเป็นใหญ่ ให้จมปลักดักดานอยู่ที่เดิมต่างหากเล่า"
-- พ่อนางเอกพูดกับพี่ชายนางเอก
ประโยคที่สอง
"ความจริงคืออะไร ความจริงก็คือสิ่งที่ผู้คนอยากจะเชื่อ คืออะไรก็ตามที่ผู้มีอำนาจต้องการให้มันเป็น"
-- พ่อนางเอกพูดกับนางเอก
ประโยคที่สาม
"พวกท่านพยายามทำให้ข้าเป็นคนตาบอด ถูกคนชักจูงไปมา เป็นแค่หุ่นให้คนอื่นเชิด ปากก็พร่ำบอกว่าเพื่อปกป้องข้า แต่จริงๆ แล้ว พวกท่านก็แค่กลัวว่าถ้าวันหนึ่งข้ามองเห็นทุกสิ่งแล้วจะรู้ความจริง กลัวว่าข้าจะเลือกเส้นทางอื่นที่ท่านไม่ต้องการ มันก็แค่นั้น"
-- เรียกว่าเป็นประโยคที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตนางเอกเลยก็ได้ แบบทุกอย่างมันพังทลายไปหมดแล้ว รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ตัวเองเป็นแค่หมากที่ถูกหลอกใช้
ประโยคที่สี่
"ทางเลือกเป็นของพวกเราทุกคนนั่นแหละ ท่านเป็นคนเลือกทางเดินของตัวเอง"
"'เลือกเอง' หรือ ถูก 'บังคับ' ให้เลือกล่ะ... หึ พูดจาได้อ่อนต่อโลกนักหนูน้อย สักวันหนึ่งเจ้าจะรู้ว่า ในโลกนี้มีหลายอย่างที่เราไม่ได้เลือก ไม่มีสิทธิ์เลือก และต้องรับผลเสียด้วย... ทางเลือกไม่ใช่ของเราหรอก"
-- บทสนทนากับตัวเอกในวัยเด็กกับนักโทษคนหนึ่ง
เป็นประโยคที่เขียนไว้ก่อน ยังไม่ได้แต่งถึงตอนนั้น 55555 จากเรื่อง THE HIDDEN REALM.
https://writer.dek-d.com/kamolpinn123/writer/view.php?id=1546033
เขียนควบสองภาคงับ
ถ้าภาคของมีนา ก็ตอนจิ้งจอกโดนตัวเอกทำร้าย "นี่เจ้ากล้าลงมือกับจิ้งจอกผู้ทรงอำนาจเหรอ"
หลังจากนั้น "อ่า...กลัวแล้วๆ มีนายัยมนุษย์ป่าเถื่อน"
ส่วนภาคจารุ ตอนเดินกินปูอัดกับเพื่อน(ยังไม่ได้อัพ) "เอ็งว่าในทะเลมีฟิตเนสไหมวะ"
"ถามบ้าอะไร แกคิดได้ไงว่าในนั้นจะมีฟิตเนส"
"อ่าว...แล้วไม่งั้นปูมันจะมีกล้าม(ก้าม)เหรอวะ"
"ความคิดถึงไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น"
ถ้าของเรา ก็คงต้งเป็น...
"กระเพาะของฉันแข็งแกร่ง มีปริมาตรเป็นศูนย์ แต่มีมวลเป็นอนันต์"
"นั่นมันหลุมดำ!!"
แต่งไปขำไปค่ะ บ้า555555
"ห....หวยออกเเล้วววววว!!! "
ผมสัญญาว่าพี่จะเป็นคนสุดท้ายของผม เป็นคนสุดท้ายที่อยู่ในหัวใจ
"โลกแห่งความเป็นจริงมันโหดร้าย ทุกคนล้วนสวมหน้ากากว่าตัวเองเป็สคนดีกันทั้งนั้น น้อยคนนักที่จะไม่มีคนแบบนี้ คนที่มีใจบริสุทธิ์ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ...-ู"
แล้วเขาจะทำเพื่อคนที่เขารัก โดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นความรักตอบกลับมาได้ไหม…
ยนต์ได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ มันเป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน กับการทำอะไร โดยไม่หวังผล ลึก ๆ เมื่อรู้ว่าเธอไม่รัก คงรู้สึกเจ็บปวด
ปารเงยหน้าจากตัวหนังสือบนพื้นทราย มองหน้าคนอกหัก
“บางทีนะคะ พี่กับเขาไม่มีใครผิดหรอกค่ะ ไม่ใช่เพราะพี่ไม่ดี หรือเขาไม่ดี ไม่ใช่เพราะใครดีเกินไปสำหรับใคร เพียงแต่…คนเราอาจจะชอบไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง มันไม่ใช่ความผิดของพี่ ของเขา หรือของใครทั้งนั้นหรอก เราจะบังคับใครให้ชอบอะไรไม่ชอบอะไรไม่ได้ด้วย เหมือนที่เราเองก็บังคับใจตัวเอง ให้ชอบคนที่เราไม่ชอบไม่ได้”
ยนตร์ยิ้มอย่างทึ่ง ไม่เจอเธอมานาน มีคำถามมีถ้อยคำน่าคิด ไม่เบาเลย ใช่แล้ว! ขนาดตัวเราเองยังบังคับตัวเองให้ชอบคนที่เราไม่ชอบไม่ได้เลย เขาควรจะยอมรับความจริงข้อนี้
http://my.dek-d.com/risait444/writer/view.php?id=1361915
อันที่จริงผมเคยแต่งนิยายแฟนตาซีอยู่แต่ลบไปแล้ว แต่ก็ยังอาลัยอาวรณ์อยู่ ก็เลยเก็บไว้ในเคื่อง มันเป็นประโยคที่ตัวร้ายพูดกับพระเอก
"โลกนี้น่ะหมุนรอบตัวฉัน ถ้าฉันตาย โลกก็จะตาย" เสียงของฮากิมารุพูดพร้อมหัวเราะดังลั่น เหมือนคนเสียสติ พร้อมกับอ้าแขนรับลมที่พัดกระหน่ำ อย่างไม่เกรงกลัวว่าจะตกลงจากหลังคารถไฟ ยูเห็นดังนั้นจึงตะคอกโต้ตอบอย่างมีน้ำโหว่า
"ถึงนายจะหลอกตัวเองได้ แต่นายหลอกฉันไม่ได้หลอก ถึงแม้ว่านายจะหัวเราะมากแค่ไหน แต่นายก็รู้ดีแก่ใจ...ว่าเสียงหัวเราะนั้นมันไม่ได้มีความสุขซักนิด!!"
"นายจะไปรู้อะ--" ยังพูดไม่ทันจบ บทสนทนาก็ถูกแทรกอีกครั้ง
"จะไปรู้ได้ไงเล่า!! สิ่งที่ฉันรู้ตอนนี้น่ะ! อย่างน้อย ฉันก็รู้ว่าดวงตาของนาย มันยังไม่บอดสนิท ขาของนายน่ะมันก็ยังไม่ได้หัก แขนนายก็ไม่ได้ขาดด้วย!!"
"อย่ามาพูดพล่อยๆนะ!"
"หุบปากซะแล้วฟังฉัน! แสงที่นายเห็น แม้มันจะลิบหลี่ แต่มันก็ยังไม่ดับไม่ใช่รึงไง!? เดินหน้าต่อไปสิ! โลกนี้หมุนรอบตัวนายงั้นหรอ? หึ อย่าพูดให้ขำเลย นั่นมันก็แค่ข้ออ้างของเด็กอวดดีเท่านั้นแหละ"ยูพูดด้วยสีหน้ายียวนไม่กลัวตาย แม้สภาพจะมีเลือดเต็มตัวก็ตาม แต่ก็ยังพูดต่อไปว่า
"ออกจากโลกแคบๆของนายได้แล้ว!!" พร้อมกับวิ่งไม่คิดชีวิตไปชกหน้าฮากิมารุหนึ่งที แต่ก็เกือบตกรางขาหัก
มันเริ่มมาก็จะงงๆหน่อยนะฮะ แหะๆ
เป็นฉากนึงในเรื่อง ฉันนี่!แหละจอมเวทแห่งมังกร ค่ะ
ในวันนั้นวีก้าได้ฝันเห็นทุ่งหญ้าที่ไหนซักแห่ง เธอเดินไปจนสุดทางที่มีหน้าผา ก่อนที่จะหันกลับมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
"ไม่เป็นไรจนกว่าจะถึงเวลานั้นฉันจะปกป้องเธอเอง..." อุ่มมือสีดำขนาดใหญ่ลูบไปที่หัวของเด็กน้อยเบาๆมันช่องอ่อนโยน
ใครกัน...คุณอีกแล้วหรอ? อยากเจอไวๆจังเลย...
วีก้าคิดอยู่ในใจก่อนที่เธอจะหลับฝันดีอีกครั้งครั้งนี้ในอ้อมกอดของแม่ และพ่อรวมถึงพี่ชายทั้งสองของเธอ และรู้สึกอบอุ่นใจที่มีใครบางคนคอยปกป้องเธอ
……….โชคชะตาไม่อาจหลีกหนี……..
………แม้อยากหลบลีกก็ไม่สามารถกระทำได้…….
(by เชนส์และวิชซ์)
มาจากนิยายเราเอง ชอบเว่อร์___(ลากเสียงยาว)
ไม่ลองไม่รู้ ปู่สอนไว้
"เจ้านาย...ผมทำดีไหม"
"คุณเปลี่ยนมันเเต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม"
"เเม้ว่าพวกเขาจะไม่มายืนเคารพต่อหน้าศพของฉัน ฉันก็จะทำมันเพื่อเขา"
"น่าเศร้าไม่มีอะไรอยู่ตลอดกาล"
"ใช่ฉันเกลียดคนพวกนี้เเต่ฉันรักลูกชายของฉัน"
"ก็เเค่เรือที่ผ่านมาในตอนกลางคืน"
"การเสียสละของคุณไม่ได้ไร้ประโยชน์"
"เธอไม่ใช่เวทมนตร์"
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?