#dek61 ขอระบายหน่อยค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
เรื่องมันมีอยู่ว่า เราเลือกที่จะลงมหาลัย...นี้ที่เดียวเลย ย้ำเลยนะค้ะว่าที่เดียวอยากเรียนที่นี่มาก เพราะว่าใกล้บ้านแล้วสะดวงต่อการเดินทางที่สุด
ต่อมาเราไปสอบรอบแรกคือรอบพอต ซึ่งตอนแรกประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์และการตั้งรับในรอบแรก 80 คน แต่คนที่สมัครรอบแรกมี100กว่าคน เราก็เตรียมตัวบลาๆๆๆ จนผ่านมาวันประกาศรายชื่อคนที่ผ่านสัมภาษณ์ แต่ไม่มีชื่อเราเราเสียใจมากตอนนั้น เราก็แอบคิดเหมือนกันว่าน่าจะไม่ติดแน่เพราะคนที่เก่งๆกว่าเราก็มีเยอะมาก พอผ่านวันเคลียริ่งเฮ้าส์ไปทางมหาลัยได้ลงชื่อผู้ที่ยืนยันสิทธิ์ กลับมีคนสละสิทธิ์ไปเยอะพอสมควร วันนั้นเราหงุดหงิดกับคนที่สละสิทธิ์มาก เพราะวันสอบสัมภาษณ์เราได้ยืนคนที่มาสอบบ่นกันว่า เรามาสอบเผื่อไปงั้นแหละ ถ้าติดที่อยากได้ก็เอาที่นั้นไม่เอาที่นี่หรอก เราก็เข้าใจนะว่าคนเราต้องเลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเราเอง แต่ทำแบบนี้เรากลับคิดว่ามันดูไม่ยุตติธรรมและดูเห็นแก่ตัวมาก กับคนอย่างเราเลย คนที่การเรียนก็ไม่ได้ดีมากมายคนที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นสักอย่าง ตอนนี้คือเครียดและหนหู่มากในตอนนี้ ยังไงก็ยินดีด้วยกับคนที่ติดรอบแรกในมหาลัยที่ตนเองอยากเรียนนะค้ะ ด่าได้แต่อย่าแรงนะ อ่อนไหวง่ายอยากระบายเฉยๆ
5 ความคิดเห็น
รู้สึกเหมือนกัน...ด้วยความที่แต่ละที่ประกาศไม่พร้อมกัน ทำให้เด็กต้องสมัคร ไปทุกที่ และไปสัมภาษณ์ทุกที่ๆมีโอกาส (โอกาสตกสัม.ก็มีเยอะ) ทีนี้พอติดแล้ว แล้วค่อยเลือกว่าติดอะไร เอาอะไร . มันเลยทำให้เด็กที่จริงแล้ว ถ้าหักคนสละสิทธิ์แล้วเขามีโอกาสที่จะติดคณะนี้ล่ะ แต่เขากลับต้องไปเลือกคณะอื่นแทน..เพราะมหาวิทยาลัย ก็ไม่ประกาศสำรองไว้ด้วย เขาก็ไม่รู้จะรอลุ้นอย่างไร เขาจะกล้ายื่นใหม่รอบถัดไปไหม คิดว่าคงไม่.. อยากให้ปรับปรุงตรงนี้ในปีหน้าด้วย
นี่แหละชีวิต
สู้ต่อไปครับ ^^
ไม่เป็นไรนะคะ นี้พี่เป็นกำลังใจให้เลยเจอมาแบบนี้เหมือนกัน55555 แล้วก็เคยทำแบบนี้ด้วย (อุ่ยอย่าด่าเราเลย) พี่อยากจะบอกเราว่า สังคมในปัจจุบันก็เป็นแบบนี้แหละเนอะ เราต้องสตรองเข้าใว้ สู้ๆน้าาาายังมีโอกาสอีกเยอะ
ระบบเก่าหนักกว่านี้อีกครับ อันนั้นติดแล้วดองไว้ แล้วไปสมัครต่อโครงการอื่นๆต่อได้เลย คนเก่งๆติดเป็น 10 โครงการ แล้วค่อยมานั่งเลือกว่าจะเรียนที่ไหน
เอาจริงๆ จะไปว่าเค้าก็ไม่ได้หรอก กติกา มันกำหนดมาแบบนี้ ตราบที่ทุกคนเล่นอยู่ในกติกา ก็ไม่ถือว่า ผิด (แต่ควรปรับปรุงกติกาให้ดีขึ้นอย่างไร ก็ไปว่ากันต่อ) ส่วนคนที่เค้ากำหนดกติกา ที่ผ่านมา เค้าก็พยายามทำให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ (แม้ว่าส่วนนึง จะทำเพื่อความอยู่รอดของมหาวิทยาลัยเองด้วยก็ตาม) ก็มีทั้งคนที่ถูกใจและไม่ถูกใจ
พี่ก็เข้าใจนะ ก็สู้ ๆ ต่อไปนะครับ
เข้าใจว่าสำหรับน้องแล้วพวกเขาอาจจะดูเห็นแก่ตัวหรืออะไรก็แล้วแต่สารพัดตามที่น้องจะคิด
แต่ว่าพี่คิดว่าสถานการณ์แบบนี้พวกเขาไม่ผิดเลยนะครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับการสอบแข่งขันเสมอ ถ้าเกิดน้องบอกว่าถ้าเขาเก่งทำไมไม่ไปสอบที่อื่นที่อยากได้เลย มาสอบกันที่ทำไม แล้วถ้าเกิดว่าเขาพลาดสอบไม่ติดขึ้นมาล่ะครับ เขาก็ยังคงมีที่สำรองให้ตัวเองเผื่อในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยแบบนี้ คนเก่งน่ะมีไม่สิ้นสุดนะครับ เราเก่ง แต่คนเก่งกว่าเรายังมีอีกมากมาย
ลองมองกลับมาดูนะครับว่าทำไมเขาถึงติดได้เป็นตัวจริงก่อนน้อง พี่ไม่ได้จะว่าว่าน้องเรียนได้ไม่ดีหรืออะไรนะแต่น้องลองมองย้อนไปดูนะครับ การที่น้องคิดว่าพวกเขาเก่งกว่าน้อง คนนู้นก็เก่งกว่าคนนี้ก็เก่งกว่า เขาได้มันมายังไงเหรอครับ ? เขาต้องพยายามมากแค่ไหนจนกว่าเขาจะได้ความสามารถตรงนั้นมา ไม่ใช่อยู่ดี ๆ เขาก็เดินมากันที่แล้วก็จากไปโดยไม่ใช้ความสามารถอะไรเลย เขาเก่งได้ยังไง เขาพยายามมากแค่ไหนก่อนที่จะมาสอบ ไม่ว่าจะรอบพอร์ตหรือรอบอะไรก็แล้วแต่ คนที่พร้อมกว่าเขาย่อมได้รับสิทธิ์ที่เหมาะสมกับความพยายามที่ผ่านมาที่เขาสมควรจะได้แหละครับ
ถ้าน้องจะบอกว่าพวกเขาไม่ยุติธรรมกับน้อง พี่ก็คิดว่าพวกเขาก็ไม่รับความยุติธรรมจากความพยายามที่ผ่านๆ มาของพวกเขานะครับ
แต่อย่างที่บอกพี่ไม่ได้ว่าน้องผิดนะ พี่เข้าใจ แต่ที่พี่เขียนแบบนี้ พี่อยากให้น้องเห็นอีกมุมนึงที่น้องยังไม่ได้มองมัน ลองทำดูสิครับ พยายามให้เหมือนพวกเขา พวกเขาเองก็ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่แรกสักหน่อย ถ้าน้องพยายามสู้ต่อไป สักวันน้องก็ทำได้เองแหละครับ แล้วถึงเวลานั้นน้องจะได้รับโอกาสที่สำคัญของน้องเอง
:)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?