Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไรค่ะจะขึ้นม5แล้ว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คืออย่างหัวข้อเลยค่ะ เรียนสายศิลป์คำนวณ เก่งคณิตในระดับนึงนิดนึง ตอนนี้ก็เรียนพิเศษภาษาเกาหลีอยู่ค่ะ คิดว่าชอบภาษาเกาหลีค่ะแต่ไม่ได้เรียนแบบสายศิลป์เกาหลี เป็นติ่งเกาหลีชอบศิลปินเกาหลี ชอบดูซีรีย์มากค่ะ คิดอยู่ว่าอยากเป็นอะไรดีจะขึ้นม.5แล้วยังไม่รู้เลยค่ะ มีคิดไว้ว่าจะเรียนอักษร\มนุษย์เกาหลี หรือว่านิเทศ อยากรู้ว่ามีอาชีพไหนหรือคณะไหนที่เหมาะกับหนูไหมคะ ช่วยแนะแนวหน่อยได้ไหมคะ และถ้ามีอาชีพนอกเหนือจากพวกล่าม ไกด์ อะไรพวกนี้ที่เกี่ยวกับด้านภาษามีอะไรแนะนำบ้างไหมคะ ขอขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลยค่ะ ถ้าผิดพลาด อะไรขออภัยด้วยค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

_ขนมปัง_ 11 มี.ค. 61 เวลา 16:31 น. 2

อันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัว เกี่ยวกับการวางแผนชีวิตข้างหน้าเพราะเราเองก็พึ่งค้นพบตัวเองเหมือนกัน โดยส่วนตัวแล้วเราเองก็พึ่งจบม.5 กำลังจะขึ้นม.6ค่ะ(ขอแทนว่าเรานะ ไม่อยากเรียกพี่ เดี๋ยวจะดูแก่ไป 555) ตอนม.5เองเราก็ไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลยเพราะไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ พึ่งมาวางแผนจับจุดตัวเองได้ว่าชอบอะไรหรืออยากเรียนอะไรเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ และตอนนี้กำลังจะขึ้นม.6แล้วจ้าา


เริ่มแรกเลยเราอยู่สายวิทย์นะ แต่เรียนวิทย์กากจริงอะไรจริง เรียนพิเศษเกรดวิทย์เกรดคณิตก็ยังไม่ขึ้น3 ก็เลยคิดว่าน่าจะไม่ใช่แนว แต่คือจริงๆก่อนขึ้นม.4เรารู้อยู่แล้วว่าเราอยากเรียนศิลป์ แต่พ่อกับแม่ไม่สนับสนุนมากๆเลย ก็เลยเรียนๆวิทย์ให้พ่อแม่ไป จนพอขึ้นม.5 เกรดก็เริ่มร่วงลงเรื่อยๆเลยค่ะ จาก3จุดกว่าๆเกือบสี่เหลือแค่สามจุดต้นๆ ตอนนั้นเหมือนตกนรกเลย โดนกดดันทั้งจากพ่อแม่แล้วก็ครูวิทย์ที่รร. แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากเกลียดวิชาพวกนี้เข้าไส้อยู่แล้ว


จนเมื่อเราพึ่งได้ไปกวดวิชาไทย อังกฤษ สังคม เค้าก็แนะนำว่าให้เราหาจริงๆว่าเราชอบ/ถนัดอะไรหรืออยากทำอะไรกันแน่ อย่างเราที่คิดไว้คืออยากเป็นผู้กำกับหนังไม่ก็พิธีกรรายการต่างๆ แต่ก็ยังอยากทำงานสายวิทย์พวกเภสัช ไม่ก็จิตแพทย์ประมาณนั้น ส่วนที่ตัวเองถนัดจะเป็นด้านดนตรี การแสดง ภาษา ที่กวดวิชาเค้าก็วางแผนให้เราเลยว่าช่วงซัมเมอร์มีนา-มิถุนาควรจะติวพวกอังกฤษในแน่นเพื่อจะไปสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น IELTS TOEIC TOELF SAT CU-TEP TU-GET ฯ เพื่อเอาไปยื่นมหาลัยรอบแรกของพวกนิเทศ อักษร มนุษย์ พร้อมกับผลงานที่เรามี ซึ่งผลงานของเรามีเก็บค่อนข้างเยอะอยู่แล้วและก็ตรงสายกับคณะที่จะเข้า เรื่องยื่นรอบแรกที่เป็นพอทฟอริโอ้ของเราไม่น่าเป็นห่วง //ตอนนี้ก็หวังคะแนนสูงๆจากการสอบวัดเอา แหะๆ :)


พอหลังจากสอบวัดด้านภาษาพวกนั้นเสร็จ ช่วงกรกฎา-ตุลาก็ค่อยมาติวของสายวิทย์เพื่อสอบเภสัช/จิตดู หลังจากนั้นก็ติวGAT-PAT ONET 9วิชาสามัญเพื่อสอบเก็บคณะไปยื่นคณะอื่นเผื่อรอบแรกไม่ติดหรือเปลี่ยนใจจะเข้าคณะอื่นเพิ่ม


ซึ่งพอเราวางแผนได้แบบนี้แล้ว ช่วงนี้เราก็จัดเลยจ้าาา เรียนอังกฤษทั้งอาทิตย์ วันละ2-6ชั่วโมง ท่องศัพท์จดศัพท์ฝึกเขียนฝึกพูดดูหนังฝรั่ง บลาๆๆ เยอะแยะมากมาย


แต่ถึงวางแผนแล้ว เราก็ยังมีสำรองตรงที่ว่าเราจะสอบ TOPIKวัดระดับภาษาเกาหลี แล้วก็ HSKวัดภาษาจีน ทั้ง2ภาษานี้เราไม่มีพื้นฐานเลยแม้แต่น้อย แต่ก็กำลังจะไปติวเพื่อสอบเก็บคะแนนไว้ยื่นประกอบกับคณะที่เราจะยื่นรอบหลังๆ เราก็คงสอบระดับง่ายๆไม่ต้องสูงมาก แค่ประดับว่าพอใช้ได้ พูดได้อ่านได้สื่อสารกับคนประเทศเค้าได้ก็พอใจแล้ว แต่ถ้าใครต้องการจะสอบอักษร/มนุษย์ เกาหลี/จีนจริงๆ ควรสอบให้ถึงระดับยากเลยค่ะ


กลับมาที่ของจขกท. บอกไว้ว่าคิดจะเข้าอักษร/มนุษย์ เพราะฉะนั้นก็ควรจะติวสาขาที่อยากเข้านะคะ ถ้าจะเข้าเกาหลีจริงๆก็ต้องไปเกาหลีแบบโลดเลย เอาให้ได้ทุกอย่างพูดได้อ่านได้ไวยกรณ์เอยศัพท์สูงๆศัพท์ธุรกิจยากๆต้องทำให้ได้ถึงจะมีสิทธิ์ผ่านไปได้เรียนในคณะพวกนี้ค่ะ (ปล. ต้องดูมหาลัยแล้วก็รอบที่จะเข้าด้วยนะคะว่าใช้คะแนนอะไรยื่นบ้าง ที่เราบอกไปคือหมายถึงจะยื่นรอบแรกที่ใช้คะแนนวัดระดับภาษาพวกTOPIKไรงี้ ส่วนถ้าจะเข้ารอบอื่นๆเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใช้คะแนนวัดระดับภาษาอื่นๆประกอบด้วยรึเปล่า ตรงนี้ลองศึกษาข้อมูลของแต่ละมหาลัยแต่ละคณะแล้วก็วัดกับความสามารถของเราเองนะคะ)


ส่วนถ้าจะไปแนวนิเทศ ก็ต้องดูว่านิเทศอะไร สื่อสาร? ประชาสัมพันธ์? การแสดง? สื่อนิเทศศิลป์? บลาๆๆๆๆ พวกนี้จบมามีอาชีพทำหมดแหละค่ะ เป็นครูก็ได้ นักบัญชีก็ได้ถ้าพื้นฐานทางคณิตดี นักแสดง ทำธุรกิจก็ได้ถ้ามีทุนและสามารถบริหารได้ ซึ่งนิเทศก็มีหลายแบบ นิเทศอินเตอร์เน้นภาษาก็มี นิเทศคอมพิวเตอร์ก็มี นิเทศรักษ์วัฒนธรรมไทยก็มี ถ้าจะเข้านิเทศจริงเราว่าต้องมีผลงานด้านนี้มาพอสมควรนะคะ อันนี้จขกท.ก็ต้องวัดของตัวเองดู


ส่วนเรื่องแนะนำแนะแนว งานด้านภาษามันกว้างค่ะ เราไม่สามารถแนะนำให้ได้หมดเนอะ อย่างถ้าเกิดเราชอบพูด การเป็นมาร์เก็ตติ้งหรือฝ่ายขายในบริษัทใหญ่ก็ทำได้ค่ะ เรียนรัฐศาสตร์การต่างประเทศก็ได้ เป็นทูตอะไรแบบนั้น เป็นติวเตอร์กวดวิชาก็ได้ค่ะ เงินไม่มีขาดแน่ๆ เยอะแยะไปหมด แต่จะให้ดีเราต้องเก่งสุดๆเลยค่ะ เก่งหลายๆด้าน จะได้ไม่แพ้คนอื่น


สำคัญแค่ว่าเราจะวางแผนยังไงให้สอดคล้องกับความต้องการของเรา จขกท.คิดไว้หลายอย่าง ก็ลองวางแผนให้ทำได้หลายๆอย่างเลยค่ะ ส่วนเรื่องศิลป์คำนวณ ถ้าจขกท.เก่งคณิต ก็สอบไปสอบคณะสาขาแนวๆนี้ดู พวกรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ บัญชี ฯ ยังไงก็สู้ๆค่ะ ขอให้มีเรียนดีๆให้พ่อแม่ภูมิใจจบไปมีงานทำแค่นั้นก็เพียงพอแล้วค่ะ


เขียนผิดไปบ้างหรือสื่อสารไม่เข้าใจต้องขอโทษด้วยนะคะ ช่วงนี้เรียนหนัก มือพิมกับสมองจะไม่ค่อยไปด้วยกันเท่าไหร่ 5555

1