Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากตายค่ะ เอาแบบวิธีที่ไม่ทรมาน #จริงจัง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากตายแบบไม่ทรมานค่ะ ได้ยินแม่พูดโทรศัพท์กับป้า ป้าเค้ามาอวดเรื่องลูกชายเค้า สอบได้ รร. อินเตอร์ แต่ค่าเทอม 10,000 บาท แม่หนูบอกว่าถ้าเรียนดีก็ส่งไปเลยเเต่อย่าให้เรียนเรียนเหมือนลูกเรา(หมายถึงหนูค่ะ) ยิ่งเรียนยิ่งโง่ ถ้านิสัยดีมารยาทดี แต่เรียนแบบนี้ก็ok เเต่นี่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง งานบ้านก็ไม่ทำ(ทำแต่แม่ไม่เคยเห็น) ส่งเรียนไปก็เป็นภาระเปล่าๆ ป้าน่าจะพูดว่าก็ปล่อยๆไปเถอะ แม่ก็พูดว่าสาวก็พูดเเบบนั้นเหมือนกัน(สาวนี่ น้าหนูค่ะ) ที่เค้าพูดเเบบนี้ แสดงว่าหนู ไม่มีค่า ใครไม่รัก เป็นภาระพ่อกับแม่ นิสัยไม่ดี มารยาทเลวทราม แบบนั้นหรอค้ะ ที่จริงทางบ้านก็มีเรื่องให้เครียดแบบนี้หลายเรื่องค่ะ เช่นถูกค้ำประกันจนถูกฟ้องล้มละลาย เพื่อนบ้านปิดทางเข้าออกบ้านหนู เรื่องเพื่อน เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ฐานะทางบ้าน หน้าตาของหนู(ฟันเหยิน ไม่มีคาง ดำ อยู่เหมือนแก้วหน้าม้า โดนเพื่อนล้อจนชินแล้วค่ะ) การเรียนของหนู พ่อกับแม่ชอบกดดันหนูค่ะ จนหนูเครียดทำอะไรไม่ถูกเกรดเลยลดลงทุกเทอม เรื่องปัญหาทางบ้านหนูรู้ทุกอย่างค่ะ หนูเป็นลูกคนเดียว เค้าฝากความหวังให้ตั้งมากมาย ทำให้หนูเครียดมาก หนูอยากตายค่ะ อยากตาย อยากตาย อยากตาย ช่วยบอกวิธีตายแบบไม่ทรมานหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

125 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ผิดลิขสิทธิ์ ขัดต่อหลักกฎหมาย หรือศีลธรรม

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ผิดลิขสิทธิ์ ขัดต่อหลักกฎหมาย หรือศีลธรรม

devil cat 13 มี.ค. 61 เวลา 07:53 น. 2-2

ตายแบบนี้ทนมานค่ะ ดิ้นๆขาดอากาศ กว่าจะตายก็ทรมานก่อน

0
Belmel 13 มี.ค. 61 เวลา 10:09 น. 2-3

สภาพศพดูไม่ได้เลยนะ ในหนังน่ะมันแค่หลอกๆ

ของจริงน่ะ ตาปลิ้น ลิ้นจุกปาก หน้าเขียว หน้าม่วง

เป็นการตายที่สภาพอนาถที่สุดแล้ว

0
ทิ้งไลน์มาปรึกษาพี่ได้นะคะ 12 มี.ค. 61 เวลา 12:25 น. 3

พี่ขอแนะนำให้น้องคุยกับคุณแม่เลยค่ะ น้องไม่ไหวเรื่องไหน น้องคิดว่าน้องไม่ดียังไง น้องเสียใจกับสิ่งที่คุณแม่พูดขนาดไหนน้องระบายเลยค่ะ การที่น้องเก็บมันกลับมาคิดอยู่คนเดียวมันทำให้น้องจะรู้สึกแย่มากๆ รู้สึกว่าตัวน้องไร้ค่า ทำอะไรก็ผิดหมดใช่ไหมคะ แต่ถ้าน้องระบายกับคุณแม่ อาจจะพูดว่าหนูอยากคุยกับคุณแม่ รวมถึงน้องต้องรับฟังสิ่งที่คุณแม่พูด เพราะพี่เชื่อว่าคุณแม่ก็รักน้องมากที่สุดค่ะ ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกคิดสั้นอยากฆ่าตัวตายหรอกนะคะ พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องคิดได้ และไม่สนับสนุนให้น้องคิดฆ่าตัวตายเลยค่ะ คนเราล้มแล้วลุกได้เสมอ ทุกปัญหามีทางออก #คนที่เรียนธรรมดาเก่งกว่าเด็กอินเตอร์มีมากมายค่ะ ตั้งใจเรียนนะคะน้อง สักวันน้องจะเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของคุณแม่ค่ะ

2
เป็นกำลังใจให้นะ 12 มี.ค. 61 เวลา 14:37 น. 3-1

เห็นด้วยค่ะ พี่รู้จักคนนึง เขาก็เคยโดนแม่เขาพูดว่าลูกเรามีอะไรดีตรงไหน(คือบางที แม่เขาเหนื่อย แม่เขาก็คงบ่นไปงั้นแหละค่ะ) คือคนนี้เขาเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบค่ะ ตอนแรกเขาก็เสียใจนะคะ แต่ก็ผลักดันตัวเองต่อไป มีหน้าที่เรียนหนังสือก็ไปเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ แล้วเขาก็ตั้งใจอ่านหนังสือใหม่ค่ะ ยังไงก็สู้ๆนะคะ พี่เป็นกำลังใจให้ค่ะ

0
เห้อ 30 ก.ค. 61 เวลา 12:44 น. 3-2

พูดออกมายังไงก็ผิดอ่ะพูดไรไปไม่เคยจะถูกอ่ะมีแต่โดนว่ากลับมาแล้วแบบนี้ใครจะกล้าพูดเรื่องอื่นๆอีกอ่ะพูดไปยังไงก็ไม่เคยเข้าใจคือเราพยายามเข้าใจเเม่เต็มที่แต่ความรู้สึกเราก็ไม่ไหวแล้วเคยพูดไปแล้วแต่ยังไงก็ผิดคือเราก็อยากให้เค้าเข้าใจเราบ้างแต่เค้าก็ว่ากลับมาเหนื่อยมาก55


0
Belmel 13 มี.ค. 61 เวลา 10:10 น. 4-1

ขอตอบแทนนะคะ

มีค่ะ คนที่ไม่มีคาง คางเป็นกล้ามเนื้อ+ไขมันบางส่วนค่ะ

คนที่ไม่มีก็จะเป็นกรอบหน้าไปเลยค่ะ


0
123852321 12 มี.ค. 61 เวลา 15:14 น. 5

พยายามเรียนรู้ที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ขยันอ่านหนังสือ ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเรียน หาความรู้ทั่วไป อย่าคิดสั้นนะพ่อแม่คุณจะเสียใจมากๆครับ คนมีเป็นล้านๆคนจำเป็นต้องสวยตามคนอื่นมั๊ยครับ จงพยายามสวยในแบบของคุณเอง ผมเชื่อว่ายังมีคนที่คิดแบบคุณอีกมากมาย พยายามทำให้ดีที่สุด ทำตัวเป็นแสงสว่างให้กับคนที่กำลังคิดแบบคุณในตอนนี้ แล้วคุณจะมีความสุขมากๆ

0
สู้ๆ 12 มี.ค. 61 เวลา 16:47 น. 6

เห้อ5555555 ฆ่าตัวตายแล้วทุกๆอย่างจะดีขึ้นเหรอ ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองหน่อย kill your self not worth it!

3
kuyrailasus 13 มี.ค. 61 เวลา 23:19 น. 6-1

เห้อ5555555 พิมพ์นี้แล้วทุกๆอย่างจะดีขึ้นเหรอ ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองหน่อย keep your cake hole shut worth it!


0
I-am-Black-rose 12 มี.ค. 61 เวลา 18:04 น. 7

ตายยังไงก็ทรมานค่ะ จะฆ่าตัวตายวิธีไหน คุณก็ตาย ถ้าคุณอยากจะตายจริงๆ พูดยังไงก็ห้ามไม่ได้ แต่อยากให้คิดดีๆ อย่าคิดว่าตัวเองไร้ค่า เพราะมันจะทำให้คุณเชื่อแบบนั้น เหมือนการสะกดจิตตัวเอง แล้วก็ถึงจะตายไปแล้ว คิดว่าจะมีความสุขจริงๆเหรอคะ ถามตัวเองก่อนว่าพร้อมจริงๆไหม ถ้าอยากตายจริงๆก็ขอให้ตายทรมานน้อยที่สุดนะคะ (อย่าลืมคิดถึงผลที่ตามมาและคนข้างหลัง มองดูดีๆ คุณอาจพบทางออกก็ได้)

0
Pia888 12 มี.ค. 61 เวลา 18:17 น. 8

พี่เกิดมา พ่อแม่ก็ทิ้ง เอาไปไว้ตามบ้านญาติ เป็นภาระกับคนอื่น เขาให้อยู่บ้านละ ปี 2 ปีก็เขี่ยทิ้ง ก็ยังสามารถโตมาเป็นคนได้ แต่หนูเกิดมามีแม่ ได้เรียนหนังสือ ทุกสิ่งอย่างอยู่ที่ตัวเราเป็นผู้กำหนด พยายามเอาชนะคำดูถูกเหยียดหยามไปให้ได้ แล้วไปให้ถึงความสำเร็จให้ได้นะหนูเอาใจช่วยจ้า

2
.... 13 มี.ค. 61 เวลา 08:14 น. 8-1

มีแม่แบบนี้ โดนทิ้งอาจจะโชคดีกว่านะ

0
Atthanisa 12 มี.ค. 61 เวลา 19:18 น. 9

น้องคะ

ถ้าอยากตายต้องมองคนที่ชีวิตแย่กว่าเรามากๆค่ะ ที่น่าตายมากกว่าเรา เช่นเด็กโดนขมขืน คนเป็นมะเร็งทรมาน คนที่พ่อแม่แยกทางกันไปเลย คนที่เอนท์ไม่ติอด คือคนที่ชีวิตบัดซบกับเรามากๆเลย เขายังมีชีวิตกันต่อไปได้

แล้วเกิดมาชาติหนึ่งเกิดมายากมากนะคะ ถ้าน้องศึกษาศาสนาพุทธ เอาเป็นว่าบอกง่ายๆ น้องฆ่าตัวตายหนึ่งครั้งต้องกลับมาฆ่าตัวตายซ้ำๆ ไม่ต่ำกว่าเจ็ดร้อยรอบค่ะ เป็นผีเปรต ตายแล้วก็ไม่ได้เกิดทันทีต้องชดใช้กรรมที่ทำลายชีวิตตัวเองอีกยาวววววมากกกกค่ะ


เป็นกำลังใจให้นะคะ ##จากใจคนที่ป่วยหนักแล้วอยากตายหลายครั้งงงง

6
.... 13 มี.ค. 61 เวลา 08:16 น. 9-1

อีแบบนี้แหละยิ่งตอกย้ำน้องเขา ต้้องให้เขาเห็นคุณค่าตัวเองโดยไม่เปรียบเทียบกับใคร

0
Belmel 13 มี.ค. 61 เวลา 10:18 น. 9-2

เข้าใจว่าหวังดีค่ะ

แต่แบบนี้ไม่ค่อยช่วย

ถ้าจะพูดให้เขาเข้าใจ ต้องลองสมมุติดูนะคะว่าคำพูดนี้

ถ้าคุณเป็นคนฟังที่ตอนนี้มีสภาพจิตใจอ่อนแอเขาจะรู้สึกยังไง คิดยังไง

0
Atthanisa 13 มี.ค. 61 เวลา 12:28 น. 9-3

พอดีเป็นวิธีการที่ทำให้เราอยู่ในโลกนี้มาได้อะค่ะ คือคิดถึงคนที่ชีวิตเขาแย่กว่าเรามากๆ กับกลัวบาปกรรมตกนรก

เราเลยมีกำลังใจที่มีชีวิตอยู่ อย่าว่าเราเลยนะ ฮือ...กำลังร้องไห้ มันซึมเศร้าค่ะ

จริงๆอยากบอกน้องว่าไปหาจิตแพทย์แต่กลัวจะทับทมอีก ถ้าน้องอ่านถึงตรงนี้จะเห็นว่ามีคนดีอยากช่วยน้องหลายคนนะคะ

พี่เอาใช้ช่วย สู้ๆ

0
pilly 13 มี.ค. 61 เวลา 14:51 น. 9-4

การแนะนำให้หาคนช่วยคุยหรือระบายให้บุคคลที่ไว้ใจได้ฟัง หรือแม้กระทั่งการคุยกับจิตแพทย์นั้นแหล่ะค่ะเป็นคำแนะนำที่ดีทางหนึ่ง การที่คุณบอกว่า "ไปหาจิตแพทย์แต่กลัวจะทับทมอีก" นั่นเป็นการตีความจากความคิดของคุณเอง เพราะการไปหาจิตแพทย์ไม่ใช่จำเป็นว่าคุณต้องไม่ปรกติ ต่างประเทศแค่เขารู้สึกว่าดาวว์ เขาก็ตัดสินใจไปแล้ว และการที่ให้มองตัวเองเปรียบเทียบกับชีวิตคนที่แย่กว่า นั่นยิ่งทำให้คนได้ฟังรู้สึกแย่ไปกว่าเดิม เพราะความทรมาณมันเป็นของปัจเจคบุคคล คนมันทรมาณก็ทรมาณ มันเหมือนคุณโดนมีดบาดนิ้วมันเจ็บ แต่มีคนบอกให้คุณมองคนที่โดนมีดแทงมาเจ็บกว่าคุณ คุณจะหายเจ็บไหมก็ไม่ ฉันใดก็ฉันนั้น ห้ามความเจ็บปวดทางกายไม่ได้ก็ห้ามความเจ็บปวดทางจิตไม่ได้เหมือนกัน

น้อง จขกท สู้ๆนะคะ พี่เข้าใจว่ามันทรมาณ หนูลองมองหาคนที่ไว้ใจหรือพูดคุยได้ ระบายให้เขาได้รู้ หรือคุยกับคุณแม่ไปเลยก็ได้ พี่เชื่อว่ามีหลายอย่างที่เราในครอบครัวต้องเผชิญและยังไม่ค่อยได้เปิดอกคุยกัน ค่อยๆเป้นค่อยๆไปนะคะ ไม่ต้องพยายามลืมมัน ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง แล้วลองมองหาวิธีที่จะเผชิญและอยู่กับมันให้ได้นะคะ

#จากคนที่มีเพื่อนที่เกือบจะฆ่าตัวตายสำเร็จ #จากคนที่เคยคุยและใช้ชีวิตกับคนไข้จิตเวช


0
Atthanisa 13 มี.ค. 61 เวลา 15:15 น. 9-5

ขอบคุณที่แนะนำค่ะ จะได้เป็นจิตวิทยาเพิ่มเติม ได้คุยกับคนที่คิดแบบน้องค่ะ : )


น้องก็สู้ๆน้า

0
Atthanisa 14 มี.ค. 61 เวลา 07:37 น. 9-6

ข้อความตอบกลับครั้งนี้ขอเราขอร้องว่าใครอ่านแล้วโปรดกรุณาไม่วิจารณ์เราต่อเลยนะคะ


พูดตรงไปตรงมา เราเป็นโรคซึมเศร้า แต่ยังอาจไม่หายดี เราขอระบาย เพราะเรานอนไม่หลับจริงๆ เราอาจทนคำวิจารณ์ไม่ได้อะคะ ตอนนี้รูสึกผิดมากที่ไปเขียนแบบนั้นให้น้องเขา เขียนแบบไม่ตรึกตรองให้ดี


แต่ขอบอกว่าคนไข้จิตเวชบางครั้งก็มีสิ่งยึดเหนี่ยวในการมีชีวิตรอดในโลกใบนี้ไม่เหมือนกัน และอาจารย์หมอจิตเวชถามเราจริงๆว่าอะไรทำให้ไม่กระโดดตึกลงไป อะไรทำให้ไม่ฆ่าตัวตาย ซึ้งเราบอกกลับไปว่าหนูกลัวค่ะว่าต้องมาฆ่าตัวตายอีกเจ็ดร้อยชาติ อาจารย์เลยบอกว่าเอาอันนั้นยึดเหนี่ยวในใจไว้นะ เราจดจำคำนั้นมาจนทุกวันนี้

และสำหรับการเปรียบเทียบกับคนอื่น ตอนที่ใจเราแตกสลายมากๆ เราคิดอะไรเองไม่เป็นเลยค่ะ ไม่สามารถโอบอุ้มใจที่แตกสลายไปแล้วของเราได้ เราเลยต้องใช้วิธีเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะมันเข้มแข็งเองไม่ไหว แล้วก็ตอนที่แย่สุดๆ ใครบอกว่าให้ไปหาจิตแพทย์เราวีนบ้านแตกค่ะ เพราะเหมือนเราเป็นบ้าเราไม่ได้รับการยอมรับ แต่สุดท้ายเรามีแม่และเพื่อนพาเรามารักษาค่ะ

เราเลยรอดตายมาได้จริงๆ บางครั้งคนที่อยากฆ่าตัวตายก็รอคอยให้ใครสักคนเข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง พาเขาไปหาหมอ เพราะตอนที่ถึงขีดสุดเขาคิดอะไรไม่ออกคะ เขาได้แต่นอนเฉยๆ ไม่กินข้าวไม่กินอะไร เหมือนนอนรอความตาย

มันเป็นถึงขนาดนั้นจริงๆ ไม่ได้ใส่สีตีไข่เลยค่ะ


และหากน้องได้อ่านมาถึงข้อความนี้ อยากบอกว่าในโลกใบนี้มีคนเขารักและเข้าใจน้องอยู่ อาจเป็นเพื่อน อาจเป็นญาติ ขอร้องไปขอความช่วยเหลือเขาเถิดค่ะ หากใจและกายเราไม่ไหวจริงๆ

ส่วนเรื่องของพี่เป็นการระบายของพี่ไม่ได้เกี่ยวกับคำแนะนำที่เหมาะสมหรือไม่แต่อย่างใดนะคะ ถ้าอ่านแล้วทำให้แย่ลง ต้องขอโทษน้องและทุกๆคนจริงๆค่ะ


0
Sixtyone 12 มี.ค. 61 เวลา 21:29 น. 10

มายืนยันอีกเสียงว่า ไม่ว่าจะฆ่าตัวตายวิธีไหนก็ทรมาน ไม่ว่าจะแขวนคอ กินยา ยิงตัวตาย กระโดดน้ำ กระโดดตึก เพราะคุณยังไม่หมดอายุขัย การพรากชีวิตมีแต่ความเจ็บปวดทั้งนั้นแหละ


และพูดกันตามจริง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เจอใครที่ชีวิตไม่มีปัญหาสักที ไม่ว่าจะรวยหรือจน คนเราก็ต้องประสบความทุกข์อุปสรรคทั้งนั้นแหละ ต่อให้รวยเป็นร้อยล้าน ก็ต้องมีปัญหาโน่นนี่นั่นกดดันให้คิดให้เครียดเหมือนกัน เพียงแต่ทุกข์ของแต่ละคนมันต่างกันไปตามกรรมหรือสิ่งที่เคยกระทำมาก่อนหน้า


ไม่อยากเครียด อยากประสบความสำเร็จ อยากมีชีวิตที่มีความสุข มันก็ต้องเริ่มจากลงมือทำทั้งนั้น พ่อแม่ไม่เห็นว่าเราช่วยทำงานบ้านก็ทำให้เขาเห็นดิ กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจานให้เขาเห็น ทำไมต้องไปทำตอนที่เขาไม่เห็นละ ผลการเรียนไม่ดีก็อ่านหนังสือสิ


และหยุดคิดว่าใคร ๆ ก็ไม่รัก เราต้องรู้จักรักตัวเองก่อน แม้แต่ตัวเราเองยังไม่รักตัวเองเลย ใครจะมารักเรา


เลือกใช้ชีวิตในเส้นทางที่มีแต่ความสุข อะไรที่ทุกข์นักก็ปล่อยมันไปบ้าง ช่างมันไปบ้าง

0
ชีวิตยังต้องเดินตามหาความฝัน 13 มี.ค. 61 เวลา 02:15 น. 11

ทุกอย่างมีทางแก้นะ ตอนเด็กๆแม่เราเคยบอกว่าอยากเอาขี้เถ้ายัดปากเราด้วยซ้ำ ตอนนั้นโคตรเสียใจเลยแล้วก็คิดว่าพ่อแม่ไม่รักอะ แบบทำงานบ้านก็ไม่เห็นแล้วก็บ่นว่าเราไม่ทำ นี่ก็เถียงกลับทุกครั้งเลย แล้วเวลาแม่กลับจากทำงานมาก็ชอบตะโกนเหวี่ยงๆใส่เราเราก็ว่ากลับเถียงกลับตลอด จนโตมาอายุ17พึ่งจะรู้ความว่าพ่อแม่รักเรานั่นแหละที่ต้องตะโกนหรือว่ามันคือนิสัยเค้าไง แล้วยิ่งเรื่องทำงานบ้านแล้วเค้าไม่เห็นนี่ยิ่งไม่ใช่เลยอะตอนนี้คือทำสม่ำเสมอเค้าก็เห็นไงแต่ตอนเค้าไม่เห็นคือเดี๋ยวทำเดี๋ยวหยุด เค้าก็คิดว่าไม่ทำดิ ตอนนี้คุยกันมากกว่าเดิม ไม่กล้าเถียงแม่แล้วด้วยเพราะรู้ว่าเค้าเหนื่อยมากอะ ยิ่งวันไหนเผลอเถียงไปนะร้องไห้เลยไม่ได้ร้องไห้เพราะเถียงไม่ชนะนะ555 แต่ร้องเพราะคิดได้ว่าไม่ควรเถียงอะ ตอนนี้ดีขึ้นมากๆเลย เราก็ตัวดำฟันเหยินเช่นกัน ตอนนี้พยายามขัดผิวและก็กินมะเขือเทศ ส่วนเรื่องจัดฟันนี่เราบอกแม่ตอนปรับความเข้าใจกันได้นี่แหละ ตอนแรกก็กลัวว่าจะหาว่าเราใช้เงินสิ้นเปลือง สุดท้ายก็กลัวไปเองพอไปบอกจริงๆเค้าก็เห็นด้วยนะ

#พูดมาตั้งยาว วิธีแก้ที่คิดได้คือ ลองอดทนกับมันดูมันรู้ไปว่าอยากจะฆ่าตัวตายมากแค่ไหนลองทนสักหนึ่งวันแล้วคิดดูว่าอยากฆ่าตัวตายรึเปล่า เรื่องพวกนี้มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบพอเกิดแล้ว ก็จะอยู่ไม่นาน เดี๋ยวก็หายไป นึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ให้มากๆ คนเราถ้าไม่รักกันจริงไม่เลี้ยงดูจนโตได้ขนาดนี้หรอกนะ สู้ๆ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

knyrt tn_ 13 มี.ค. 61 เวลา 07:51 น. 14

อย่าไปสนใจเลยค่ะ คำพูดบางคำมันก็อาจทำร้ายเราได้ ได้ยินมาก็ปล่อยไปดีกว่านะคะ แล้วทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดดีกว่าค่ะ ตั้งใจเรียน สักวันหนึ่ง วันที่เราประสบความสำเร็จ จะไม่มีใครพูดแบบนี้แล้วค่ะ ถึงเวลานั้นเราก็จะได้รับคำชมมากมาย การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกของปัญหาหรอกค่ะ มันยังมีวิธีอื่นอีกมากมายค่ะ เช่นตั้งใจทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด สู้ๆค่ะ

1
.... 13 มี.ค. 61 เวลา 17:40 น. 14-1

มันไม่เสมอไปนะคะ ที่ประสปความสำเร็จในชีวิต ในหน้าที่การงานแล้วจะมีความสุข

0
..... 13 มี.ค. 61 เวลา 07:59 น. 15

เราทำชีวิตตัวเองให้มันดีขึ้นได้นะคะ คำกดดันจากคนรอบข้างควรเป็นแรงผลักดันให้เรานะคะ อย่าเอามันมาทำให้ชีวิตเราแย่ไปกว่าเดิมดีกว่า ลองคิดไปไกลๆน้า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเราเราจะไม่มีวันได้ลบคำสบประมาทพวกนั้ยอีกเลยน้าาา เราจะกลสยเป็นไอ่ขี้แพ้คนนึง พยายามเข้านะคะ คุณทำได้ค่ะ เชื่อมั่นในตัวเองไว้ค่ะ ทางชีวิตนี้อาจจะขรุขระหน่อย แต่ถ้าเราค่อยๆปูคอนกรีตใหม่ ทุกคนต้องเข้าใจหนูนะคะ

0
ไปเรื่อยๆ 13 มี.ค. 61 เวลา 08:00 น. 16

อนาคตนะคะหนู.... ถึงไม่มีใครรัก อย่างน้อยหนูต้องรักตัวของหนูเองนะคะ ถ้าหนูรักตัวเอง อะไรๆมันก็ดีขึ้นค่ะ พี่อยากให้หนูตั้งใจเรียน คิดซะว่าเราทำเพื่ออนาคตของเราค่ะ พี่คนนึงก็เคยผ่านจุดๆนี้มาแล้วเหมือนกัน พี่ลองเปิดใจคุยกับพ่อกับแม่

บางอย่างก็ระบาย โทรคุยกับเพื่อน มันก็ช่วยได้นะ

ตอนนี้พี่มองว่า อนาคตหนูยังไปได้อีกไกล สู้ๆนะ

พี่เป็นกำลังใจให้ ตั้งใจเรียน แล้วทุกๆอย่างจะดีขึ้นเสมอ^____^

0
ราชันย์หมาป่าขาว 13 มี.ค. 61 เวลา 08:13 น. 17

น้องคะ น้องจะตายทั้งที ยังจะเป็นภาระให้พ่อให้แม่อีกนะคะ อย่าลืมนะคะว่าตายไปยังมีค่าทำศพ ต่าเผา ค่าทำบุญ น้องมีเงินตรงนี้ให้พ่อให้แม่หรือยังคะ แล้วก่อนจะตายเนี่ย น้องคืนเงินค่าเลี้ยงดู ค่าทำคลอด ค่าจิปาถะต่างๆนาๆที่ท่านเคยให้มาหมดหรือยังคะ แม้แต่วิธีจะตาย น้องยังไม่กล้าลงทุนที่จะเจ็บตัวเลย แล้วคิดสิคะ ว่าแม่น้องคุ้มไหมที่เจ็บตัวคลอดน้องออกมา น้องทำประโยชน์อะไรให้ท่านบ้างคะ แค่ความภูมิใจ ยังทำไม่ได้เลย ลองทำก่อนไหมแล้วค่อยตายก็ยังทันนะ

3
john wick 13 มี.ค. 61 เวลา 21:45 น. 17-1

เห้อ....... พูดแบบนี้คงช่วยเค้ามากเลยแหละน้าาาา คิดเยอะๆหน่อย คำพูดแบบน้ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอกนะ

0
DrStranger 13 มี.ค. 61 เวลา 21:55 น. 17-2

ที่ึคุณพูดมันก็ถูก แต่อย่ามาใช้กับสถานการณ์แบบนี้เลยนะคะ ความคิดคนเราจะไปได้ถึงไหนไม่มีใครรู้หรอก

0
Brooo 14 มี.ค. 61 เวลา 03:46 น. 17-3

ว่าแล้วต้องมีคอมเม้นแนวนี้ ถามหน่อย น้องเคยขอให้ตัวเองเกิดมาไหม ที่น้องเกิดมามันก็เป็นการตัดสินใจของแม่น้อง ก็ถูกแล้วที่เค้าต้องคลอด เลี้ยงดู สั่งสอน เรื่องการตอบแทนบุญคุณก็จะมาเอง เพราะงั้น ดูสถาณการณ์ด้วย ไม่ใช่เกี่ยวกับบุพการีหน่อยก็บุญคุณๆๆๆ คิดซักหน่อยไหมก่อนคอมเมนต์

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-big-10.png

0
กันยา 13 มี.ค. 61 เวลา 08:21 น. 18

การอวดลูกเป็นเรื่องปกติค่ะ อย่าไปคิดมากเลย พ่อ แม่น้องไม่ได้จบจิตวิทยามาซะหน่อย ส่วนเรื่องที่แม่คุยกับป้าเรื่องน้องพี่ว่า แม่คงกำลังใช้จิตวิทยา กับคุณป้ารึเปล่าค่ะ อาจจะหวังผลในทางอื่น หรือ ทำให้เป็นพวกเดียวกันด้วยการชมลูกคุณป้า แล้วเอาน้องเป็นเป้าเพื่อหวังผลทางอื่น อาจจะความช่วยเหลือในด้านใดด้านหนึ่งก็ได้นะ จะมีใครต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น แล้ว ไปนั่งวิภาคสภาพในบ้านของคนอื่นค่ะไม่มีหรอกนะ เพราะถ้าคุณแม่เกลียดน้องจริงๆมีวิธีเยอะแยะไปที่จะทำให้น้องออกไปจากชีวิตคุณแม่นะ คงไม่ปล่อยให้น้องมานั่งมานอนอยู่ในบ้านเฉยๆหรอก ( ถ้าเป็นอย่างที่พี่ว่าข้างต้นก็อย่าไปโกรธคุณแม่เลย ท่านคงทำทุกทางนั้นแหละที่จะทำให้ครบอครัวรอดไปจากสภาพคับขัน )


น้องเองก็รู้ว่าสภาพทางบ้านมีปัญหา ที่ไหนมีปัญหา หรือ เมื่อบุคคลประสบปัญหาย่อมมีความเครียดเป็นของธรรมดาค่ะ น้องเองก็ทำงานช่วยท่านแต่ท่านไม่เห็น ก็อาจจะเป็นเพราะท่านมองว่าสิ่งที่น้องทำมันเป็นสิ่งที่คนในครอบครัวต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้วรึเปล่า หากต้องการให้ท่านเปลี่ยนพฤติกรรม ลองเริ่มจากตัวเราก่อนดีมั้ยค่ะ เช่น จากที่เข้าออกจากบ้าน ไม่เคยสวัสดีท่านเลย อาจจะเพราะเขิน หรือ อะไรก็ตาม ลองเปลี่ยนมาสวัสดีดูค่ะ ( ลองคิดดูค่ะ ไป รร. น้องยังสวัสดีครูได้ ทั้งที่บางคนน้องไม่เคยรู้ว่าเป็นใครมาจากไหนด้วยซ้ำก็ยังทำได้ ไม่ลองทำกับคนในครอบครัวดูค่ะ ) งานบ้านทำเหมือนเดิม แต่อาจจะลองเอางานที่แม่ทำประจำมาทำแทนดู เท่านี้ท่านก็จะรับรู้ได้เองค่ะ โดยไม่ต้องทำเอาหน้า หรือ พยายามทำให้ท่านเห็นแบบจงใจ ( ให้มันมาจากข้างในนะ )


ส่วนเรื่องเรียน น้องเกิดในยุคที่สื่อการเรียนการสอนหาง่ายกว่ายุคของพี่มากนะคะ ลองใส่ใจเพิ่มขึ้นอีกนิด เริ่มต้นมันอาจจะยาก เอาแบบง่ายๆก่อนเปิดฟังแบบฟังวิทยุค่ะ เปิดฟังไฟเรื่อยๆ ไม่ต้องสนใจ แต่ฟังเรื่องเดิมซ่ำๆบ่อยๆ

แล้วลองค้นหาตัวเองดูว่าชอบอะไร อยากเรียนอะไรจริงๆ ไม่ต้องตามสังคม หรือ ตามใครบอก


ส่วนเรื่องวิธีตายที่ทรมาณน้อยที่สุดคือ การใช้ปืนยิงที่ขมับค่ะ จะตายแทบจะทันที เพราะสมองถูกทำลาย ไม่ทรมาน ( เท่าที่เคยอ่านงานเขียนของท่านอื่นนะ ( แฮะๆ ไม่เคยตาย ) ) แต่พี่ว่าลองนึกดูนะว่าความตายเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงรึเปล่า หรือ แค่อยากจะพ้นจากสภาพนี้แค่นั้น ถ้าต้องการพ้นจากสภาพนีัก็ต้องหาเหตุของปัญหาก่อนค่ะ แล้วแก้มัน

0
Siri 13 มี.ค. 61 เวลา 08:36 น. 19

น้องอยู่ที่ไหนคะ อยากได้ความข่วยเหลืออะไรมั้ย ถ้านี่คือเรื่องจริงพี่ยินดีจะคุยกับคุณแม่ หรือตัวน้อง หรือแบบใหนก็ได้ที่น้องสบายใจค่ะ ไม่ต้องไปอ่านที่คนอื่นยุนะคะ

0
กระต่ายแดง 13 มี.ค. 61 เวลา 08:40 น. 20

หนูลูก อย่าเพิ่งทำอะไรนะคะ ฟังพี่ก่อนนะ

จริงๆแล้วหนูไม่ได้อยากตายหรอกค่ะ หนูแค่เครียดและมีความทุกข์ การตายด้วยเรื่องแบบนี้มันไม่คุ้มค่ากับอนาคตสวยงามที่อาจรอหนูอยู่ข้างหน้าเลยนะคะ

พี่อยากให้หนูลองปรึกษาคุณครูที่ดีๆหรือจิตแพทย์ดู พักผ่อนเยอะๆ รักษาสุขภาพ รักตัวเอง ดูแลตัวเอง ทำใจให้สบาย มองโลกในแง่ดี และทำในสิ่งที่หนูมีความสุข เลิกสนใจเสียงของคนอื่นที่ทำให้หนูทุกข์ พี่รู้ค่ะว่ามันยากมาก แต่หนูต้องเชื่อว่าหนูทำได้นะคะ เพราะหนูทำได้จริงๆ

ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้เท่ากับจิตของเราที่ทำร้ายตัวเองค่ะ ถ้าคำพูดกับความคิดของคนอื่นมันหนักมากก็ปล่อยลงบ้าง พี่จะเอาใจช่วยนะคะ อนาคตหนูอาจจะได้เจอกับเพื่อนที่ดี งานที่รัก ความสุขมากมายที่หนูคิดไม่ถึงว่าจะมีในวันนี้ สิ่วที่หนูต้องทำคือ มีความสุขกับปัจจุบันและอดทนผ่านเรื่องพวกนี้ไปให้ได้ค่ะ

ถึงหมอกมันหนา แต่ถ้าหนูเดินพ้นหมอกไปได้ มันก็แค่นั้น เพราะหมอกมันไม่ได้ปกคลุมไปทั้งโลก

อยากให้หนูจำไว้ว่าถ้าหนูจะจากไป อย่างน้อยก็มีพี่คนนึงที่จะคอยห้ามและเสียใจไปกับหนูด้วยแน่ๆค่ะ

1
Ball 18 ก.ค. 61 เวลา 20:03 น. 20-1

แล้วถ้าเรารู้ว่าไม่มีใครเสียใจละตายได้ป่าวเพราะอยู่ไปมันโคตรทรมานเลย

0