ช่วยด้วย...เป็นแบบนี้ซิ่วดีไหม??

ถ้าเรียนแล้วไม่ใช่ อย่าฝืนเรียนครับ เราจะไม่ได้อะไรเลย ^^

โห...เป็นพ่อแม่ที่สุดยอดมากให้อิสระเราได้ตัดสินใจ

เท่าที่ผมเข้าใจคือยังอยากเรียนอยู่ แต่รู้สึกว่าเรียนไม่ไหวจนกังวลสินะครับ มีเรื่องนึงที่ผมอยากให้น้องเข้าใจ มันเกี่ยวกับวิธีการเรียนรู้ของมนุษย์โดยตรงเลยนั่นก็คือเรื่องประสาทสัมผัส V A K

อันดับแรกน้องลองทำความเข้าใจก่อนนะว่าน้องเป็นสายไหน?

V = Visual เรียนรู้ผ่านการดู

พวก V มักจะจินตนาการเก่ง เห็นรายละเอียดชัดกว่าชาวบ้าน หรือแยกแยะเฉดสีได้ดีมากเป็นพิเศษ ถนัดการจำเป็นภาพ เรียนรู้ผ่านการดูหนังสือได้ดี สังเกตอาการท่าทางการแสดงออกจากคนอื่นได้ ชอบพกปากกาหลายๆสี ถ้าเปรียบกับการเรียนก็คือการอ่านหนังสือเป็นหลัก

A = Auditory เรียนรู้ผ่านการฟัง

พวก A เป็นพวกหูดีมาก ชอบฟังเพลง แยกแยะเสียงได้ ชอบพูดเบาๆกับการเล่นน้ำเสียง ไม่ชอบสถานที่อึกทึกครึกโครม เป็นผู้ฟังที่ดีโคตรๆ ไม่ชอบพูดแทรกใคร(เพราะจะฟังไม่รู้เรื่อง) คนพวกนี้แค่ฟังที่อาจารย์พูดก็จำได้โดยไม่ต้องจดเลยด้วยซ้ำ ถ้าเปรียบกับการเรียนคือการฟังอาจารย์สอนเป็นหลัก

K = Kinesthetic เรียนรู้ผ่านร่างกาย

พวก K เป็นพวกเล่นใหญ่ สังเกตจากเวลาโทรศัพท์ก็ได้ถ้าใครออกมือไม้กระหน่ำฟีลลิ่งมาเต็มนั่นแหละคือพวก K คนพวกนี้จะค่อนข้างชอบการสัมผัสถูกเนื้อต้องตัว อารมณ์อ่อนไหวง่าย เก่งด้านการลงมือทำทุกชนิดที่ต้องสัมผัสหรือขยับร่างกาย ถ้าเปรียบเทียบกับการเรียนคือการทำกิจกรรมเป็นหลัก

ลองดูว่าน้องเป็นสายไหน...แล้วลองปรับวิธีเรียน

ถ้าเป็น V น้องอาจจะต้องหัดจดย่อให้สั้นลง เพราะคนสาย V จะจำข้อความยาวๆไม่ได้ (ภาพในหัวเขาตามไม่ทัน) หรือไม่ก็หัดจดเป็นภาพไปเลย ใช้ปากกาหลายๆสี มันมีแม้กระทั่งการจำเป็นนิทานสั้นๆ

ถ้าเป็น A น้องต้องเช็กดูว่า ตำแหน่งในห้องเรียนของน้องมีเสียงรบกวนอะไรหรือเปล่า ถ้าแก้หรือย้ายที่นั่งได้ก็ลองดู แต่ถ้าไม่...น้องอาจจะต้องปรับด้วยวิธีอื่น ทำยังไงก็ได้ให้น้องได้เรียนผ่านเสียงเยอะๆ เช่น อ่านหนังสือออกเสียง... ขอเอามือถือไปอัดเสียงอาจารย์ไว้ใกล้ๆ แล้วมาฟังซ้ำ(กรณีเสียงเพื่อนมันรบกวน)... แต่งเนื้อหาที่ต้องจำให้กลายเป็นเพลง

ถ้าเป็น K อันนี้เหนื่อยหน่อยบอกเลย (คนส่วนมากเป็น รวมถึงผมด้วย) น้องจะต้องร่วมกิจกรรมบ่อยๆ ถ้าไม่มีกิจกรรมให้ร่วม น้องต้องเอาบทเรียนที่น้องต้องจำไปติวใครสักคน(ซีเรียส) หรือจะตั้งกล้องแล้วทำเหมือนสอนคนอื่นก็ได้ ทำทุกอย่างที่ให้ร่างกายของน้องขยับ ทำซ้ำๆไปเรื่อยๆมันจะค่อยๆซึมซับเข้าไปเอง เวลาต้องจดเลคเชอร์น้องอาจจะเขียนความคิดเห็นส่วนตัวลงไปด้วยก็ได้ มันจะทำให้น้องจำ(อารมณ์)ได้ดีขึ้น

หลักสูตรการเรียนการสอนบ้านเรา คนออกแบบส่วนใหญ่จะเป็นเซ้น V ตระกูล ดร. ที่ชอบแนะนำให้จำเป็นภาพทั้งหลายนั่นแหละ (ตรูทำไม่ได้โว้ย!!) มันเลยทำให้คน A กับ K เรียนไม่รู้เรื่อง ถ้าเราเปลี่ยนวิธีการสอนของอาจารย์ไม่ได้ เราก็ต้องเปลี่ยนวิธีเรียนรู้ของเราเองนั่นแหละ สู้ๆครับ

ซิ่วดีกว่าไหมคะ ยิ่งเรียนปีสูงยิ่งยากนะ ถ้าจขกท.ไม่ชอบ มันจะยิ่งเครียดนะคะ จขกท.โชคดีนะ ที่พ่อแม่ให้ตัดสินใจเอง รีบซิ่วแล้วไปหาที่เรียนใหม่ คณะใหม่ดีกว่าเสียเวลาไปมากกว่านี้นะคะ

ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะ

เราก็เป็นคนนึงนะที่ซิ่วมา เพราะปัญหาหลายอย่างเลยทั้งเพื่อนทั้งเรื่องเรียน เทอมแรกเราได้ 2.16 เกือบติดโปรสูงอะตอนแรกก็ว่าจะต่อแหละ แต่มันไม่ใช่ไงก็ต้องไป เราเข้าใจครส.นะ เพราะอะไรที่มันไม่ใช่ต่อให้ทนมันก็ทนไม่ไหวหรอก สู้สู้นะ ตอนนี้ก็มานั่งหาที่เรียนใหม่ ^^

ถูกอย่างความเห็นอื่นค่ะ ถ้าไม่ใช่ก็อย่าฝืนเพราะเราจะทำมันออกมาไม่ดี ถามใจตัวเองดีๆคนที่มาคอมเม้นคือเหตุผลประกอบการตัดสินแต่จริงๆใจเราล้วนๆ อย่างน้องเนี่ยถือว่าโชคดีมากที่ครอบครัวให้อิสระตัดสินใจ พี่เรียนอยู่ปี2 กำลังจะขึ้นปี 3 แล้ว พี่กำลังจะซิ่ว เพราะพี่ทนฝืนเรียนมาจนในที่สุดมันไม่ใช่ทางพี่แต่เคสพี่แม่พี่ไม่ยอมแต่พี่ก็ดื้อดึงจะซิ่ว ฐานะทางครอบครัวพี่ไม่มีให้ไปเริ่มใหม่แล้วอีกอย่างเสียเวลามากพี่จึงเลือกจะเรียนม.เปิด

#ฝากเรื่องนึงนะจ้ะ เลย เขียนแบบนี้ อย่าพิมพ์ว่า เรย มันดูสก๊อยมากจ้า

สำหรับเรา เราว่าต้องคิดดูนะคะว่า เรียนต่อแล้วจะรอดมั้ยอ่ะ ถ้าเทอมแรกติดโปรมันติดเพราะว่าเราไม่ตั้งใจแล้วเทอมหน้าจะตั้งใจใหม่ได้มั้ยนั่นก็อีกเรื่อง แต่ถ้าติดเพราะว่าหัวมันไปไม่ได้หรือไม่ชอบจริงๆก็ซิ่วเถอะค่ะ