คำพูดนี้คนเป็นเเม่ควรพูดหรอคะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
คืออยากหาพื้นที่ระบายมากๆเพราะความกดดันจากหลายด้านในครอบครัว ตรงนี้ต้องบอกก่อนนะคะว่าเเม่เรามีลูกทั้งหมด6คนค่ะรวมกับลูกที่ติดมากับเเม่ด้วย เราเป็นลูกคนที่3นะคะ พี่ใหญ่ทั้ง2เเต่งงานมีครอบครัวเเล้วค่ะ ตอนนี้เราก็เป็นพี่ใหญ่สุดในบ้านค่ะ เราเพิ่งอายุเเค่17ปี เเต่เราไม่ได้เรียนเเล้วนะคะ เเม่บอกเราไม่จำเป็นต้องเรียนค่ะให้เราเสียสละเพื่อน้องๆได้เรียนต่อ เเล้วคือพ่อเราอายุห่างจากเเม่เราประมาณ20ปีได้ค่ะ
ตอนนี้พ่ออายุ63เเล้ว เเต่ท่านยังทำงานอยู่นะคะ เเม่เราเป็นคนที่ชอบซื้อเครื่องสำอางมากค่ะ ชอบเเต่งหน้าเเต่งตัวสวยๆอยู่ตลอด ซึ่งในบ้านมีเเค่พ่อที่ยังทำงานนะคะ รายได้จึงน้อยมากๆเพราะพี่สาวกับพี่ชายก็ต้องส่งลูกเขาเรียนเหมือนกันเลยไม่ค่อยมีส่งมาทางบ้านเท่าที่ควร คือเเม่เป็นคนอารมณ์ร้อนมากๆค่ะ
ล่าสุดคือเมื่อคืนค่ะ เราบอกเเม่ว่าขอไปลองออดิชั่นกับค่ายนึงของเกาหลีที่จะมาเปิดออเร็วๆนี้ได้มั้ย เเม่บอกว่าไม่ได้ค่ะ คือเราก็ไม่พูดออะไรอีก เเล้วเดินไปสอนการบ้านน้องๆค่ะ ประมาณ30นาทีต่อมาเเม่เดินมาหาเรากะน้องค่ะ คือน้องอีกคนของเราอายุ15เเล้วนะคะ น้องทำงานช่วยอาจารย์ที่โรงเรียนกว่าจะได้กลับก็ดึก น้องมาถึงบ้านเเม่ก็ด่าน้องด้วยคำหยาบหลายคำเลยค่ะ คือเราก็พยายามไม่ไปยุ่งอะไรเเล้วนะคะ เเต่สักพักเเม่ก็พูดถึงเรื่องที่เราขอไปค่ะ คือเราก็เฉยๆนะคะ เเต่สักพักเเม่พูดว่า"ความฝันของมึ...มันไม่มีราคา ชีวิตของมึ...เทียบไม่ได้เเม้เเต่ลิป1เเท่ง"
คือตรงนี้เราพยายามไม่ร้องไห้เเล้วนะคะ เราเดินเข้าไปในห้องนอนของเราเเต่ไม่ได้ล็อคประตูค่ะ เเม่เดินเข้ามาพร้อมสายไฟที่ไม่ได้ใช้อ่ะค่ะ เอามาฟาดเราในห้อง คือน้องร้องไห้ขอให้หยุด เเต่เเม่กลับตีเราเเรงกว่าเดิม จนพ่อเดินเข้ามาห้ามเเม่ถึงหยุด เราเพิ่งมารู้เมื่อเช้าว่าเเม่เเอบคุยกับผู้ชายคนอื่นเพราะเมื่อเช้านี้เเม่ลืมโทรศัพท์ไว้ก่อนออกจากบ้านเราเลยเปิดดู เราควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดีคะ
เราเริ่มจะไม่ไหวกับเรื่องนี้เเล้วจริงๆ ความกดดันต่างๆมันหนักขึ้นกว่าเดิมมากๆ ใครอ่านกระทู้นี้เเล้ว เราขอคำปรึกษาสักนิดด้วยนะคะทุกคนมันเป็นมาอย่างนี้ถึง2ปีเเล้ว เรากดดันมากจริงๆ
ตอนนี้พ่ออายุ63เเล้ว เเต่ท่านยังทำงานอยู่นะคะ เเม่เราเป็นคนที่ชอบซื้อเครื่องสำอางมากค่ะ ชอบเเต่งหน้าเเต่งตัวสวยๆอยู่ตลอด ซึ่งในบ้านมีเเค่พ่อที่ยังทำงานนะคะ รายได้จึงน้อยมากๆเพราะพี่สาวกับพี่ชายก็ต้องส่งลูกเขาเรียนเหมือนกันเลยไม่ค่อยมีส่งมาทางบ้านเท่าที่ควร คือเเม่เป็นคนอารมณ์ร้อนมากๆค่ะ
ล่าสุดคือเมื่อคืนค่ะ เราบอกเเม่ว่าขอไปลองออดิชั่นกับค่ายนึงของเกาหลีที่จะมาเปิดออเร็วๆนี้ได้มั้ย เเม่บอกว่าไม่ได้ค่ะ คือเราก็ไม่พูดออะไรอีก เเล้วเดินไปสอนการบ้านน้องๆค่ะ ประมาณ30นาทีต่อมาเเม่เดินมาหาเรากะน้องค่ะ คือน้องอีกคนของเราอายุ15เเล้วนะคะ น้องทำงานช่วยอาจารย์ที่โรงเรียนกว่าจะได้กลับก็ดึก น้องมาถึงบ้านเเม่ก็ด่าน้องด้วยคำหยาบหลายคำเลยค่ะ คือเราก็พยายามไม่ไปยุ่งอะไรเเล้วนะคะ เเต่สักพักเเม่ก็พูดถึงเรื่องที่เราขอไปค่ะ คือเราก็เฉยๆนะคะ เเต่สักพักเเม่พูดว่า"ความฝันของมึ...มันไม่มีราคา ชีวิตของมึ...เทียบไม่ได้เเม้เเต่ลิป1เเท่ง"
คือตรงนี้เราพยายามไม่ร้องไห้เเล้วนะคะ เราเดินเข้าไปในห้องนอนของเราเเต่ไม่ได้ล็อคประตูค่ะ เเม่เดินเข้ามาพร้อมสายไฟที่ไม่ได้ใช้อ่ะค่ะ เอามาฟาดเราในห้อง คือน้องร้องไห้ขอให้หยุด เเต่เเม่กลับตีเราเเรงกว่าเดิม จนพ่อเดินเข้ามาห้ามเเม่ถึงหยุด เราเพิ่งมารู้เมื่อเช้าว่าเเม่เเอบคุยกับผู้ชายคนอื่นเพราะเมื่อเช้านี้เเม่ลืมโทรศัพท์ไว้ก่อนออกจากบ้านเราเลยเปิดดู เราควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดีคะ
เราเริ่มจะไม่ไหวกับเรื่องนี้เเล้วจริงๆ ความกดดันต่างๆมันหนักขึ้นกว่าเดิมมากๆ ใครอ่านกระทู้นี้เเล้ว เราขอคำปรึกษาสักนิดด้วยนะคะทุกคนมันเป็นมาอย่างนี้ถึง2ปีเเล้ว เรากดดันมากจริงๆ
46 ความคิดเห็น
โอ พระเจ้า ถ้าคนเป็นแม่พูดอย่างนี้
"ความฝันของมึ...มันไม่มีค่า ชีวิตของมึ... เทียบไม่ได้แม้แต่ลิป1แท่ง" ควรเรียกว่า "ผู้ให้กำเนิด" ก็พอครับ ไปออดิชั่น ถ้าได้นี่ก็ได้ผลตอบแทนที่มากโข ส่วนที่แม่คุณพูดนั่นไม่ใช่คำ
พูดของคนแล้วครับ ส่วนคุณก็หางานทำดูครับ พอมีเงินทุนตั้งตัวก็ตีตัวออกห่างครับ แต่ถ้าเกิดโกรธเขาจริงๆ วิธีแก้เผ็ดดังนี้ครับ
1.แอบหยิบเครื่องสำอางค์เขาไปทิ้งไม่ให้เขารู้ตัว
2.แอบทำเสื้อผ้าเขาให้เป็นรอยเล็กน้อย
3.กระจายไปลงในแอปสำหรับสื่อสารที่ไม่ค่อยมีใครโหลด(ในกรณีนี้ ให้ทำนอกบ้านคนเดียวนะครับ)
4.แอบทำห้องเขาให้สกปรก
เรากำลังพยายามหางานทำอยู่ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ
อย่าเอาพวกเครื่องสำอางค์ไปทิ้งเด็ดขาด หรือทำอะไรแม่คุณ เพราะยิ่งทำยิ่งแย่ พ่อคุณยิ่งหาเงินหนักไปใหญ่
ลองบอกพ่อให้พาแม่ไปหาจิตแพทย์ดู เขาเป็นอย่างนี้มานานแล้วรึยังอ่ะ สงสารเจ้าของกระทู้... สู้ๆนะ หางานทำให้ได้
เราลองบอกพ่อดูเเล้วค่ะเเต่เเม่คงไม่ยอมเเล้วเป็นหนักกว่าเดิม ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำนะคะ
โห!!!เราก้เคยโดนด่าน่ะ แต่แรงกว่านี้อ่า "ถ้า-ตายไปคนในบ้านคงจะสบาย)
เราก็โดนเเช่งให้ตายอยู่บ่อยๆบางทีไล่ออกจากบ้านก็มี น่าน้อยใจมากอ่ะ
รุนแรงมากนะคะ เราแบบอ่านยังอึ่งความเป็นแม่คือไม่มีเลยเหรอ ลองหางานทำดูค่ะ พวกเด็กเสิร์ฟ งานพาร์ทไทม์ค่ะ สำหรับแม่เป็นเราคือคงทำร้ายกลับแล้ว -ประเภทคำสอนที่ว่าทำร้ายพ่อแม่เนรคุณคน เป็นบาป ไม่เลี้ยงพ่อแม่ตกนรก -คำสอนพวกนี้เราคือไม่ชอบเลย ไม่เลี้ยงจะเลี้ยงกลับทำไม ดูแลน้องดี ๆ อาจจะเรียนกศน.เพิ่ม จะได้มีวุฒถึงม.6 มีโอกาสหางานเพิ่มขึ้นถ้าเป็นแม่ลอง แล้วทำตามที่คุณkunjaowบอกเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ผมเห้นด้วยมากๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ เราก็โดนคล้ายๆกัน
ประมาณ เมื่อไหร่ มึ-จะตายๆไปซะที ถถถถถถ
อย่าคิดมากน้าเจ้าของกระทู้ ยังมีเด็กอีกหลายคนดนด่าเหมือนกันค่า ยังมีเพื่อนน้าา
ขอบคุณค่ะ
สู้ๆเป็นกำลังใจให้นะคะ เดินต่อไปข้างหน้านะคะ อย่าคิดมากอย่าทำอะไรวู่วามนะคะ อย่างน้อยสุดเค้าก้อเลี้ยงเรามา เรื่องครอบครัวมันพูดอยากมากขอให้มีทางออกนะคะ สู้ๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
เราแนะนำว่าให้หาทางเรียนต่อให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกศน. หรือสายสามัญ/อาชีพ เพราะว่าการศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้น้องออกจากสถานการณ์ตรงนี้ไปได้ ลองหากู้กยศ. หรือทำงานดูค่ะ ตอนนี้จำเป็นต้องทนไปก่อน แต่คอยบอกตัวเองเสมอว่าสักวันเราจะหลุดพ้นตรงนี้ไปได้ ให้โฟกัสถึงอนาคตเราค่ะ ครั้งนึงเราก็เคยโดนการทำร้ายร่างกายโดยไม่มีเหตุผล/เกินกว่าเหตุเหมือนกัน รวมถึงคำดูถูกต่างๆ ช่วงนั้นก็ทรมานมาก ไม่มมีความสุขเลย ต้องนั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียว พอช่วงมหาลัยฯ เราออกมาแล้วหางานทำไปด้วยเรียนไปด้วยจนจบ พอเราหลุดออกมาได้ก็โล่งขึ้นมาก มีความสุขกับสิ่งที่เราหามาได้ด้วยตนเองค่ะ ให้เก็บคำดูถูกเป็นแรงผลักดัน แล้วทำให้เขาเห็นว่าเราทำได้ อย่าให้เขาดู “ถูก” พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาดู “ผิด” ค่ะ สู้ๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจเเละคำเเนะนำนะคะ
สู้ๆนะค่ะ เราเป็นกำลังใจให้ ดูแลน้องดีๆนะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
จขกท.ต้องใจเย็นๆนะคะ
ส่วนตัวเคยโดนแม่ให้เลิกเรียนตั้งแต่ ม.1 แล้ว
แต่เราคิดเสมอค่ะ “ชีวิตยังไงก็ยังเป็นของเรา”
ก็เลยทำงานส่งตัวเองเรียนมาตลอด ..
อะไรที่เป็นสิ่งที่ดี ทำเพื่อส่งเสริมให้ตัวเองได้ดี โดยไม่ได้เดือดร้อนคนอื่น อยากให้ จขกท. สู้นะคะ
เข้าใจเลยค่ะว่าคนที่ควรจะเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดคือแม่เรา แต่แม่ก็คือแม่ หาก จขกท.รู้เรื่องอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับแม่ ให้ปล่อยเค้าไปค่ะ เราไม่ต้องไปทำลายเค้า เราต้องกลับมาวางแผนให้ตัวเอง ว่าชีวิตเราจะจัดการดำเนินไปอย่างไร ลองขอความช่วยเหลือ ความร่วมมือ จากพี่ ญาติพี่น้อง หรือพ่อเอง ที่คิดว่าอย่างน้อยให้คำปรึกษาหรือความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆได้ ลองกลับมาวางแผนเรื่องการเรียน การทำงาน ที่จะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น การเรียนกศน. หรือเรียน ภาควันอาทิตย์ และทำงานไปด้วยได้ ส่วนแม่นั้นหากเค้าจะพูดอะไรปล่อยเค้าค่ะ เราอย่าเอาคำพูดหรือการกระทำมาทำให้สุขภาพจิตเราเสียไปด้วย นึกถึงความฝัน และอนาคตของตัวเองเข้าไว้ หากอนาคตของ จขกท.สามารถอยู่ตัวช่วยเหลือตัวเองได้ จขกท.ก็จะสามารถช่วยเหลือน้องๆหรือคนในครอบครัวได้ รวมถึงต่อไปอาจจะเป็นแม่ของ จขกท.เองด้วยก็ได้ค่ะ สู้ๆนะคะ ชีวิตเราเคยผ่านจุดๆนั้นมาแล้ว ตอนนี้ทำให้แม่ยอมรับความดื้อที่เราเคยดื้อจะเรียน ดื้อที่จะทำตามแผนตัวเองได้แล้ว ถ้าวันนี้เราไม่ทำอะไรเพื่อตัวเราเอง ก็จะไม่มีใครมารับผิดชอบชีวิตของจขกท.นะคะ สู้ๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำเเละกำลังใจนะคะ
อดทนไว้นะคะ ถ้าเค้าจะทำร้ายคุณแนะนำให้ขอความช่วยเหลือกับคนที่พอจะช่วยเราได้หรือพยายามอย่าเข้าใกล้เค้ามากดีกว่าค่ะ ถ้าหากคุณได้เรียนต่อคุณก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตได้แถมยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระในครอบครัวด้วย ส่วนเรื่องแม่ของคุณไม่มีอะไรจะพูดค่ะ เป็นเราคงทนไม่ได้แน่ๆ คุณมีความอดทนมากที่ทนมาตลอดจนถึงวันนี้ ขอเอาใจช่วยนะคะ สู้ๆ
ปล.เหมือนแม่คุณจะปันใจไปให้ผู้ชายคนอื่นแล้วค่ะเท่าที่อ่านมาเค้าไม่ได้ทำตัวเป็นแม่ที่ดีเลย แต่ยังไงก็ขอให้ผ่านไปได้นะคะ
เราว่าหาทางเรียนต่อดีมั้ยจขกท. อย่างน้อยคุณก็มีความฝันมีความพยายาม วันนึงต้องไปถึงจุดที่ดีกว่านี้ได้แน่ๆ เป็นกำลังใจให้นะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
พี่เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ พี่ว่าน้องหาทางเรียนต่อดีกว่านะคะหรือเรียนกศน.ก็ได้ค่ะ เก็บเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือจะเรียนมหาลัยเปิดพวกรามฯแบบนี้ก็ได้นะคะ จะได้มีเวลาทำงานหาเลี้ยงตัวเอง หรืแจะขอกู้กยศ.พวกนี้ก็ได้ค่ะถ้าน้องได้เรียนต่อแล้ว ส่วนเรื่องออดิชั่นพี่คิดว่าโอกาสมาถึงแล้วควรคว้าไว้เลยนะคะ ตั้งใจทำให้เต็มที่อย่าคิดว่าเราไม่มีโอกาสเท่าคนอื่นๆ ฝึกเต้นฝึกร้องตามยูทูปไปเลยค่ะ ยังไงพี่ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ สนับสนุนให้น้องเรียนหนังสือและไปออดิชั่นค่ะ
จขกท.ขอทุนของกศน.มาเรียนต่อดีมั้ยคะ แล้วก็ทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย
แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ
ยังไงก็ตาม เราแนะนำให้เจ้าของกระทู้พยายามหาทุนเรียนต่อก่อนค่ะ การเลิกเรียนกลางคันแบบนี้ทำให้หางานได้แคบมาก ในโลกนี้ มีคนที่ไม่ได้เหมาะจะเป็นแม่คนเยอะค่ะ น้องวางตำแหน่งเขาแค่ผู้ให้กำเนิดก็พอ ไม่ต้องสนใจ น้องควรปรึกษาเรื่องทั้งหมดกับพ่อของน้องค่ะ ว่า อยากเรียนต่อพอมีหนทางไหม ในเมื่อแม่ของน้องไม่มีวุฒิภาวะมากพอ น้องก็ต้องเลิกหวังพึ่งพาเขาค่ะ
เรามาให้กำลังใจ เราอยากให้เทอผ่านมันไปให้ได้นะ
ทุกคนก็คงมีเหตุผลของตัวเองแหละเนอะ แม่ก็อาจจะมีเหตุผลบางอย่าง
คือเราก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีนะคะ แต่ก็ส่งกำลังใจให้ตัวเองสู้ๆนะคะ ถ้าห้ามไม่ให้ตัวเองเครียดก็ไม่ได้เพราะมันก็ตั้ง 2 ปีเลย คงกดดันมากๆๆๆๆเลย กอดนะๆๆ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
เป็นแม่ที่แย่มาก ไม่งั้นถ้าไม่รักแล้วเลี้ยงวมาทำไม? ชีวิตคนน่ะ ไม่ได้มีค่ากันได้เท่านี้หรอกนะคะ ถามเลย แม่คิดถึงแค่เครื่องสำอางรึว่าคิดถึงลูก?
ไม่งั้นน่าจะทิ้งลงถังไปแล้ว ลองเจาะลึก แล้วคุยเรื่องพวกที่แม่ชอบ น่าจะช่วยได้ค่ะ
ในสถานการณ์แบบนี้เราว่า จขกท.ต้องดิ้นรนด้วยตัวเองแล้วล่ะครับ เท่าที่อ่านดูคือคุณแม่ไม่ยอมรับฟังเลย จขกท.ลองคุยกับคุณพ่อหรือยังครับ ลองปรึกษาท่านดู ยังไงก็อย่าพึ่งยอมแพ้กับความฝันนะครับ
วันนี้ทำตามฝันไม่ได้ก็รอโอกาสเรื่อยๆทำตัวเราให้พร้อมอยู่เสมอ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นย่อมมีอะไรเป็นประสบการณ์ให้เราคิดเสมอ วันนี้เจอเรื่องแย่ๆวันหน้าเราอาจจะเจอเรื่องดีๆก็ได้ครับ พยายามเข้านะครับจขกท. ยิ้มสู้
#ท้อได้แต่อย่าถอยนะ
ขอบคุณค่ะ
จขกท. สอนการบ้านให้น้องใช่ไหมคะ ลองรับสอนพิเศษดู หรือหางานพิเศษแบบที่คอมเม้นท์อื่นแนะนำ ถ้ามีเวลาลองเรียนรามหรือ มสธ. ไปด้วยนะคะ อนาคตจะได้อัพเงินเดือนหรือหางานที่มั่นคงได้ค่ะ ในส่วนเรื่องที่เครียดนะคะ ถ้าจขกท. ไม่สบายใจ ลองออกจากบ้านหรือหากิจกรรมอย่างอื่นทำ จขกท. ชอบศิลปินเกาหลีใช่มั้ยคะ ลองฟังเพลงหรือตามกิจกรรมที่ศิลปินทำ ก็อาจจะช่วยหันเหความสนใจจากเรื่องเครียดได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ไปทำงานพิเศษ หาตังเรียนเองกศน.ก็ได้ ถ้าเรียนดีก็ลองถามที่โรงเรียนว่ามีทุนมั้ย แล้วลองเรียนต่อสายวิชาชีพไม่ก็มหาวิทยาลัยเอา(พยายามเรียนภาษาอังกฤษให้หนักๆนะงานที่เงินเดือนดีหน่อยใช้ภาษาอังกฤษทั้งนั้น / เดาเอานะพูดง่ายๆเลยเค้าคงไม่ได้รักเราแล้ว
เรื่องออดิชั่นถ้าชอบก็ลองไปดูได้ไม่ก็ไม่เป็นไรเป็นประสบการณ์ชีวิต
ที่สำคัญอย่าติดผู้ชาย/ท้องก่อนนะ หรือติดเที่ยว เวลาช่วงวัยรุ่นจะหายไปเลยนะ
ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำนะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?