เวลาตันหรือรู้สึกท้อมีวิธีจัดการยังไงคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
12 ความคิดเห็น
ก็ ส่วนตัวว่าถ้ายังไปต่อไม่ไหวก็ควรจะพักไว้ก่อน จะพิมพ์บอกแฟนคลับด้วยก็ได้ แล้วก็หาช่วงเวลาผ่อนคลาย นั่งฟังเพลง ดูหนัง ออกไปเดินเล่น เที่ยว นอน(?) หรืออื่นๆ ตามความชอบ ถ้าใจเราปลอดโปร่ง มันจะเป็นผลดีกับทั้งเรื่องนิยายและเรื่องเรียน รวมถึงระหว่างพักผ่อนก็อาจจะมีไอเดียใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาก็ได้ค่ะ ^ ^
ขอบคุณค่ะ ช่วงนี้คงไม่ไหวฮือ
ในเมื่อคิดไม่ออกก็ต้องพัก พอคิดออกแล้วค่อยไปต่อ ^^
กลัวพักแล้วใจอู้ยาวค่ะ555555
เหมือนกันค่ะ ตอนนี้ก็ตันอยู่ แต่เราไม่มีทางเลือกอื่น เพราะไปต่อไม่ได้จริง ๆ เลยต้องพัก ฮา ๆ กลัวจะพักยาว ตอนนี้เลยใช้วิธีกลับไปอ่านแก้ตอนเก่า ๆ ถือเป็นการทวนเนื้อเรื่องไปในตัว แล้วก็อุทิศเวลาที่เหลือทำอย่างอื่นไป ให้ลืม ๆ ไปบ้าง เราอาจเครียดเกินไปก็ได้นะ อาจเหนื่อย มากกว่าท้อ :-)
ขออนุญาต แปะลิงค์กระทู้ตัวเอง--> https://www.dek-d.com/board/view/3850612/
ในนั้นคุณ 'SilverPlus' ตอบ ว่าด้วยเรื่องการพัก...ดีมาก
ขอบคุณค่ะเป็นประโยชน์มากเลย:D
ถ้าตันจริง ๆ พักค่ะ ทำอย่างอื่น แต่บางทีเขียนค้าง ๆ แต่คันขาก็เสียบหูฟังแล้วเดินค่ะ
วิธีนี้ทำบ่อยจนเริ่มเอาไม่อยู่แล้วค่ะTT ขอบคุณนะคะ
นั่งฟังเพลงเยอะๆค่ะฟังคนเดียวร้องคนเดียว เคลิ้มๆเดียวก็คิดออก
ทำบ่อยมากค่ะ555 ขอบคุณน้า
ตามความคิดเห็นส่วนใหญ่ ก็ตามนั้น พักผ่อน ถ้าคุณเป็นคนที่มีเวลาว่าง หรืออย่างน้อยก็มีเวลาซักสองถึงสามชั่วโมง คุณก็อาจจะไปเดินเล่น ดูการ์ตูน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม แล้วแต่
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เวลาว่างค่อนข้างน้อย หรือติดงาน ติดเรียน ก็ควรแบ่งเวลาพัก เวลาเขียน และหาประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเวลา คุณอาจจะเอาเหตุการณ์ที่คุณเจอระหว่างทำงาน หรือเรียนหนังสือมาเป็นไอเดียให้คุณได้
หรือไม่ วิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือนั่งสมาธิ ทำจิตใจให้ปรอดโปร่ง ปล่อยวางสิ่งที่คาใจ และคำตอบมันจะมาหาคุณเอง
ผมก็พึ่งเปิดเทอมมาเหมือนกัน เรียนไม่หนักมาก แต่งานเยอะพอสมควร สิ่งที่ทำได้ก็คือการแบ่งเวลาพักผ่อน แบ่งเวลาทำงาน แบ่งเวลาเขียน ไม่จำเป็นต้องทำเป็นตาราง แต่ทำตัวให้ชินกับมัน แล้วเวลามันจะช่วยพาคุณไปหาคำตอบเอง
เวลารู้สึกท้อ ให้หาอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ เช่น แฟนคลับ ตอนจบแสนแฮปปี้ อะไรก็ตามที่คุณคิดว่า มันอยากให้คุณเขียนต่อ เวลาท้อ ก็จงคิดถึงสิ่งนั้นซะ มันจะพาคุณกลับขึ้นมาเอง
ถ้าคุณหามันไม่ได้ ก็จงหามันต่อไป หาเหตุผลที่เราเขียน หาเหตุผลที่เราอยากจะอธิบายสิ่งที่เราคิด ออกมาเป็นนามธรรม และบรรยายให้คนอ่านเห็นเป็นรูปธรรม ไม่มีคนไหนบนโลก ไม่เคยท้อ คนที่เก่ง ก็ท้อมามากกว่าเป็นสิบ เป็นร้อยรอบ แค่อย่าทำให้ตัวเองถดถอยไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นคุณอาจกลับมาไม่ได้อีก
พอและ แค่นี้แหละ ไม่ได้ตั้งใจจะบรรยายขนาดนี้ ถ้ามันยาวไปก็ขอโทษด้วยนะครับ
แล้วตรูมาโพสต์อะไรตอนห้าทุ่มวะ พรุ่งนี้ต้องไปเช้านี่หว่า บาย
ขอบคุณค่ะ ต้องคิดแง่บวกไว้เนอะ! ฮึบๆ ระวังตื่นสายนะคะ5555
ตันไม่ค่อยมีครับ ส่วนมากจะท้อซะมากกว่า แต่ท้อก็ต้องพยายามเขียนต่อไป กลับไปมองจุดเริ่มต้นที่เริ่มเขียนว่าเขียนเพื่ออะไร แล้วก็พยายามดันทุรังเขียนต่อไปให้มันดีกว่าตอนเก่าๆ
ขอบคุณค่ะ ฮึบๆ
เห็นหลายท่านบอกว่าตันเเล้วให้พัก โดยส่วนตัวเราเเล้วยิ่งพักยิ่งเครียดยิ่งตันไปใหญ่ ฮ่าๆๆ พักหลังเลยเปลี่ยนมาเป็นลองเขียนอะไรอย่างอื่นเเทนไม่ว่าจะเป็นพวกเรื่องสั้นหรืออะไรเเนวๆนี้ อาจไม่ได้ยาวมากเเต่ถ้าวันๆหนึ่งได้เขียนอะไรสักหน่อยก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นค่ะ ถึงส่วนใหญ่จะมาเเนวประชดชีวิต ด่าทุกอย่างที่ขว้าง เเบบระบายอารมณ์เต็มที่ จนไม่กล้าเอาให้ใครอ่านก็เถอะ
ขของเราเป็นแนวฟีลกู๊ด+ตลกค่ะ ต้องคิดดีตลอดเลยฮือ
เรากำลังตันอยู่เช่นกัน เลยพยายามวางพล็อตใหม่ที่เราอินกับมันจริงๆ แล้วก็นั่งเขียนเรื่องสั้นอะไรแบบนี้ค่ะ : )
คิดอยู่เหมือนกันค่ะว่าเราไม่ค่อยอินพล็อตตัวเอง5555 แต่นิยายเรื่องแรกยังไงเราก็ขอแต่งให้จบก่อนดีกว่าแง้ ขอบคุณค่า
พักจนกว่าจะพร้อมค่ะ :D
นั่นสิเนอะ ขอบคุณนะคะ:-)
ก่อนอื่นต้องมาปรับวิธีการคิดก่อน คือเวลาที่คุณรู้สึกตีบตัน เขียนไม่ออก ขอให้มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แสดงว่าทรัพยากรทางความคิดและทรัพยากรในชีวิตยังน้อยอยู่ มันเป็นการเตือนคุณว่าต้องหามาเพิ่ม จะรีชาร์จหรืออะไรก็ว่ากันไป และนี่เป็นเรื่องปรกติสำหรับนักเขียน อาการแบบนี้จะเกิดๆดับๆเป็นช่วงๆ ถ้าคุณคิดจะยึดอาชีพนี้ ก็ต้องหาวิธีจัดการกับมัน
นักเขียนเก่งๆ มีชื่อก้องโลก ส่วนใหญ่ก่อนจะมาเป็นนักเขียน ล้วนฝ่าด่านอรหันต์ ผ่าน
โลก ผ่านชีวิต ผ่านการทำงานกันมาอย่างหลากหลายแทบทั้งนั้น ยกตัวอย่าง เช่น ฮารุกิ มุราคามิ นักเขียนชาวญี่ปุ่นที่ว่ากันว่า มีสิทธิ์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมค่อนข้างแน่ ถ้าไม่ตายไปซะก่อน… กลับไปดูประวัติจะพบว่าเขาเคยทำงานหลากหลาย ขนาดเปิดบาร์เล็กๆในโตเกียวก็เคย และสิ่งเหล่านี้กลายเป็นทรัพยากรชั้นดีเมื่อผันตัวเองมาเป็นนักเขียน
แต่ทรัยากรมากมายขนาดไหน ก็มีวันหมดได้ ถ้าไม่รู้จักถนอมให้ดี ฮารุกิ มุราคามิ ใช้การวิ่งมาราธอนในการชาร์จแบตฯชีวิตของตน นี่เป็นเรื่องที่รู้กันดีในวงการ ขนาดมีการตีพิมพ์บันทึกเมมโมในการวิ่งมาราธอนอันโด่งดัง…ไม่แพ้นิยาย
ลองมองหาอะไรที่จะมาเพิ่มสีสันให้ชีวิตของคุณก่อนดีมั้ย? ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา เดินทางท่องเที่ยว วาดรูป ฯลฯ มองหางานอดิเรกที่สามารถจะอยู่กับคุณไปได้ทั้งชีวิตให้เจอ…ก่อนจะมาเขียนใหม มันอาจจะกลายเป็นอะไรที่ทำให้คุณพบกับความมหัศจรรย์ก็ได้
เห็นด้วยค่ะเราชอบวาดรูปนะมือวาดแต่สมองคิด พูดแล้วก็ไปวาดรูปดีกว่าขอบคุณนะคะ5555
กำลังเป็น ... จะทิ้งหนีก็คงไม่ดีต่อใจ
ตอนนี้พล๊อตเรื่องใหม่มารอเฉยเลย แต่งไป 2-3 ตอนละ
ปัญหาคือกลัวจำอารมณ์เริื่องก่อนไม่ได้ ต้องมานั่งอ่านใหม่
ไง สัญญา ว่าต้องจบ คือต้องจบ
เป้นกำลังใจให้เขียนจบค่า ; )
เหมือนกันเลยค่ะเรื่องนี้ต้องจบให้ได้ฮือ
หมดอารมณ์เครียดเมื่อไหร่ก็เขียนต่อ นั่นแหละวิธีของผม
กลัวจะไม่กลับมานี่สิคะ555
อันนี้แล้วแต่ความฮึดส่วนบุคคลน่ะ55
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?