[คุยเล่น] ทุกท่านคิดยังไงกับกรณีการเนิฟสภาพแวดล้อมในนิยาย
ตั้งกระทู้ใหม่
ในนิยายบ่อยครั้งเวลาที่ตัวเอกไปเกิดใหม่ ไปต่างโลกมักมีส่วนผสมอย่างนึงที่ช่วยดึงให้นิยายดูซาบซ่า... เอ่อ เอาจริงๆ ผมไม่รู้จะเรียกมันว่ายังไงน่ะ หวือหวา? หรือน่าอดสู?
นั่นคือการเนิฟสภาพแวดล้อมในนิยายครับ ที่ผมเรียกเนิฟในที่นี้ก็ราวๆ ลดประสิทธิภาพของอะไรบ้างอย่าง กับสภาพแวดล้อมที่ผมสื่อนั่นก็ราวๆ ความรู้ วิถีชีวิตอะไรแบบนั้นอ่ะครับ ยกตัวอย่างก็ตัวเอกไปต่างโลกแล้วตัวเอกก็ปลูกผักทำแปลงผักที่โลกนั้น และจากนั้นคนในโลกนี้ที่มาเห็นตัวเอกทำแปลกผักก็ทำท่าทาง แบบตื่นเต้นปานกับได้เห็นสิ่ง มหัศจรรย์ เข้าแล้ว นั่นเพราะว่าคนในโลกนี้ไม่เคยปลูกผัก ทำแปลงผักไม่เป็น?!?! (นี่ยกตัวอย่างนะ)
ตามตรงตอนอ่านครั้งแรกผมรู้สึกอะไรแบบที่เรียกกันว่าซาบซ่านะ เพราะอ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเอกมันพิเศษกว่าคนอื่นน่ะ แต่พอเจอบ่อยเข้านานเข้า โมเมนต์นี้มันไม่ต่างจากวลีที่ว่า "กดปัญญาตัวละครอื่นให้โง่เพื่อที่จะทำให้ตัวเอกดูฉลาด" เลยล่ะ
ยามรับส่วนนึงว่าตอนอ่านนิยายผมค่อนข้างซีเรียสรายละเอียดมากเกินไปแต่ว่าพออ่านเจออะไรแบบนี้ทีไรผมก็รู้สึกแบบ
"WTF?! นี่เอ็งไม่รู้จริงๆ ดิ?!"
"เห้ย ไม่เคยคิดได้จริงดิ?!"
"นี่หมู่บ้านเอ็งรอดมาจนถึงตอนนี้ได้ไงฟระ?!?"
"จากยุคกลางเล่นเนิฟไปจนจะเป็นยุคหินแล้วคุณเอ้ย!!"
เนิฟน่ะเนิฟได้แต่บางอย่างน่ะเนิฟแล้วมันแปลกๆ ครับราวๆ โลกนี้ไม่มีมาตรการวัดความยาว น้ำนงน้ำหนักปริมาณ ตรงนี้สงสัยเลยตอนสร้างบ้านคนในโลกนี้ทำยังไงกัน หรือว่าวาดวงเวทย์วางปูนน้ำหินอิฐแล้วแปรธาตุสร้างมาทั้งหลังเลย.. โอเค๊~
แล้วพวกคุณละครับคิดยังไงกับกรณีการเนิฟในนิยาย?
*คุยเล่นนะไม่ดราม่า เหอๆ
10 ความคิดเห็น
เจอในแนวต่างโลกหลังๆบ่อยอะนะ แบบพระเอกที่ไม่มีความรู้ของโลกแฟนตาซีเลย แต่ดันมีทริคพิเศษที่เหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญที่เกิดมาในโลกนั้นแท้ๆอีก แล้วพอพวกผู้เชี่ยวชาญรู้ก็เข้ามาชาบูๆพระเอกง่ายๆ
พวกนี้อ่านแล้วก็อยากจะด่าว่าพวกแกเป็นผู้เชี่ยวชาญแน่เหรอฟะ...
เขาถึงได้บอกว่าจินตนาการกับความรู้ต้องควบคู่ไปพร้อมกันไงครับ
แม้ว่าตาลุง e = mc² จะบอกว่าจินตนาการสำคัญมากก็ตามเถอะ
5555555555555555+
กลายเป็นการตัดความรู้เพื่อทำให้ตัวละครฉลาด เอ๊ะยังไง??
นี่เมนต์ในโทรทัพย์ทำไมกดตอบกลับคอมเมนต์ไม่ได้เนี่ย!
คงได้แต่ทำหน้า =____= แบบนี้ตอนอ่าน - -" และกดปิดไปอย่างเงียบเชียบ
เราไม่ได้อ่านต่างโลกอย่างจริงจังเลยสักเรื่องแฮะ แต่ตอนนี้มีพลอตว่าจะเขียนเกิดใหม่ในเรื่องต่อไป เพียงแต่เนื้อหาก็จะค่อนข้างหนักพอ ๆ กับเรื่องแรกที่เป็นนอกกระแส แน่นอนว่าการเนิฟไม่มีอย่างแน่นอน
คิดว่าคงไม่น่ารุ่งเหมือนเดิมเพราะมันไม่เบาสมองล่ะมั้งนะ 55555555
นิยายจำพวกนี้สำหรับผม ขอบัญญัติคำสุภาษิตใหม่ว่า "แค่ตายก็ได้เป็นอัจฉริยะโลกจารึก"
ถึงท่าน slimeboxลองเล่าพล็อตท่านมาสิผมอยากลองฟังจะได้แสดงความเห็น :3
แต่คุณรู้ไหม เหตุการณ์ทำนองนี้มันกำลังเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน ยกตัวอย่างง่ายๆ ในญี่ปุ่นด้วยความที่เทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ก้าวหน้าสุดๆ อะไรที่เหนื่อยยากลำบากลำบน หุ่นยนต์ทำแทนแทบจะหมดแล้ว ตอนนี้กิจกรรมที่เด็กๆตื่นเต้นสุดๆ ไม่ใช่การเล่นเกมหรือการแข่งขันเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ แต่เป็นการดำนา…ปลูกข้าว เพราะมันกลายเป็นอะไรที่หายาก ไม่รู้จัก ทำไม่เป็น และถ้าไม่อนุรักษ์ไว้ให้ดี จะเหลือแต่เพียงในตำนาน
เพิ่งดูทีวีเมื่อหลายวันก่อน มีการสุ่มสำรวจพบว่าปัจจุบันเด็กประถมของญี่ปุ่น เริ่มมีปัญหากับการเปิดกระป๋องที่ต้องใช้ที่เปิดกระป๋อง พูดง่ายๆคือเปิดไม่เป็น เพราะเกิดมาไม่เคยเจอกระป๋องที่จำเป็นต้องใช้ที่เปิด ถึงมีที่เปิดก็ไม่รู้วิธีใช้ ลองคิดดู…ถ้าอยู่ในสถานการณ์คับขัน จำเป็นต้องเปิดกระป๋องขึ้นมา และคุณเป็นคนเดียวที่รู้วิธีเปิด สามารถโชว์การเปิดกระป๋องแบบชิลๆได้ อะไรจะเกิดขึ้น? คำพูดที่ว่า “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” น่ะ บางครั้งจริงจนน่าตกใจ
คนที่ไม่รู้ คือคนที่น่าสงสารที่สุด ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่น่ากลัวที่สุด เพราะด้วยความไม่รู้ รวมไปถึงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจสามารถทำลายแม้กระทั่งจักรวาลได้เลย…นี่ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่พยายามจะบอกว่า บางทีนิยายที่อ่าน อาจไม่ได้สะท้อนแค่ฝีไม้ลายมือและสติปัญญาของคนแต่ง แต่มันอาจจะรวมไปถึงพวกเราทุกคน การ”เนิฟนิยาย”ที่ดูเหมือนไร้เหตุผล ลึกๆแล้วอาจกำลังสะท้อนความจริงที่น่ากลัวบางอย่างออกมาโดยไม่รู้ตัว…5555
เหมือนเพื่อนเราเลย ไม่รู้จักเม็ดแป้งมันสำปะหลังที่เอาไว้ทำชานมไข่มุก พอมีคนเอามาตื่นเต้นกันใหญ่แล้วชวนกันไปกินดิบ ๆ orz
ก็มันได้แค่นี้ไง
เอาง่ายๆจะอ่านต่อ ก็พกกาว หรือพกบ้อง
อ่านไปซื้ดไปจะได้ไม่เครียด
มันได้แค่นี้แหละครับ
เป็นองค์ประกอบสำคัญของนิยาย
ถ้าอยากให้ตัวเอกฉลาด ก็ต้องทำให้ตัวเอกอยู่เหนือกว่าคนอื่น
คุณลองนึกให้เด็กอายุระดับมัธยม ต้องมาสร้างสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความฉลาดหลักแหลม และยังจะต้องทำให้ตัวเอกฉลาดอยู่เหนือกว่าพวกนี้อีก มันเป็นอะไรที่หินมาก และถ้ามัวแต่เซ็ตโลก ก็ไม่ต้องเขียนอะไรกันแล้ว ผลมันก็เลยออกมาประมาณที่เห็นนั้นแหละ
คล้าย ๆ กับนิยายรักที่ต้องมีตัวร้าย และนิยายผีต้องมีจั๊มสแก นั้นแหละ ทำดีก็ดูดี ทำไม่ดีก็ดูตลกไปเลย
อย่าลืมว่า นิยายมันถูกเขียนโดยคนอายุน้อย ก็เลยอาจจะมีอะไรขัดใจบ้าง
พูดถึงแนวต่างโลกนี่... ถ้าการ์ตูนที่วางแผนมาดีๆ หน่อย มักจะเริ่มจากจุดเริ่มต้นเลยครับ คือก่อนหน้านี้จุดที่พระเอกอยู่ไม่มีอะไรเลย หรือมีก็แค่พื้นๆ ดาดๆ ส่วนใหญ่จะตายวันตายพรุ่งนี้ก็ไม่รู้
พระเอกก็ใช้ภูมิความรู้ ซึ่งไม่ต้องอลังการมากก็แค่ แต่ให้มันเป็นความรู้ที่ทำได้จริง ไม่ว่าจะหลักวิศวกรรม หรือแม้แต่วิชาลูกเสือ รวมกับการเลือกใช้คน
บางทีไม่ต้องเนิร์ฟก็ยังทำให้รู้สึกว่าวิธีคิดอ่านของพระเอกดูเทพได้เลยครับ
แต่มันค่อนข้างยุ่งยากน่ะ นักเขียนประเภทอาหารจานด่วนอาจไม่ถนัด หรือไม่ชอบอะไรแบบนี้ เอาตัวเอกไปลงแล้วใช้วิธีเนิร์ฟเมืองนั้นๆ แทน แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความไม่สมจริงไป
แต่ก็นะ... บางทีก็โทษคนเขียนไม่ได้เหมือนกัน เพราะบ่อยครั้งคนอ่านก็เป็นส่วนสำคัญไม่ค่อยชอบอะไรแบบสมเหตุสมผลที่ต้องใช้เวลาบ้างในการปูเรื่อง จะเอาความเทพท่าเดียวเลย
พอมาเจอกับนักเขียนมือใหม่ใจด่วนด้วยแล้ว ก็มีโอกาสสูงเลยล่ะว่าจะจบที่การโดนเนิร์ฟ เพื่อให้ตัวเอกได้เด่นแบบโดดๆ คนเดียวไป
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?