Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ความรักไม่ผิด แต่ผิดที่เรา

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ ผมชื่อ P
#นี่เป็นกระทู้แรกและอาจจะเป็นกระทู้สุดท้าย
"เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง"
️สาเหตุที่อยากเล่า เพราะอยากให้ท่านผู้อ่านได้นำเรื่องราวของผมไปเป็นข้อคิดและข้อเตือนใจในการใช้ชีวิต
"คนเรามักจะคิดได้เมื่อมันสายไปแล้ว"
เข้าเรื่องกันเลยนะครับ
️ผมกับ A คบกันมา 4 ปี เราสองคนทำงานที่เดียวกัน พักที่เดียวกัน อยู่ด้วยกันเกือบทุกเวลา A เป็นผู้หญิงที่ดีมาก เรียกได้ว่าดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอในฐานะแฟน เรียกได้ว่า เราพร้อมที่จะสร้างครอบครัวด้วยกันแล้ว เราก็ไม่ได้แตกต่างจากคู่รักทั่วไป มีทะเลาะกันบ้าง ตามประสาของคู่รักวัยรุ่น จนมาถึงวันหนึ่งผมมีปัญหาส่วนตัวแต่ผมไม่ยอมพูดให้แฟนผมฟัง (ทุกวันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ผมถึงไม่พูดให้แฟนฟัง) มันเป็นปัญหาของครอบครัวผม เลยไม่อยากให้ใครมารับรู้ด้วย หลังจากที่รู้ผมก็เอาตัวเองกลับเข้าสู่โลกส่วนตัวอีกครั้ง (ผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก) ชอบที่สุดคือการสังสรรค์ เที่ยวบ่อยขึ้น (มันไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย) แต่เรื่องนอกใจตอนนั้นบอกได้เลยว่า "ไม่มี" อารมณ์ ณ เวลานั้นมีแต่ความเบื่อ เบื่อ และก็เบื่อ
️ จนมาถึงวันนี้ วันที่เริ่มต้นเรื่องราวทุกๆอย่าง ที่ทำงาน จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ แน่นอนว่าสายดื่มอย่างผมคงไม่พลาดงานแบบนี้ ทุกคนก็สังสรรค์กันอย่างมีความสุข ตามปกติของงานทั่วไป หลังจากงานเลิกเพื่อนๆพี่ๆ ก็ได้ชวนกันไปเที่ยวต่อที่สถานบันเทิง มีหรือผมจะพลาด แต่แฟนผมนอนรอที่ห้อง ด้วยความเมาของผมและพี่ S เราก็ได้ทำความรู้จักกันในวันนี้ (พี่ S คือ พี่ที่ทำงานด้วยกัน อยู่ฝ่ายเดียวกับผม) หลังจากเที่ยวเสร็จเราก็กลับอพาร์ทเม้นท์นอนห้องใครห้องมัน
️หลังจากคืนนั้น ผมกับพี่ S ก็ได้แอบคุยกันจนเกิดเป็นความสัมพันธ์แบบลับๆ พี่ S ก็รู้่ว่าผมมีแฟน และแฟนผมกับพี่ S ก็รู้จักกันดีด้วย เพราะทำงานที่เดียวกัน พักอพาร์ทเม้นต์เดียวกัน แต่ที่เขายอมคุยกับผมเพราะเขาพึ่งเลิกกับแฟนมา ผมเป็นผู้ชายที่จี้จุดอ่อนผู้หญิงเก่งมาก หลังจากงานเลี้ยงคืนนั้นผ่านไปอีก 7 วัน แฟนผมก็ตัดสินใจ "ขอแยกทางกับผม" โดยให้เหตุผลว่า "ผมเปลี่ยนไป" ผมเปลี่ยนไปจริงๆ (ผมหลงรักพี่ S ตั้งแต่วันแรกที่ได้คุยกัน โดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย) ผมกับแฟนเราตกลงกันว่า "สิ้นเดือนนี้จะแยกกันอยู่และเดินทางใครทางมัน" (แฟนผมยังไม่รู้ว่าผมกับพี่ S แอบคุยกัน และยังไม่มีใครรู้) นี่มันแค่จุดเริ่มต้น
️แต่เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดก็เกิดขึ้น เมื่อแฟนผมตั้งท้อง ลูกของผม (เอาตรงๆนะตอนนั้นผมไม่คิดถึงอะไรเลย ผมคิดแค่ว่าจะบอก พี่ S ยังไงดี) ผมและแฟนก็ได้คุยกันว่าจะบอกเรื่องนี้กับญาติผู้ใหญ่ ส่วนพี่ S ผมก็ได้นัดไปเจอที่ร้านแห่งหนึ่งตอนกลางคืน และได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง (ตอนนี้ผมกับ S เราเริ่มต้นความรักโดยไม่มีเหตุ ไม่มีเงื่อนไขอะไรแล้ว) และเราสองคนตกลงว่า "จะเลิกคุยกัน" เพื่อให้ผมกลับไปรับผิดชอบสิ่งที่ผมทำไว้ ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปด้วยดี ผมกับแฟนเตรียมหาฤกษ์แต่งงาน ปัญหาเดียวที่มีคือ แถวบ้านของแฟนผม ไม่นิยมแต่งงานในช่วงเข้าพรรษา จึงทำให้งานแต่งที่ผมวางแพลนไว้ เตรียมงานไว้ต้องเลื่อนออกไป อยากจะบอกว่าคนที่ช่วยเตรียมอีกคนคือ พี่ S สุดท้ายเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด และผมกับ S ตัดกันยังไงก็ไม่ขาด เราก็กลับมาคุยกันอีกครั้ง แต่รอบนี้คนรอบข้างเรารู้ว่าเราแอบคุยกัน แอบนัดเจอกัน ทุกคนพยายามจับผิด เราทั้งสองคน ใช่ สิ่งที่ผมกับ S กำลังทำมันคือ ความผิด เราทั้งสองคนรู้ เราบอกจะเลิกคุยกันเป็นร้อยครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เราจะทำได้ หลายคนเตือนเรา ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้อง ที่คอยตักเตือนเรา เราฟัง เราคิดตาม แต่เราไม่ทำตาม (ความคิดช่วงนั้นอาจจะเป็นแบบว่า "โลกนี้มีเราแค่สองคน) เรายังแอบคุยกันเรื่อยๆ แอบไปเที่ยวด้วยกัน แอบไปอยู่ด้วยกัน โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาใครเลย จนแฟนผมทนไม่ไหวเขาเก็บของและอุ้มท้องลูกของผม "ย้ายออกจากห้องไป" แต่ผมกับ S ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดความสัมพันธ์ กับกลายเป็นว่ายิ่งห้าม ก็เหมือนยิ่งยุ เราทั้งสองรู้แค่ว่า เรารักกันมากเท่าไหร่ รักด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่สิ่งที่ทำมันผิดเรารู้ แต่เราก็ทำ
สิ่งที่มัดใจผมและทำให้เรารู้ว่า S รักผมมากขนาดไหนนั้น คือคำพูดและแววตาของ S
มันมีไม่กี่คนหรอก ที่กล้าจะทิ้งความสบายเพื่อมารอผู้ชายที่มีพันธะอย่างผม แต่ S เขายอมทำ
️ผมตัดสินใจลาออกจากที่ทำงาน (ตอนนี้ผมกับแฟนที่อุ้มลูกของผมอยู่เราตัดสินใจเลิกกันแล้ว โดยที่ญาติผู้ใหญ่ได้คุยกันแล้ว ปล.เป็นผมเองที่เป็นฝ่ายเลิก) ที่ลาออกจากงานเพราะอยากคุยกับ S ให้มากขึ้น อยากอยู่กับ S ให้มากขึ้น จนผมกับ S ตัดสินใจไปเช่าห้องอยู่ด้วยกันแบบไม่มีใครรู้ เราก็เริมไปไหนมาไหนแบบเปิดเผยมากขึ้น
️ จนมาวันหนึ่งเรื่องราวของผมและS ดูท่าจะจบลง เมื่อแม่ของ S รู้เรื่อง และยื่นคำขาดให้ S เลิกคุยกับผม (แม่ของS คือเจ้าของบริษัทฯที่ผมทำงาน แฟนผมทำงาน และS ทำงานอยู่) ใช่ถูกแล้ว S เป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท และผมกับ S ก็ตกลงกันว่าจะเลิกคุยกันอย่างเด็ดขาด แต่ก็ตามเดิม เราไม่สามารถเลิกคุยกันได้ แม่ของ S ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ S กับผมเลิกคุยกัน แม่ของ S ให้ S ย้ายกลับไปอยู่บ้าน ทำให้ผมและ S เราได้แยกกันอยู่ แต่เราก็ยังแอบเจอกันทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ขอแค่เจอหน้า ขอแค่ได้ยินเสียง แค่ 5 นาที มันก็ทำให้เรามีกำลังใจที่จะสู้และพยายามเพื่อความรักของเราทั้งสองคน
️แม้ทุกๆคนจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเรา แต่เราทั้งสองคนยังเชื่อมั่นว่าสักวันเราจะได้คบกันอย่างเปิดเผย และทุกคนจะรู้ว่าเราสองคนรักกันมากแค่ไหน รักกันมากเพียงใด แม้เราเหนื่อยกับสิ่งที่ทำอยู่มากเพียงใด แต่เมื่อเรามองกลับมาเห็นความรักของเราทั้งสองคนเราก็มีกำลังใจที่จะจับมือกันและกันเพื่อที่จะสู้กับปัญหาและเอาชนะใจทุกคนให้ได้ แต่ผมอาจจะขี้ขลาดเกินไป
️หลังจากที่แม่ของ S ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผมกับ S เลิกคุย เลิกติดต่อกัน คุณคิดว่าแม่ ทำสำเร็จไหม (ไม่ใช่แม่ S คนเดียวที่พยายามกีดกันเรา แม่ผมก็ด้วย ) ลืมบอกไปที่แม่ S รู้เรื่องของผมและ S มาจากจดหมายฉบับ 1 ที่ส่งไปให้แม่ S พร้อมกับข้อความที่เล่าถึงเรื่องราวของผม แฟนผม และ S โดยระบุว่า S ไปแย่งผมมาจากแฟนผม ลงชื่อในจดหมาย ชื่อของแม่ผม ที่อยู่บ้านผม (แต่ผมยังไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือแม่ที่ส่งไป จนทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าใครทำ)
️ หลังจากที่แม่ S พยายามอยู่หลายวิธี รวมทั้งแม่ผมด้วย ก็ไม่ประสบผลสำเร็จซักวิธี จนท่านใช้ไม้ตาย ส่ง S ไปอยู่ต่างประเทศ (เหมือนนิยายใช่มั้ยละ แต่นี่มันเรื่องจริง) S ไม่มีทางเลือกอะไรเลย จึงจำเป็นต้องไป แต่ผมกับ S ยังคุยกันต่อ และมีแพลนว่าผมจะบินตาม S ไป และเราจะสร้างครอบครัวด้วยกันที่นั่น เมื่อผมเสร็จภารกิจที่ไทย (ตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงใครเลย ไม่ได้คิดถึงพ่อ แม่ แฟนเก่า และลูกชายที่พึ่งเกิดขึ้นมาเลย ผมยังไม่เคยเห็นหน้าจริงๆจังๆของลูกด้วยซ้ำ)
️ S ไปอยู่ต่างประเทศได้ประมาณ 1 เดือน คุณเชื่อไหม เขาไปอยู่โดยที่ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเลย ไปหาเพื่อนใหม่หมด เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ S ส่ง Line ผิดแชท ซึ่งเป็นรูปผมกับ S Callvideo และส่งผิดไปแชทแม่ S นี่ คือสิ่งที่ทำให้ความพยายามทั้งหมดที่ ผมกับ S ทำมา เพื่อพิสูจน์ให้ทุกๆคนเห็นว่า เรารักกันมากแค่ไหนนั้น กำลังจะจบลง เมื่อแม่ S เห็นข้อความในแชท พร้อมทั้งยื่นคำขาดให้ S เลือกระหว่าง แม่ของ S กับตัวผม แน่นอนครับ ไม่มีใครจะยอมทิ้งผู้ที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กจนโต ผู้ที่มีบุญคุณทั้งชีวิตของเรา เพื่อมาอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่พึ่งรู้กันแค่ไม่กี่ปีหรอกครับ
️ S จำเป็นต้องตัดผม ผมจำเป็นต้องปล่อย S ในความคิด ณ ตอนนั้น นี่คือวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา ผมไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะทำอะไรเลย เหมือนทุกอย่างในชีวิตมันพังลง ผมหาวิธีที่จะติดต่อ S แต่ผมก็ติดต่อไม่ได้ ผมทรมาน วันๆไม่ทำอะไรเลย เอาแต่กินเหล้า นอนร้องไห้ จนเกือบจะฆ่าตัวตาย (วันนั้นจำได้ว่านอนร้องไห้อยู่แล้วความคิดนำพาให้มือไปจับเชือกเดินเข้าไปในห้องน้ำ ชีวิตเคว้งคว้างมาก กำลังจะผูกเชือกเพื่อปริกวิญญาณตัวเอง แต่มีน้องคนหนึ่งโทรมา และช่วยชีวิตผมไว้ได้ ) หลายคนอาจจะมองว่า "ผมบ้า" แต่ยังมีอีกหลายคนที่เป็นแบบผม คือ "เรารักใครเราไม่เคยเผื่อใจ" ผมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้คุยกับ S แต่ก็ไม่มีทางไหนเลย ผมยอมรับ ผมเข้าใจ แต่ผมทำใจไม่ได้ และไม่มีทางจะทำใจได้
️ส่วนแฟนเก่าและลูกผม ก็ยังใช้ชีวิตปกติ ผมไม่ได้ไปหาลูกเลย ผมไม่พร้อมจริงที่จะเผชิญกับอะไรต่างๆมากมาย
️ผมใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวังอยู่ประมาณ 1 เดือน ก่อนตัดสอนใจที่จะบวชทดแทนคุณพ่อแม่ (อยากหาจุดเปลี่ยนให้กับชีวิต) และสิ่วที่คาดคิดก็เป็นไปตามที่คาดหวัง เมื่อพระพุทธศาสนาช่วยขัดเกลาให้ชีวิตผมดีขึ้น ผมมีสติ ผมมีสมาธิ
️แม้วันนี้ผมยังคิดถึงและรัก S อยู่ แต่ความรักที่ผมมีให้ S ณ ตอนนี้ มันคือความรักที่คอยห่วงใย คอยให้กำลังใจ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใด ไม่ว่าเขาจะอยู่กับใคร ผมขอแค่ให้เขามีความสุขก็เพียงพอแล้ว แต่สิ่งที่จะทำให้ผมสบายใจที่สุดและหยุดคิดถึงเขาได้นั่นก็คือ วันที่เขาได้กลับมาอยู่ที่บ้านของเขา ที่ประเทศไทย กลับมาอยู่กับครอบครัวเขา กลับมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนเดิม
️ส่วนลูกชายกับแฟนเก่าผมยังใช้ชีวิตปกติ ผมไม่อาจจะย้อนกลับไปได้ แต่ไม่มีวันไหนที่ผมจะทิ้งเขา ผมจะคอยห่วงใยเขาอยู่ตรงนี้ ตลอดไป
"ผมทำร้ายคนรอยข้างมามากเพียงพอแล้ว ขอให้ผมเป็นคนสุดท้ายในสังคมนี้ที่กระทำเรื่องแบบนี้ ขอให้เรื่องราวของผมเป็นเรื่องที่คอยเตือนสติทุกๆคน"
️ความรักมันไม่ใช่เรื่องของคนสองคน มันยังมีบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกเยอะ ครอบครัว,พ่อ,แม่, และญาติพี่น้อง
️ความดันทุรังทำให้ผมกับ S ทำผิดพลาด หรืออาจทำลายชีวิตของเราทั้งสองคนไปเลยก็ได้
️ ผมกำลังชดใช้กรรมที่ตัวเองได้กระทำเอาไว้ และการยอมรับผิดทุกๆอย่าง มันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะทำได้
️ผมอยากจะขอโทษทุกๆคนจากใจจริง
️ขอให้ท่านผู้อ่านจงใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีสมาธิ คิดอย่างรอบครอบ
"จบบริบูรณ์"

แสดงความคิดเห็น

>