มาเล่าเรื่องแรงบันดาลใจของนิยายตัวเองกัน

เราเขียนนิยายรักค่ะ ได้แรงบัลดาลใจมากจากเพลงของ Taylor swift ค่ะ เราตีความหมายและร่างคาแรคเตอร์ของพระเอกก่อนจะได้พล็อตนิยายด้วยซ้ำค่ะ 555

เขียนนิยายไปสามเรื่อง

เรื่องแรกเพลง Red ( Loving him is faster than the wind passion than the sin and it's so suddenly.)

เรื่องที่สองเพลง You belong with me. (And you've got a smile that could light up this whole town)

เรื่องสองสาม Wildest Dream (He's so tall and handsome as hell, he's so bad but he does it so well)

ของผมได้แรงบันดาลใจมาจากมังกะ(ที่มาจากนิยายอีกที)เรื่อง Re:Monster ครับ

พระเอกตายแล้วเกิดใหม่เป็นก็อบลิน ที่ต้องพัฒนาตัวเองและเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์

จากตอนแรกเป็นกองทัพก็อบลิน ล่าสุดเป็นกองทัพปีศาจไปละ จากก็อบลินกลายพันธุ์ไปไกลเลย

อ่านไปเหมือนเล่นเกมส์ไป ตัวเอกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จากจุดต่ำสุดไปสู่จุดสูงสุด

คืออ่านแล้วติด.. สนุกมาก ถึงช่วงหลัง ๆ เริ่มจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นก็ตาม เพราะพระเอกเริ่มเก่งเกินไป

ก็เลยแต่งนิยายแนวคล้าย ๆ กัน พระเอกเกิดใหม่ อยู่ในจุดต่ำสุดและต้องพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ

แต่เพื่อความแตกต่าง ผมเลยสร้างโลกขึ้นมาใหม่เองทั้งยวง..

ไม่ใช่แบบโลกแฟนตาซีที่มีก็อบลิน เอลฟ์.. สิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อมจินตนาการเองใหม่หมด..

สนุกสุดคือตอนเปรียบเทียบสภาพพระเอกในตอนแรกกับตอนล่าสุด..

ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์ในอนาคตแล้วยิ่ง Hype ไปใหญ่(Hype นิยายตัวเอง!?)

(แถมให้ วิวัฒนาการของตัวละครหลักเทียบจากปก ปล.ภาพปกวาดเอง)

เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าถ้าเกิดเขียนไปถึงตอนจบแล้ว พระเอกเราจะไปไกลขนาดไหน?

เราได้แรงบันดาลใจมาจากหลายๆเรื่องเลยค่ะ ทั้งจากเพลง จากการ์ตูน จากหนัง จากชีวิตจริง รูปภาพ หรือแม้แต่จากประโยคพูดเพียงแค่ประโยคเดียวของใครบางคนจากชีวิตจริงหรือเพลงก็ทำให้เราเขียนนิยายได้เรื่องนึงแล้ว555555

ตอนนี้เรากำลังเขียน OS อยู่ค่ะ แล้วแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้เป็นประโยคๆเดียวที่มาจากเพลงที่เราชอบมาค่ะ มันคือประโยค "You're an -, but I love you." ของเพลง True Love ที่ P!nk ร้องค่ะ มันอาจจะหยาบๆหน่อยนะคะ55555

พูดง่ายๆก็คือเราสามารถคิดพล็อตนิยายหรือได้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราะหรือสิ่งรอบๆตัวเราค่ะ เรายังดคยเอาเรื่องที่เราฝันมาเขียนเป็นนิยาย555555

แรงบรรดาลใจจากการ์ตูนส่วนหนึ่ง แล้วก็จากเกมส์ที่เคยเล่นสมัยเด็ก จากบุคคลที่ชอบ เช่น ครูอาจารย์ เพื่อน ดารา แล้วเอามาผสมผสานกับเหตุการณ์ประเด็นสังคมแบบต่างๆ ประมาณเป็นคนดีที่ฝ่าฟันสิ่งฟอนเฟะในสังคม เช่น ค่านิยมแย่ๆในเรื่องต่างๆ การแก่งแย่ง ความเห็นแก่ตัว การเลือกปฏิบัติ

นิยายพวกแนว Fantasy เกมออนไลน์ และกำลังภายใน พวกนี้ครับ

พอดีได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายเกมออนไลน์เรื่องที่พระเอกเป็นเชฟแล้วข้ามมาโลกกำลังภายในอ่ะครับ ^_^

ผมเขียนนิยายเเนวสงคราม เเละการเมือง อาจจะมีรักดราม่าปนหน่อย

ได้เเรงบรรดาลใจมาจากนิยายญี่ปุ่นครับ ส่วนตัวคิดว่าเวลาใช้สมองเเล้วมันเครียดดี เป็นคนชอบเขียนนิยายเเนวเครียด ๆ ตลก ๆ กาว ๆ เเต่ตัวเองไม่ถนัดดราม่าคอมเมดี้เลยมาเขียนการเมืองเเทน

จากเกม Devil Summoner ครับ ตอนแรกกะจะเอาภาคที่ลง sega saturn มาเล่น เพราะจะเอามาเก็บเป็น Ref แต่สุดท้ายหาแบบแปลอิงไม่ได้ ก็เลยต้องเก็บ ref จากภาค Raidou Kuzunoha มาแทน รวมกับ ref จากเรื่อง มาสค์ไรเดอร์ ดับเบิ้ล ที่มาธีมเดียวกันด้วยตัวเอกเลยมาแนวๆ Half-Boiled ไม่ได้ใจแข็งแบบ Hard Boiled ส่วนมอนในเรื่องส่วนมากก็ได้ ref จากมอนในเกม Devil Summoner ด้วย

โอ้..เพลงอะไรเอ่ย? ใครคือคนประพันธ์ครับ? ใครหรือจึงแจ้งฟ้ากระจ่างดินจนสามารถใช้คำร้อง

เพียงไม่กี่ท่อน ผสานกับท่วงทำนองดนตรีและเสียงขับร้องซึ่งคงยาวเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถ

ดลบันให้ผู้ฟังตรัสรู้ได้แล้ว เขาคือใครรีบบอกมาอย่าตระหนีขี้งกหรือพูดปด โกหกตกนรกนะ555

ผมเป็นคนที่ชอบเล่นเกมJRPGมากซึ่งแต่ละเกมนั้นล้วนเป็นFamtasyทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพวกเกมตระกูล Tales of ,Super robot wars ,เกมของRPGจากfalcom พวกYS และ Kisekiซี่รี่ส์ หรือพวกดังๆอย่าง Persona ก็ตามเล่นมาทุกภาคจนภาค 5(ล่าสุด)

คือเราเล่นแล้วก็เสพย์เนื้อเรื่่องไปด้วย บางเกมท่มันไม่มีภาคENGทำออกมาผมก็จะดันด้นไปหาRedditที่ชาวเน็ทเขาใช้คุยกันถึงหัวข้อเกมนั้นๆอ่านเอา บางเกมขาดแคลนแม้แต่ฝรั่งยังเมินผมก็จะถือดิกชั่นนารีไทย-ญี่ปุ่นนั่งอ่านตามถูกบ้างผิดบ้างก็ว่ากันไป

ผมเคยได้ติดตามเบื้องหลังการทำเกมJRPGอยู่ก็ทำให้รู้ว่าใส่ส่วนของเนื้อหานี่เขาก็จ้างเขียนนิยายกันนี่แหล่ะมาเป็นเล่มเลย บางทีมมีคนเขียนบทอยู่แล้วก็จะเขียนบทไปก่อนและค่อยส่งให้โปรดิวเซอร์เขาพิจารณา

บางครั้งตัวส่วนนิยายที่เขาเขียนขึ้นมันดีเนี่ย หลังจากเกมส์ออกหรือเกมส์ออกไม่นานก็จะมีการจัดทำOffical Guide book โดยมีการแทรกในส่วนของนิยายเข้าไปด้วย บางเกมทีเนื้อหาดีมากจริงๆอาจมีโนเวลที่เป็นสปินออฟเป็นของตนเอง

เกมVisual Novel ผมก็เคยติดอยู่ช่วงหนึ่ง อันนี้ตรงตัวเลยเอามาจากนิยายไลท์โนเวลและดัดแปลงให้เข้ากันกับเกม แต่ก็เล่นได้ไม่นานก็เบื่อเพราะไม่ค่อยมีอะไรให้ทำนอกจากอ่านบทสนทนาเลือกหัวข้อ บางเกมดีหน่อยมีมินิเกมให้ก็เล่นๆมันไป สรุปไม่ตรงสเปคเลยไม่ได้ติดตามสายนี้แต่นั้นมา

นั่นหล่ะครับแรงบันดาลใจทั้งหมด

ของเราได้แรงบันดาลมาจากโคนัน นิยายเรื่องนางชฎาของภาคินัย กับหนังเรื่อง Final Destination ทั้ง 5 ภาค +หนังในจักรวาลของ The Conjuring ค่ะ ส่วนใหญ่จะออกเป็นแนวลี้ลับ เหนือธรรมชาติ เน้นเรื่องความเชื่อในเรื่องภูติผีปีศาจค่ะ เช่น Bloody Mary เขียนๆแต่งๆไปบางทีเก็บเอาไปฝันไปหลอนเอง 5555

ได้แรงบันดาลใจจากฟิคที่ชอบทำให้ดัมเบิลดอร์และกรินเดลวัลด์เป็นตัวร้ายค่ะ

ก็จริงอยู่ว่าตามนิยายคนหลังนี่ร้ายจริง(และสำนึกผิดแล้ว) อันนี้อ่านแล้วไม่ขัด แต่คนแรกนี่โดนบ่อยมาก 55555+ สงสาร

ทีนี้ก็เลยแต่งแบบจับพลัดจับผลูเอาให้ในเรื่องไม่มีตัวที่ร้ายจนน่าฆ่าทิ้งเลยสักคนในฟิคตัวเอง ฮาาา

ใช่ค่ะ อยู่สมาคมเอ็นดูตัวร้ายทุกตัว(เว้นป้าอัมบริดจ์และล็อกฮาร์ต)

เราได้แรงบันดาลใจมาจากการขี้เกียจอ่านหนังสือสอบของตัวเองค่ะ 555555

เวลาอ่านแล้วก็มักจะจำไม่ได้ เลยคิดเล่นๆว่าทำยังไงดี คิดไปคิดมา ก็กลายมาเป็นนิยายในปัจจุบันเนี่ยแหละค่ะ

ปล. ง่ายๆคือ ความขี้เกียจเป็นเหตุ 55555

เริ่มเขียนจริงๆเพราะการดูซีรีส์วายและอ่านนิยายวายที่นำมาทำเป็นซีรีส์ครับ
แต่ที่พีคจริงๆคือ นิยาย Blue Kiss ของคุณโอ๋ Hideko_Sunshine ครับ ผมชอบมาก รักหมดใจเลย
ผมจึงอยากจะเขียนให้ได้สักเศษเสี้ยวของเขาบ้าง
ก็เลยเริ่มเขียนแฟนฟิคเรื่องสั้นจากนั้นก็พัฒนาเป็นนิยายแฟนฟิค
จนสุดท้ายก็เริ่มเขียนนิยายวายเป็นของตัวเองแล้วครับ แต่เท่าที่สังเกตดูหนทางคงจะอีกยากลำบากน่าดู
กว่าเราจะเขียนจนเริ่มลงตัว ไหนจะเขียนจนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอีกก็คงต้องใช้เวลาอีกยาวนาน...

ที่ได้มาเต็มๆเลยก็จากซีรี่ Monogatari ของ Nishio Ishin เป็นอนิเมะเรื่องแรกที่ผมดูแล้วจำชื่อตัวละครได้ครบทุกตัวชอบมากกกกก คาแรคเตอร์แต่ละตัวมีเอกลักษณ์สุดๆ แถมเนื้อหาเนียนแทรกปรัชญามาในการเล่นคำ บางคำพูดก็ประทับใจจนยึดเป็นฮีโร่ไปเลยอย่าง "เราไม่ต้องเปลี่ยนโลกหรอก แค่เป็นเรื่องราวของชีวิตคนคนนึงได้มันก็คือโลกทั้งใบของเขาแล้ว" หล่อโคตร!

แถมเนื้อหาแต่ละตอนส่วนตัวเดาทางไม่ออกเลยสักนิด สิ่งที่ผมเห็นในงานเขาคือชอบเอาความ 'ธรรมดา' มาทำให้มัน 'ไม่ธรรมดา' เอาตัวละครน่ารักๆมาบังหน้าแล้วเนียนสอนเรื่องดีๆไว้เบื้องหลัง หลอกให้เหล่าหื่น(?)กลายเป็นคนใจหล่อไปแบบเนียนๆ อีกทั้งโลลิเยอะดี... (อ้าวตูก็หื่นนี่หว่า)

ส่วนตัวไม่คอยชอบการ์ตูนแนวตีกันสักเท่าไหร่ อย่างแนวดราก้อนบอลกับวันพีช ยกเว้นนารูโตะ เพราะตอนเด็กๆเพื่อนแม่มดูเรื่องพวกนี้แล้วชอบเอามาเล่นกับผม ล่อซะน้วม (นารูโต๊ะมันเลียนแบบเวลากระโดดหายตัวมาต่อยไม่ได้) เลยพลอยเกลียดแนวตีกันไปซะอย่างนั้น

ป.ล. monster farm ของ จขกท. ก็ด้วยนะเมื่อก่อนชอบมาก แต่เพื่อนแม่มชอบร้อง "พายุหมุนโกเล็ม!!" แล้วหมุนตัวชกผมประจำ (จำฝังใจเลยอันนี้ 555+)

ผมได้แรงบันดาลมาจากที่คน หักอกผม555

เพราะว่าเป็นคนชอบนิยายแฟนตาซีฮาๆแบบ Grimoir of Zero และ Konosuba และชอบอ่านนิยายวาย แต่เหมือนสองอย่างนี้เข้ากันไม่ได้และไม่ค่อยมีคนแต่ง เลยต้องลองทำดูเอง

แรงบันดาลใจเกิดจากความงกของเราค่ะ

เรื่องก็คือ เราเริ่มอ่านนิยายตอนแรกๆก็ตอน ป.3-4 นี่แหละ ตอนนั้นชอบอ่านแนววัยรุ่น น่ารักๆ ฮาๆ นิยายเล่มแรกที่เราอ่านคือเราติดมากกก แต่! นิยายเรื่องนั้นมีภาคต่อ! ซึ่งมีภาคต่ออีกสี่ภาค..ซึ่งมันค้างมากกก ตอนนั้นเราเป็นเด็กอยู่ไง ยังไม่มีตังค์เก็บ จะขอพ่อแม่ก็ยังไงไม่รู้ >0< เราเลยคิดว่า แต่งมันเอาซะเลยเซ่! เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง55 ซึ่งต้นฉบับเรื่องนั้นฮาๆ น่ารักๆ ใสๆ

แต่ที่เรามาแต่งเองรู้สึกแต่งได้ตรงข้ามมากกก!!! เพราะเราแต่งได้ดาร์คสุดๆ หยาบหลุดโลก และมึนโคตรๆ

ซึ่งเราเริ่มแต่งตอน ป.6 ตอนนี้ก็อยู่ม.ต้นแล้วก็ยังแต่งไม่จบซักที555 แต่ก็ไม่คิดจะทิ้งอะนะ