ระหว่างเขียนนิยายนอกกระแสกับนิยายแนวตลาดจะเลือกทางไหนกันดี
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่อุปสรรคใหญ่ของการทำนิยายให้ผ่าน สนพ. คงเป็น การวาง plot ที่สดใหม่ สลับซับซ้อน เข้มข้น เผ็ดมันส์ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคงต้องมาดูว่าหนังสือของเรามันจะเป็นแนวตลาดของ สนพ. นั้นหรือเปล่า
ตลาดหนังสือคงเริ่มยาก หากไม่ตรงแนวความต้องการของ สนพ. และตลาดของนักอ่าน
โลกของ สนพ. มันยากยิ่งหนัก ตอนนี้ไรท์ไม่ได้ท้อแต่ยิ่งต้องพยายามฝีมือกันต่อไป แต่คงไปขาย EBOOK แทนไปก่อน อย่างน้อยโลกยุคสมัยนี้ยังมีทางออกให้นักเขียนหน้าใหม่เลือกหนทางเดินอยู่ดี
ถ้าอยากผ่านพิจารณาคงต้องเขียนนิยายให้ตรงความต้องการของตลาด
แต่ว่าในฐานะนักเขียนยังคงขอเขียนนิยายตามแนวทางของตัวเองต่อไปอยู่ดี
แชร์ให้กำลังนักเขียนที่อยากลองส่งไปให้ สนพ. นะคะ
ขอให้โชคดีกันนะคะ
Glory Glacier
14 ความคิดเห็น
กำลังเขียนนิยายตามใจตัวเองอยู่ค่ะ ไม่รู้ว่านอกกระแสมั้ยหรือบางทีอาจจะอยู่ในแนวตลาดอยู่
แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะผ่านมาตรฐานสำนักพิมพ์เหมือนกัน
ก็อยากมีหนังสือวางบนแผงในร้านใหญ่ ๆ นะคะ แต่ก็ยังไม่อยากถอยห่างจากจุดยืนและความตั้งใจในตอนนี้
มันยากตรงที่รู้ว่าควรทำยังไง แต่ก็ไม่อยากทำแบบนั้น
เข้าใจในมุมมองของสำนักพิมพ์และก็เข้าใจในมุมของตัวเองเหมือนกัน
สุดท้าย ก็อยากเป็นกำลังใจให้คุณจขกท.นะคะ ขอให้ e-book ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าค่ะ
ขอบคุณนะคะ
มุมมองของมือใหม่ ผมขอไม่เลือกทั้งสองหัวข้อ แต่สำหรับ จขกท. คงผ่านอะไรมาเยอะแล้ว จึงได้เลือกที่จะลองออกสู่ท้องตลาด ผมขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ***** vvv ความคิดเห็นส่วนตัว vvv *****
นิยายนอกกระแส มีอยู่เยอะมากขึ้นทุกวัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะไม่ซ้ำจำเจกับของคนที่เคยเขียนมาก่อน
แนวตลาด ช่วงนี้ก็มาทาง E sport เป็นหลัก
กว่าจะถึงยุคของการเดินเนื้อเรื่องอย่างอิสระอีกครั้ง ก็จนกว่าโลกนี้จะคล้ายๆกับ sao นั้นแหละครับ การตอบรับนิยาย อาจจะไม่ใช่แนวการ์ตูนอีกต่อไป
แต่มันอาจจะเป็นการเดินเรื่อง ที่คนอ่านอาจจจะได้เดินเรื่องด้วยตัวเองเป็นหลักซะมากกว่า นี้เป็นเพียงความคิดเห็นของ พวกบ้าการ์ตูน และบ้าเกมส์ ผสมพันธ์กันนะครับ <<..ผมนี้แหละไม่ใช่ใครหรอก
ขอไม่เลือกทั้งสองอย่างค่ะ เพราะชอบแต่งตามใจตัวเอง
ป.ล.ขอให้ E-book ขายดี สู้ ๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ถ้าจะตอบแบบครอบคลุม ก็ต้องบอกว่า นิยายที่ขายได้ มีสิทธิ์ที่จะได้รับการตีพิมพ์มากกว่า
แม้จะนอกกระแส แต่ถ้ามันขายได้ สำนักพิมพ์เขาก็พิมพ์ครับ
แต่อายคำว่าขายได้นี้แหละที่เป็นปัญหา มันซับซ้อน บางเรื่องที่เป็นกระแสขายไม่ได้ก็มีนะะจะบอกให้ แต่บางเรื่องที่นอกกระแส อาจขายดีขึ้นมาก็ได้ อาจเพราะมันใหม่ น่าซื้อ หรือเพราะนักเขียนดัง ทั้งหมดก็ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้นิยายขายได้ทั้งสิ้น
ถ้านักเขียนมีชื่อที่คอหนังสือคุ้นหู แม้เขียนนอกกระแสมีก็โอกาสได้ตีพิมพ์สูงเช่นกันครับ
และบางกรณี บก. บางคนอาจเกิดไอเดียบางอย่าง ต้องการปลุกกระแสใหม่ขึ้นมา นิยายนอกกระแสของเราอาจเป็นเรือธงของเขาก็ได้
เอาเป็นว่า ถ้าคุณคิดจะต้องการตีพิมพ์อย่างเร็ว ๆ ก็ให้ตามกระแสลมจะดีที่สุดคับ เวลาในการเขียนมันน้อยนะ พอเราโตขึ้นจนวัยเรียนสูง หรือวัยทำงาน เราก็จะไม่เขียนกันแล้วละ ตอนนี้อยากทำอะไร ให้ทำตามเป้าหมายไปเลย
ระหว่างเขียนนิยายนอกกระแสกับนิยายแนวตลาดจะเลือกทางไหนกันดี?
ผมว่าคิดไปก็เหนื่อยเปล่า... แต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียมากมายตามที่จะว่างกันมาเติมคำตอบ บางคนก็หนักถึงขั้นเหยียดหยามความพยายามและความสุขของนักเขียนกันไปเลยก็เคยเห็น
เป็นผมคงถามแค่ว่า 'สนุกกับมันหรือเปล่า?' เพราะไม่ว่าจะเรื่องไหนแนวไหน ถ้าคนเขียนเองไม่สนุก ผมก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าคนอ่านจะไปสนุกได้ยังไง...
มันเหมือนโดนถามว่า "ถ้าคุณรักใครสักคนแต่เพิ่งมารู้ว่าเขาไม่เป็นที่นิยมในสายตาคนอื่น และเลี้ยงดูคุณไม่ได้ด้วย... คุณจะยังรักเขาอยู่ไหม?"
บางทีเราก็แค่ยังไม่เจอที่ของตัวเอง...
สำหรับเราแล้ว e-book ดูจะคอบโจทย์เราที่สุดค่ะ เพราะเราเขียนแนวที่ไม่ใช่แนวนิยม ไม่ใช่ทั้งแนวตลาด นอกหรือในกระแส แถมไม่เหมาะกับสายสุขนิยม
เมื่อเช้าเพิ่งได้เมนท์มาจาก one shot ที่ลงเพจรายวันเฉพาะอาทิตย์นี้มาว่า กระดกยาบำรุงตับด้วยมืออันสั่นเทาเลยค่ะ
เราตอบไปว่า คู่นี้ทำให้เราเข้าใจว่า อ่านจบด้วยรอยยิ้มปริ่มน้ำตาเป็นอย่างไร
เลยได้คำใหม่มาจากนักอ่านค่ะว่า เป็นนักวางเพลิงเผาทุ่งลาเวนเดอร์
ซึ่งดูแล้วนิยายเราจะได้ตีพิมพ์คงยาก ไม่ว่าจะเป็นการตีพิมพ์กับสนพ. หรือทำมือ ฐานผู้อ่านยังไม่มากขนาดนั้น
อย่างไรก็ขอให้ e-book ขายดีนะคะ
ระหว่างเขียนนิยายนอกกระแสกับนิยายแนวตลาดจะเลือกทางไหนกันดี
สวัสดีค่ะ
เป็นประเด็นซึ่งมีหัวข้อดีๆค่ะ
ก่อนอื่น เจ้าของเม้นต์เป็นนักเรียนหัดเขียน....นะคะ คือเป็นนักเขียนหน้าใหม่...คือเป็นนักเขียนใหม่ก็ยังไม่มีโอกาสเป็นนั้นเองค่ะ(การหัดเขียนเกิดเป็นล้มเหลว ที่จะหัดเขียน เพราะความขี้เกี้ยจนั้นเองค่ะ ฮื้ออ) ทั้งนี้คือยังไม่มีผลงานการจากฝึกหัดเขียน...แต่อย่างใดค่ะ
ด้วยความที่ตนไม่ใช่นักเขียนนี้ อาจจะไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับงานเขียนนิยาย
เพราะฉะนั้นเม้นต์นี้ ขออนุญาตตอบ เป็นการเม้นต์...เกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานะปัจจุบัน...ของการเกิดขึ้นและเป็นไป...ของสำนักพิมพ์ต่างๆ และแนวต่างๆของนิยายนะคะ
(คืออยากสนทนาในเหตุการณ์ที่คุณยกมานี้ค่ะ คือรู้สึกว่านำมาคุย นำมาสนทนา หรือนำมาเป็นหัวข้อบ้าง...เพื่อที่จะทำให้เกิดการเห็นได้ชัดเจนขึ้น...นั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดีค่ะ)
อนึ่ง...เรื่องของสำนักพิมพ์...นะคะ
จากข้อความดังที่คุณบอกมาว่า...
แต่อุปสรรคใหญ่ของการทำนิยายให้ผ่าน สนพ. คงเป็น การวาง plot ที่สดใหม่ สลับซับซ้อน เข้มข้น เผ็ดมันส์ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคงต้องมาดูว่าหนังสือของเรามันจะเป็นแนวตลาดของ สนพ. นั้นหรือเปล่า
คืออ่านตรงนี้แล้วนะคะ ต้องหยุด และกลั้นหายใจไปสองสามอึดใจ และต้องปล่อยออกชนิดยาวๆ และลึกๆอยู่นานพอดู และต้องอ่าน...ข้อความของคุณซํ้าๆ อยู่หลายรอบเลยด้วยค่ะ
(คืออ่านเหตุการณ์แล้วนะคะรู้สึกอึดอัด และอัดอั้นเลยด้วยค่ะ)
สาเหตุที่รู้สึก และเกิดเป็นอาการเช่นนี้น่าจะมาจากความรู้สึกที่ว่า...เป็นความจริงหรือนี่...????ที่ว่าสำนักพิมพ์ต่างๆของเมืองไทยไม่ยอมที่จะขยับตัว ไม่กล้าก้าวออกไปข้างหน้า หรือไม่กล้าทำ... หรือไม่กล้าที่จะตีพิมพ์...เรื่องราวที่อาจจะนอกกระแส...หรือเรื่องราวซึ่งอาจจะแตกต่างจากที่เขาทั้งหลายเคยสร้างเป็นรูปแบบ...นิยายในแนวซึ่งเป็นวัฒนธรรม เป็นรูปแบบเดิมๆ เป็นลักษณะนิยายซึ่งเขาเคยกระทำมา...
คือจริงหรือนี่??? ที่สำนักพิมพ์ที่เมืองไทยทั้งหลายไม่กล้าที่จะลองของใหม่ๆ???
หากเป็นเช่นนี้...จริงนะคะ สำนักพิมพ์ทั้งหลายเองจะเกิดการพัฒนา...ได้อย่างไรกัน???
คือคิดแล้วใจหาย...หากเป็นความจริงนะคะ
คือเมื่อสำนักพิมพ์ไม่กล้าเดินหน้า ไม่ยอมลองตีพิมพ์เรื่องราวในแนวใหม่ๆ ไม่ยอมพัฒนา...แล้วสื่อ...ในการอ่าน ที่นักอ่าน...ซึ่งเกิดจะเกิดการพัฒนา...จากการอ่าน จะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน???เนาะ
อ่านที่คุณยกมานี้...แล้วใจหายค่ะ
(หรือว่าอาจจะจริง เพราะหลายสิ่งหลายอย่าง...ดูจะไม่ยอมพัฒนา คือดูจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจริงด้วยสินะ)
เพราะจริงแล้วสื่อการอ่าน...หรือสิ่งตีพิมพ์นั้นสำคัญยิ่ง...ต่อสังคมนะ
หรือแม้การดู(เช่นการดูละคร โดยเฉพาะที่เมืองไทยนะคะ ละครไทยนะ ดูจะมีอิทธิพลมากๆต่อสังคม เพราะคนทุกรุ่น ทุกวัยดูละคร...รู้สึกว่าการดูละครหลังข่าว เป็นการพักผ่อน หย่อนใจ หลังวันที่ยาวนานของเขา การดูละครหลังข่าวดูจะเป็นวัฒนธรรมของคนไทยเลยด้วย และเมื่อเขาทั้งหลายดูแล้วเขาก็คิดตาม เขาก็ทำตาม...คือหากละครเป็นเรื่องราวที่มีการพัฒนา...ในเรื่องของความแปลกใหม่บ้าง คงจะเป็นอะไรที่เยี่ยมมากๆจริงนะคะ)
และก็ใช่สินะ หากเรื่องราวนอกกระแส...จะเป็นเรื่องที่นำความก้าวหน้า นำความแตกต่างจากการคิด วิธีคิดแบบเดิมๆมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลง...ซึ่งแน่นอนจะเกิดเป็นนิยายนอกกระแส...หากมีการตีพิมพ์ออกมา และนำมาทำเป็นหนัง เป็นละคร...นั้นแน่นอนจะเป็นการพัฒนาสังสมโดยตรง...เลยด้วย
และแน่นอนด้วยหล่ะว่า...จะเกิดเป็นผลงานของสำนักพิมพ์...ผู้ที่ริเริ่ม ผู้ที่กล้าบุกเบิกที่จะพาสัมคมก้าวผ่าน...สิ่งเก่าๆ หรือแบบเดิมๆได้แบบง่ายดาย(และสิ่งที่เขาจะได้รับนั้นแน่นอนว่าน่าจะคุ้มมากมาย...ด้วยค่ะ)
แต่นี่...เป็นเพราะอะไร???สำนักพิมพ์จึงไม่กล้าที่จะคิด...และไม่กล้าทำแบบนั้นนะ
เพราะเชื่อว่าหากทำจริง...นะ จะเป็นผลดีอย่างแน่นอนค่ะ
เป็นเพราะอะไรเขาทั้งหลายจึงไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำนะ
ทั้งหมดนั้น...เป็นความรู้สึกกังขา...ที่มีต่อสำนักพิมพ์ค่ะ
อยากให้เจ้าของสำนักพิมพ์ทั้งหลายมาอ่านกระทู้นี้...และเข้ามาช่วยตอบ...ความสงสัยให้ด้วยน่าจะดีนะ
และอยากให้เขาทั้งหลาย...มาอ่านๆนิยายที่เด็กดีนี้...แล้ว เขาทั้งหลายจะรู้ว่าที่นี่คือขุมสมบัติ555
(ซึ่งนักล่าขุมสมบัติหลายคนอาจจะยังไม่รู้นะ)
หากเขากล้า...นะ นิยายหลายเรื่อง...ที่นี่ สามารถทำเงินได้มากมายเลย
(หากถูกตีพิมพ์ หรือถูกนำไปสร้างเป็นหนัง หรือเป็นละครนะ สามารถปัง...ขึ้นมาได้ คือนิยายมีพล็อตดีๆนั้นมีอยู่หลายๆเรือง)
เพราะจากที่ไล่ๆอ่านมีนิยายมากมาย...หลายๆเรื่อง ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาจากจินตนาการที่แปลกใหม่...ตามยุค และสมัย หรือจากมุมมมองของคนยุคใหม่...หรือจากคนรุ่นเก่าก็ตามที...ซึ่งเขาหลายๆคนได้เรียบเรียบและจรรโลงมันให้เป็นเรื่องราวแบบลงตัว...คือทั้งหมดนี้...คือนิยายนอกกระแสนั้นเอง ซึ่งมีอยู่จริงนะคะ ในเด็กดีนี้
อยากจะให้เด็กดีนี้เกิดเป็นตลาดนิยาย...ตลาดแห่งความบันเทิงซึ่งมีการพัฒนาโดยผ่านการอ่าน การเขียน ที่แท้จริงที่หลายๆสำนักพิมพ์ (หรือแม้ผู้ที่จะกล้าสร้าง กล้าทำ หนัง หรือละคร หรือแม้สปอนเซ่อร์) ผู้กล้าทั้งหลาย หรือนักรักอ่านทั้งหลาย...รู้ว่า มีตัวเลือก...มากมายเลยที่นี่
(เหตุเช่นนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่นะ ขอให้เกิดขึ้นจริงเถิดน๊าาา สาธุ)
และอีกเรื่อง...ซึ่งเป็นประเด็นของคุณนนะคะ นั้นคือ...
ถ้าอยากผ่านพิจารณาคงต้องเขียนนิยายให้ตรงความต้องการของตลาด
แต่ว่าในฐานะนักเขียนยังคงขอเขียนนิยายตามแนวทางของตัวเองต่อไปอยู่ดี
ส่วนตัวแล้ว...การเขียนนิยายนอกกระแส...ของนักเขียน ทั้งนักเขียนหัดใหม่ หรือมืออาชีพ...เจ้าของเม้นต์รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ดูจะเป็นผลงานของผู้กล้า...ค่ะ ผู้กล้าในที่นี้คือกล้าคิด กล้าเขียน กล้าทำ
แม้ว่าพล็อต ไอเดีย จินตนาการที่ดูจะแปลกใหม่ หากตราบใดที่เรื่องราวทั้งหลายนั้น...ยังมีคงคุณธรรม ศีลธรรม มีปมแห่งความผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดี ให้เห็น ให้มีอยู่เป็นแบ็คกราวน์ได้นะคะ เจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจว่าเป็นอะไรที่เยี่ยมมาก...จากการเสร้างเสริม และสร้างสรรค์ พัฒนาการเขียน ของนักเขียนค่ะ
เพราะนั้น...เป็นการริเริ่มการพัฒนา...โดยตรงจากนักเขียน...ผ่านผลงานของเขาสู่สังคมนะคะ
การพัฒนา...เป็นอะไรที่สำคัญยิ่ง...ที่จะต้องทำให้เกิดขึ้น...และให้มันเป็นไปในทุกๆสังคมนะคะ
การพัฒนาจะหยุดไม่ได้นะคะ
หยุดเมื่อไรนะคะ เราจะล้าหลัง และจมลง หรือตกอยู่ในสลัมแห่งความอับเฉา และอับจน ทั้งความคิด สติปัญญา และทรัพย์สินเงินทอง...และที่แน่ๆเราจะเกิดเป็นตัวประหลาดต่อสายตาของสังคมชาวโลกนะ ฮื้ออ
(แค่คิดก็น่าอายเลยด้วยเนาะ ฮื้ออ ไม่อยากให้ลูกหลาน หรือเด็กๆที่จะเกิดมารุ่นหลังต้องตกอยู่ในสภาพแบบนั้นค่ะ)
เพราะฉะนั้น...เม้นต์นี้...ขอร่วมเป็นกำลังใจ...ให้กับนักเขียนนอกกระแสทุกๆคนค่ะ
และ...
...ปล. หมายเหตุ ในที่นี้มิใช่ว่า...ให้ละทิ้งวัฒนธรรมดีๆที่สวยงาม...ซึ่งเคยถูกสร้างขึ้น...และมีมาช้านานนั้นไปนะคะ ขอจงเก็บไว้ และนำมาใช้...ให้เห็นๆร่วมกับของใหม่ ไอเดียใหม่ แนวคิดใหม่...ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะเกิดเป็นพล็อตที่ต่อยอด(คือมีการพัฒนา)...ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ สนุกสนาน ตื่นเต้น มีข้อคิดใหม่ มีสาระ มีการกระทำใหม่ๆ ผสมผสานในเรื่องราวนั้นๆขึ้นมาได้
(ทั้งหมดนี้เราเรียกว่านิยายนอกกระแสนะคะ)
ทั้งหมดนี้...เป็นความรู้สึก เป็นความคิด...ที่อยากจะร่าย....หลังจากอ่านข้อความของคุณค่ะ
เป็นความเห็น...ความรู้สึกที่มีซึ่งเป็นของส่วนบุคคลนะคะ
(ยาวๆด้วยต้องขออภัยค่ะ)
คือเป็นอีกหนึ่ง...ซึ่งทีความเชื่อว่า...นิยายนอกกระแส...นั้นแท้จริง...คือ เป็นนิยายซึ่งเป็นผลงานของผู้ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าก้าวต่อไปข้างหน้า...หรือเขากล้าพัฒนา...และโดยส่วนตัว...ศรัทธานักเขียนเหล่านี้มากมายค่ะ
(เขาทั้งหลายคือแบบอย่าง และแรงบันดาลใจค่ะ)
ขอเป็นกำลังใจให้...เจ้าของกระทู้...และนักเขียน...นอกกระแสทุกๆคนค่ะ
ทั้งหมดข้างบนนั้นคือความรู้สึก...เป็นความเห็นของนักเรียนหัดเขียน...นะคะ หากเห็นว่าคิดไกลไป...คิดมากไป...กล้าคิดเกินไป...ต้องขออภัยด้วยค่ะ (ที่เป็นเช่นนั้นสาเหตุอาจจะไม่มีประสบการณ์ค่ะ555)
เพื่อนๆท่านใด อยากแนะนำ ชี้แนะ อธิบายเพิ่มเติมเพื่อความสว่าง...ก็ได้นะคะ แต่ขอให้ใช้คำที่สุภาพด้วยนะคะ ชอบๆคำที่สุภาพค่ะ รู้สึกว่ามันมีต่อจิตใจค่ะ
ผมมองว่างานเขียนจะรุ่งเรืองสุดถ้าเรามองมันเป็นศิลปะครึ่งนึงสินค้าครึ่งนึง เขียนตามใจตัวเองหรือเขียนตามตลาดดีกว่ากัน ผมคงตอบว่า Why not both? ในเมื่อนิยายเป็นสิ่งที่เราแต่งขึ้นมาทั้งหมด เราจะเขียนยังไงก็ได้ ก็แค่เขียนนิยายที่เราอยากแต่ง แต่นำเสนอมันในมุมที่ตลาดต้องการก็แค่นั้น ผมคิดว่านักเขียนคนนึงมีพล็อตในหัวที่อยากเขียนเป็นร้อยพล็อต มันต้องมีสักอันแหละที่เป็นที่ต้องการของตลาดได้ แล้วผมคิดว่าแนวนิยายเนี่ย มันพลิกได้หลากหลายมากๆ อย่าง "ต่างโลก" "จีนโบราณ" มันก็แตกแขนงออกไปได้เป็นจำนวนมาก ถ้าเราอยากแต่งนิยายสืบสวนสอบสวนแล้วให้มันขายได้ ก็ลองเปิดใจแต่งเป็นแนว "นักสืบหลุดไปต่างโลก" ดู มันไม่มีอะไรที่ถ้าเราตั้งใจทำจริงๆ แล้วจะทำไม่ได้หรอกนะครับ
เคยอ่านบทความประมาณ เขียนแนวตลาดให้ดังจากนั้นก็มาเขียนเรื่องที่ตัวเองอยากเขียนค่ะ คราวนี้แนวเรื่องที่ไม่ตลาดมันก็ดังและขายได้ไปเอง งานขายได้สนพ.พิมพ์ก็อยากตีพิมพ์ แต่คนที่เขียนแนวนอกกระแสจะทำแบบนั้นคงยากและบังคับใจตัวเองน่าดูเลย
สำหรับเราเองตอนนี้เขียนเรื่องที่อยากเขียน หรือไม่ก็เรื่องดองที่สัญญากับคนอ่าน พยายามกลับมาเขียนต่อให้จบค่ะ เลิกส่งสนพ.ไปแล้ว ถึงเวลารวมเล่ม ปกพยายามวาดเอง อะไรที่ไม่ไหวก็จ้างคนอื่นเอา
เคยได้ยินคำพังเพยฝรั่งที่ว่า "นกร้องตัวเดียวไม่ได้หมายถึงฤดูใบไม้ผลิจะมา" ไหม? ในทางกลับกัน แค่นกไม่ร้องสักตัวหรือสองตัว ก็ไม่ได้หมายความว่าฤดูใบไม้ผลิจะไม่มา เพราะฉะนั้นการที่นิยายถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์แห่งสองแห่ง ปัญหาอาจจะไม่ได้เกิดจากตัวนิยาย อาจจะแค่โชคร้ายที่ไปเจอสำนักพิมพ์ที่ตาไม่ถึงก็ได้ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในวงการนี้ บางทีแค่ฝีไม้ลายมืออย่างเดียวก็ไม่พอ ต้องมีความอดทนอดกลั้นและพยายามส่งงานเขียนออกไปให้อีกหลายๆที่ดู...นักเขียนบางคนกว่าจะแจ้งเกิดได้ ก็ต้องรอจนกว่าจะมีสำนักพิมพ์ที่ตาถึงสักแห่งมองเห็น
ส่วนจะเขียนนิยายในกระแสหรือนอกกระแสถึงจะได้ตีพิมพ์ บอกตามตรงว่าถ้าจะเอาแค่เท่านั้น โอกาสที่นิยายจะถูกกลืนไปในกระแสอันเชี่ยวกรากของงานเขียนอันหลากหลาย ก็มากกว่า 80% บนเส้นทางสายนี้ ถ้านักเขียนไม่โดดเด่น...เป็นตัวของตัวเอง ถ้าไม่อาจโน้มน้าวคนอ่านให้มองเห็นนิยายของคุณว่าแตกต่างจากคนอื่นได้ มันก็จบกันตรงนี้
ก็ในเมื่อมาเขียนเพราะใจรัก ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ก็ขอให้เขียนไปตามที่ใจเรียกร้องเถอะ มันอาจจะไม่ไปถึงไหน อาจจะไม่ได้ตีพิมพ์ อาจจะไม่อยู่ในกระแส แต่ยังมีคนอ่านที่ชอบใจในแบบฉบับที่มันเป็น และค่อยๆพัฒนาไปจากจุดนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ก้าวต่อไป
เราเขียนนิยายรักไม่ถึงกับนอกกระแสทีเดียว มีประสบการณ์คล้ายกับที่ จขกท. พบเจอมาค่ะ สุดท้ายเราก็ทำเป็น E-Book แทน นักเขียนบางท่านยังทำเล่มเป็นหนังสือทำมือด้วย
ความคิดเห็นส่วนตัว เราว่าได้เขียนแนวที่ถนัดจริงๆ ดีกว่าค่ะ ไม่กดดัน ไม่คาดหวังมาก หากยิ่งฝืนตามกระแสมากๆ อาจไม่รุ่งสำหรับเราค่ะ
ฝากเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ส่งให้ สนพ. พิจารณานะคะ อย่าเพิ่งท้อ
จะเขียนแนวที่ชอบ และถนัดมากกว่าค่ะ
อันนี้ตอบเฉพาะแบบเผยแพร่ทางเว็บเท่านั้นนะคะ เพราะเราไม่เคยคิดจะส่งสนพเลย
เราจะเขียนตามกระแส เป็นการเดบิวส์ไปก่อน
เหมือนสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคอะค่ะ
การันตีว่า นักเขียนคนนี้สำนวนดี
ใช้ภาษาถูกต้อง
พล็อตเรื่องโอเค
ไม่ทิ้งรีดเดอร์ไว้กลางทาง
อะไรก็ว่ากันไป
แล้วพอเรื่องต่อไป ค่อยเขียนอะไรที่อยากเขียน
ถ้าให้เทียบ
เหมือนกับเราอ่านนิยายของคุณทมยันตีมีผลงานเป็นสิบเรื่องซื้ออ่านทุกเรื่องแต่ที่เราชอบจริงๆแค่เรื่องสองเรื่องเท่านั้นเอง
ถ้าเขียนนิยายตามกระแสจะมีเปอร์เซนต์ได้ตีพิมพ์เยอะขึ้นใช่มั้ยฮับ แต่พอจะเขียนจริงฟีลก็ไม่ได้อยู่ดี คงจะเขียนแต่ที่ตัวเองอยากเขียนต่อไปแหละฮับ
และ เพราะเป็นงานอดิเรกด้วยแหละเลยเลือกได้ว่าจะเขียนอะไรแนวไหน แรงกดดันจะน้อยกว่าแต่ ถ้าอยู๋ในจุดที่เป็นนักเขียนในสังกัดแล้วต้องมีออเดอร์มาให้เขียน เพื่อเงิน เพื่อหน้าที่ ก็คงต้องเขียนตามกระแส ตามสั่ง แม้งานจะออกมาไม่ดี (อย่างที่เห็นกันอยู๋ตามท้องตลาดบางเรื่องแบบตามกระแสมาก ซ้ำจนเกร่อเหมือนเปลี่ยนแค่ชื่อตัวละครก็ยังจะเขียนกันออกมาขายเนอะ T^T)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?