เรียนไปด้วยซิ่วไปด้วย ดียังไง?
ตั้งกระทู้ใหม่
เรียนไปด้วยซิ่วไปด้วย ดียังไง?
น้องๆหลายคนคงเคยได้ยินว่า “ เรียนไปด้วยซิ่วไปด้วย ไม่ไหวหรอก กิจกรรมก็เยอะ แถมยังต้องสอบที่ ม. อีก” พี่เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ของคนที่เคยทั้งซิ่วไปด้วยเรียนไปด้วยแล้วก็เคยอยู่บ้านอ่านหนังสือค่าสำหรับพี่ พี่ว่าการซิ่วไปด้วยเรียนไปด้วยมันดีกว่าเยอะอ่ะ มันดียังไง? มาดูกัน
- การที่เรามีที่เรียนระหว่างรอซิ่วอีกปี พ่อแม่เราจะลำบากใจน้อยลงเวลามีคนมาถามว่าลูกมีที่เรียนรึยัง?
- ตัดปัญหากวนใจจากคนข้างบ้าน หรือญาติพี่น้องที่ช่างแนะนำ ตัวพี่เองตอนที่เคยซิ่วแบบอยู่บ้านอ่านหนังสือ เคยมีคนข้างบ้านมากดกริ่งถามเลยว่าทำไมไม่ไปเรียน พอตอบเค้าว่าจะสอบใหม่ ลุงข้างบ้านกลับบอกว่าเสียเวลา ทำไมมาอยู่บ้าน วันทั้งวันไม่ทำอะไร (ค่ะ ใช่ค่ะ ลุงข้างบ้านพูดแบบนี้เลย ซึ่งพี่เองก็ไม่ได้ขอความเห็นจากแกเลย)
- ถ้าน้องไปเรียนมหาลัย น้องจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่คอยช่วยเหลือกันในอนาคต และช่วยเหลือกันตอนที่กำลังซิ่วด้วย แบบพี่ เคยเรียนอยู่มหิดล จะมีวิชา MUGE ที่เรียนรวมกับหลายๆคณะ เวลาที่พี่ทำโจทย์อะไรไม่ได้พี่จะเลือกถามเพื่อนคณะอื่นที่ถนัดวิชานั้นมากกว่าพี่ เช่น ให้เพื่อนที่เรียนวิทยาศาสตร์สอนทำโจทย์ฟิสิกส์, ให้เพื่อนที่เรียนศิลปะศาสตร์ เอกอังกฤษ แนะนำเทคนิกการทำข้อสอบภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นการเรียนกับเพื่อนหลายคณะ มันเป็นการเปิดมุมมองให้เราเห็นคุณค่าของวิชาชีพอื่นมากขึ้นว่าทุกอาชีพมีความสำคัญหมด การได้คุยกับเพื่อนต่างคณะทำให้เรามีมุมมองกว้างขึ้นเยอะ
- ได้เจอเพื่อนร่วมอุดมการณ์เยอะ เด็กปี1 คนจะซิ่วเยอะมาก จะได้คอยตามข่าว แล้วช่วยเหลือกัน
- มี connection ที่ดี ทุกวันนี้พี่ก็ยังติดต่อกับเพื่อนที่มหาลัยเก่าอยู่ค่า บางครั้งก็มีงานบางอย่างที่เพื่อนสามารถช่วยเหลือเราได้ หรือบางทีเราก็เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนเช่นกัน น้องๆอาจเคยได้ยินว่าในการทำงาน connection สำคัญมาก พี่ว่ามันจริงนะ ขนาดยังเรียนไม่จบนี่ยังเห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็นเลย
- ได้เรียนรู้ ค้นหาตัวเองจากประสบการณ์จริง คือก่อนที่พี่จะซิ่วจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหิดล พี่เคยคิดว่าตัวเองชอบสัตว์ มีความสุขกับการอยู่กับสัตว์ แต่พอเข้ามาอยู่ในคณะ ได้รู้ถึงการเรียนในปีที่สูงกว่าจากรุ่นพี่ ทำให้พี่รู้สึกว่ามันไม่ใช่อ่ะ พี่กลัวการผ่าตัด กลัวการทดลองกับสัตว์ตอนเรียนปี 1 แล้วก็กลัวการเรียนที่ต้องทำให้สัตว์บาดเจ็บ การเข้ามาเรียนในคณะเราจะเห็นภาพมากกว่าฟังคนอื่นเล่ามา และตลอดปีในมหาวิทยาลัยเราจะได้เจอคนหลายๆแบบทั้งดีและไม่ดี ซึ่งสอนเราให้โตขึ้น แต่ถ้าเราอยู่บ้าน เราจะอยู่ในสังคมปิดแล้วไม่ค่อยฝึกทักษะการอยู่ในสังคมหลายๆแบบ การปรับตัว การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทักษะเหล่านี้ต้องฝึกฝนจากประสบการณ์
- รู้จักการแบ่งเวลา ในการเรียนปี1 จะมีกิจกรรมรับน้อง แต่ไม่ได้มีกันตลอดทั้งปีหรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 1 เดือน หลังจากนั้นจะเป็นการสอบของมหาวิทยาลัยที่น้องๆกังวลกัน จริงๆแล้วการสอบของปี1 ไม่หนักเลยนะคะเมื่อเทียบกับชั้นปีที่สูงขึ้นแถมตารางเรียนและตารางสอบยังว่างกว่าชั้นปีอื่นอีก น้องๆควรฝึกทักษะการแบ่งเวลาและการทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน เพราะในชั้นปีที่สูงขึ้นเรียนจะหนักขึ้น ต้องมีการแพลนทำแลป ทำreport อีก สอบที่ ม. และเตรียมตัวสอบใบประกอบอีก(ตอนนี้พี่เรียนเภสัช ปี 4ค่ะ) การอ่านหนังสืออยู่บ้านมีเวลาเยอะจริง แต่น้องอาจขาดทักษะการทำงานแข่งกับเวลา และอยากบอกน้องอีกอย่างหนึ่งว่า ในการเรียนมหาลัย สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการสอบเข้าค่า แต่สำหรับน้องน้อง TCAS ปีนี้ พี่ว่าการสอบเข้าของน้องก็ยากจริงๆแหละ
นี่ก็เป็นประสบการณ์ตรงจากพี่นะคะ ทั้งนี้น้องๆจะเลือกซิ่วอยู่บ้านหรือซิ่วแบบเรียนไปด้วยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นอีก เช่น ค่าใช้จ่าย การเดินทางไปสอบ ให้น้องเลือกวีธีที่ลงตัวกับน้องมากที่สุด เพราะปัจจัยในชีวิตแต่ละคนต่างกัน ถ้าน้องคนไหนต้องซิ่วแบบเรียนไปด้วยก็อย่าลืมใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองในหลายๆด้าน บางครั้งการที่น้องลองเรียนคณะที่สอบติดปีนี้ไปก่อนน้องอาจจะเริ่มชอบมันก็ได้ เพราะบางอย่างเราคิดว่ามันไม่ดีเพราะเราไม่รู้จักมันดีพอ แต่บางอย่างที่เราคิดว่ามันดีก็เพราะเราไม่รู้จักมันดีพอเช่นกัน
Contact me--->ig: fernery.diary
frond
18 ก.ค. 61 เวลา 14:36 น.
6,302
views
2 ความคิดเห็น
ตอนนี้กำลังเรียนอยู่มหิดลค่ะ และเตรียมซิ่วด้วย เครียดมากๆ ขอทักไปปรึกษาพี่ได้มั้ยคะ
ถ้าน้องๆอยากปรึกษาพี่ พี่ยินดีให้คำปรึกษานะคะ
ติดต่อพี่ได้ที่ ig: imfernery น๊า
ปล. พี่ขอโทษที่ตอบช้า ไม่รู้ว่าจะยังทันมั้ย พี่เพิ่งเข้ามาดูกระทู้
ขอบคุณค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?