นักเขียนทั้งหลายเรียงลำดับความสำคัญตามความชอบของพวกท่านอย่างไรครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
มีเวลาเพียง 1 วัน ที่เป็นวันหยุดว่างทั้งวัน อยากทำอะไรก่อนเเละหลัง ขอให้เข้าใจก่อนว่าสิ่งที่เลือกทำหลังอาจจะไม่มีเวลาทำได้นะครับ
ตัวเลือก
1 เขียนนิยาย 2 อ่านนิยาย 3 ทำการบ้าน,ทำงานค้าง 4 ออกกำลังกาย 5 ดูเมะ,ดูหนัง,ละคร 6 เล่นเกม 7 หาความรู้เพิ่ม
อีกคำถามหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวกับคำถามเเรกนะครับ
คือผมได้ยินมาเยอะเเละได้เห็นมาเยอะเหมือนกันว่า มั้งจะมีคนพูดว่าไรท์ บางคนว่าเป็น นักอยากเขียน อันนี้ผมไม่เเน่ใจนะ คือต้องเป็นนักเขียนที่หาเงินได้จากผลงานก่อนหรือเปล่าถึงจะเรียกตัวเองได้ว่าเป็นนักเขียนนิยาย หรือไม่ต้องก็ได้เเต่มีวิธีเรียกเเทนกันได้หลายเเบบ? ซึ่งผมไม่เเน่ใจเเละอยากจะรู้ครับ
11 ความคิดเห็น
อย่างแรกคือทำสิ่งทึ่จำเป็นต้องทำ พอมีเวลาว่าง ก็จะ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม อย่างอื่นก็แล้วแต่อารมณ์พาไป ... ซึ่ง นิยายเลยไม่ไปถึงไหนสักที T T
ส่วนอีกคำถาม ... ไม่รู้ครับ ผมคงเป็นแค่คนอยากเขียน เอาจริงๆผมไม่เคยเรียกตัวเองว่านักเขียน หรือนักอยากเขียนอะไรก็ตาม ... ผมแค่อยากเขียนแล้วก็เอามาลงให้ใครสักคนแวะเข้ามาร่วมสนุกกัน ... แค่นั้นเอง
1. ทำการบ้าน/งานค้าง ถ้าทำไม่เสร็จคือเราจะไม่สบายใจค่ะ ใจจะพวักพะวนจนทำอย่างอื่นไม่ได้
2. เล่นเกม เพราะวันหยุดเป็นช่วงเวลาที่เพื่อนจะมาชุมนุมกันมากที่สุด เป็นช่วงที่สนุกสนานสำหรับสายเมาท์มอยอย่างเราอะนะ
3. งานอดิเรกที่ทำค้างไว้(ถ้ามี) เช่น อ่านหนังสือค้างไว้ ดูอนิเมะค้างไว้ ถักนู่นนี่ค้างไว้ ถ้าไม่มีอะไรค้างก็ข้ามไป4.
4. สบายใจ ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เขียนนิยายได้ยาวๆ ไม่มีอะไรมารบกวนจิตใจ
จริงๆ แล้ววันหยุดเรามีรายละเอียดมากกว่านี้ แค่เลือกตอบตามตัวเลือกที่ให้มาค่ะ เช่น ทำความสะอาดบ้าน จัดของ แต่งต้นไม้ ส่วนออกกำลังกายออกหลังเลิกงานวันปกติ
ส่วนเรื่องนักอยากเขียนเราไม่รู้ที่มาที่ไปเหมือนกัน แต่ในมุมมองเราคือไม่มีความมั่นใจ ครึ่งๆ กลางๆ เป็นคำออกตัวไว้กันโดนด่า สำหรับเราถ้าได้เขียนก็สามารถเรียกได้ว่านักเขียน (ไม่โฟกัสว่านักเขียน=อาชีพ)
เล่นเกมก่อน
เบื่อ ๆ ก็มาดูเมะ
เบื่อจากเมะก็ไปเล่นเกมต่อ
มีอารมณ์ก็ไป... เขียนนิยาย (หมายถึงมีไอเดียนะอิอิ)
การบ้านคืออะไร?
งานบ้านคืออะไร?
ตอนนั้นยังเด็ก พอโตขึ้นจึงรู้ว่า การบ้านมันก็คือการลงทุนชีวิตรูปแบบหนึ่ง ยิ่งทำ อนาคตเราก็ยิ่งสบาย TOT
คำถามที่สอง นักเขียน ในความหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางกลุ่มอาจบอกว่า ต้องเขียนออกมาเป็นเล่ม บางกลุ่มอาจบอกว่า ต้องเขียนออกมาให้ถูกทุกคำ บางกลุ่มก็บอกว่า แค่เขียนออกมาหน้าเดียว ก็ถือเป็นนักเขียนแล้ว
ซึ่งไม่มีอะไรผิด จะยังไงก็ได้ ยังไงซะมันก็ถือเป็นนักเขียนในความเชื่อของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยู่แล้ว แต่สำหรับผม นักเขียน คือคนที่เขียนนิยายมามากระดับหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเป็นเล่มก็ได้ แต่อย่างน้อยควรจะมากเกิน 1000 หน้าขึ้นไป น้อยกว่านั้น เรียกนักเขียนได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่ ... และยกเว้นกรณีนิยายดังด้วย แม้จะเขียนแค่ไม่กี่ร้อยหน้า แต่ถ้านิยายมันดังมาก ก็ให้ถือว่าเป็นนักเขียนได้ อันนี้คิดโดยส่วนตัวนะ
สำหรับเรา งานเขียนคือ งานอดิเรกและระบายอารมณ์ค่ะ คงเรียงลำดับดังนี้
1. งานค้าง/ทำการบ้าน
2. หาความรู้เพิ่ม
3. เขียนนิยาย
4. อ่านนิยาย
เอาแค่นี้พอค่ะ แต่โดยปกติเราจะใช้ช่วงเวลาที่เดินทางในการอ่านหนังสือหรือเขียนนิยายค่ะ ถ้าไม่อยากอ่านหนังสือจะเขียน ไม่อยากเขียนจะอ่านค่ะ ถ้ามิวส์มาก็เขียนรัวๆ ค่ะ
ละครไม่ดู เมะกับหนัง ดูเฉพาะเรื่องที่สนใจจึงมีไม่มากเท่าไร เล่นเกมพยายามเพลาๆ
1. ทำงานค้าง
2. อ่านหนังสือ (นิยายบ้าง non-fiction บ้าง จะเรียกว่าหาความรู้เพิ่มก็ได้มั้งแต่ที่จริงอ่านเอาสนุกมากกว่าเพื่อหาความรู้อะไรเป็นพิเศษ)
3. ออกกำลังกาย
4. เขียนนิยาย
เราไม่ค่อยดูหนัง หรือละคร หรือเล่นเกมเท่าไหร่ค่ะ (นอกจากอารมณ์ดีมากถึงจะเล่นบอร์ดเกมสักที) เขียนนิยายอันดับสี่ก็จริงแต่ 3 ด่านแรกก็ทำเวลาหมดแล้วค่ะ อย่าได้หวังว่าจะเขียนนิยายเลย
กะ....ก่อนหน้านั้นต้องตื่นให้ได้ซะก่อน 55555555555
เล่นเกมส์ > อับแรกเลยก็แน่นอนว่าต้องเป็นเกมส์ถ้าเควสวันยังไม่เสร็จมันก็ไม่มีอารมณ์จะไปทำอย่างอื่นล่ะนะ
ทำงาน > อันนี้สำคัญมาก ไม่มีงานก็ไม่มีเงินนี่นะ
วาดรูป > อันนี้นับว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่ทำมานานและคงต้องทำต่อไป
อ่านหนังสือ > ปรกติเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว แต่พอเอาจริง ๆ ก็ไม่ค่อยมีเวลาจะอ่าน ดังนั้นพอได้อ่านเมื่อไรก็จะลากยากไปทั้งวัน
เป่าตี๋จื่อ > อันนี้เป็นอะไรที่ต้องทำทุกวัน
ดูหนัง/ฟังเพลง > อันนี้ก็เป็นเรื่องปรกติ
เขียนนิยาย > มาเป็นอันดับสุดท้ายเลย เพราะถ้าไม่ว่างจริง ๆ ก็ไม่สามารถเขียนได้เพราะมันต้องใช้สมาธิค่อนข้างสูง
ส่วนอีกคำถามนี่มันก็ตอบยากเหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่าไม่รู้ละกันเนอะ (ฮ่า)
งานอันดับแรกไม่งั้นไม่มีกิน ที่เหลือแล้วแต่กำลังกายที่เหลือ อารมณ์กับเวลา นักอยากเขียน เรียกตัวเองว่านักเขียนสมัครเล่นก็ได้มั้ง นักเขียนก็ยกระดับขึ้นมา งานมีมาตรฐานขึ้นแต่ยังขายได้บ้างไม่ได้บ้าง นักเขียนมืออาชีพ ก็หาเงินจากงานเขียนได้สม่ำเสมอ แต่คำว่า นักอยากเขียนนี่ ฟังแล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ก็น่าใช้เหมือนกันนะ
ถ้าแม่มาเห็นคงตีสักเพี๊ยะเข้าให้ แต่บังเอิญแม่ไม่รู้จักเว็บนี้ เพราะฉะนั้น...
1.เล่นเกม
2.ดูอนิเมะ ดูหนัง ละคร
3.อ่านนิยาย
4.เขียนนิยาย
5.ออกกำลังกาย
6.หาความรู้
7.ทำการบ้าน ทำงาน
เรียงลำดับสำคัญจากบนลงล่างเลยค่ะ แฮร่ อับอาย...กำลังพยายามเปลี่ยน แต่มันก็ไม่ง่าย
อ่านนิยาย
ออกกำลังกาย
เขียนนิยาย
อ่านนิยาย
อ่านทุกอย่างเรื่อยเปื่อย
เขียนนิยาย
กิน
เขียนนิยาย
กิน
กิน
กิน
วนไปค่ะ
ส่วนคำว่า นักเขียน นักอยากเขียน
บางคนใช้คำว่า นักอยากเขียน เพราะเค้าแค่อยากเขียน หรือยังเขินๆที่จะใช้คำว่า นักเขียน
แต่สำหรับเรา เราใช้คำว่า นักเขียน
ไม่ใช่ว่าเราเก่งนะคะ แต่เราคิดว่าเป็นคำที่ ใช้เรียกรวมได้หมด
เพียงแต่คนที่มีรายได้จากงานเขียนเป็นหลัก เราจะเรียกว่า นักเขียนอาชีพ
ส่วนคนที่มีผลงานขึ้นหิ้ง ได้รับการยกย่อง เราเรียกว่า นักประพันธ์ ค่ะ
ตัดออกกำลังกายออก
1. ทำงานค้างก่อนเลย ไม่ชอบมานั่งปั่นทีหลัง เพราะงานที่ได้จะไม่ถูกใจเรา
2. เขียนนิยาย ถือว่าเป็นงานที่เราควรทำอย่างสม่ำเสมอที่สุดเท่าที่จะทำได้
3. เล่นเกม ผ่อนคลายล้วนๆ
4. อ่านนิยาย เวลาหัวตันแล้วขี้เกียจปั่นเกม เป็นทางเลือกสุดท้าย ยกเว้นว่าใกล้ช่วงสอบ
ส่วนตัวแล้ว การเป็นนักเขียนมันคือการที่เราพยายามสร้างผลงานด้านนวนิยายออกมาเป็นของตัวเอง เรื่องเงินเป็นแค่ตัววัดว่าเราสามารถทำผลงานของเราตีตลาดได้จริงหรือไม่ แค่นั้นค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?