อยากเป็นครู ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ · · · · · · ตอนนี้หนูกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทย์ คณิต มีแต่คนถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร? พอเราตอบก็บอกว่าสิ่งที่เราอยากทำมันยาก คิดดีแล้วหรอ...อนาคตที่วางแผนไว้ข้างหน้าอยากเป็นครู อยากเข้ามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒกับจุฬาฯแต่ว่ามีแต่คนบอกว่า 2 มหาวิทยาลัยนี้เข้ายากมาก พี่ๆมีวิธีการเตรียมตัว เข้ามหาวิทยาลัยอย่างไรกันบ้างคะ Ttstk 27 ก.ค. 61 เวลา 16:00 น. 0 like 437 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
Ameriey-7993 27 ก.ค. 61 เวลา 21:52 น. 1 เดียวดิฉันไปหาข้อมูลมาให้ค่ะ ในระหว่างที่รอท่านผู้รู้อีกทีค่ะ... 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Ameriey-7993 27 ก.ค. 61 เวลา 22:01 น. 2 https://www.dek-d.com/board/view/2725107/ลงให้แล้วนะคะ จขกท 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
G.Tenju 27 ก.ค. 61 เวลา 22:29 น. 3 เวลาใครบอกว่า 'ยาก' อย่าไปเชื่อเขาครับ เพราะเขาตีความสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำหรือไม่ชอบว่ามันยาก ถ้าน้องชอบแล้วอยากเป็นครูจริงๆ มันจะกลายเป็นเรื่อง 'สนุก' ครับ...พี่นับถือคนอยากเป็นครู เลยอยากบอกให้รู้ไว้ว่าอย่าสนใจแค่สิ่งที่ระบบการศึกษาบอกว่ามัน 'สำคัญ' ความรู้บางชนิดเหมาะกับคนบางกลุ่มบางพื้นที่ แต่เขาเอามาใช้กับคนทุกประเภททุกภูมิภาคจนมันล้มเหลวทั้งหมดแทน อนาคตมหาวิทยาลัยจะลดลง ผู้คนเริ่มเรียนผ่าน 'Home-School' เยอะขึ้น มีคนเปิดสอนการกุศลผ่าน Youtube หรือสื่อต่างๆเยอะขึ้น ทั้งครูและนักเรียนจะมีตัวเลือกเยอะแยะเลยครับ ครูจะได้สอนในสิ่งที่ตัวเองอยากสอน ส่วนนักเรียนก็จะได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบเรื่องที่น้องสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้สำหรับเอาไปสอนเด็กอย่าง 'NLP' น้องจะจำแนกวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้ รู้วิธีสอนให้เขาหาคำตอบด้วยตัวเองจนพึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต รวมไปถึงพวก 'กลยุทธ์' จะเป็นการออกอุบายต่างๆให้เด็กสนใจที่จะเรียนรู้ตามที่เราวางแผนไว้ รวมไปถึง 'จิตวิทยา' เพื่อออกแบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุดแนะนำให้ลองศึกษาคลิปพวกนี้ดูครับแนวคิดกับการเรียนรู้ของเด็ก https://www.youtube.com/watch?v=HQsJ-F5vAeUอาจารย์ด้านกลยุทธ์ https://www.facebook.com/woraphatFC/videos/2020081391377914/การสอนในรูปแบบต่างๆที่สนุก https://www.youtube.com/watch?v=lT3vGaOLWqEมีอาจารย์อีกหลายท่านที่เปิดสอน 'โรงเรียนเถื่อน' ตามแต่ที่พวกเขาถนัด ซึ่งคุณสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในการสอนตามความเหมาะสมได้ ไม่จำเป็นต้องไปยึดตามระบบการศึกษาเท่านั้นถึงจะเป็นความรู้ที่แท้จริงอย่างเดียว เพราะที่มาของ 'ความรู้' คือสิ่งที่เราพบเจอผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 > สังเกตและเปรียบเทียบเพื่อจดบันทึก > มีการทดสอบสำซ้ำเพื่อยืนยันผลลัพธ์ > แล้วมีคนเก่งในสาขาเดียวกันช่วยการันตีว่าเป็นจริง > บรรจุเป็นความรู้ที่พิมพ์มาทั้งหมดนี่เพื่อที่จะบอกว่ามันมีทางเลือกที่จะได้เป็น 'ครู' เยอะแยะเลยครับถ้าน้องสอบไม่ผ่าน 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
เปิดพิกัด! 3 คอร์สดิจิทัลเรียนฟรี "Data, AI ใน Microsoft, UX Design" โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เด็กกิจกรรม
เปิดวาร์ป! แหล่งเรียนภาษาญี่ปุ่นฟรี กับสำนักข่าว NHK World-Japan ได้ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับญี่ปุ่นเพียบ เด็กกิจกรรม
3 ความคิดเห็น
เดียวดิฉันไปหาข้อมูลมาให้ค่ะ ในระหว่างที่รอท่าน
ผู้รู้อีกทีค่ะ...
https://www.dek-d.com/board/view/2725107/
ลงให้แล้วนะคะ จขกท
เวลาใครบอกว่า 'ยาก' อย่าไปเชื่อเขาครับ เพราะเขาตีความสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำหรือไม่ชอบว่ามันยาก ถ้าน้องชอบแล้วอยากเป็นครูจริงๆ มันจะกลายเป็นเรื่อง 'สนุก' ครับ...
พี่นับถือคนอยากเป็นครู เลยอยากบอกให้รู้ไว้ว่าอย่าสนใจแค่สิ่งที่ระบบการศึกษาบอกว่ามัน 'สำคัญ' ความรู้บางชนิดเหมาะกับคนบางกลุ่มบางพื้นที่ แต่เขาเอามาใช้กับคนทุกประเภททุกภูมิภาคจนมันล้มเหลวทั้งหมดแทน อนาคตมหาวิทยาลัยจะลดลง ผู้คนเริ่มเรียนผ่าน 'Home-School' เยอะขึ้น มีคนเปิดสอนการกุศลผ่าน Youtube หรือสื่อต่างๆเยอะขึ้น ทั้งครูและนักเรียนจะมีตัวเลือกเยอะแยะเลยครับ ครูจะได้สอนในสิ่งที่ตัวเองอยากสอน ส่วนนักเรียนก็จะได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ
เรื่องที่น้องสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้สำหรับเอาไปสอนเด็กอย่าง 'NLP' น้องจะจำแนกวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้ รู้วิธีสอนให้เขาหาคำตอบด้วยตัวเองจนพึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต รวมไปถึงพวก 'กลยุทธ์' จะเป็นการออกอุบายต่างๆให้เด็กสนใจที่จะเรียนรู้ตามที่เราวางแผนไว้ รวมไปถึง 'จิตวิทยา' เพื่อออกแบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
แนะนำให้ลองศึกษาคลิปพวกนี้ดูครับ
แนวคิดกับการเรียนรู้ของเด็ก https://www.youtube.com/watch?v=HQsJ-F5vAeU
อาจารย์ด้านกลยุทธ์ https://www.facebook.com/woraphatFC/videos/2020081391377914/
การสอนในรูปแบบต่างๆที่สนุก https://www.youtube.com/watch?v=lT3vGaOLWqE
มีอาจารย์อีกหลายท่านที่เปิดสอน 'โรงเรียนเถื่อน' ตามแต่ที่พวกเขาถนัด ซึ่งคุณสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในการสอนตามความเหมาะสมได้ ไม่จำเป็นต้องไปยึดตามระบบการศึกษาเท่านั้นถึงจะเป็นความรู้ที่แท้จริงอย่างเดียว เพราะที่มาของ 'ความรู้' คือสิ่งที่เราพบเจอผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 > สังเกตและเปรียบเทียบเพื่อจดบันทึก > มีการทดสอบสำซ้ำเพื่อยืนยันผลลัพธ์ > แล้วมีคนเก่งในสาขาเดียวกันช่วยการันตีว่าเป็นจริง > บรรจุเป็นความรู้
ที่พิมพ์มาทั้งหมดนี่เพื่อที่จะบอกว่ามันมีทางเลือกที่จะได้เป็น 'ครู' เยอะแยะเลยครับถ้าน้องสอบไม่ผ่าน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?