Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อะไรสำคัญที่สุดในนิยายเกมออนไลน์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากรู้ว่าหลายๆคนคิดยังไงกันบ้างคะ? ทั้งคนที่เล่นแล้วก็ไม่เคยเล่นเกมออนไลน์
 
(จำนวนคนโหวต 17 คน)
สังคม ความสัมพันธ์ของตัวละคร
7 โหวต
เลเวล ความเทพและสกิล
2 โหวต
มอนสเตอร์ ยิ่งบอสโหดยิ่งมันส์
1 โหวต
ไอเทมและอาวุธ ยิ่งมียุทธศาสตร์การใช้ยิ่งสนุก
1 โหวต
การฟาร์มของ หาเงิน
1 โหวต
PvP GvG การแข่งขันระหว่างตัวละคร
3 โหวต
อีเว้นต่างๆ
2 โหวต

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

darkius 29 ก.ค. 61 เวลา 08:11 น. 1

เอาตรงๆนะครับ เนื้อเรื่องสนุก และสื่อถึงผู้อ่านได้ สำคัญสุด เพราะผมเห็นนิยายเกมออนไลน์บางเรื่อง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับที่คุณทำโพลมา แต่กลับมีคนติดตามอย่างมาก

0
G.Tenju 29 ก.ค. 61 เวลา 09:19 น. 2

เลือกคำตอบในโพลไม่ได้เพราะมันคือ 'ทั้งหมดที่ควรมี' เสน่ห์ของแนวเกมออนไลน์ส่วนตัวมองว่าเพราะมันมี 'ระบบ & กติกา' ที่ชัดเจน อ่านแล้วเปรียบเทียบคิดตามได้ง่ายเหมือนบรรยายการเล่นหมากรุกให้กลายเป็นภาพของสนามรบของทั้งสองฝ่ายแทน

3
darkius 29 ก.ค. 61 เวลา 09:26 น. 2-1

นิยายออนไลน์ที่ระบบไม่ชัดเจน และไม่สมดุล มันจะพังในไม่ช้านะ ยกเว้นฐานคนอ่านคอยอุ้มชู อันนั้นอีกเรื่อง

0
G.Tenju 29 ก.ค. 61 เวลา 09:29 น. 2-2

หลักๆที่ชอบแนวนี้เพราะเปรียบเทียบคิดตามได้ง่ายอะนะ... ยิ่งชอบเล่นเกมอยู่แล้วเลยยิ่งอินง่ายเข้าไปใหญ่ แต่พักหลังเจอแต่ระบบซับซ้อนอลังการเกินความจำเป็นแถมตัวเลขบานจนคิดตามไม่ทันแทนนี่สิ... อยากอ่าน แต่สเป็คสมองไม่ไหว!


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-03.png

0
Rocoboat 1 ส.ค. 61 เวลา 08:55 น. 2-3

ถ้าเป็นแบบนั้นก็ควรตั้งคำถามครับว่าทำไมนักอ่านถึงยังอุ้มชูเรื่องนี้อยู่ บางทีอาจมีจุดที่น่าสนใจก็ได้

0
P-ITEM 29 ก.ค. 61 เวลา 13:41 น. 3

ความมันส์ค่ะ ลองคิดดูเวลาคุณเล่นเกมส์ออนไลน์คุณชอบทำอะไรที่สุดค่ะ คุณเปิดเกมส์ขึ้นมาเพราะอะไร

ลองดูอย่างเกมส์ OW ไม่ต้องฟาร์มเก็บเวลให้วุ่นวายแมพก็มีไม่กี่แมพ ทำไมคนถึงเล่น เพราะมัน มันส์ค่ะ ใส่ทักษะฝีมือการเล่นเกมส์ล้วนๆ ตัวละครเกมส์ที่มีเอกลักษณ์ สกิลประจำตัวก็มีไม่กี่อย่าง

เกมส์ที่สนุกไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลเยอะแยะมากมายสกิลหลากหลายผู้เล่นทำได้ทุกอย่างประดุษโลกจริงๆ ทุกคนเท่าเทียมกันตั้งแต่เริ่มเกมส์ มันไม่จริงพวกเทพทรูมันต้องมี สายฟรีมันต้องมา มหาเทพต้องกำเนิด ซุปเปอร์สตาร์ อีสปอตก็ต้องมี

ลองไปอ่านเทพยุทธเซียนกลอรี่สิค่ะ นิยายเกมส์ออนไลน์สายโต๊ะคอมไม่มีวีอาการกระทำในเกมส์ก็ต้องจำกัดสกิลก็ไม่เยอะมากมายแต่คนอ่านจดจำคอบโบตัวละครแต่ละตัวได้ นิยายยังฮิตกระจายหลายๆประเทศ

ปกติชอบอ่านแนวเกมส์ออนไลน์หลังๆในเด็กดีไม่เข้าไปอ่านเลยสักเรื่อง หาเรื่องกลิ่นอายคนเล่นเกมส์จริงๆแทบไม่ได้ มีแต่พวกตัวเอกไม่เคยเล่นเกมส์มาลองเล่นแล้วเทพบ้างล่ะ เหมือนนักเขียนบางคนไม่เคยเล่นเกมส์แต่เขียนแนวแฟนตาซีในโลกเกมส์ยังไงยังงั้น เฮ้อออ

ตอนนี้ติดตามแนวนี้อยู่สองเรื่องพี่เยี่ยกับก็อดกริด 555

1
Stellaris 29 ก.ค. 61 เวลา 23:53 น. 3-1

จริงค่ะ จะเทพได้จริงๆนี่ต้องใช้ความพยายามมาก 555 เล่นครั้งแรกๆยังไงก็มีหลงแมพกันบ้างล่ะ ตายมานับไม่ถ้วน ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ

0
มหันตภัยจากอวกาศ 29 ก.ค. 61 เวลา 16:24 น. 4

ถ้าเป็นเกมออนไลน์เฉยๆ ไม่ใช่นิยาย ผมเลือกข้อแรกแบบไม่ลังเล(ในกรณีที่เกมมันยังมีความสนุกนะ 555)


แต่พอมาเป็นนิยาย เท่าที่คิดๆดู ผมว่าไม่มีข้อไหนที่สำคัญที่สุดเลย เพราะนิยายแนวนี้ที่สนุกหลายๆเรื่องก็มีจุดเด่นแบบแยกข้อไป แบบอาจจะเด่นที่ข้อใดข้อหนึ่ง ข้อที่เหลือคือส่วนเสริมอะไรทำนองนี้

1
Stellaris 29 ก.ค. 61 เวลา 23:53 น. 4-1

ใช่ค่ะ เราก็ลังเลเพราะข้อแรก คือเกมออนไลน์ที่สนุก ไม่ใช่มีแต่การนั่งฟาร์มมอนอย่างเดียว แต่เป็นการเข้าสังคมกับผู้เล่นด้วย ทีนี้มาเขียนเป็นนิยาย ก็เลยไม่แน่ใจ

0
Oregon Trail 29 ก.ค. 61 เวลา 21:47 น. 5
ผมตอบช้าไปหน่อยครับ เห็นตอนเที่ยงแต่มาว่างตอนค่ำๆ


เพื่อเข้าใจความหมายและนิยามของนิยายเกมออนไลน์ โปรดงดแนวคิดแฟนตาซีต่างโลกระบบเกมเลย รวมถึงนิยายจีนจอมยุทธระบบเกม เพราะเป็นการยัดเยียดจินตนาการโดยไม่จำเป็น และคนที่ชอบแฟนตาซีต่างโลกก็ไม่ได้อยากจะให้มีเรื่องเกมมาเกี่ยวข้อง ส่วนคนเล่นเกมจริงๆ ส่วนใหญ่ลุ้นกาชามากกว่าจะมาดูความเทพของพวกตัวเอกหรอก


นิยายเกมออนไลน์ได้แรงบันดาลใจจากเกมออนไลน์ที่มีอยู่จริงอยู่แล้ว คนเล่นเกมมาก่อนจะต้องอาศัยประสบการณ์มาเขียน เช่น คนเล่นเกม (MMORPG) แต่ไม่เคยเล่นเกม PUBG (Battle Royale) คิดว่าคนๆนี้เขียนนิยายเกมออนไลน์แนว Battle Royale สนุกจริงๆเหรอครับ ยิ่งคนไม่เคยเล่นเกมออนไลน์สักเกม เอาแต่ดูไลฟ์สตรีมชาวบ้าน ไม่ต้องสืบหรอกว่าทำไมคนถึงบ่นว่า นิยายเกมออนไลน์บางเรื่องไม่มีความน่าสนใจเลย ต่อให้มีคนเม้นว่าสนุกมากๆก็ตาม (อันนี้หน้าม้าครับ)


ถ้าชอบเขียนตามกระแสละก็ ไม่แนะนำเขียนตามกระแสนิยายเด็กดี ยุคทองแห่ง MMORPG จบไปตั้งนานแล้ว ขนาดเกม Black Desert ดังแปปเดียวเงียบซบเซา ปี 2018 เป็นยุคทองของ PUBG แท้กับ PUBG เสิ่นเจิ้นครองโลก ควรตามข่าวกระแสเกมทันเหตุการณ์ดีกว่า (นี่คือเหตุผลที่ผมไม่ตอบโพลสักข้อ เพราะย่อหน้านี่แหละสำคัญสุด)


ไหนๆพูดถึงแล้ว ผมว่าเขียนแนว eSport น่าสนใจกว่า คือเอาเกมออนไลน์มาทัวร์นาเม้นแข่งกัน เกมแนวไหนนิยมลง eSport น่าจะเดาออก พวกผู้แข่งขันอยากแข่งเพื่ออะไรน่าจะรู้ๆกัน และผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่สกิลระดับปีศาจ จนพวกเทพทรูมักจะตกรอบกลับบ้านในรอบแรก เซิฟเวอร์ที่ใช้แข่ง eSport ไม่เหมือนเซิฟเวอร์ไทย อะไรที่พระเอกเคยโกงเทพ ไม่สามารถงัดความเทพใน eSport เลย สุดท้าย มีตอนจบชัดเจนกว่า ใครชนะเลิศก็เป็นอันจบ ไม่เหมือนนิยายเกมออนไลน์ MMORPG เอะอะแฟนตาซีเห่อหมoยที่ไม่รู้ว่าจะจบก่อนหรือดองก่อน

10
G.Tenju 29 ก.ค. 61 เวลา 22:16 น. 5-1

ส่วนตัวมองว่าความคิดเห็นนี้ยึดความชอบของตัวเองมากไปหน่อยนะ


ไม่มีใครขีดเส้นนิยามไว้หรอกว่า 'แนวเกมออนไลน์' มันต้องเป็นแบบไหน ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่เล่นเกมจริงๆ แต่ไม่สนใจกาชาเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนตัวสนใจแค่หาวิธีเอาชนะผู้เล่นที่เก่งกว่าของดีกว่าด้วยอาวุธไก่ๆเท่านั้นเพราะมันฝึกสมองดี (หรือจะบอกว่าคนแบบนี้ไม่ใช่เกมเมอร์?) ส่วน eSport หรือการแข่งขันผมมองว่ามันเครียดเกินไปเพราะทุกคนจ้องแต่จะหาวิธีชนะอีกฝ่ายจนไม่สนุกเลย นึกถึงสมัย Getamped ที่พอแข่งกันทุกคนมันใช้แต่นินจา+เป้เอเลี่ยน 'ตอด' กันจนการแข่งดูน่าเบื่อสุดๆ ยกเว้นบางคู่ที่โชว์ฝีมือวางกลยุทธ์ล่อหลอกที่ดูสนุกขึ้นมาหน่อย


ผมชอบนิยายต่างโลก ยิ่งถ้ามีระบบเกมด้วยยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ ส่วนคำว่า "ไม่เหมือนนิยายเกมออนไลน์ MMORPG เอะอะแฟนตาซีเห่อหมoย" ผมว่ามันดูถูกจินตนาการของคนเขียนเขานะครับ ถึงจะไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใครก็เหอะ

0
Stellaris 30 ก.ค. 61 เวลา 01:01 น. 5-2

ถ้าพูดถึงเรื่องกระแส เราเขียนแนว Fortnite ดีกว่าค่ะ PUBG ตกกระแสไปนานแล้ว 5555


เอาจริงๆต่อให้ไม่เคยเล่น เราว่าถ้าคนเขียนมีความสามารถ ยังไงก็เขียนออกมาได้สนุกอยู่ดีค่ะ ไม่เกี่ยวกับว่าจะมีประสบการณ์มาก่อนรึเปล่า ไม่งั้นแนว eSport ถ้าจะเขียนนี่คงต้องเคยลงมาซักลีครึเปล่าล่ะ? มันก็ไม่ใช่นะคะ 555


แต่จริงๆก็เคยคิดอยู่ค่ะแนว eSport น่ะ พูดเลยว่าไม่ง่าย ไม่ว่าจะเกมแนวไหน FPS, MOBA, Card game ยิ่งยากที่สุดก็ Moba ต้องบรรยายแนวคิดตัวละครถึง 10 ตัว ไหนจะฮีโร่ ที่ถ้าคนไม่เคยเล่น ไม่มีทางเข้าใจแน่นอน ฟันธงได้เลย ต่อให้เป็น LoL ที่เรามองว่าเขียนง่ายๆแล้วนะ ยังยากเลยถ้าจะบรรยายเป็นนิยาย ถ้าจะเอาให้สมจริง ท้าทายสุดๆต้องอย่าง Dota 2, HoN ซึ่งถ้าระดับ eSport นี่คนทั่วไปเข้าไม่ถึงค่ะ เป็นนิยายนี่คนงงแน่นอน ว่าทำไมพระเอกที่เล่นแครี่ไม่ยอมไปสู้มัวแต่ฟาร์ม รึแยกไปดันเลนอื่น ทำไมอยู่แต่ในป่าเอาแต่หนี รึพวกตัวเปิด ที่ทำไมไม่ยอมไปเปิดแต่รอตัดจังหวะทำแบบนั้นไปทำไม อะโกรครีปคืออะไร แยกเก็บคืออะไร บรรยายละเอียดยังไง คนก็ไม่เข้าใจง่ายๆค่ะ ยิ่งคนเคยเล่นอาจจะยิ่งไม่เข้าใจด้วย เพราะเหตุผลที่ว่าพวกเขาอาจยึดติดกับวิธีการเดิมๆ เลน 2-1-2 รูนไม่ยอมเก็บ ชอบไดว์ป้อมอะไรแบบนี้ เพราะงั้นยากค่ะ ต้องเคยเล่นถึงจะเข้าใจ ต่อให้เคยเล่นถ้าไม่อยู่ในระดับเข้าใจระบบ (ระดับเก่ง) ก็อ่านไม่เข้าใจหรอก


FPS นี่ก็ใช่ว่าจะง่าย เราเล่น CSGO มันไม่ใช่แค่เจอศัตรูก็ยิงๆ กู้ระเบิด ช่วยตัวประกัน จบ มันเป็นการทำงานแบบประสานงานเป็นทีม ซึ่งซับซ้อนเอาเรื่องนะ เช่นเดิม คนไม่เคยเล่นไม่เข้าใจหรอก เขียนเอามันส์แบบ SAO Alter น่ะได้ แต่ถ้าเขียนจริงจังเอาแบบ eSport ต่อให้บรรยายดียังไงก็ยากค่ะแม้คนอ่านจะเป็นวัยรุ่นเล่นเกมเหมือนกัน ที่พอเป็นไปได้ก็การ์ดเกมนี่ล่ะ อย่าง Hearthstone รึ Shadowverse อธิบายการ์ดดีๆ คนเข้าถึงได้แน่นอน แต่คนที่จะตามอ่านแนวเกมการ์ดนี่คิดว่าเฉพาะกลุ่มมากๆ หรืออย่าง FIFA เกมกีฬา เอาจริงๆก็ยากนะ เว้นแต่จะเล่นขำๆ แต่ไม่คิดว่าเนื้อเรื่องจะเขียนได้นาน


ทีนี้มา MMORPG ที่ได้รับความนิยม คนเขียนเยอะเพราะมันเข้าถึงง่ายค่ะ ใส่มินิเกมส์แบบไหนลงไปก็ได้ เขียนให้เป็นแนวอย่าง PUBG แต่ใช้ดาบใช้เวทย์ยังได้เลย มันเปิดกว้างมากกว่าแนวเจาะจงเฉพาะทาง จินตนาการตามได้ง่ายกว่าด้วยค่ะ มันมีอะไรมากกว่าแค่การฟาร์มเวลตีมอน เช่น ปาร์ตี้เควสจะมีปริศนาให้ช่วยกันแก้ เป็นแนวสืบสวนก็ได้ รึจะกิลวอร์ เป็นแนวสงครามแฟนตาซีก็ได้ ดราม่าจากเนื้อเรื่องเควสก็ได้ มันยืดหยุ่นกว่าน่ะค่ะ ทำให้เขียนได้เรื่อยๆ จะเอาแบบแข่งขันก็ได้อย่างเช่นตัวเอกตั้งเป้าจะเป็นโจรสลัดอันดับ 1 ก็ไล่ PvP ตามลีคไป ทำนองนี้ เพราะงั้นถ้าจะเหมาว่าแนว MMORPG เห่อมอยมันออกจะเกินไปหน่อยนะคะ 555 คือจินตนาการมันเปิดกว้างกว่ามากน่ะ

0
Oregon Trail 30 ก.ค. 61 เวลา 01:41 น. 5-3

5-1


ขอพูดย่อหน้าสุดท้ายหน่อย ผมรู้ว่าผมพูดกระทบจิตใจคนบางคนบ้าง ยังไงขอโทษละกัน แต่ไม่ชอบแฟนตาซีระบบเกมจริงๆ จงใจยัดเยียดไม่ให้ผมใช้จินตนาการบ้างเลย ขนาดนิยาย Ready Player One ยังไม่ยัดเยียดขนาดนี้


แต่คุณคิดว่า นิยายเกมออนไลน์ทุกเรื่องจะขาดแฟนตาซีไม่ได้เลยเหรอ เห็นบางเรื่องโม้เครื่อง VR ดึงจิตผุ้เล่นเข้าไปในเกมจนรู้สึกเหมือนตัวเองเกิดอยู่ในโลกนั้นจริง ผมไม่รังเกียจแนวแฟนตาซีหรอก แต่เสียดายไอเดียที่อุตสาห์โชว์เทคโนโลยี น่าจะต่อยอดไปใช้งานด้านอื่นๆด้วย เช่น VR จำลองการขับเครื่องบินฝึกอาชีพให้บริษัทการบินไทย VR จำลองสงครามสำหรับกองทัพ VR จำลองผ่าตัดคนไข้ VR เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น


eSport เอาเข้าจริง ถ้าเคยดูหนังหรือการ์ตูน Tournament หลายเรื่องจะรู้ว่า eSport ไม่ได้เครียดอย่างที่คุณบอกเลย ถ้าเป็นนิยายจีนย้อนยุคจะเป็นการประลองยุทธจักร ถ้าเป็นนิยายแฟนตาซียุโรป จะเป็นการประลองอัศวิน โดยรางวัลจะได้แต่งงานกับองค์หญิง ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กของพระเอกอยู่คนละชนชั้นกัน (ถ้าตัดความเป็นเพื่อนสมัยเด็กออก ผมนึกถึงโรบินฮู้ดของ Walt Disney เก่ามาก ดวลธนูยิงเป้าเพื่อชิงนางเอก) สำหรับ eSport มันคือการประลองยุทธจักรแห่งเกมคอมพิวเตอร์ แค่นั้นเอง


ส่วนที่คุณบอกว่าเครียดเกินไป อย่าซีเรียสจนเคยตัวนะครับ สำหรับคนอื่นๆรู้สึกเฉยๆ ถ้าเป็นแฟนคลับก็ว่าไปอย่าง

0
G.Tenju 30 ก.ค. 61 เวลา 01:51 น. 5-4

เรื่องพูดกระทบจิตใจนี่ส่วนตัวไม่เป็นไรหรอกครับ ผมแค่สงสารพวกน้องๆนักเขียนที่จะระบายจินตนาการอะไรออกมาแล้วโดนต่อว่าเรื่องต่างๆ จนกลายเป็นไม่กล้าเขียนหรือไม่ก็ห่วงแต่ว่าจะมีคนกดไลค์(ยอมรับ)หรือเปล่า พอนึกอะไรไม่ออกก็ต้องไปลอกรูปแบบที่มีแต่คนชมจะได้กล้าเขียนแทน มันเป็น Loop น่ะ


เอ่อ... ถ้าผมซีเรียสจนเคยตัว แล้วที่บอกว่า


"น่าจะต่อยอดไปใช้งานด้านอื่นๆด้วย เช่น VR จำลองการขับเครื่องบินฝึกอาชีพให้บริษัทการบินไทย VR จำลองสงครามสำหรับกองทัพ VR จำลองผ่าตัดคนไข้ VR เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น"


นี่ไม่ซีเรียสกว่าอีกเหรอครับ = = การเขียนนิยายเกมสนุกๆ กลายเป็นการวางรากฐานเทคโนโลยีทางสังคมไปแล้ว คำถามคือ... เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องของนิยายเกมออนไลน์?


ป.ล. มีอะไรก็คุยมาเผื่อเราเข้าใจไม่ตรงกัน

0
Oregon Trail 30 ก.ค. 61 เวลา 02:42 น. 5-5

พรุ่งนี้หยุดงาน ต่อจนง่วงนอนละกัน


5-2


Fortnite กับ PUBG พอๆกันแหละ แนว Battle Royale เหมือนกัน แค่ต่างบริษัทกัน เห็นมีข่าวดราม่าฟ้องร้องพักๆ (ซึ่งผมไม่แคร์)


เรื่อง eSport พูดไว้ใน 5-3 ไปแล้ว พูดถึงแนวเกมก็ต้องฝึกต่อไปบ้างแหละครับ ต้องคิดก่อนว่าจะเขียนให้ใครอ่าน ถ้าเจาะกลุ่มคนอ่านเล่นเกมอย่างเดียวแบบแฟนตัวยง เขียนไปเลยก็ได้ แต่ถ้าคิดจะเขียนเผื่อคนอ่านที่ไม่ได้เล่นเกมแนวนั้น พยายามเขียนบรรยายกับบทสนทนาให้เป็นภาษาคน ลดการใช้ศัพท์เฉพาะทางให้มากที่สุด ต้องแน่ใจว่าคนอ่านอ่านรู้เรื่องเหมือนคุณมั้ย เรื่องความยากของเกมเพลย์แล้วแต่ความรู้ความสามารถส่วนบุคคล คนที่โตมากับเกมแนวไหนก็จะเก่งด้านนั้น แม้ไม่ได้เป็นเทพเหมือนนิยาย


สุดท้าย ถ้าคุณคิดว่า MMORPG เปิดกว้างทางความคิดแบบที่มีคนเขียนเยอะเข้าถึงง่าย ทำไมไม่ลองเขียนให้แตกต่างกันล่ะ อย่าง MMORPG สไตล์คาวบอยเอ่ย คนล่าท้าผีออนไลน์เอ่ย สงครามสู้ด้วยเงินจริงของผู้เล่นเองเอ่ย (เคยเจอมุกนี้ Silver Gravekeeper ฝีมือช่างแมร่ง เอาเงินจริงฟาดตีกัน ผมเลิกตามอ่านเลย เกมคนรวยออนไลน์ชัดๆ) ขับเครื่องบินรบสู้กันเอ่ย รับบทเป็นประชาชนหนีตายในสงครามกลางเมืองเอ่ย (The War is Mine) เป็นต้น ถ้าคิดว่าตัวเองมีจิตนาการมากเหลือล้นแบบดูถูกไม่ได้ละก็ คุณจะต้องเขียนนิยายตามกระแสชาวบ้านสักทุกเรื่องเลยเหรอ


0
Oregon Trail 30 ก.ค. 61 เวลา 03:49 น. 5-6

5-4 ผมคงแก่ไปจริงๆแหละ


ผมมีตัวอย่างน่าสนใจ


คุณเคยดู Sword Art Online บท Mother's Rosario รึเปล่า (ภาคอนิเมะซีซั่น 2 ตอนที่ 22 ไลท์โนเวลเล่ม 7) จะมีฉากหนึ่งที่อาสึนะ (นางเอกของเรื่อง) ไปหายูกิตัวจริงที่โรงพยาบาล หลังจากยูกิไม่ล็อกอินหลายวัน แล้วได้รู้ความจริงจากหมอพร้อมให้ดูห้องผู้ป่วยว่า ยูกินอนป่วยบนเตียงติดแหงกมา 3 ปีตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเธอมีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องระยะสุดท้าย สวมเครื่อง Medicuboid ตั้งแต่เข้ารับการรักษาวันแรก ไม่มีทางลุกออกจากเตียงเพื่อเล่นเกมออนไลน์เครื่องไหนได้เลย ยูกิจึงอาศัยเครื่อง Medicuboid เข้าเกม Alfheim Online จึงนำไปสู่การพบพวกอาสึนะในเกม


Medicuboid คือเครื่อง VR เพื่อใช้การแพทย์โดยเฉพาะ แต่ไปชนเหตุการณ์ผู้เล่น 10,000 คนติดอยู่ในเกม Sword Art Online จึงไม่มีใครกล้าใช้ Medicuboid กันเลย เพราะถูกสร้างมาหลักการเดียวกับ NerveGear ที่ใช้เพื่อความบันเทิง ทำให้กลัวว่ามันจะทำลายสมองของผู้ป่วยด้วย พอดีมีผู้ป่วยหนักอย่างยูกิ จึงกลายเป็น(หนูทดลอง)คนแรกที่ใช้ Medicuboid


นี่แหละผมถึงได้บอกว่า VR น่าจะมีอะไรนอกจากเกมบ้าง ถ้าอยากโชว์ความเทพของตัวเครื่องเล่นเกมขนาดนี้ (ถ้าถ้าเล่นเกมด้วย PC บ้านๆ ลืมสิ่งที่ผมพูดได้เลย) ถ้าคุณลองคิดตามแนววิทยาศาสตร์ โดยไม่เอาแฟนตาซีเกี่ยวข้อง คุณจะเห็นไอเดียบางอย่างน่าสนใจ อยู่ที่คุณจะเอาไอเดียมาใช้กับเรื่องรึเปล่า


อีกอย่างหนัง Ready Player One ที่เคยฉายเมืองไทย ไม่เคยเรียกตัวเองว่าแนวแฟนตาซี แต่เป็น science fiction เกมออนไลน์ต่างหาก


ง่วงแล้ว นอน

0
Stellaris 30 ก.ค. 61 เวลา 03:57 น. 5-7

พอเข้าใจคุณแล้วสิ แบบว่าเจอพระเอกเทพได้พลังโกงๆแล้วมันน่าเบื่อดูไม่มีความพยายามเหมือนคนไม่เคยเล่นเกมจริงๆสินะ เพราะในเกมออนไลน์จริงๆต้องเล่นเป็นปีๆ ทำของ ฝึกซ้อม วางแผน แนวเทพทรู ได้พลังโกงๆจึงดูไม่น่าสนใจ เพราะในความเป็นจริงมันไม่มีใครได้พลังแบบนั้น 555


ติดนิดนึงก็คือ แฟนตาซีต่างโลกระบบเกม อันนั้นนี่ไม่จัดว่าอยู่ในหมวดแฟนตาซีหรอคะ? คือ นิยายเกมออนไลน์ ก็น่าจะอยู่แต่ในกรอบของคำว่าเกมนิ ไปต่างโลกมีระบบเกมนั่นมันแฟนตาซีแล้วน่ะ อีกอย่างนึงก็คือเกมออนไลน์แฟนตาซีนี่คนล่ะอย่างกับไปต่างโลกมีระบบเกมเลยนะคะ


ในกรณี eSport ดูเหมือนเราจะเข้าใจไม่ตรงกันแฮะ เพราะเราติดตามตลอด การแข่งจริงๆเขาซีเรียสกันมากค่ะ ซ้อมเป็น หมื่นชั่วโมงก่อนแข่งจริง เล่นทั้งวัน มีตารางเวลาแบบนักกีฬาจริงๆเลย เพราะงั้นจะให้ไม่ซีเรียสคงเป็นไปไม่ได้ถ้าจะเขียนแนวนี้ การบรรยายจึงต้องละเอียดตามไปด้วย ซึ่งก็อย่างที่บอกไป คนไม่เคยเล่น จะอ่านไม่เข้าใจค่ะ

0
G.Tenju 1 ส.ค. 61 เวลา 08:30 น. 5-8

#5-6

เคยดูครับ แล้วมันก็น่าสนใจจริงๆ แต่ไอเดียนั้นมันเกิดขึ้นเพราะคนเขียนเขาสนใจเทคโนโลยีด้านนี้เฉพาะเจาะจง เขาจึงศึกษาลงลึกจนได้มันมาใช้ ส่วนนักเขียนหลายท่านเขาชื่นชอบเฉพาะ 'โลกจำลอง' เฉยๆเพราะมันน่าสนใจสำหรับเขา (ลองให้แต่ละเจ้ามาอธิบายเรื่องคลื่นสมองกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าสิ รับรองได้สมองละลายโดยไม่ต้องใส่เนิฟเกียร์)


มันดีกว่าที่จะปล่อยให้คนเขียนได้เขียนในสิ่งที่ตัวเองสนใจไปเลย พอเขากระหายไอเดียเพิ่ม เขาจะหาสิ่งที่น่าสนใจมาใช้ในงานได้เอง แต่ถ้าเราไปเบรคเขาก่อนว่า 'ทำไมไม่แตกต่าง?' เขาจะเขียนนิยายด้วยความกังวลจนมันสะดุดในที่สุด ซึ่งแย่กว่าการปลอยไหลตามจินตนาการจนไปสุดทาง


ตอนนี้วัยรุ่นเริ่มเครียดกับคำว่า 'แตกต่าง' จนกลายเป็นสาเหตุซึมเศร้ารูปแบบใหม่ไปแล้วครับ = = ถ้ามีประเด็นไหนที่มันก่อเชื้อให้โรคได้ ผมก็จะพยายามเข้าไปหยุดไว้ก่อน


#5-7

แฟนตาซีต่างโลกระบบเกม อันนั้นนี่ไม่จัดว่าอยู่ในหมวดแฟนตาซีหรอคะ?


มันควรอยู่ในหมวดแฟนตาซีนั่นแหละ แต่เธอลองคิดตามดูนะ... ว่าถ้าเธอมองหานิยายแฟนตาซีอยู่ดีๆ แล้วมาเจอสิ่งที่เกี่ยวข้องกับระบบเกมที่ไม่ถนัดเอาซะเลยจะรู้สึกยังไง? ผลลัพธ์มีสองแบบคือ


1. เออ... ยังไงก็แฟนตาซี ลองอ่านดูแล้วกัน

2. ระบบบ้าบออะไรเนี้ย! ทำไมไม่ไปอยู่หมวดเกมออนไลน์ยะ!? (มีคนตั้งกระทู้ไล่มาแล้ว)


แต่ถ้าเธอสนใจเรื่องของเกมอยู่แล้ว มาหานิยายในหมวดเกมออนไลน์แล้วเจอเกมที่มีลูกผสมเป็นโลกแฟนตาซีขึ้นมา ผลก็จะออกมาคล้ายๆกัน


1. เออ... ยังไงก็แนวเกมวะ ลองอ่านดูแล้วกัน

2. แฟนตาซีต่างโลกมายังไงฟะ ทำไมไม่ไปอยู่หมวดแฟนตาซี!? (ก็โดนไล่อีกเช่นกัน)


แต่ความคุ้นเคยจะมีมากกว่า เพราะโลกในเกมมันก็คล้ายแนวแฟนตาซีไปอีกแบบ ส่วนตัวเลยมองแค่ว่า โอกาสที่ 'คนชอบเกมจะเกลียดแฟนตาซี' มีน้อยกว่า 'คนชอบแฟนตาซีที่เกลียดเกม' จึงตัดสินใจมาอยู่ในหมวดเกมออนไลน์แทน หลักๆคือต้องการให้มันตรงใจคนอ่านมากที่สุดนั่นแหละ ย้ายกลับก็ได้เพราะไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็โดนไล่ + ไม่มีคำว่าผิดทั้งคู่


ว่าแต่เธอคิดมากถึงขั้นลบนิยายเลยเรอะอลิส!? เพิ่งเช็คเมื่อเช้า

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-big-02.png

0
Stellaris 1 ส.ค. 61 เวลา 15:03 น. 5-9

#5-8 อ้อ ไม่ได้ลบค่ะ นี่ปิดปรับปรุงเฉยๆ เพราะตอนนี้ตอนเยอะมากแล้ว 555 เขียนไปถึง 50 กว่าตอนแล้วน่ะค่ะ แต่อยากแก้พวกคำอะไรให้มันดีขึ้น เด่วแก้เสร็จจะเปิดให้คนเข้าไปอ่านอีกครั้งค่ะ

0
G.Tenju 1 ส.ค. 61 เวลา 20:21 น. 5-10

โหดแท้...


นี่เหม่อมองท้องฟ้ามา 20 กว่าวันแล้วยังเขียนไม่ออก เพราะดันเขียนหนักไปทางแฟนตาซีมากกว่าเกม จะรีไรท์ก็ประไรอยู่ ถถถถถ...

0
Twenty SIX 29 ก.ค. 61 เวลา 23:34 น. 6

การเนิฟ การบัพ น่าจะสำคัญเป็นอันดับต้นๆ


เพราะสกิลของพระเอกบางคนแม่มโคคตรOP ถ้านี่เป็นชีวิตจริงป่านนี้อาชีพของตัวเอกโดนเนิฟกระจุยแล้ว

2
Stellaris 30 ก.ค. 61 เวลา 01:05 น. 6-1

สมมุติตัวเอกมีสกิลโกงๆ แพทย์ต่อมาโดนเนิฟติดดินนี่คงตลกแปลกๆน่าดูนะคะ แต่ว่าเห็นด้วยเลยค่ะ เอาให้สมจริงต้องมีการบัพ/เนิฟด้วย

0
Twenty SIX 30 ก.ค. 61 เวลา 08:50 น. 6-2

ถ้าในความเป็นจริง(อย่างที่เขาว่า แนวเกมออนไลน์คือเน้นความสมจริงมากกว่าแนวแฟนตาซี)

การบัพอาชีพกากๆให้เก่งกว่าเดิม แล้วเนิฟอาชีพเทพๆให้กากลงมา มันถือเป็นเรื่องปกติในวงการเกม


ขนาดเกมยิงปืน แค่ดาเมจขั้นต่ำสุดในระยะสูงสุดของการยิง ยังมีการบัพให้ยิงแรงเท่าเดิมต่อให้กระสุนจะยิงไกลสักแค่ไหน หรือดาเมจอาจลดลงมาแค่30%ถ้ายิงจากระยะไกล


บางครั้งการเนิฟบัพ ถือเป็นสีสันที่ผู้เล่นทุกคนจะได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงและความเท่าเทียมด้วยล่ะ

0
no one know 30 ก.ค. 61 เวลา 11:02 น. 7

เอาจริง ๆ ผมคิดว่ามันสำคัญหมดแหละพวกหัวข้อที่ให้เลือกน่ะ แต่มองว่าจุดเด่นที่สุดของเกมออนไลน์ก็คือการปฏิสัมพันธ์กันของผู้เล่นนี่แหละ


ลองนึก ๆ ดูสมัยผมรู้จักกับเกมแรคน่าร็อคเป็นครั้งแรก (โอเค มันไม่ใช่ MMORPG เกมแรกหรอก แต่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักเกมนี้เป็นเกมแรกน่ะ) มันน่าตื่นเต้นตรงกับที่เราวิ่งไปในฉากกับคนอื่น ๆ พูดคุย รวมกลุ่ม สร้างกิลด์ แล้วลงดันไปเก็บของเก็บเวล ฯลฯ คือจากที่เคยคิดว่าเกมนี่มันมีแต่เราเล่นคนเดียวหรือเล่นกับคู่แข่งแบบมานั่งข้าง ๆ กันแบบพวกสตรีท2 หรือวินนิ่ง แต่สมัยนู้นคือไฟติ้ง อีเลเว่น (ใครรู้จักคือแก่มากนะ 555)


ทีนี้พอได้คุย ได้เล่นด้วยกัน ความสัมพันธ์บังเกิด พวกระบบสกิล เนื้อเรื่อง บอส มันก็ทำให้เหมือนกันได้หมด (โอเค ถ้าบอสอย่าง wow คงจะตีคนเดียวไม่ได้แน่ ฮา) มันเป็นสิ่งที่สัมผัสไม่ได้หากเล่นเกมแบบ single player อย่างเดียว ผมเลยคิดว่านี่แหละ คือจุดเด่นที่สุดในเกมออนไลน์ล่ะ...

0