อยากทราบว่าใครที่ทำงานประจำไปด้วยแต่งนิยายไปด้วยครับ? แล้วคิดว่าถ้าทำแบบนี้ต่อไปจะใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะแต่งนิยายจบ?
ตั้งกระทู้ใหม่
อันนี้ชวนคุยเฉย ๆ นะ ไม่มีดราม่าเคล้าน้ำตา อยากจะรู้ว่าคนวัยทำงานคนไหนบ้างที่ทำงานประจำไปด้วยและแต่งนิยายจนจบ และแต่ละเรื่องใช้เวลานานไหม?
ปล. แสดงตัวด้วยจะดีมาก ถือว่าคุณเป็นอีกหนึ่งคนซึ่งเป็นไอดอลของผมเลยก็ว่าได้...
น้อง ๆ วัยเรียนนับว่าได้เปรียบมากกกกกกกกก~~~ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียนตั้งแต่อายุยังน้อย
แต่คนแก่หงำเหงือก (ที่ยังสะเออะเล่นเว็บเด็กดีอยู่ จะทำอย่างไรดี? ขายพล็อตให้เอาไหม? ฮ่าๆๆ)
ปล. รักรีดเดอร์ทุกคนนะครับ
28 ความคิดเห็น
ทางนี้ทำงานไปด้วย แต่งนิยายไปด้วย เลิกแต่งนิยายไป10กว่าปีเพราะติดเกม จนตอนนี้อยากกลับมาแต่งอีกครั้ง อะไรๆเปลี่ยนไปเยอะ แถมฝีมือเราก็ตกอย่างมาก กำลังรื้อฟื้นอยู่ และนิยายที่ผมแต่งกว่าจะจบก็น่าจะหลายปีแน่ๆ
แล้วคุณ darkius ว่างแพลนไว้กี่ปีครับ? (ถึงตอนนั้นเราอาจจะแต่งนิยายจนจบพร้อมกันก็ได้นะ ฮ่า ๆ)
ไม่แน่ใจครับ แต่น่าจะเกิน 2 ปีต่อเรื่อง
ทำงานด้วยแต่งนิยายด้วยมาหลายปี ตอนทำงานด้วยแต่งนิยายด้วยเฉลี่ยก็เขียนได้ 3-4 เรื่องต่อปี แต่ตอนนี้ลาออกมาเขียนอย่างเดียวก็จะแต่งได้เยอะกว่าเดิม
โอ้โหหหห ~~~~~~~~ ข้าน้อยขอคารวะท่าน!!!
พึ่งไปส่องไอดีมาครับ คุณมีผลงานตีพิมพ์ตั้งหลายเล่มแหนะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ^^
-เราก็ไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพที่มีชื่อเสียงอะไรมากมาย ครั้นจะลาออกจากงานประจำมาเป็นนักเขียนเต็มตัวก็กระไรอยู่
#คุณเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นแรงผลักดันของผมนะครับ ขอบคุณที่แสดงตัว (^_^)
ขอเคล็ดลับหน่อยได้ไหมคะ นี่คือสองปีแล้วยังไม่จบเลยสักเรื่อง5555
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละค่ะ (ฮ่า) ช่างเป็นคำตอบที่ไม่รับผิดชอบเอาซะเลยเนอะ
บางทีผมก็อยากจะรู้ความต้องการของตัวเองให้เร็วกว่านี้ ฮา~~ ตอนใสใสก็มัวแต่ทำตัวไร้สาระ (แต่ชีวิตวัยรุ่นเนอะ ครั้งเดียว)
#เรามาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นพร้อมกันเถอะครับ 55555 ขอให้คนยังติดตามด้วยเถอะ สาธุ
สาธุ (ฮ่า)
พึ่งไปส่องไอดีมา คุณ A.p.Alis เขียนนิยายแนวจีนด้วย
ผมชอบแนวนี้ครับ แล้วจะตามอ่านนะครับ
ขอบคุณค่ะ
ผมวางพล็อตไว้ไม่ยาวมากครับ กะว่าสัก 60-70 ตอนจบ ก็เลยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเวลา
ว่างก็แต่ง ไม่ว่างก็พักก่อน หรือไม่ก็สลับแต่งตอนทำงานสักวรรคสองวรรค ถือว่าคลายเครียดอะไรแบบนั้น
#คอเดียวกัน ขอจับมือหน่อยครับ
แต่.... ผมวางไว้พันกว่าตอนให้ตายเถอะโรบิ้น ฮา~
ยาวเป็นเพชรพระอุมาเลย
ทำงานไปด้วย เขียนไปด้วยค่ะ ก่อนหน้านี้ปีหนึ่งก็เขียนจบประมาณ 2 เรื่อง แต่ปีนี้ยังไม่จบสักเรื่องเลย งานเยอะ บวกความนอยด์อะไรบางอย่างของตัวเอง (ว้า...)
จริง ๆ ครับ...
เหมือนทุกสิ่งอย่างมันประดังเข้ามาพร้อมกันหมดเลย
แต่... คุณคาระ ก็แต่งจนจบทั้งที่ทำงานไปด้วยนะครับ ถือว่าคุณสุดยอดมากแล้ว...
ขอบคุณที่แสดงตัวนะครับ (นึกว่าจะเป็นคนวัยทำงานในส่วนน้อยซะอีกที่ยังแต่งนิยายลงเด็กดี)
ในนี้มีคนวัยทำงานไม่น้อยหรอกค่ะ แค่ทำมานานแค่ไหนเท่านั้น
...ความจริงแล้วนี่คือกระทู้ดักแก่สินะ...
5555555555555
ไม่นะครับ ฮา~~~~~ พวกเราออกจะไสยไสย ^^
ตั้งแต่ทำงานมา ปีนึงได้ละที่นิยายแทบไม่เดินเลย
ยังดีที่ก่อนทำงาน แต่งนิยายจบไปเรื่องนึงได้ สานฝันวัยเด็กได้ทันก่อน ไม่งั้นคงไม่จบ เพราะเนื้อหายาว สเกลใหญ่และหนักกว่าเรื่องใหม่อีก ตอนนี้งานประจำเราก็หนักพอควร เหนื่อย ถึงเวลากลับหอคือนอน เสาร์อาทิตย์ก็อยากพักผ่อนอย่างเดียว
ตอนนี้คิดไว้ว่าประมาณ 3 ปี ที่อยากให้เรื่องใหม่จบ ก็หวังว่าจะเข็นไปได้อ่ะนะคะ 555 อาจจะช้าหน่อย แต่ก็พยายามเข็นไปก็จะจบอยู่
เข้าใจว่าทำงานประจำแล้วเขียนนิยายด้วยหนักมาก เราผลาญสมองกับพลังงานหมดไปกับงานแล้วอ่ะ เคยตั้งกระทู้บ่นเหมือนกันว่าทำยังไงถึงจะเขียนออก 5555 ไม่มีไฟ ไม่มีแรง ไม่มีอะไรเลย 5555
แต่หลังมาก็ดีขึ้นบ้าง ยังได้อัพบ้างตอนสองตอน 5555
สู้ๆเช่นกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ... คุณ RAY ก็สู้ ๆ เช่นกันนะครับ
วัยทำงานนี่มันเป็นอะไรที่ดูดเวลาส่วนตัวจริง ๆ (พึ่งจะรู้ว่าเวลามันสำคัญมาก ๆๆๆๆ ทีตอนมีเวลาเยอะก็ทำตัวเสเพล ว่าไปนั่น 555)
#พลังงานชีวิตเหือดแห้ง พลังงานสมองปลิวหายไปกับสายลม~
เฮ้ยยยย!!!! ขอเสริม! ผมตามอ่านเรื่องนี้ของคุณ RAY ใน Fictionlog นะครับ (แต่ไม่ได้เมนท์ ฮา~~~ นักอ่านเงาขอรายงานตัวขอรับ)
แต่... ขอเก็บตังแป๊บนะครับ แล้วจะเปย์
อ้าว หรอคะ สวัสดีค่ะ ^^ นักอ่านเงาก็ดีใจแล้วค่ะ ฮา
ใน fictionlog ไม่คิดว่าจะมีคนตามเท่าไหร่ เพราะลงแบบติดเหรียญเลย ไม่ได้ลงให้อ่านก่อนแบบ dek-d เลยจะเงียบๆนิดนึง 5555
ส่วนตัวเราแนะนำแบบ coin ใน dek-d จะราคาถูกสุดค่ะ ^^ แต่ถ้าอยากได้แบบมีหน้าปกสวยๆหน่อยก็จะ ebook ใน meb ไปเลย ฮาา
ไม่ได้ทำงานตอบได้ไหมคะ? ตอนนี้เรียนมหาลัย + ทำงานค่ะ เฉลี่ยเวลาเรียนก็ 8-9 ชม.(เผื่อวันที่ทำโมเดลจำลองจะเลิกช้าค่ะ) ทำงานอีก 4-5 ชม. หากเป็นวันส-อา ก็ทำงานเต็มชม.
วันธรรมดาจะเหลือ 1 ชม. ก็แต่งใส่ใน word ไว้ครึ่งนึงทุกวันจนครบ 100%
วันเสาร์-อาทิตย์เหลือ 4 ชม. มีเวลามากหน่อย
รวมๆแล้วหนูเรื่องละปีค่ะ หรือนานๆปีเลยค่ะ 555555
แม้ว่าตอนนี้ตัวหนูจะแต่งแต่ฟิค แต่ก็มีความฝันอยากแต่งนิยายให้ได้ จึงแต่งฟิคเพื่อเก็บประสบการณ์และฝึกภาษาไปเรื่อยๆค่ะ ส่วนนิยายก็เก็บไว้ก่อน แก้ไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะดีพอให้คนอื่นได้อ่านค่ะ หนูเองก็วางแพลนไว้ 1 ปีเต็ม แล้วก็หาประวัติจริงๆ หาอ้างอิงเยอะพอสมควร(สำหรับนิยายนะคะ)
ปล.1 อาจไม่ได้แนะนำอะไรเท่าไหร่ค่ะ
ปล.2 อายุไม่เกี่ยวกับความฝันนะคะ แต่เข้าใจค่ะยิ่งโตยิ่งมีภาระมากขึ้น เวลาก็น้อยลง สู้ๆนะคะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ว่าแต่น้องก็เรียนหนักเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย
จะฟิคหรือนิยายมันก็มีความยากแตกต่างกันไป ฝึกเขียนและพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ นะครับ แต่ที่ยากกว่าคือการแบ่งเวลาต่างหาก (พูดแล้วอยากร้องไห้ ฮ่าๆ)
ขอคุยด้วยอิอิ
ทำงานประจำเหมือนกันค่ะ จันทร์-ศุกร์ รับจ๊อบด้วยทุกวัน สรุปทำงานเจ็ดวัน งานหลักหนึ่งที งานเสริมอีกสองที่ไม่แบบยังไม่รวมงานเขียน ฮ่าๆ ไม่ได้เป็นมนุษย์บ้างานนะคะ เป็นมนุษย์บ้าเงิน เอ้ยไม่ใช่
สำหรับนิยาย ด้วยความที่สัญญากับตัวเองว่าจะทำให้เป็นนิสัย เลยทำทุกวันน่ะค่ะ ก็เลยแต่งได้วันละหนึ่งตอนย่อย รวมๆก็ประมาณเกือบสามเดือนก็จะออกมาหนึ่งเรื่อง (เพิ่งจบไปแค่สองเรื่องค่ะ ตอนนี้อยู่เรื่องที่สาม)
ที่ทำแบบนี้เพราะรู้สึกว่ามันเป็นพื้นที่ใหม่ของชีวิตค่ะ อารมณ์เหมือนเป็นวัยรุ่น เพิ่งค้นพบตัวเอง หากแต่เราไม่ใช่วัยรุ่นเสียแล้ว แหะๆ
โห~~ คุณ caneus เป็นผู้หญิงแกร่งมากอ่ะ แค่ผมทำงานประจำ จ-ส กลับจากที่ทำงานก็นอนสลบเหมือดไปเลย กว่าจะคลานขึ้นมาเขียนนิยายต่อได้นึกว่าซอมบี้ไต่ขึ้นปากหลุม
ผมก็เขียนทุกวันนะครับ แต่กว่าจะจบตอนหนึ่งก็ใช้เวลาไปประมาณสามวัน
อดีตวัยรุ่นอย่างเราก็ค่อย ๆ แต่ไปก็แล้วกันเนาะ สู้ ๆ ครับ
วินัยดีมากอ่ะ สามเดือนจบ
สู้ๆค่ะ บางช่วงก็ซอมบี้จริงๆ ฮ่าๆ
ยอมค่ะ ขยันมาก 5555
เราทำงาน จ-ศ 5 วันค่ะ แต่ถ้าช่วงงานพีค จะเลิกประมณ 2-4 ทุ่มเลย
เคยพีคแบบ 4 ทุ่มติดกัน 3 อาทิตย์...กลับถึงหอก็สลบละ ไม่มีแรงแล้ว
จะไปคิดเรื่องจ็อปเสริมนี่ตัดไปได้เลย T-T
ตอนเด็กๆเคยคิดว่าเรียนจบแล้วจะสบายค่ะ ตอนนี้รู้แล้ว ฮ่าๆ ยังดีนะคะที่ได้แต่งนิยาย รู้สึกว่าชีวิตยังมีมุมให้สดใสบ้าง
เราทำงานอาทิตย์ละ 5 วันหยุด ส-อา ในยามปกติ ถ้าไม่มีเหตุให้ต้องขนงานกลับมานะ
ส่วนใหญ่เรื่องหนึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งปีขึ้นกับความยาว และความว่างของเราค่ะ
เรื่องที่ลงจบไป จบที่ 67 ตอน แรกๆ ลง 2-3 วันครั้ง ตอนละ 2-3 หน้า A4 ยกเว้น 5 ตอนแรกที่ลงรวดเดียว ในวันที่ลงครั้งแรก ตอนละ 5-20 หน้า จากนั้นเปลี่ยนเป็นอาทิตย์ละตอน ตอนหนึ่ง 10-12 หน้า หลังๆ 16-20 หน้า บางทีทะลุไป 20-30 หน้า ลงครั้งแรกวันที่ 31 ธันวาคม 2559 จบต้นเดือนธันวา 2560 จริงๆ น่าจะจบตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาแต่ช่วงนั้นมีงานพิธีฯ เลยหยุดเขียนไปเดือน เลยลากยาวมานิดนึง ตีไปเป็น 1 ปีก็ได้
เรื่องที่เขียนจบก่อนหน้า แต่ไม่ได้ลงเริ่มเขียนราวๆ พฤษภา จบ ตุลา 2559 ที่ยังไม่ลงเพราะยังวางพล็อต และเขียนภาคต่อไม่เรียบร้อยเลยวางไว้ก่อน เป็นเรื่องแรกที่กลับมาเขียนหลังเขียนไม่ออกไปเกือบ 10 ปีค่ะ พอกลับไปอ่านใหม่ค่อนข้างดูแข็งๆ อยู่ ว่าจะรีไรท์ปีนี้เราก็ติดอบรม&สอบสารพัด หลังครึ่งปีหน้าเราคงทำอะไรได้เรียบร้อยกว่านี้ค่ะ
หนึ่งปีถ้าเขียนทุกวันก็สามร้อยกว่าตอนเลยเนอะ แต่ถ้าหักลบกลบหนี้เรื่องงานโน่นนี่นั่น เรื่องสมองตัน รวมถึงการรีไรท์และคิดพล็อต ปีเดียวนับว่าเป็นเวลาที่ไม่ช้าและไม่เร็วจนเกินไป (ยังพอมีเวลาพักหายใจหายคออยู่บ้าง ฮ่าๆ)
#แต่ทุกคนที่ทำงานไปด้วยและแต่งจบไปแล้วหลายเรื่องนี่สิ สุดยอดเลยครับ!!
ผมเองก็เหมือนกันนะ ย้อนกลับไปอ่านงานเขียนสมัยวัยเอ๊าะ ๆ ใส ๆ (แต่ไม่ได้เอามาลงในเด็กดี) มันก็จะมีความเป็นก้อนหินผสมโรงกับแผ่นซีดีหนังตลกแถมยังเป็นแผ่นที่สะดุดอีกต่างหาก
อย่างน้อยสิบปีที่ผ่านมาพัฒนาการทางภาษาของผู้ใหญ่ มันก็ดูจะลื่นไหลมากกว่าวัยเยาว์นะครับ ว่าไหม?
ที่จริงก็พยายามจะเขียนทุกวัน วันละนิดละหน่อย พอวันหยุดก็จับมารวบทีหนึ่ง อย่างที่คนข้างบนว่าเขียนวันละตอนก็ไม่นานค่ะ
มันอยู่ที่วินัยด้วย เราก็ตั้งเดทไลน์ตัวเองว่าอาทิตย์ละตอนเป็นอย่างต่ำ เอาที่ตัวเองไม่หนักเกินไปค่ะ
พอโตมาอ่านอะไรมากขึ้นเก็บประสบการณ์ การใช้ภาษาก็ดีขึ้นค่ะ
ตอนนี้เราก็พยายามเขียนวันละนิดเหมือนกันค่ะ (วันละสองบรรทัด - ฮ่า) กว่าจะจบตอนคงอีกนาน
ไม่ได้ทำงานประจำ แต่ทำบ้างไม่ทำบ้างนี่ตอบไม่ถูกเลยค่ะ
เจอพวกแล้วววววว คห.12
55
เรา เดือนละ 1เรื่อง นี่จบไป 8 ละ
โอ สุดยอดเลยค่ะ เดือนละเรื่อง
โอโห ทำได้ไงอ่ะ
มันมีปมมาจาก ติดนิยายที่อ่านไม่จบอ่ะ
คือเขาเลิกแต่ง หาอ่านใน e - book ก็ไม่มี
เลยเอาวะ ลองแต่งเองสิ แบบจบด้วย
ทำยากไหม ... พอดีมีพล๊อตเลยประเดิมเลย
โจทย์คือ เดือนละ 1 เรื่อง ....
บางจังหวะมีนอยนะ แต่จะหยุด กลัว Fc เสียใจ
เลยต่อมาเรื่อยๆ พอดีเราอ่านมาเยอะ
เลยพอได้ นิยายเราก็พอรับได้นะ
ดูจากฐาน เฟบแล้วอ่ะ.....
เขียนตอนไหน .....เที่ยงกับเลิกงาน
วันหยุดได้ตลอด ... อยู่ที่อารมณ์ด้วย
ผล...ไม่ดีมาก แต่ไม่น่าเกลียด...รับรอง
แต่งจบก็ขาย.... ได้เงินประมาณหนึ่ง ...โอเคนะ
ตอนนี้มีเรื่องเปิดอ่านฟรีอยู่ ปิดคืนนี้ละ ....ลองอ่านดูค่ะ
เ
ตอนแรกเข้าไปส่อง My.id ตัวละ แต่ล็อคไว้เฉพาะเพื่อนงั้นขอแอดไปนะคะ
อ้าวเราปิดเหรอ ถึงว่าทำไมมีคนขอแอด แต่เปิดตรงไหนอ่า
เข้าไปที่ปรับแต่ง My.id / My.id control นะคะ
ตรงการตั้งค่า My.id เลือก แก้ไข Profile
จากนั้นตามรูปค่ะ เลือกที่ 'เปิดให้ทุกคนดูได้'
ส่วนเรื่องแอดเพื่อนก็มีรับแอดอัตโนมัติกับแบบกดรับค่ะ
ป๊าดดดดด~~~ คุณ Varunyanee ต้องเป็นคนมีไอเดียใหม่ ๆ บรรเจิดอยู่ตลอดเวลาแน่ ๆ เลยครับ
เพราะสำหรับผมการคิดพล็อตนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควรเลยนะครับ
ยอมใจคุณจริง ๆ ทำงานด้วยแต่งนิยายไปด้วยด้วยแถมจบหลายเรื่องอีก ขอคารวะเลยครับ^^
เดือนละเรื่อง !!!
นับถือ..นับถือ...
พล็อตไหลดีจริงๆค่ะ อยากมั่งอ่ะ
อยู่ในวัยทำงานเหมือนกันค่ะแต่งานที่ทำเป็นงานส่วนตัวเลยทำให้มีเวลาว่างเยอะ -- แบบไม่ค่อยเป็นเวลาสักเท่าไร(เช้าสายบ่ายค่ำ-ไม่เคยตรงกัน) -- แต่งนิยายทุกครั้งที่ว่าง+คิดออก -- ที่จริงโดยประมาณมักจะเขียนใหม่ได้วันละ ครึ่งบท หรือ 1/4 ของบท โดยเฉลี่ย [บทละประมาณ 4000 คำ (ในตอนนี้)] ส่วนเรื่องว่าจะเขียนจบเมื่อไร ไม่ได้คิดกำหนดกะเกณฑ์อะไรเลย แต่ใจอยากเขียนจบให้เร็วและดีก็เลยพยายามมากหน่อย เหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดี ถ้าเวลาไม่เอื้อก็พัก สมองไม่แล่นก็พัก ไม่มีข้อกำหนดตายตัว :-)
นั่นสินะครับ บางทีเราก็โทษงานไม่ได้เนอะ (โกรธตัวผมเองที่ดันสะเออะคิดพล็อตยาว ฮา~~) ว่าง ๆ ก็แต่งเรื่อย ๆ ละกันเนาะ ถ้าทำเป็นประจำยังไงก็จบอยู่แล้ว
อะ ให้กำลังใจหัวอกคนทำงานประจำและงานอดิเรกคู่กันนะครับ ^^
เรื่อย ๆ ครับ สามปีแล้วว่างก็เขียน แต่งอยู่เรื่องเดียวครับ มีตอนจบแต่ว่าเขียนไปเรื่อย ๆ เพราะอยากรู้ว่ามันไปทิศไหนได้บ้าง
บางทีความชิวก็ทำให้เรามีทิศทางการเขียนที่กว้างขึ้นนะครับ ประมาณว่าอยู่ ๆ ดันคิดเหตุการณ์ใหม่ ๆ แทรกเข้าไประหว่างนั้นอีกเพียบ
#สายแต่งนิยายนาน ช้าแต่ชัวร์ ไม่ต้องกลัวว่าจะเทใช่ไหมครับ ฮา~
#แล้วเราจะแต่งจนจบไปด้วยกัน
เราเกือบได้มีงานทำที่เซเว่นแล้วค่ะ
แต่เพราะอคติมันค้ำคอฝ่าย HR บางคนของเซเว่น
ที่มาเหยียดเราที่เป็นคนรูปร่างผอม น้ำหนักน้อยว่าเป็นพวกขี้โรค ปัญญาอ่อน ทำงานไม่ได้
โดยที่ยังไม่ทดสอบความสามารถของเรา
คนอื่นๆที่ตัวผอมเหมือนกับเรา แต่มีน้ำหนักเยอะกว่ายังได้รับโอกาสจากนายจ้างใจดีให้ทำงานเลย
แล้วเราล่ะ อคติเกินไปป่ะ ทำไมไม่ให้โอกาสบ้าง
ดีแล้วครับ อย่าไปทำงานร่วมกับคนใจแคบเลยครับ ว่าแล้วลองไปสมัคร 7-11 สาขาอื่นที่อยู่ใกล้ ๆ กันดูสิครับ บางทีคนที่นั่นอาจจะใจกว้างกว่าที่เดิมก็ได้นะครับ สู้ๆ
ล่าสุด เซเว่นสาขาใกล้บ้าน (แต่อยู่คนละซอย) ที่เราเคยไปสมัครแล้วเจอคนใจแคบคนนั้นเหยียด
ได้ถูกรื้อถอนไปแล้วจ้า
ดีนะที่เราเคยไปสาขานั้นแค่ 2-3 ครั้งก็ไม่ไปอีกเลย
เราไปซื้อของในเซเว่น โลตัส บิ๊กซี
เราหิ้วของหลายๆถุง
พนักงานเซเว่น โลตัส บิ๊กซียังยิ้มขำๆเลยว่าเราตัวผอมนะ แต่หิ้วของเยอะๆไหวจัง
เรากะว่าไปสมัครงานที่ร้าน Cafe Amazon กับแฟมิลี่มาร์ท
พอตัดสินใจว่า..จะเริ่มเขียนล่ะนะ
เราก็จัดเวลาให้การเขียนเป็นหนึ่งในงานของเราค่ะ
กำหนดวันเขียนและวันอัพ พยายามให้ตรงเวลาให้มากที่สุด
2ปีจบไป2เรื่อง
ตอนนี้ขึ้นเรื่องที่ 3,4,5
เราเคยสัญญากับคนอ่านว่า
-ถ้ายังมีคนอ่าน..แม้คนเดียว ก็จะลงจนจบ (ไม่มีคนอ่านไม่ลงต่อ ไม่ใช่ท้อ ไม่ใช่งอน แต่จะเอากลับไปปรับปรุงใหม่ค่ะ)
-ไม่ไล่/ไม่ลบ คือ เราจะไม่ไล่คนอ่าน และไม่ลบทุกเม้นต์ ไม่ว่าจะเม้นต์มารูปแบบไหน (ที่เห็นมีบางเม้นต์ลบ คือจขม.ลบเองค่ะ คงเม้นต์ผิดตอน)
คำสัญญานี้เป็นส่วนหนึ่งของงานค่ะ สำคัญเท่ากับการทำงานประจำอื่นๆ
ยอดวิวไม่เยอะ เฟบไม่เยอะ เม้นต์ไม่เยอะ
แต่ก็ดีใจที่ได้ทำสิ่งที่เราทำตกหล่นหายไปจากชีวิตอีกครั้ง
เอาจริงๆเรื่องยอดวิว กับยอดเฟบ
ทำร้ายจิตใจเราไม่ได้นะ ....
เพราะเรามาด้วยใจไง :-)
ของเรามันฟีลอินดี้มากกว่าค่ะ แบบเอาที่สบายใจ ด้วยความว่าไม่คาดหวังเลยไม่ต้องยึดกับอะไร
จริงๆ เราค่อนข้างจะ Introvert ที่คุยๆ ในบอร์ดนี้ไม่ต้องเห็นหน้า เจอตัวจริงเลยคุยได้ ของจริงนี่ ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน แทบไม่คุยกับใคร ขนาดติดต่องานเราเลือกอีเมล์ก่อนโทรนะ
แซ่บอ่ะ อินดี้ของแท้ .....
เห็นด้วยครับ ในเมื่อเราตัดสินใจสร้างหนึ่งผลงานขึ้นมาแล้ว... ยังไงก็ต้องเขียนให้จบเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่นักอ่านทุกท่านที่ติดตามผลงาน
#วอนนักอ่านทุกท่านโปรดเข้าใจ ฮ่าๆๆ ที่ลงช้าคือไม่ได้งอนแต่งานมันเย้อออออ!! ฮ่าๆ
โห..อินดี้กันจริงๆ 55555
ของเราต้องทำเป็นแบบแผนไว้ ไม่งั้นก็จะเผลอตามใจอารมณ์ตัวเองค่ะ
วางตารางแบบงาน
ฝึกเขียนแบบหัดเรียน
ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเก่งและได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนอย่างเต็มภาคภูมิ
ทำงาานด้วย เขียนไปด้วยค่ะ ทำแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วจนจบมาทำงานก็ยังทำต่อ เน้นการแบ่งเวลา อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่มีความสุขค่ะ ส่วนเรื่องการเขียนนิยายจบ ก็จะเขียนได้ช้ากว่าคนที่เขียนเป็นงานประจำอยู่แล้ว แต่จบแน่นอน เพราะยังไงก็มีเดธไลน์ของบ.ก. เป็นตัวเร่งอยู่ดี น้ำตาจะไหล TT
โห นักเขียนมืออาชีพมาอีกคนแล้ว...
อันที่จริงผมอยากจะคุยกับนักเขียนที่ได้ตีพิมพ์ทุกคนเป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำ 555
แล้วคุณ นวตา ไม่ผันตัวเองออกมาเป็นนักเขียนแบบเต็มตัวเลยเหรอครับ? ฟังดูแล้วเหนื่อยแทนคุณจัง บก.เร่งอีกแหนะ
แต่ยังไงก็สู้ ๆ นะครับ
ตอนนี้ยังไม่ได้มีแพลนออกมาทำงานเขียนแบบเต็มตัวค่ะ เพราะยังชอบในงานหลักตัวเองอยู่ เพราะอุตส่าห์เรียนมาทางนี้ด้วยแล้ว และการมีงานประจำที่มีรายได้มั่นคงแน่นอนก็เป็นเรื่องดี เราจะไม่เครียดกับเรื่องรายได้มากนัก เพราะรายได้ไม่ได้มาจากทางนี้ทางเดียว
ในเมื่อมีส่วนนี้คอยซัพพอร์ตแล้ว เพราะงั้นจะมีเวลาโฟกัสกับคุณภาพงานเขียนมากกว่าพะวงว่านิยายจะขายดีหรือไม่เพียงแย่างเดียว ทำงานเขียนเป็นงานเสริมที่รักอีกอย่างก็สุขใจดีค่ะ แต่ปัญหาคือ มันจะเหนื่อยหน่อยเท่านั้นเอง 555 แต่ถ้าคิดว่าจัดการได้ เอาอยู่ ก็สามารถทำได้ค่ะ
1 ปี ต่อ 1 เรื่องค่ะ คือ เคยมีโมเมนต์ครึ่งปีจบ คือ ทำงาน 5 วันค่ะ ช่วงนี้พักเขียนอีกทีปีหน้า ชิลๆ ค่ะ555
หนึ่งปีหนึ่งเรื่องผมว่ามันสมดุลแล้วครับ ทั้งงานทั้งชีวิต
#ผมก็สายชิลล์นะครับแต่ดันวางพล็อตซะใหญ่เชียว
สู้ ๆ นะครับจากคนวัยทำงานด้วยกัน
รอตีพิมพ์ด้วยอะค่ะ เลยมีเหตุผล ติดเกมแบบไม่มีความผิด เย่!
เคยแต่งตอนก่อนจะทำงานนะค่ะแต่พอทำงานแล้วกลับไม่ได้จับคอมเลย ณ ปัจจุบันออกงานประจำเพราะต้องมาดูแลคุณแม่แต่อารมณ์ร่วมกับตัวละครกลับหายไปตอนนี้ก็เลยกลายเป็นยังจูนเหตุการณ์กับอารมณ์ร่วมตัวละครไม่ได้เลยเศร้าจายยยยยTOT แต่ก็พยายามต่อไปเพราะคิดไว้แล้วว่าจะไม่ทิ้งตัวละครของเรา
เข้าใจครับยังไงครอบครัวก็ต้องมาก่อนงานอยู่แล้ว ยังไงคุณ เวนิตา ก็ค่อย ๆ แต่งต่อไปนะครับอย่าทิ้งตัวละครของเราเลยเนอะ อีกอย่างขอให้ผ่านพ้นเรื่องราวต่าง ๆ ในครอบครัวไปได้ด้วยดีนะครับ ^^
ตอนนี้ว่างงานครับ เขียนนิยายอย่างเดียวเเต่ก็ติดเที่ยวเล่นขี้เกียจบ้างข้อดีของการเขียนนิยายคือมันยืนระยะได้ยาวถ้ามือยังกดคีย์บอร์ดได้ ตายังมองจอเห็น สมองยังไม่เป็นอัลไซเมอร์ซะก่อนก็ยาวปายครับ
ข้อดีอีกอย่างคือมันจะเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของเราไปตลอดและส่งให้ลูกให้หลานต่อได้อีก
ถ้านิยายได้ตีพิมพ์นับว่าเป็น Passive Income ได้อีกทางเลยนะครับ ^^
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?