Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการเขียนนิยายหน่อยค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือไม่ได้จะแต่งนิยายให้อ่านในนี้นะคะ แต่อยากให้ทุกคนอ่านแล้วก็ติให้หน่อยค่ะว่าภาษาเราเป็นยังไง เราวางโครงเรื่องซับซ้อนไหม มันวกไปวนมาจนอ่านไม่เข้าใจหรือเปล่า ช่วยเราหน่อยนะคะตอนนี้คือกังวลมากๆจนแบบไม่รู้จะทำยังไงดีแถมคนที่บ้านก็ไม่ค่อยชอบอ่านกัน เลยไม่รู้จะปรึกษาใคร เลยขอใช้พื้นที่นี้ขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ 





 

อันนี้คือเราลองแต่งดู ช่วยพิจารณาให้หน่อยนะคะ


  เวลาบ่ายสามโมงตรงเสียงเจื้อยแจ้วของทั้งเด็กหญิงและเด็กชายดังเซ็งแซ่ทั่วบริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาล บ้างก็กระโดดโหย่งๆไปมาด้วยความดีใจเพราะจะได้กลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่เสียที ส่วนกับบางคนก็ออกอาการงอแงเล็กน้อยเพราะยังอยากอยู่เล่นสนุกกับเพื่อนๆต่อ เด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบบนหลังสะพายเป้ลายแบทแมนวิ่งฝ่าเด็กคนอื่นๆออกมาก่อนจะชะเง้อมองหาร่างของคนเป็นแม่ ครู่ต่อมาริมฝีปากเล็กสีเชอร์รี่ถึงฉีกยิ้มกว้างเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคนเป็นแม่ที่ยืนส่งยิ้มให้อยู่ไม่ไกล ขาเล็กไวกว่าความคิดวิ่งตรงเข้าไปหาแม่ของตัวเองทันที

"เดี๋ยวก็หกล้มหรอกครับแทโอ" 

  คยองซูย่อตัวลงไปอ้าแขนรับร่างกายเล็กๆซึ่งโผล่เข้ากอดพร้อมกับเอ็ดลูกชายตัวน้อยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้จริงจังมากนัก

"ก็แทโอคิดถึงคุณแม่นิฮะ อยากกลับบ้านหาคุณแม่จะแย่อยู่แล้ว" 

  เด็กน้อยตอบเสียงอ้อมแอ้มโดยยังไม่ยอมผละออกจากอ้อมกอดของคนเป็นแม่ คยองซูหลุดยิ้มให้กับคำพูดแสนออดอ้อนของลูกชาย นั้นปะไรตอนวันหยุดอยู่บ้านก็บ่นว่าเหงาอยากมาเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนเร็วๆ แล้วไหงพอมาโรงเรียนแล้วถึงได้บ่นว่าอยากจะกลับบ้านมาอยู่กับแม่ซะงั้นละ คิดก่อนจะส่ายหัวไปมาเบาๆ 

"ทำไมเป็นเด็กขี้ย้อนแย้งแบบนี้ละครับหืม?"

"ก็วันนี้อาหารที่โรงเรียนไม่อร่อยเลยฮะสู้อาหารของคุณแม่ก็ไม่ได้" 

  กายเล็กผละออกจากอ้อมแขนของคุณแม่แล้วยู่หน้าอย่างขัดใจก่อนจะเอ่ยต่อ

"แถมวันนี้ครูเซฮุนก็ไม่อยู่เลยไม่มีใครเล่านิทานให้แทโอฟังก่อนนอนด้วย" 

"ครูเซฮุนไม่อยู่หรอครับวันนี้?" 

  พยักหน้าขึ้นลงแทนคำตอบ คยองซูระบายยิ้มเล็กๆด้วยรู้ดีว่าลูกชายของเธอไม่ได้อยากมาโรงเรียนเพื่อจะเจอกับเพื่อนๆเพียงอย่างเดียว หากแต่เจ้าตัวนั้นก็อยากจะมาเจอกับครูเซฮุนซึ่งเป็นครูประจำชั้นของเจ้าตัวด้วยเช่นกัน ครูหนุ่มใจดีและชอบซื้อขนมมาฝากแทโออยู่บ่อยๆคงไม่แปลกนักหากลูกชายของเธอจะติดครูประจำชั้นพอๆกับที่ติดแม่อย่างเธอ

"ไม่ได้ฟังครูเซฮุนเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน งั้นคืนนี้ก็ฟังคุณแม่เล่าแทนละกันเนอะ โอเคมั้ยครับ?" 

"โอเคฮะ" 

"ถ้าอย่างนั้นเรากลับบ้านกัน" 

"ฮะ" 

  ริมฝีปากเล็กฉีกยิ้มกว้างเมื่อคุณแม่ฝังจมูกลงบนแก้มกลมๆทั้งสองข้างของตัวเองแล้วจึงลุกขึ้นยืน จากนั้นสองแม่ลูกก็จูงมือกันเดินไปที่รถซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล ระหว่างที่กำลังก้าวเดินไปตามทางฟุตบาทหน้าโรงเรียนสายตาของเด็กชายก็เหลือบไปเจอเด็กผู้หญิงผมเปียซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องกำลังจะขึ้นรถโดยมีคนเป็นพ่อช่วยอุ้ม เมื่อเด็กหญิงขึ้นไปนั่งอยู่บนรถเรียบร้อยแล้วชายคนที่เป็นพ่อก็ส่งมือไปลูบหัวของเธอเบาๆด้วยความเอ็นดูแล้วจากนั้นถึงปิดประตูรถและเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งที่นั่งคนขับ
  แทโอมองตามรถของเด็กผู้หญิงคนเดิมที่ค่อยๆเคลื่อนตัวห่างออกไปจนสุดสายตา นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มใสซื่อไม่ต่างจากคนเป็นแม่ฉายแววสงสัยละคนไม่เข้าใจก่อนจะหันไปมองใบหน้าซึ่งอยู่ภายใต้กรอบแว่นของคุณแม่ที่เปิดประตูรถรออยู่ 

"ขึ้นรถได้แล้วครับคนเก่ง" 

"ฮะ..." 

"เดี๋ยวแม่ช่วยครับ" 

  จบคำคยองซูก็ก้มลงไปช้อนอุ้มเอาร่างเล็กๆขึ้นแนบอกและพาไปนั่งลงบนเบาะข้างคนขับพร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัยให้อย่างเสร็จสรรพ ส่งยิ้มบางๆให้ลูกชายผู้ที่เป็นดั่งหัวใจของเธอแล้วจึงปิดประตูรถจากนั้นเธอถึงเดินอ้อมขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับบ้าง
  ตลอดทางกลับบ้านคยองซูรู้สึกว่าวันนี้ลูกชายของเธอแปลกไปเพราะปกติหากเจ้าตัวไม่คุยอวดเรื่องที่ครูเซฮุนซื้อขนมอะไรมาฝากบ้าง ก็มักจะพูดเรื่องเพื่อนๆที่โรงเรียนให้ฟังอยู่เสมอแล้วทำไมวันนี้ลูกชายของเธอถึงเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอะไรเลยละหรือว่าจะง่วงนอน พอสรุปได้แบบนั้นจึงคิดจะหันไปเอ่ยปากถามแต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆแทนเพราะจู่ๆลูกชายตัวเล็กก็หันมาเรียกเธอขึ้น

"คุณแม่ฮะ" 

"ว่าไงครับ?" 

  ขานรับก่อนจะนิ่งเพื่อตั้งใจฟังว่าลูกชายจะเอ่ยอะไรต่อ 

"คุณ...พ่ออยู่ที่ไหนหรอฮะ?" 

  เมื่อจบคำถามของลูกชายก็ราวกับมีหอกแหลมมากมายพุ่งเข้ามาปักที่กลางอกของคยองซูก้อนเนื้อภายใต้อกข้างซ้ายอยู่ๆก็ปวดหนึบขึ้นมา แม้จะรู้อยู่แล้วว่าสักวันแทโอจะต้องถามคำถามนี้กับเธอแต่เธอก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ แล้วเธอควรจะตอบลูกว่ายังไง ในเมื่อคนที่แทโอเรียกว่าพ่อเขาไม่เคยโผล่หน้ามาเจอเธอและลูกร่วมหกปีแล้ว ไม่สิเขาทิ้งเธอไปตั้งแต่ที่เธอตั้งท้องแทโอได้เพียงสองอาทิตย์เลยต่างหาก 
  คยองซูสูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอดเพื่อสกัดกั้นน้ำตาที่เริ่มตีตื้นขึ้นมาแล้วถึงแข็งใจหันไปตอบคำถามของลูกชายด้วยรอยยิ้มพยายามอย่างมากเพื่อไม่ให้เสียงที่เปล่งออกไปสั่น

"คุณพ่อ...ไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศครับแทโอ" 

"ทำงานที่ต่างประเทศหรอฮะ?"  

"ใช่แล้วครับ" 

  ฉีกยิ้มให้กับลูกชายก่อนจะหันไปสนใจถนนตรงหน้าต่อ รู้สึกไม่สบายใจที่ต้องบอกลูกไปแบบนั้นแต่หากจะให้เธอบอกความจริงไปเธอก็กลัวลูกชายของเธอเจ็บปวดที่ต้องมารู้ว่าคนที่ตัวเองเรียกว่าพ่อไม่เคยยอมรับว่าเขาเป็นลูกเลย

"แล้วเมื่อไหร่คุณพ่อจะกลับมาหาคุณแม่กับแทโอละฮะ?" 

  ลูกชายตัวน้อยยังคงถามต่อด้วยความใสซื่อ โดยที่ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าคำถามซื่อๆของตัวเองกำลังทำให้หัวใจของคนเป็นแม่กลัดหนอง คยองซูนิ่งเงียบอีกครั้งเพราะในใจรู้ดีว่าผู้ชายคนนั้นคงไม่มีวันกลับมาหาเธอและลูกเป็นแน่จึงกลั้นใจโกหกออกไปอีกครั้งแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นการให้ความหวังกับลูกก็เถอะ แต่ก็ดีกว่าให้ลูกชายของเธอรู้ความจริงไม่ใช่หรือ 

"งานของคุณพ่อที่ต่างประเทศยุ่งมาก เลยไม่ค่อยมีเวลากลับมาหาแต่ถ้าเกิดว่าคุณพ่อว่างเมื่อไหร่คุณพ่อจะกลับมาหาแทโอและก็แม่แน่นอนครับ" 

"จริงหรอฮะ?" 

"จริงสิครับ" 

  เด็กน้อยฉีกยิ้มแป้นแล่นเมื่อคนเป็นแม่ยืนยันหนักแน่นว่าพ่อของตนจะกลับมาหา พอคุณแม่ไขข้อข้องใจให้กระจ่างเด็กชายก็กลับมาคุยจ่อเหมือนเดิมอีกครั้งแถมดูจะอารมณ์ดีมากกว่าทุกครั้งเสียด้วย คยองซูชำเลืองมองลูกชายที่ยังคงคุยจ่อไม่หยุดด้วยรอยยิ้มหากเธอเลือกที่จะโกหกแล้วทำให้ลูกชายของเธอมีความสุขแบบนี้เธอก็จะทำ อย่างน้อยก็ขอให้ลูกชายของเธอโตมากพอที่จะยอมรับความจริงอันแสนเจ็บปวดนั่นได้ ถึงเวลานั้นเธอจะบอกความจริงทุกอย่างกับลูกชายเอง...






ขอบคุณทุกคนที่กรุณาอ่านด้วยค่ะ 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

kinihara ritsuha 16 ส.ค. 61 เวลา 14:13 น. 1

อืม ตอนนี้ลองอ่านคร่าวๆดูแล้วนะคะ



เท่าที่ดูเรื่องโครงเรื่องอืมม ขอเรียกเป็นฉากดีกว่า (เพราะโครงคือทั้งหมดของเรื่อง)


ฉากไม่ได้ซับซ้อนนะคะ พออ่านดูแล้วก็เข้าใจค่ะ ไม่ได้วกวน ส่วนภาษา ส่วนตัวคือคำว่า'ฉีกยิ้ม' ลองใช้เป็นแบบอื่นดีไหมคะ อย่างเช่น ริมฝีปากเล็กระบายยิ้ม หรือ ใบหน้ากลมเผยรอยยิ้มออกมานิดๆ อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ เพราะว่า ฉีกยิ้ม จะให้ความรู้สึกเหมือนแบบ อืม ดูร้ายๆหลอนๆ><;



ก็อยากให้ดูเรื่องเว้นวรรคบางช่วงด้วยค่ะ อย่างเช่นช่วงที่เป็น เพื่อนๆเพียง ก็น่าจะเว้น เป็น เพื่อนๆ เพียง แบบนี้ดีกว่าค่ะ ส่วนภาษา จะเป็นเรื่องของคำ อย่างเช่น โดดโหย่งๆ คำว่าโหย่งๆคือการเดิมไม่เต็มเท้า ส่วนโหยงๆก็กระโดด โผล่เข้ากอด จะเป็นโผเข้ากอด แบบนี้ค่ะ



ส่วนสุดท้ายคือคำบางทีไม่ต้องสวยก็ได้อาจจะเป็นคำสั้นเข้าใจง่ายสลับกับคำสวยบ้างไรงี้จ้า // จริงๆทางนี้ก็ไม่ได้มืออาชีพเลยอาจแนะนำไม่ดีเท่าไหร่แหะๆ(- -; ) ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ

1
ป๋าแบคหนูคยอง 16 ส.ค. 61 เวลา 15:47 น. 1-1

ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่ให้คำแนะนำ เดี๋ยวเราจะเอาไปปรับปรุงแก้ไขค่ะ /คงต้องฝึกอีกเยอะเลยย 555

0