Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถ้าจินตนาการหักล้างกับหลักความเป็นจริง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือมันเป็นประเด็นในหัวเราค่ะ ตอนเราจะลงมือเขียนอ่ะไรที่เป็นจินตนาการสักหน่อย(เราอยากเขียนแนวแฟนตาซีหรือประเด็นความรัก)มันจะมีความคิดแทรกขึ้นมาว่า มันไม่เหมือนจริงขัดหลักความจริงเกินไป ตัวอย่างถ้าพระเอกจะมีฮาเร็มจะมีความคิด คนบ้าอะไรมีคนมาตกหลุมรักขนาดนั้นแล้วผู้หญิงเขาไม่ถ้อยรึไง แล้วก็จะเขียนแนวแฟนตาซียุคใหม่ที่มนุษย์ไม่รู้ตัวตนของเผ่าพันธู์อื่น ในหัวมันก็แย้งมาว่าแล้วทำไมไม่รู้วะ จำเป็นต้องไม่รู้ขนาดนั้นเลยป่ะ เดียวนี้ถ้าใครมีพลังก็ต้องโชวกันหมดแล้ว เขาไม่เก็บไว้ให้ขึ้นสนิมหรอก ปวดหัวกับความคิดตัวเองมากเลยค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

Bad Day Survivor 16 ก.ย. 61 เวลา 19:56 น. 1

จินตนาการไม่ใช่ความจริงอยู่แล้ว เดี๋ยวคงมีหลายคนบอกว่าให้เขียนๆมันออกมา ผมขอบอกว่าอย่าเขียนมันออกมาเลยครับ ถ้าตัวคุณเองยังรู้สึกขัดแย้งหาข้อสรุปให้ตัวเองไม่ได้ก็อย่าเขียนเลยดีกว่า ... เขียนไปก็งงไปขัดกับความรู้สึกของตัวเองไปเปล่าๆ ...


0
Sixtyone 16 ก.ย. 61 เวลา 20:08 น. 2

งง!

ว่ากันตามจริงนิยายก็เกิดขึ้นตามจินตนาการอยู่แล้ว นอกจากเขียนแนวดราม่ารันทดที่เขาบอกว่าชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย แต่หลักการคือสร้างโลกให้คนเชื่อ กำหนดกฎแล้วยึดกฎนั้นใช้ ถ้าแหกกฎต้องมีเงื่อนไข สมมติถ้าตัวละครจะปลดปล่อยสวัสดิกะและเลเวทอัพแบบไม่หยุดหย่อนก็เซ็ตพื้นฐานไว้กว้าง ๆ อย่างฮาเร็มที่คุณยกมา ลองคิดดูดิว่าผู้หญิงทั้งประเทศยังชอบณเดช และมีผู้หญิงอีกเพียบที่อยากขึ้นเตียงกับพี่โป๊ป แต่ข้อสำคัญหนึ่งคือไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่เป็นแบบนั้น เขียนฮาเร็มเลยต้องกระจายนิสัยตัวละคร ไม่ใช่แค่เจอหน้าพระเอกก็ถลาวิ่งเข้าหา เพราะถ้าผู้หญิงด้วยกันเองมาอ่านก็จะกดปิดทันที ส่วนเรื่องมนุษย์ไม่รู้จักสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่น ก็ลองคิดดูดิว่าทุกวันนี้มนุษย์ยืนยันเรื่องเอเลี่ยนได้ไหมล่ะ

1
ความจำปลาทอง. 16 ก.ย. 61 เวลา 20:12 น. 3

ใจเย็นๆก่อนนะคะ ก่อนอื่นเลยเราต้องจัดระเบียบความคิดให้ดีก่อน แล้วหาเหตุผลมาเติมส่วนที่เป็นรูโหว่
อย่าง

'แฟนตาซียุคใหม่ที่มนุษย์ไม่รู้ว่าตัวตนของเผ่าอื่น ในหัวมันก็แย้งมาว่าแล้วทำไมไม่รู้วะ จำเป็นต้องไม่รู้ขนาดนั้นเลยป่ะ'

เราแนะนำว่าให้หาเหตุผลมาประกอบว่าทำไมพวกเขาถึงไม่รู้ เราอาจจะแนะนำมากไม่ได้เพราะก็ยังเป็นมือใหม่เหมือนกัน อาจจะพูดวกไปวนมาหรือผิดประเด็นก็ขอโทษด้วยค่ะ แฮะๆ ปล.นิยายแนวนี้ไม่มีอะไรตายตัวหรอกนะคะ สู้ๆคะ

0
Miran/Licht 16 ก.ย. 61 เวลา 20:12 น. 4

ด้วยความที่ตัวเราเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่เขียนนิยายแฟนตาซี


ถึงจะแฟนตาซี เราก็อิงความเป็นจริง บางอย่างถ้าคิดโอเวอร์เกินไป เราก็จะลองตบๆ ให้เข้าความเป็นจริงค่ะ ถึงจะมีคำว่าแฟนตาซีอยู่แต่ความเป็นนักวิทย์มันค้ำคอร์ เวลาเขียนอะไรไม่ตรงกับความจริงเราจะใส่คำอธิบายไว้ท้ายตอนค่ะ ด้วยกลัวว่าคนอ่านจะจำ-ที่ผิดๆ ไปใช้


กรณีนิยายฮาเร็มที่คุณยกขึ้นมา ถ้ามองในแง่ของความเป็นจริงที่ใกล้เคียงก็มีค่ะ อย่างฮ่องเต้ที่มีนางสนมหลักพัน-หมื่น ด้วยค่านิยมสมัยนั้น ประกอบกับตัวเลือกไม่มากนัก นางสนมไม่รักฮ่องเต้ก็ต้องอยากเข้าไปอยู่ในสายตาบ้างแหละค่ะ เพราะได้ชื่อว่าเข้ามาเป็นสนมแล้ว

0
สล็อตสีขาว 16 ก.ย. 61 เวลา 20:14 น. 5

เราก็เป็นบ่อย ๆ ค่ะ แต่สนจินตนาการมากกว่า คือบางทีพล็อตที่วางไว้ถ้าไม่ขัดมันก็จะแบบ...ไปต่อไม่ถูก? เอ่อ...ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ช่างเถอะ._.


แบบว่าถ้ามันขัดหลักความเป็นจริงนัก งั้นเราก็สร้างโลก สร้างกฎเกณฑ์ หรืออะไรก็ตามให้ออกห่างจากโลกความเป็นจริงไปเลย แบบโลกเสมือนงี้น่ะค่ะ ฮาา


ปลิง.แต่ก็ไม่ใช่ว่าแหกทุกอย่างนะคะ ต้องอ้างอิข้อเท็จจริงบ้าง ถ้าอันไหนแหกก็อธิบายให้นักอ่านตอนช่วงท็อคเอาค่ะ ฟฟ

0
SilverPlus 16 ก.ย. 61 เวลา 20:30 น. 6

ลองปล่อยวางกฎเกณฑ์ดู ถ้าปล่อยวางได้ นิยายเราก็จะเขียนไปได้

แต่ถ้าปล่อยไม่ได้ บางทีเจ้าของกระทู้อาจจะไม่เหมาะกับแฟนตาซีก็ได้มั้ง ต้องเขียนนิยายที่มันอิงกับความเป็นจริงน่าจะถนัดที่สุด


ฝืนแต่งต้องระวัง เพราะมันจะไม่ได้อารมณ์ของนิยายแนวนั้น ๆ ถ้าเราไม่ชอบแนวฮาเร็ม เราจะเขียนแนวฮาเร็มออกมาไม่ดีเลย ตัวนักเขียนจะต้องยอมรับแนวคิดในตัวเองก่อน ก่อนที่จะนำไปเขียนเป็นนิยายได้ดี

0
Maritian 16 ก.ย. 61 เวลา 21:09 น. 7

อันนี้เป็นอะไรที่เราเข้าใจดีค่ะ


สมองบางทีมันก็เป็นเหตุเป็นผลเกิน จะเขียนเหนือธรรมชาติทีนี่่มันรู้สึกขัดแย้งกับหลักความเป็นเหตุเป็นผลเอามากๆ ต้องมาคอยคิดว่าพลัง A เกิดจาก B อันเป็นผลมาจาก C แถมช่องโหว่พล็อตก็ผุดเป็นดอกเห็ด บางทีก็หัวหมุนและหงุดหงิดขึ้นมาเลย แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องพึงระลึกคือนี่เรากำลังเขียนนิยายค่ะ มันสามารถไม่สมเหตุสมผลได้ (บ้าง) และถ้ามัวแต่อุดช่องโหว่พล็อตไปเรื่อย มันจะไม่ได้อะไรออกมาเลย นิยายจะกลายเป็นจับฉ่าย ทิ้งๆ ไว้บ้างเถอะค่ะช่องโหว่พล็อต นักอ่านส่วนมากไม่สังเกตเห็น และที่สังเกตเห็นก็น้อยคนที่จะเก็บไปคิด ยกเว้นแต่ว่าช่องโหว่มันใหญ่จริงๆ นะ555

0
คุณพีทคุง พิธันดร 16 ก.ย. 61 เวลา 21:15 น. 8

ถ้าเราเองยังคิดขัดแย้งกับไอเดียตัวเองขนาดนั้น แสดงว่าเราไม่ได้ "อิน" หรือรู้สึกร่วมกับไอเดียนั้นจริงๆ แล้วละครับ เหมือนกับว่า "ไอเดีย" พวกนั้นมันเป็นสิ่งที่เราเห็นคนอื่นเขาเขียนกัน เราก็เลยหยิบมาดูมั่ง ไม่ใช่สิ่งที่เราสนใจจริงๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ แสดงว่าไอเดียพวกนั้นไม่ทำให้เราตื่นเต้น ไม่ทำให้เราสนุก ถ้าเราฝืนเขียนไปก็ไม่สนุกทั้งคนเขียนคนอ่านครับ


ไม่ต้องรีบร้อนนะครับ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ หาไป ถ้าเป็นอะไรที่มันกระทบใจเราจริงๆ ที่ใจเราสนใจจริงๆ พอคิดขึ้นมาแล้ว ถึงจะมีคำถามเยอะแยะ แต่เราจะไม่รู้สึกปวดหัวครับ เพราะไม่ได้ฝืน เราจะถามด้วยความรู้สึกสงสัยใคร่รู้จริงๆ และสนุกกับการหาคำตอบ อันนั้นแหละครับ ไอเดียที่เราชอบจริงๆ และถ้าหยิบมาเขียน เราจะมีโอกาสอยู่กับมันได้อย่างลึกซึ้งและอดทน จนเขียนจบได้ครับ

1
peiNing Zheng 16 ก.ย. 61 เวลา 22:45 น. 9

หักล้างแล้วต้องคิดต่อค่ะ คิดหาทางออกให้กับมันจนกระทั่งตัวเองไม่สามารถหักล้างได้แล้วค่อยเขียน


หากยอมแพ้ไปเสียก่อน ไม่ว่าเราจะเขียนอะไรก็ยากจะสำเร็จเพราะต้องเจอเสียงกระซิบของหลักความจริงเบรกความก้าวหน้าของเราไปตลอดค่ะ

0
ผู้หลับในทิวาวาร.. 16 ก.ย. 61 เวลา 23:39 น. 10

หากเข้าใจนิยายแฟนตาซีเป็นเช่นใด หากรู้ความเป็นแฟนตาซีควรอยู่ในระดับไหน

หากเข้าใจกฏเกณฑ์การสร้างโลกใหม่ หากสามารถร้อยเรียงจินตนาการนั้นๆ ด้วย

กฏเกณฑ์ด้วยเหตุผลซึ่งตนสร้างขึ้นรองรับได้ หากสามารถบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเนื้อหาสำคัญให้คนอ่านเข้าใจได้ ซึมซาบอรรถรสนั้นๆ ตรง

ตามเจตนารมณ์คนเขียนโดยไม่งุนงงได้ ย่อมสามารถขีดเขียนได้ครับ..


ส่วนผู้ที่ยังไม่สามารถกระทำได้ในขณะนี้ แต่อยากเขียนก็สามารถขีดเขียนเพื่อฝึก

ฝนทักษะ ได้เฉกเช่นนิยายประเภทอื่นๆ ซึ่งล้วนเคยมีและมีคนที่กำลังฝึกฝนกันอยู่

ทุกประเภททุกสมัย ได้ดุจเดียวกับนิยายแนวอื่นๆ เช่นกัน ทว่านิยายแต่ละประเภท

ต่างมีรูปแบบมีรายละเอียดเกร็ดเกร็ดน้อย ซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทนิยายนั้นๆ

ฉะนั้นจึงควรพยายามหลีกเลี่ยงการนำวิธีเขียน ที่เหมาะกับนิยายประเภทหนึ่งไปใช้

กับนิยายอีกแนวทางหนึ่งครับ..

0
K.W.E. 17 ก.ย. 61 เวลา 01:35 น. 11

ไม่ขัดเสมอไปหรอกครับ ถ้าหาเหตุผลรองรับได้ ถ้าทางตรงไม่ได้ ใช้ทางอ้อมหลายๆทางร่วมกันก็ยังไหวครับ


เรื่องแบบนี้ต้องฝึกตั้งโจทย์แล้วหาคำตอบบ่อยๆ

ถามเอง คิดเอง แล้วก็ตอบเอง แล้วก็วนลูปสักหน่อยเพื่อให้เกิดการยอมรับได้ ถ้าชั่งใจแล้วมันดูหลวมๆไป ก็กลับไปหาเหตุผลใหม่


ถ้าท้ายที่สุดยังหาคำตอบมารองรับไม่ได้ ถึงตอนนั้นค่อยปรับพล็อตครับ แล้วทำใหม่ คิด ถาม ตอบตัวเอง

ถ้ายังไม่ได้อีกนั่นล่ะ ถึงค่อยเลิกใช้พล็อตนั้นไป


นิยายเรื่องหนึ่ง ๆ ของผม ผ่านขั้นตอนนี้หลายช็อตเลยล่ะครับ

ซึ่งถ้าผ่านมาได้แล้ว เวลาแต่งมันจะรู้สึกลื่นมือขึ้นเยอะเลยตอนพิมพ์

0
เจ้า(แมว)ขาว 17 ก.ย. 61 เวลา 12:34 น. 12

ต้องดูก่อนนะครับว่า หลักความเป็นจริง ที่ว่ามาจากไหน มาจากสภาพ โลก สังคม สิ่งแวดล้อม

ที่เราเคยชินหรือเปล่า แล้วดูว่ามันสอดคล้องกับในนิยายหรือไม่ ถ้าเขียนนิยายสะท้อนสังคมไทย

ยุคปัจจุบัน ก็เอาความเป็นจริงในสังคมที่เราอยู่ใส่ไปได้เลย


แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ เช่น เอาความเป็นจริงในสังคมไทยปัจจุบัน ไปใส่ในสังคมจีนโบราณ หรือ

เอาความจริงในสังคมไทยปัจจุบัน ไปใส่ในสังคมไทยสมัยอยุธยาล่ะ จะเข้ากันได้ไหม?


สภาพสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ความคิด ของคนในแต่ละที่ย่อมแตกต่างกันออกไป

ไม่ว่าจะโลกจริงกับในนิยาย หรือ โลกจริงเหมือนกันแต่คนละสมัย คนละท้องถิ่น ก็ตาม

เราจึงต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์ สร้างข้อมูลใหม่ สำหรับสภาพสังคมนั้นโดยเฉพาะ

แล้วค่อยเอามาเปรียบเทียบกันอีกทีว่าดูขัดแย้งมากเกินไปหรือไม่


ในบางกรณีเราจำเป็นที่จะต้องปล่อยสิ่งที่ดูไม่สมบูรณ์หรือขัดกับความเป็นจริงไปก่อน แล้วค่อย

หาเหตุผลมาสนับสนุนมันทีหลัง ถ้าอันนี้ไม่ใช่ อันนั้นไม่ใช่ ไปเสียหมดก็คงจะเขียนอะไรออกมา

ไม่ได้เลย

0