จุดอ่อนในการเขียนนิยายของแต่ละคนคืออะไรเอ่ย?
ตั้งกระทู้ใหม่
จุดอ่อนของเรา
1. ฝีมือเราไม่คงที่ บางทีเรื่องที่แล้วแต่งสนุกมาก มาเรื่องนี้กลับเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่พีคไม่อะไรเลย สำนวนก็ไม่คงที่ ถ้าช่วงไหนไม่ได้อ่านนิยาย สำนวนจะเหลวไปเลย แม้จะเขียนนิยายตลอด
2. ตัวละครเรามีความเป็นมนุษย์ต่ำ ในที่นี้คือ อุปนิสัยอะไรต่างๆ ค่อนข้างเป็นอุดมคติ ไม่ค่อยงี่เง่าไร้เหตุผล ดีเกิน ฉลาดเกิน ทำให้คนส่วนใหญ่อ่านแล้วไม่ค่อยติดใจ อ่านแล้วไม่อิน อันนี้พูดถึงกรณีแต่งนิยายสมจริง ตลค.เป็นคนธรรมดา เราก็เลยถนัดเวลาสร้างตัวละครแบบพิเศษอย่างเจ้าหญิงเจ้าชายพวกนี้มากกว่า (แต่ช่วงนี้ดันต้องแต่งคนธรรมดา)
3. รักษาแก่นเรื่องได้ไม่ดี แก่นเรื่องเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่หลายครั้งแก่นเรื่องเราไม่ชัด อ่านแล้วรู้สึกโหรงเหรง บางทีก็มีประเด็นอื่นๆ งอกออกมานอกจากแก่นเรื่องหลักเรื่อย ไม่ใช่ว่าออกทะเล แต่แก่นเรื่องมันไม่แน่น
4. เนื้อหาห้วนเกิน หลายครั้งที่แต่งๆ ไปแล้วรู้สึกโอเค พอทิ้งช่วงกลับมาอ่านอีกรอบรู้สึกห้วน แต่ก็ไม่อยากยัดอะไรเข้ามาอีกแล้ว
5.ดำเนินเรื่องไม่น่าติดตาม โดยเฉพาะต้นเรื่องซึ่งเป็นจุดสำคัญ ที่จะทำให้คนตัดสินใจว่าจะติดตามเราต่อหรือไม่ ต้นเรื่องเรามักจะดึงคนอ่านไม่ค่อยได้ค่ะ มาสนุกท้ายๆ คนก็อ่านไม่ถึง บางทีจะแก้ก็ไม่รู้แก้ยังไง หรือยิ่งแก้ยิ่งเละอีกค่ะ
ของเรายังนึกออกเท่านี้ บางทีถ้าได้อ่านของทุกคน อาจจะเห็นจุดอ่อนตัวเองงอกมากอีกเรื่อยๆ 5555
ถามว่ามาแชร์จุดอ่อนแบบนี้แล้วได้อะไร บางทีเรารู้สึกว่าเราด้อย พอเห็นคนอื่นบอกว่าอ่อนด้านนี้ เราอาจจะรู้สึกว่า เอ๊ะแต่เราทำได้นะ เราเก่งตรงจุดนี้ หรือถ้าเจอคนที่มีจุดอ่อนเดียวกัน รู้สึกมีเพื่อน บางทีมันก็อุ่นใจนะคะว่าเราไม่ได้มีปัญหาอยู่คนเดียว หรือเราอาจจะได้ลองวิเคราะห์ตัวเองด้วยว่า เรามีจุดอ่อนตรงนี้เหมือนคนอื่นๆ หรือเปล่า
สำคัญที่สุดคือ การหาจุดอ่อน ทำให้เรารู้ว่าเราควรแก้ไขเสริมแต่งตรงไหน ดังนั้นลองมาแบ่งปันกันดูนะคะ ^^
53 ความคิดเห็น
จุดอ่อนของฉัน อยู่ตรงที่หัวใจ(ร้องเพลงซะงั้น555)
จุดอ่อนของเราเหรอคะ คือคิดไม่ออก ตันค่ะ นอนน้อยจนเขียนไปต่อไม่ได้ค่ะ ของเรามีอยู่แค่นี้ค่ะ55
โอย! คนมาอ่านก็ดันร้องตาม ฮาาา
ที่ทำเป็นแข็งแรง~ ที่ฉันแสดง~ //เอ๊ย เดี๊ยวววว!!!!
555 มีการร้องต่อด้วยหรือคะ555+
ช่วยกันต่อให้จบก็ได้นะคะ5555
งั้นมาร้องกันต่อ ด้วยเพลง ปะปะ เปล่าเจ้าชู้ ก็เธอมันน่าเอ็นดู
เพลงนี้ไหมล่ะ ฮาาา
อั๋วไม่เอาด้วยหรอก555
จุดอ่อนคือฉากแอ็คชัน รู้สึกได้เลยว่ายังธรรมดาถึงมากของมาก ส่วนอันอื่นแค่พอเป็นแต่ไม่เก่งสรุปมันก็อ่อนทุกด้านเลยนี่หว่า..... //นั่งกอดเข่าอยู่ในมุมมืด
ฉากแอ็คชั่นเราพอได้ค่ะ สำหรับตัวเองนะ คนอื่นอ่านไม่รู้เป็นยังไงเหมือนกันค่ะ
พอขี้เกียจคิดพล็อต แล้ววางพล็อตมันยาก ก็จะบึ้มมมมมมม... พล็อตที่ร่างไว้ทั้งหมดทิ้ง 555 หลังจากนั้นจะแต่งด้นสดตามพล็อตและแกนเรื่องหลวมๆ พอไฟหมดก็ไปต่อไม่ถูก ไม่รู้จะลงเรือไหนดี สุดท้ายก็หงอย กลับมานั่งร่างพล็อตเหมือนเดิม....
ส่วนจุดอ่อนอื่นๆ ไม่สามารถบรรยายได้เลย มันค่อนข้างกว้าง และเยอะเกินไป มีจุดอ่อนมากมายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ ซึ่งต้องเขียนวนไป เสร็จก็ให้คนอื่นวิจารณ์แล้วล่ะค่ะ 55555
อืม...แบบนี้ให้คิดพล็อตสั้นค่ะ หมายถึงว่า ให้คิดพล็อตเป็นเรื่องสั้นหลายๆ เรื่องที่ตั้งอยู่ในเซ็ตติ้งเดียวกันเช่น ในรร. เดียวกัน ในเมืองในอาณาจักรเดียวกัน เพราะมีปัญหาในการเขียนสเกลใหญ่ หรือการคลุมโทนเรื่อง แต่เราว่าคุณน่าจะเป็นพวกที่มีไอเดียเกิดขึ้นเสมอ ปิ๊งอะไรใหม่ได้เสมอ จับมาเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใหญ่มาก แบบจบในตอนหรือ 1-3 ตอนไม่เกินนี้ เกินนี้อาจจะเริ่มแกว่ง แล้วค่อยตบทั้งหมดเข้าเป็นเรื่องยาวที่เกิดจากพล็อตเล็กๆ พวกนั้นค่ะ
เหมือนพวงองุ่นที่มีก้านใหญ่ร้อยลูกองุ่นเล็กๆ อยู่ ลูกองุ่นมันก็เติบดตของมัน แต่มีความเกี่ยวพันกันเพราะมีขั้วยึดไว้น่ะค่ะ
เราใช้วิธีเขียนย่อเป็นบทๆ เนื้อเรื่องบทนี้เป็นยังไงๆ ไปจนจบ แต่ไปๆ มาๆ ก็ชอบมีด้นสดโผล่มาอยู่เรื่อย แฮ่55555 แล้วนิยายเราเป็นแบบสั้น ภาค-2ภาคก็จบแล้วค่ะ เอาคำแนะนำตามที่คุณ miran/licht ว่าดีกว่า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่า #3-1 #3-2
555555 ทายถูกเผงเลยล่ะค่ะ เพราะเราปิ๊งไอเดียร์ทุกครั้งที่แตะนิยาย งอกพล็อตขึ้นมาเรื่อยๆ สิ่งที่ทำได้คือจดบันทึก แต่เพราะเราชอบทำให้สเกลมันใหญ่ (ทั้งที่บางพล็อตมันเรียบๆ ไม่มีอะไรเลยแท้ๆ ยังจะใส่ปมให้มันยุ่งยากเข้าไปอีก) เวลาจะเขียนเลยลำบากตัวเอง หนักเกินไปเพราะสเกลใหญ่ จะลองทำตามดูนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะทั้งสองท่าน
1.ดองค่ะ ดองหนักมากกกกก ดองจนอยากจะกลอกตาใส่ คือเราเป็นพวกมีอารมณ์เขียนช่วงเกือบๆ เที่ยงคืนถึงตีสองตีสาม เพราะรอบตัวจะเงียบ เคลียร์งานอื่นหมด มีสมาธิ แต่สุดท้ายร่างกายไม่ไหว ต้องลาไปนอน คืออยากอัพให้ได้ทุกวัน แต่ความรับผิดชอบยังไม่ถึง
2.สำนวนต่างๆ คือไม่ได้เลย เป็นคนบรรยายห้วนมาก บทสนทนาก็เรียบๆ ไม่น่าสนใจ บางวันคือระหว่างแต่งต้องหยิบเชอร์ล็อก โฮล์มส์มาอ่านควบคู่ไปด้วย เพราะส่วนตัวอยากได้แบบที่ไม่ต้องบรรยายเยอะ แต่เห็นภาพ
3. แต่งได้แต่อะไรใสๆ ใสยิ่งกว่าน้ำ เคยลองแบบบรรยายเรื่องอย่างว่าแค่ผ่านๆ คืออ่านแล้วกลัวเอง แบบเฮ้ย! นี่เราแต่งจริงเหรอ ไม่อาวววว กล้าแต่งไปได้ยังไง...สรุปได้ว่าไปกับแนวนี้ไม่รอด
แต่ที่น่าลำบากใจ คือเราแต่งฟิค แต่งให้ตัวละครต่างๆ มาคู่กัน แต่เรากลับไม่กล้าแต่งให้พวกเขามีความรักให้กัน ไม่กล้าให้เป็นคนรัก เหมือนอย่างมากสุดก็ คิดถึง โหยหา รู้สึกดีนะแต่ไม่เกินเลย
หลายๆ เรื่องที่แต่งแล้วรอด ก็เป็นความรักแบบพี่น้องกับปู่หลาน ซึ่งคือแฟมิลี่ขั้นสุด แต่งง่ายอ่านแล้วสบายใจ
คือเราก็อ่านนิยายรักมาเยอะนะ นิยายเรทก็เยอะด้วย(แต่ส่วนมากเป็นฟิคEngในAo3 ของเขาบรรยายแล้วโอเค ของไทยคือน่ากลัววว) ก็ยังงงอยู่ว่าทำไมแต่งไม่ได้สักทีดองนี่เราก็เป็นค่ะ (และหลายคนก็เป็น) กับเรื่องที่ไม่ได้ใช้หากิน ดองหนักมากกกก
เรื่องแต่งอะไรใสๆ นี่เราก็เคยมีปัญหา แต่เริ่มแต่งได้บ้างแล้ว คอยเปิดเพลงบิ้วต์อารมณ์ แต่ถ้าบรรยายลึกมากๆ เราก็เขียนไม่ได้อยู่ดีค่ะ
ถ้าคุณจะแก้ไขจุดอ่อนของตัวเองแก้แค่ข้อ ๕ ก่อนก็พอครับ -ข้อหนึ่งถึงสี่ที่แบกเอาไว้ โยนทิ้งไปก่อน ให้เขียนห้วน เล่าเรื่องออกทะเล ตัวละครไม่สมจริงก็อ่านได้ถ้าการเล่าเรื่องมีเนื้อหาน่าติดตาม
เราไม่ได้แบกไว้หรอกนะคะ เพียงแต่ถ้านึกออก มันจะทำให้เรารู้ว่าควรปรับตรงไหน (แน่นอนว่าการสร้างข้อเสียของตัวเองเกินความจำเป็นก็ไม่ดี แต่เราติดนิสัยง่ะ555)
และเราจะทิ้งอันใดอันหนึ่งไม่ได้ เพราะทกอย่างสัมพันธ์กันหมด ฝีมือของเรา สำนวนของเรา ตัวละครเรา แม้เนื้อเรื่องจะสนุก แต่ตัวละครไม่เอื้อให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ก็ไม่ได้ มันก็จะวกกลับไปเรื่องตัวละครอีก สำนวนไม่ดี อ่านไม่ลื่นก็ไม่น่าอ่านค่ะ ส่วนเรื่องว่าเอาความสนุกน่าติดตามไว้ก่อน แล้วเอาเหตุผลอื่นเป็นเรื่องรอง อันนี้เราแล้วแต่สไตล์ของใครของมัน แต่ของเราพยายามให้สมเหตุสมผลที่สุด
นี่ก็อาจเป็นอีกจุดอ่อนของเราคือ ไปใส่ใจองค์ประกอบอื่นเกินไป ทำให้เนื้อหามีข้อจำกัด แต่เราก็ขะพยายามให้เนื้อหามันสนุกให้ได้ด้วยข้อจำกัดนี้ ซึ่งก็ต้องพัฒนาฝีมือตัวเองต่อไป
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
จุดอ่อนคืออะไร ไม่มี๊(เสียงสูง)
555
ที่ไม่มีเพราะในความอ่อนมีความแข็งอยู่ กะจะให้เป็นซิกเนเจอร์ไปเรย อิอิ
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส สินะคะ
โอ้ววว ขาวจั๊วะเลยย
สมเหมียวคอสเพลย์เป็นมาชเมลโล ตลอด55
เดี๋ยวๆๆๆ เจ้าของความคิดหิวหรือคะ555
เราว่าสักวันเราจะโดนเว็บมาสเตอร์แบนจากบอร์ดข้อหาชอบเบี่ยงประเด็น พากระทู้ออกนอกทะเล
ถึงเวลานั้นหิ้วชานมไข่มุกไปเยี่ยมเราได้ที่หน้านิยายเราแทนนะ ข้าวผัดไม่ต้อง
6-1คุณมิรัน น้องน่ารักคอสซะเหมือนเชียว
6-4วันก่อนเราก็เห็นแมวแถวบ้านกินหญ้า มันเหมือนหมาไหมคะที่ถ้าท้องผูกแล้วจะกินหญ้าอ่ะ แบบหมาแถวบ้านเราถ้ารู้สึกไม่สบายจะกินหญ้าอ่ะค่ะ น้องน่ารักมากมาย
เดี๋ยวๆๆๆ ทุกคนเป็นอะไรไปกันหมดคะเนี้ย นอกประเด็นแล้วค่ะนั่น 555
@คุณมิรัน
เราว่าไม่น่าโดนนะคะ
ว่าแต่ชานมไข่มุกเลือกยี่ห้อไหม จะได้จัดเสริฟถูก55
@คุณ ciel
แมวกินหญ้าให้ขับขนออกมากับระบบขับถ่ายอะค่ะ ถ้ากากใยไม่พอ แมวจะขย้อนก้อนขนออกแทน
6-8 เพิ่งรู้นะคะเนี่ย เราคิดว่าแมวมันหิวเสียอีก555
นี่ทุกคนกำลังหิวกันอยู่ใช่ไหมคะเนี้ย เราแนะนำเลยค่ะ ไปหาอะไรกินในห้องครัวเลย เดี๋ยวนี้เลยค่ะ555
@คุณCiel ไม่ใช่แมวเราหรอกค่ะ มาจากเฟซบุ๊คค่ะ
@คุณแพน ยี่ห้อที่หาง่ายก็ได้ค่ะ เอาแบบหวานน้อยก็พอ
@คุณลิน เราเพิ่งทานมาค่ะ ยังไม่ครบชม.เลย ฮาา
หันไปดูละครแค่สามเบรก ทำไมพวกคุณมาไกลขนาดนี้คะ หืมมมม???
(หมายเหตุ รูปถ่ายหลายวันแล้วค่ะ ไม่ใช่ถ่ายเพื่อเอามาลงแข่งหรอกนะ จริงจริ๊งงงง)
อ๋อ มิน่าล่ะ อย่าทำให้คนอื่นเขาหิวสิคะ
น้องแต่ละตัวน่ารักมากๆ ค่ะ55555
6-10คุณลิน เราไม่ค่อยทานมื้อเย็นมื้อดึกอ่า อิอิ
ลดความอ้วนหรือ ฮิฮิ
เรากินแบบ if 16/8 อยู่ค่ะ(ถ้าสงสัยเซิทอากู๋ได้) ถ้ากินตอนนี้ จะต้องเว้น 16 ชม ก็คือกินได้อีกทีพรุ่งนี้ สี่โมงเย็น ฉะนั้นไม่กินอะไรดีกว่า
มาถึงจุดนี้ได้ไงนี่55
เราพยายามลดน้ำหนักจริงๆ ละค่ะ แบบชุดมันใส่ไม่ได้แล้ว orz ไม่อยากซื้อชุดใหม่ด้วย 5555
ปล.เพิ่งรู้ว่ามี16/8 ด้วย น่าสนใจดีนะคะ คุณสมเหมียว
@คุณมิรัน เห็นขนมจีนขาว ๆ แล้วหิวขึ้นมาเลย555
เรารอด...ตอนนี้อิ่มแล้ว
เราเป็น perfectionist ค่ะ เขียนลบเขียนลบอยู่นั่นแหละ
บางครั้งก็ต้องกัดฟันบังคับตัวเองให้ลุยไปข้างหน้า ห้ามหันกลับไปมอง ยากเหมือนกัน
มาจับมือค่ะ เป็น perfectionist เหมือนกัน
มันเหมือนจะเป็นข้อดี นี่กลับคิดว่าเป็นข้อเสียมาก
ถ้ามันติดตรงไหนงานจะไม่เดินเลย ทั้งๆ ที่ใจพยายามสะกดจิตตัวเอง นี่ดราฟแรกนะเธอ ดราฟแรก แต่ก็อดวนเวียนแก้ไม่ได้
เราก็เป็นค่ะ แต่เป็นบางจุดที่จะยอมไม่ได้เลย บางจุดก็ปล่อยผ่านได้ แต่-จุดที่พยายามไปเน้นนี่ก็ไม่จำเป็นเท่าไรซะงั้น ฮืออออ
เราก็เป็นนะ ของเราตอนที่เราแบบ กำลังง่วงนอนอยู่ค่ะ เลยปล่อยทิ้งเอาไว้ก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยมาลบแล้วเขียนใหม่อีกทีค่ะ
เพื่อนเยอะแยะเลยเรา55
แถวนี้ทาสเยอะเนอะ
#เหลือบมองรูปไอคอนตัวเอง
เข้ามามอง...
เราไม่ใช่ทาสนะดูรูปโปรสิ //เจ้าของเม้นท์ถาม พวกแกรมาทำไรตรงนี้
เจ้าของเม้นต์นี้ก็เป็นทาสที่ไม่แสดงตัวค่ะ555
ขี้เกียจครับ
อันนี้เราก็เป็นค่ะ แต่เป็นนิสัยที่แก้ไม่ได้แล้ว 55555(หัวเราะทั้งน้ำตาาาา)
นี่แหละตัวฉัน..ร้องเป็นเพลงเลย
1.ขี้เกียจ
2.สุขภาพไม่ดี
ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเอง กำลังออกทะเล เราจะหยุดเขียนทันทีเลยค่ะ มันก็เลยไม่ใช่จุดอ่อนของเราค่ะ
เราใกล้เคียง แต่ไม่ถึงกับหยุดเขียนค่ะ แค่ตัดส่วนที่ออกทะเลทิ้งและกลับไปเขียนใหม่ให้เข้ารูปเข้ารอย
เราหยุดเพราะว่า เอากลับไปคิดทบทวนดูใหม่ และเขียนลงไปเลยค่ะ จะได้ไม่ลืมค่ะ
จุดอ่อนน่าจะมีเยอะเลยค่ะ เพราะเป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนใกล้จบ
อันดับแรก คำผิดค่ะ อันดับสอง ออกทะเล (กู่ไม่กลับแล้วด้วย ฮา)
ต่อมา คงเป็นการเรียงประโยคค่ะ ชอบเรียงสลับไปมาไรงี้ อันดับต่อๆ มา ยังนึกไม่ออกค่ะ
แต่อันดับรองสุดท้าย คือความตันที่ทำให้คิดไม่ออก ส่วนอันดับสุดท้าย คือ ที่สุดก็ทุบไหสำเร็จ แต่มันต้องดองเรื่องอื่นไปก่อน //สลด
ของเรานี่พยายามแต่งเรื่องดองเอาไว้ให้จบด้วยดีอยู่ค่ะ ผลสรุปก็คือ มีแฟนคลับเพิ่มมาแล้ว2คนค่ะ จากเดิมที่ไม่เคยมี ก็มีแล้วค่ะ และได้ยอดวิวเพิ่มขึ้นมาอีกค่ะ55 ดีใจค่ะ
ยินดีด้วยค่ะ เราก็พยายามไฟท์เรื่องแรกให้จบ เพื่อจะทุบไหใบต่อไปค่ะ5555
คร้าา พยายามเข้านะคะ
ขอบคุณมากค่ะ^^
มีคนกล่าวไว้ว่า เขียนให้จบเป็นสิ่งที่ยากที่สุด Orz"
ส่วนของเรา ถ้าตัน เราจะกระโดดไปเขียนฉากที่คิดออกหรืออยากเขียนก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาเติมช่องว่างค่ะ ลองดูก็ได้นะ แต่จะเวิร์คไหมคงแล้วแต่คน
เรื่องออกทะเลถ้ามันสนุกอยู่เราก็ว่าโอเคอยู่นะ (บอกคนอื่นให้ออกทะเลได้ แต่ทำไมตัวเองไม่ยอมออกฮะ!!!)
ส่วนคำผิด เราว่าไม่ใช่จุดอ่อนนะ เป็นจุดพลาดที่แก้ได้ง่าย แต่เรานี่ผิดอย่างเยอะ ถึงตรวจแล้วก็มีเล็ดรอดอีกจนได้ เซ็งตัวเอง แต่ช่วงนี้พยายามรอบคอบขึ้น
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้เขียนจบค่ะ ตอนเขียนจบนี่มันจะฟินมากๆๆๆ เลยล่ะค่ะ แล้วก็จะเสพติด อยากเขียนใหม่ให้จบแบบนี้อีกเรื่อยๆ กลายเป็นลูปโมบิอุสไม่จบสิ้น5555
ขอบคุณนะคะ บอกใครก็ไม่รู้ล่ะ แต่เราขอขอบคุณไว้ก่อน อิอิอิ
ยินดีค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน //และตัวเอง ฮืออออออ
เขียนให้จบเป็นสิ่งที่ยากจริงๆ ค่ะ (แต่ทำไมเรื่องสั้นเราเขียนจบได้!? 5555) เราเขียนเรื่องสั้นมาก่อนน่ะค่ะ แต่พอเป็นเรื่องยาว แทบร้องไห้เลย บางทีก็รู้สึกอยากเทให้อยู่ในไห แต่ว่าเพื่อนักอ่าน เราเลยพยายามจะเขียนให้จบค่ะ^^
วิธีเติมช่องว่างน่าสนใจมากค่ะ ขอนำไปใช้บ้างนะคะ เวลาที่ตันอีก อิอิ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆ ค่ะ:))
บรรยายฉากไม่ค่อยดี เลือกใช้คำงง ๆ บทพูดประหลาด พิมพ์คำที่ไม่น่าจะผิดอย่าง"พูด"เป็น"ผู้"เเสดงถึงความไม่มีสติเวลาพิมพ์เลย อืม....พอดูดี ๆ ปัญหาที่เรามองเห็น(ตอนนี้)มีเเต่เรื่องเกี่ยวกับภาษาทั้งนั้นเลยเเหะ
เอาพจนานุกรมมาต้มกินจะหายหรือเปล่าเนี้ย
บรรยาย เราว่าต้องอาศัยประสบการณ์การหมั่นเขียนและการอ่านเยอะๆ ค่ะ เรานี่ย้อนไปอ่านงานเมื่อเกือบสิบปีก่อนของตัวเอง(หัดเขียนแรกๆ) แบ่บว่า เขียนไปได้ยังไงอยากฉีกทิ้ง สำนวนแย่มากกกก ตอนนี้ก็ดีขึ้นแต่ยังไม่ที่สุดยังต้องพัฒนาอีกเรื่อยๆ ค่ะ
แบบว่าเรื่องมันยาวค่ะ...
เรื่องการบรรยาย
https://writer.dek-d.com/Miran/writer/viewlongc.php?id=1860018&chapter=9
การเขียนบทสนทนา
https://writer.dek-d.com/Miran/writer/viewlongc.php?id=1860018&chapter=10
เพราะเขียนแฟนฟิคค่ะ ก็เลยชอบมองฟีดแบคเพื่อนบ้านรอบตัวแล้วเครียด พอเครียดปุ๊บก็จะบ่นงุ้งงิ้งในใจ (นิสัยเสียมาก) ว่าเรื่องเราก็สนุกนะทำไมไม่เท่าเขาหว่า นักอ่านสมัยนี้ชอบห้วนสั้นเหรอ
แต่ก็พอเข้าใจ ของเราบรรยายอย่างเยอะ เออแฮะ ตรงนี้ปัดตกไป กระทั่งเห็นนิยายเขาอัพตอนใหม่และเม้นขึ้น
ฮึด ปั่นหนักสิเรางานนี้ แล้วก็รีเฟรชรอเม้นจะมา และพอพบว่ามีไม่เท่าเขาก็ปลง
เฮ้อออ หมดไฟเบา ๆ สุดท้ายส่องละจัดใจ มีไฟกลับมาปั่นเหมือนเดิม วนลูปแบบนี้
แต่แน่ละว่าเราแก่แล้วว 555 ถึงจะเพิ่งขึ้นมหาลัยก็เถอะ รู้สึกว่าหลังจากเจอการสอบเข้าไปไฟมอดเลยค่ะ ฮือออ
เหมือนกลับมาเขียนนิสัยร่าเริง หัวเราะคิกคักแบบเด็ก ๆ ไม่ได้อีก
ออกมาทางสโลวไลฟ์ไปเลยย คนอื่นงี้สองสามตอนเข้าเนื้อเรื่องของอนิเมะเรื่องนั้นละ
เรานี่ล่อไปเกือบสิบตอนเพิ่งจะงมเจอเนื้อเรื่องในอนิเมะที่จะใช้อ้างอิ้ง
ซ้ำฉากในมังงะตอนนึงเรายังต้องแต่งร่วมสองถึงสามตอนนู่นอะถึงจะจบ เฮ้อออ ความเฉื่อยนี้สุดจะบาปเลย
ดีนะวางพล็อตจบไว้แล้ว เพราะถ้าตามมังะที่ยังไม่จบในปัจจุบันละก็ ตายค่ะ เป็นร้อยตอนแน่ 5555+ //หัวเราะทั้งน้ำตา
สู้ๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ 555 ตอนนี้อยู่สถานะช่างมันแล้ว แต่งเอาสนุกแทน เพราะช่วงนี้เวลาว่างจากการเรียนน้อยมากจริง ๆ 5555
เราไม่ได้แต่งฟิค แต่มีนอยด์นะคะ เวลามองงานคนอื่น เขาแต่งสนุกจัง เก่งจัง ทำไมเราทำไม่ได้แบบนั้น แต่โดนเตือนสติว่า ถ้าเมื่อไรเราพยายามเปรียบเทียบกับคนอื่น งานเราจะมีพลังลบและออกมาไม่ดี เราต้องอยู่กับงานเรา และพยายามเขียนมันโดยไม่สนใจงานคนอื่น นอกจากศึกษาว่าเขาแต่งอย่างไรมันจึงสนุกและลองพัฒนาตัวเอง ประมาณนี้น่ะค่ะ
เรื่องที่เราดูแล้ว มันก็สนุกดีค่ะ แต่...ของเรามันไม่ใช่สไตล์แบบเอะอะก็รักกันเลยด้วย ความรักนี่แทบจางเป็นน้ำอ้อยละลายน้ำ ค่อนไปทางจืด ๆ ด้วย คนที่ตามอ่านก็เลยไม่รู้จะเม้นอะไรกันมั้ง
ถึงไม่เคยอ่าน แต่ก็ยกมือว่าเป็นพวกไม่ชอบแนวเอะอะรักกันด้วย มันเลี่ยนอ่ะ แต่คนส่วนใหญ่ก็ท่าจะชอบแบบนั้น เฮ้อออออ
จุดอ่อนของเรา
1.บทจะบรรยายเยอะก็เยอะเกิน -ที่ไม่จำเป็นมายัด ไม่มีผลต่อพระนางเลย (ตอนนี้เลยตัดออกจากสิบกว่าหน้าเหลือสามหน้า น้ำเยอะมากเกิน)
2.ฉากโรแมนติก เพราะเราไม่เคยรักใครจริงจัง ๆ ในชีวิตนอกจากหลงรักตัวละครในโอโตเมะเกมทำให้เราเขียนไม่ถนัดละมั้ง
3.สำนวนเอี้ยมาก เปรียบเปรยอะไรแปลก ๆ ใจอ่อนเหมือนเต้าหู้งี้ อะไรเนี่ยบ้าบอ
4.เวลาเครียดจะแต่งนิยายได้ดี ไม่รู้ทำไม เนี่ยตอนนี้ที่มาแอคทีฟนิยายเพราะใกล้่สอบกลางภาคละ เราเลยไอเดียแล่นเป็นพิเศษ
พอว่างเว้นไปห้าเดือนเลยทีเดียว ไปสติแตกเรื่องอื่น
5.อารมณ์นิยายแบบขึ้นดอย แล้วก็โดนเตะลงดอย แล้วปีนมาใหม่ เป็นไบโพลาร์
6.บ้าเพอร์เฟ็ค อย่าย้อนกลับไปอ่านเชียวไม่งั้นลบทั้งเรื่อง
7.นึกคำพูดแบบคนปกติไม่ออก เลยพูดแบบทะแม่งๆ ในนิยาย๕๕๕๕
อ้าวทำจุดอ่อนเยอะจัง
รักในโอโตเมะเกมส์ก็เอามาใช้จริงได้นะคะ ถ้าเรารักเขาจริง (เดี๋ยวๆ เริ่มน่ากลัวละ) อยากกระซิบถามว่าเกมอะไร แต่เราเล่นแค่ Yume 100 เอง แฮะๆ
เปรียบเปรยแปลกๆ เราว่าบางทีก็น่ารักดีนะ ใจอ่อนเป็นเต้าหู้ น่ารักดีเหมาะอยู่นะคะ
อยากไลค์ข้อ 4 เวลาเครียดเราก็จะแต่งได้ดีเป็นพิเศษค่ะ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส สมัยเรียนคือแต่งคืนก่อนสอบก็ทำมาแล้ว55555
อารมณ์นิยายขึ้นๆ ลงๆ ดีแล้วค่ะ เหมือนซีรีส์เกาหลีไง เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงไม่ทันให้ตั้งตัวเลยสักครั้ง!
จุดอ่อนเยอะไม่เป็นไรค่ะ เราค่อยๆ พัฒนาแก้ไขไปเรื่อยๆ
ใจเย็นๆนะคะ จุดอ่อนของแต่ละคนแตกต่างกันไปค่ะ
-รุ่นเรามีแต่เกมจีบสาว (Tokimeki memorial) กับเลี้ยงเจ้าหญิง (Princess maker) ซึ่งเราก็เล่นทั้งคู่ค่ะ
-เรื่องเปรียบเปรยนี่ เราเคยเปรียบรสจูบเหมือนช็อคโกแลตฟองดูว์ไปค่ะ เปรียบอะไรของแกร๊!!! ล่าสุดมีขั้นกว่าปล่อยแสงด้วย!?!
-เรื่องไอเดียแล่นตอนใกล้สอบนี่ (สมัยเรา) พรุ่งนี้สอบเอนทรานซ์วันแรก เรานั่งพิมพ์นิยายถึงเที่ยงคืนอ่ะค่ะ
ขอโทษนะคะ เราขำเต้าหู้ ;;
เย้ มีเพื่อนเปรียบเปรยประหลาดแล้ว๕๕๕
พูดถึงเกมจีบหนุ่มตอนนี้เราเล่น Psychedelica of the Ashen Hawk, black butterfly
เขาว่าเนื้อเรื่องดาร์ก เราเลยเล่นจนเนื้อหานิยายตอนนี้ดาร์กตามไปแล้ว
dynamic chord game series เนื้อเรื่องก็ดาร์คพอสมควร โดยเฉพาะfeat. apple-polisher นี่เราร้องไห้จริง ๆ จัง ๆ มา เจ็บปวด ตับ อ้าก
Hakuoki สองภาคก็สนุก ถ้าชอบสุดเราชอบยามาซากิ,ไซโต้
Nightshadeก็สนุกแต่นางเอกคนดีเกินไป
ขอโทษค่ะ ออกทะเลอีกแล้ว
อ่านรายชื่อเกมแล้วยอมค่ะ เอื้ออออ ส่วนใหญ่รอเสพตอนเป็นอนิเมะ เนื่องจากอุปกรณ์และเงินไม่เอื้ออำนวยจะหามาเล่น นอกจากเกมฟรีอย่างยูเมะร้อย กระซิกๆ
//นี่ก็พาออกมหาสมุุทร
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน... #ผิด ยังจะขยี้อีก
แอบไปเปิดอากู๋ดู Princess Maker คิดถึงฟามหลัง (รุ่น SFC ที่เขาแก้โค้ดให้มาเล่นใน PC ได้น่ะ) มันคือเกมเลี้ยงลูกสาวขึ้นมาตามอุดมคติของผู้เลี้ยง (หรือเราที่รับบทเป็นพ่อบุญธรรม)
คือ มันมีสูตรโกงอยู่ว่าตอนจบอยู่ว่าอยากให้ลูกได้แต่งกับใคร เช่นว่า อยากให้แต่งกับเจ้าชาย ทุกๆ ปีต้องให้ลูกเข้าวังทุกเดือนนี้ เพื่อไปเจอเจ้าชาย
แต่เรือเราบาปกว่านั้น นั่นคือ Marry Father (ก็เรานั่นแหละ) มีประโยคชวนบาปที่ปลาบปลื้มที่ลูกพูดกับเราคือ "I will marry you when I grow up"
ปัญหาเดียวกันแต่เยอะกว่า คือ1 พอนิยายมีคนติดตามเยอะและเริ่มมีคอมเม้นต์มากๆใจคอไม่ดี ลบเลยทั้งที่มันเป็นคำชมนะ ลบเรื่องนั้นไปเลย ข้อที่2คือ นิยายของเราค่อนข้างสั้นและมักมีประโยคการสนทนาน้อยรวมถึงปัญหาที่จะให้เหล่าตัวละครแก้น้อยมาก อารมณ์ในการคิดหรืออารมณ์ของตัวละครตายด้าน แต่คงมาจากคนแต่งแหละเพราะว่าไม่มีอารมณ์ร่วม ข้อที่3 สำนวน สำนวนมันต้องใช้เยอะมากเพราะเราแต่งนิยายจีนกับแฟนตาซีมันต้องเว่อหรือจีนจ๋าแต่เรากลับจำไม่ได้เลย และก็ใช้สำนวนไทยไปเลย ข้อที่4 เราจำชื่อตัวละครไม่ได้และเราไม่ชอบที่จะจดบันทึก ต้องย้อนกลับมาดูทุกทีกลับมาดูฉากที่มีชื่อตัวละคร ข้อที่5 การเขียนที่ไม่มีฉากอะไรที่สร้างให้เกิดความตื่นเต้นทั้งที่ฉากพวกนั้นจำเป็นต่อการเขียนนิยายแนวเรา ฉากอะไรต่างๆก็ตายด้านเช่นกัน ข้อที่6เราเขียนแล้วไม่ค่อยสนุกตามที่ต้องการ เราเป็นคนไม่มีพล็อตในหัว เราเอาแรงบันดาลใจจากการอ่านนิยายเรื่องอ่านถึงมีแรงปั่นนิยาย และอีกหลายข้อ ปัญหาเยอะมาก เขียนต่อดีไหมเนี่ย อ้าก!!~
ใจเย็นนะคะ แต่ก่อนอื่นเราว่า พอขึ้นข้อใหม่ก็เคาะขึ้นบรรทัดใหม่ดีกว่านะคะ พิมพ์มาต่อเนื่อง 6 คอมโบ รู้สึกว่า มันแน่นและอึดอัดมาก (เข้าใจว่าเป็นอารมณ์อัดอั้นของคุณในตอนนี้)
ที่บอกว่าลบทั้งมีคำชมนี่ อดเสียดายแทนไม่ได้นะคะเนี่ย เป็นกำลังใจให้นะคะ
กระทู้เราไม่ได้ทำให้ยิ่งเครียดใช่ไหมคะนี่ มองจุดอ่อนมองเพื่อแก้ไขและพัฒนานะคะ ทุกคนมีจุดอ่อนทั้งนั้นค่ะ หรือบางทีจุดอ่อนนั้นดก็คงอยู่ แต่เราสร้างจุดเด่นอื่นมากลบแทนได้ (ควรให้มีใครตั้งกระทู้หาจุดเด่นมาถ่วงดุลดีไหมนะ)
เราเคยตั้งกระทู้คิดบวกนะคะ
มาลองเล่นกันเถอะ 3 : คิดว่าเราเก่งอะไร
https://www.dek-d.com/board/view/3874642/
ไปตามลิงก์ที่ #11-2 ค่ะหวังว่าจะพอช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย
เรื่องคำผิดแนะนำใหสมัคร ID ที่ readawrite ที่นั่นเป็นเว็บลงนิยายเช่นกัน มีระบบช่วยตรวจคำผิดค่ะ
กับมีแอพนี้ช่วยค่ะ (แต่เราฟังแอพอ่านละเขินมาก แบบอายเหมือนฟังคนอ่านออกเสียงนิยายตัวเอง บร้า)
ใช้ text to speech ตรวจคำผิด หรือ ช่วยอ่านนิยายให้ฟัง
https://www.dek-d.com/board/view/3853066/
ขอบคุณนะคะคุณมิรานสำหรับลิงก์ดีๆ ไม่บอกไม่รู้เลย
เหมือนมีคุณมิรานเป็นบรรณารักษ์ประจำบอร์ดเลยค่ะ ใครติดขัดอยากรู้ตรงไหนไปตำได้เลย~
ขอบคุณมากนะคะคุณ Miran/Licht สำหรับคำแนะนำดีๆและลิงค์
เราจะลองใช้บริการตรวจคำผิดของ Readawrite ดูค่ะ
จุดอ่อนของเราคือการบรรยายที่ไม่คงเส้นคงวาค่ะ
ทั้งที่แต่งนิยายมานานมากแล้ว แต่การบรรยายของเราไม่คงที่ เราไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น บางช่วงบรรยายดี๊ดี บางช่วงเรารู้สึกว่ามันยังไม่ผ่านเกณฑ์ส่วนตัว แต่คิดไม่ออกจะแก้ยังไง เหมือนต้องรอมู้ดหรืออะไรสักอย่ง ซึ่งเราไม่ชอบเลย ; ;
อีกข้อคือความซีเรียสเกินไปของเราเองค่ะ เน้นสมจริงมาก+ละเอียดมาก จนเหมือนบ้าหอบฟาง(ข้อมูล) อันนี้ติดมาจากนิสัยส่วนตัวที่รู้สึกว่าต้องหาอะไรที่มันหนักแน่นมาแบ็คอัพข้อมูลตัวเองตลอด(ยกตัวอย่างเวลาทำงานชิ้นนึง ที่มาของเราจะยาวพรืดกว่าชาวบ้านเลยค่ะ) เลยกลายเป็นว่ารู้สึกไม่โอเคกับแทบทุกอย่างที่ขวางหน้าตลอดเวลา แล้วกลายเป็นว่าข้อมูลในนิยายเยอะมาก เรื่องไหนยิ่งเกี่ยวข้องกับระบบปกครองยิ่งรายละเอียดบาน
การเขียนนิยายเลยคืบคลานช้ากว่าเต่าอีก ;; เพราะจุกจิกเรื่องนั่นนี่เยอะแยะ แก้ยากด้วยค่ะ 555
จุดอ่อนอื่นมีอีกเยอะเลย หลายคนคอมเมนท์กันไปหมดแล้ว... จุดอ่อนอีกข้อที่สำคัญที่สุดของเราคือไม่มีวินัยในการเขียน 5555 กะว่าจะเขียนๆ สุดท้ายไม่ได้เขียนเสียเวลากับเกมมั่งอะไรมั่ง เหนื่อยใจ ถ้าไม่ใช่เกมก็คือเปิดเพลงฟังแล้วมัวแต่คิดอยู่ในหัวไปพร้อมๆ เพลง ไม่ลงมือพิมพ์ซักทีค่ะ จากที่เขียนช้าเพราะความจุกจิกของตัวเองก็ยิ่งช้าเพิ่มไปอีก...........
อ้อ อีกข้อนึง นิยายที่เราแต่งอยู่ปัจจุบันนี้เลย คือเรามีความ "อยากเอาฉากAลงไป" แต่ถ้าดูจากองค์ภาพโดยรวมแล้วมันไม่จำเป็น
ไม่ใช่ว่าเสียดายนะคะ คือเรามีเป้าหมายบางอย่างว่าอยากสร้างความสับสนให้คนอ่านในเรื่องซัมติง(ขอไม่เปิดเผยว่าเรื่องอะไร) ซึ่งมันต้องมีฉากที่เราพูดถึง แต่ถ้าใส่เข้าไปแล้วมันจะกระทบกับความน่าสนใจ/ความสนุกของเรื่องพอสมควร เพราะมันจะทำให้ดูอืด
ในเรื่องอื่นที่เรามีบางทีจะมีฉากประมาณนี้มาเสมอเลย คือรู้ว่าไม่จำเป็น แต่มันก็อยากหลอกคนอ่านเหมือนกัน สุดท้ายก็เลือกตัดทิ้งตลอด 55555
อีกข้อ เราเพิ่งนึกได้
-มุกตลก ไม่มีเลยค่ะ ยากจริงอะไรจริง ;; ขนาดบางเรื่องเขียนแบบให้ใสๆ บ้าบอที่สุดแล้วมุกตลกยังแทบไม่มี
ในชีวิตจริงเราเล่นมุกตลกทีก็เล่นแต่มุกประมาณที่ว่าคนฟังได้แต่กระพริบตาปริบๆ "เอาที่สบายใจเลยจ้ะ" ไม่แค่มุกตลกหรอกค่ะ จุดที่ผ่อนคลายจากความหนักของเรื่องยังแทบไม่มี และเรารู้สึกว่านี่เป็นปัญหามาก 555555
การตัดออกเป็นสิ่งที่นักเขียนต้องทำเพื่อความเหมาะสมค่ะ อ่านในลิงก์นะคะ
https://www.facebook.com/131981856954808/posts/1239775846175398/
ของเราก็เขียนจริง 10 หน้าตัดออกเหลือ 3 ส่วน 7 หน้าที่เหลือบางทีก็เก็บไว้เขียนตอนพิเศษค่ะ
อ่านๆ ดูจุดอ่อนเรางอกมาตามคุณหลายข้อเลยค่ะ โอ้ววว เราก็เป็นพวกซีเรียสเกิน ใส่ใจรายละเอียด(แต่ในจุดที่ไม่จำเป็น)จนเสียเวลาเลย แล้วมันก็เครียดเกินจนออกมาไม่ดี
เรื่องแบบชอบยัดฉากนี่ก็เป็น จนบางทีต้องเตือนสติว่า เฮ้ยแกร ฉากนี้ไม่จำเป็น ไม่ต้องใส่แล้ว อะไรยังงี้
เล่นมุกเราก็ชอบเล่นแหละ ไม่รู้ขำบ้างมั้ย แต่ก็เล่น ขำคนเดียวก็ช่าง อย่างน้อยก็ให้ตัวเองกลับมาอ่านแล้วหัวเราะก็ได้ คนอื่นจะแป้กกาบินผ่านก็ช่างเถอะ //ฟังดูเศร้าาา
จุดอ่อนคือไม่ขยันและขี้เกียจบรรยายฉากค่ะ 5555
เราก็ขี้เกียจบรรยายมากกกก แต่มันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อ่ะ นี่ถ้าวาดรูปเป็นคงผันตัวเองไปเขียนการ์ตูนเพราะขี้เกียจบรรยายฉาก แต่เคยลองแล้ว วาดรูปยากกว่าเขียนนิยายอ่ะ(สำหรับเรานะ) ไม่อดทนพอ ก็พยายามเขียนต่อไป แต่แต่งมานานขนาดนี้ก็ยังไม่รู้สึกว่าง่ายซะทีค่ะ บรรยายฉากเนี่ย
จุดอ่อนคือดอง สั้นๆ ง่ายๆ จบในสี่คำ 555
มันเป็นสี่คำที่น่าเศร้าและทรงอิทธิพล...
ว่าไปจุดอ่อนของตัวเองก็เยอะเหมือนกัน แต่ที่จริงจังที่สุดคงเป็นข้อ 1
1.เขียนฉากหวานฉากรักไม่ค่อยเก่ง เข้าพระเข้านางเลยไม่ค่อยฟิน บางเรื่องบทพระเอกน้อย ยิ่งแล้วไปใหญ่เพราะนักอ่านบางคนชอบแนวรักๆ
2. ภาษาไม่แตกฉาน สะกดผิดถูกบางทีคิดว่าถูกแต่ก็ผิด บางคำใช้ออกจะบ่อยแต่พอสะกดอีกทีต้องมานึกว่าเขียนถูกหรือผิด สับสนตัวเอง
3. และภาษาไม่แตกฉานเลยทำให้เขียนออกมาไม่สละสลวยบรรยายได้ไม่ละมุนเหมือนนักเขียนคนอื่น ได้แต่ฝึกและอ่านกันต่อไป อ่านนิยายของคนอื่นแล้วก็ถอนใจทุกที
4. ดำเนินเรื่องยืด ตัดเนื้อหาไม่ได้ ทำให้ยิ่งเขียนก็ยิ่งไปไกล แต่มันตัดไม่ได้จริงๆ (ทำใจเถอะ)
จุดที่1 คุณลองปรับเปลี่ยนดูใหม่อีกครั้งหนึ่งสิคะ ลองสวมบทบาท ว่าตัวเองเป็นตัวนางเอกในละครหรือนิยายดูก็ได้ค่ะ และลองเอาความรู้สึกของตัวละคร มาใส่ที่ตัวเราดูสิคะ แล้วคุณจะอินไปกับมัน จนรู้สึกได้ค่ะ เรานี่ลองมาแล้วนะคะ โครตจะอินเลยค่ะ จนแม่บอกว่า เป็นอะไรยิ้มอยู่คนเดียวอยู่ได้ 555
สวมบทเป็นนางเอกก็คงพอได้แหละค่ะ แต่นึกพระเอกไม่ออกนี่แหละลำบากค่ะ
เราตอบในกระทู้คุณ P-ITEM ไปว่า นิยายรัก 67 ตอนจบของเรานั้น รวมตอนพิเศษแล้ว คู่เอกไม่เคยจูบกันเลยค่ะ แต่ถึงจะไม่จูบ ไม่สกินชิบ ก็สามารถทำให้เขินตัวบิดได้นะคะ
ไม่กล้าแนะนำของตัวเองเพราะเป็นนิยายวาย เพื่อนผช.หลงมาอ่านเขายังเขินเลย //ปิดหน้า
ก็ลองเล่นบทบาทสมมุติเลยค่ะ จะเอาใครก็ได้มาเป็นพระเอก แล้วเล่นตามบทบาท เลยค่ะ เคยเห็นละครเวทีไหมคะ นั่นแหละค่ะ ตามนั้นเลยค่ะ
คุณมิรานคะ นิยายวายเราก็อ่านค่ะ เรื่องอะไรคะ จะลองไปอ่านดู
คุณลินคนธรรมดา ตอนนี้ก็ใช้วิธีนั้นแหละค่ะ แต่กว่าจะได้มามันยากมาก ส่วนใหญ่ก็เลยใช้วิธีศึกษาผู้ชายจากนิยายคนอื่นเอา
พูดแล้วอาย 555
เอาเรื่องสั้นอันนี้ละกันค่ะ ที่ว่าเพื่อนผช.หลงมาอ่านละเขินไปเลย
https://writer.dek-d.com/Miran/writer/viewlongc.php?id=1748671&chapter=1
ขอบคุณในความเอื้ออารีนะคะ แล้วจะเข้าไปอ่านดูค่ะ
สู้ๆนะคะ
บรรยายฉากรักเราว่ายากมากนะ เคยคิดว่าง่ายจนกระทั่งกลับไปเขียนแนวรักอย่างจริงจัง//ฉับพลันนั้น ฉันอยากกลับมาเขียนฉากต่อสู้จังเลย...ฮึก//ต้องบิ้วต์อารมณ์สุดๆ เวลาเขียน หาเพลง romance, erotic, sexy แบบที่เป็นเพลงคลาสสิคไร้เนื้อมาฟังเพื่อให้อินแล้วจึงจะเขียนได้ค่ะ
ส่วนข้ออื่นๆ นั้นก็ประสบเช่นกัน ยกเว้นข้อสุดท้าย อย่างที่บอกของเราห้วนเกิน ตรงข้ามกับคุณค่ะ อยากเดินสายกลางให้ได้จัง
เพิ่งมานึกได้อีกอันที่คนนิยมเล่นกัน ประโยคบอกรักที่ไม่จำเป็นต้องมีคำว่ารัก เอาให้ตัวลอยกันไปเลย...
"หากมัวอยู่แต่กับอดีตจะไม่รู้ว่าอนาคตมีสิ่งใดที่ดีกว่ารออยู่ หากจมอยู่ในฝันก็มิอาจตื่นขึ้นมาเผชิญกับความจริง...อาคาร์ด
ข้าไม่ชอบความฝันเพราะมันไม่อาจไขว่คว้าได้ในความเป็นจริง
ข้าไม่ชมชอบความสุขเพราะมันอยู่กับข้าไม่นาน
และข้าเคยพูดว่าเจ้าคือ ความทุกข์ของข้า
เพราะ...เจ้าคือ ความจริงที่ข้าสัมผัสได้ และคนเราจะจดจำความทุกข์ได้ยาวนานกว่า..."
// เราชอบลีลาการบอกรักที่ไม่เหมือนใครนี้ดี ฮาา
ลึกซึ้ง ชอบการบอกรักแบบนี้...แต่ไม่เคยคิดเองได้เลย...Orz"
มันต้องอาศัยศึกษาภาษากวีเยอะๆ ค่ะ แล้วจะได้ภาษาลิเกมา
เข่น จากกระทู้ที่เราตั้งเอง
https://www.dek-d.com/board/view/3872790/
ขั้นเทพจริงๆ
ข้อสี่นี่เราว่าแก้ยากจริงนะ คืออาจจะต้องให้มืออาชีพมาชี้เป็นจุดเป็นจุดให้เราเลย(ถ้าฝีมือการเขียนระดับคุณเวิ่นแล้วอะนะคะ55)
ไม่งั้นเหมือนพายเรือในความมืด
ขอคนคัดท้ายเทพๆสักคน อิอิ
การใช้คำเชื่อมประโยค
อันนี้แนะนำได้แค่ว่า ต้องอ่านนิยายภาษาดีๆ อ่านแบบละเอียด เก็บเกี่ยวประสบการณ์เก็บคลังคำไว้ค่ะ
ลิงก์อยู่ที่ คห. #11-2 ค่ะ
ขอบคุณครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?