เคยมั๊ยที่นิยายของคุณขาดความสมเหตุสมผล
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบล่วงหน้า
12 ความคิดเห็น
คือ เราอยากเขียนนิยายกาวๆ จัวหัวนิยายว่าหาสาระมิได้ เอาเข้าจริง...ด้วยนิสัยดั้งเดิม เราก็ต้องหาเหตุผลรองรับมันจนได้ เป็นนิยายแฟนตาซีที่อัดแน่นด้วยข้อมูลวิชาการ
มาที่คำถาม อืม...เดี๋ยวเรารวบรวมเข้ารวม FAQ เราให้ด้วย เรื่องการเปลี่ยนฉากนี่ก็ปัญหาใหญ่สินะคะ ทั้งการเปลี่ยนฉากในตอน และการขึ้นบทใหม่กับฉากใหม่
เรายังยึกหลักเดิมค่ะ 5W1H ยังสามารถนำมาปรับใช้ได้เรื่อยๆ บางครั้งใช้ฤดูกาล บางครั้งใช้สภาพอากาศ บางครั้งใช้เสียงของบรรยากาศค่ะ ถ้ายังไม่เก็ต รอก่อนนะคะเดี๋ยวรวบรวมมาให้อีกที (ไปเปิดตำรามาตอบให้)
รอๆค่ะ แต่ชอบการจั่วหัวมากเลย 555+
เรียบเรียงมาได้ประมาณนี้ค่ะ ไม่รู้ว่าจะตอบโจทย์แค่ไหน
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1860018&chapter=17
ช่วยได่เยอะเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ไม่ค่อยเข้าใจคำถามยกตัวอย่างเพิ่มในหัวกระทู้ได้ไหมครับ
อย่างเช่น
พระเอกนางเอกเป๋นดาราด้วยกันทั้งคู่ และตกเป็นข่าวใหญ่ แต่เราเขียนแบบตัดจบอย่างเร็ว(จนรู้สึกแครงใจ) ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เวลาดาราตกเป็นข่าวใหญ่มันไม่น่าจบลงง่ายๆ อย่างมีปริศา และการที่ทำให้ฉากนั้นเด่นน้อยลง เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยสมเหตุสมล ในความเป็นจริง
ประมาณน่ะค่ะ
น่าจะเป็นเพราะคุณเขียนเรื่องที่ไม่รู้จัก แล้วกลัวที่จะมโนเอาเองเพราะมันมีข้อเท็จจริงตั้งอยู่ อย่างกรณีที่ดาราเป็นข่าว เราอาจจะคิดว่าเขาต้องทำกันแบบนั้นแบบนี้ มีการวิ่งเต้น มีการต่อรองกับนักข่าว มีการใช้เส้นสาย มีการใช้อำนาจผู้ใหญ่ที่รู้จัก แต่ความจริงเป็นอย่างไรไม่รู้ ก็เกิดความรู้สึกไม่กล้าเขียนเรื่องราวที่มโนออกมา ลองมองตอนที่เขียนเรื่องใกล้ตัวที่เรารู้จักดี หรือเรื่องที่สามารถสอบถามกับคนรู้จริงได้ ยังมีปัญหาแบบเดียวกันหรือเปล่า ถ้าเขียนเรื่องรู้จริงได้ดี มายเซ็ทของคุณน่าจะกลัวที่จะเขียนเรื่องไม่รู้ ไม่กล้ามโน แบบนั้นก็ต้องหาข้อมูลให้ดี มีตัวอย่างที่จับต้องได้
ก็ฝึกตั้งคำถามกับนิยายตัวเองบ่อย ๆ ครับ
ผมใช้วิธีนี้ประจำนะ โดยเฉพาะกับตอนที่สำคัญมาก ๆ ที่ยังแต่งไม่ถึง
ถ้ามีเวลาว่างแล้วผมคิดฉากที่ว่าซ้ำไปซ้ำมา (เพราะมันเป็นฉากที่สนุกและอยากแต่งมาก ๆ ด้วยล่ะนะ)
ก็คิดว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ตัวละครพูดหรือทำแบบนั้นแล้วดูแปลกไหม? เป็นต้น
ประเด็นหลักที่ควรเน้นคือ ความสมเหตุสมผลในการกระทำของตัวละครครับ
ทฤษฎีในเรื่องอาจแถได้ โดยเฉพาะแนวแฟนตาซี
แต่การกระทำของตัวละครเป็นสิ่งที่แถยากครับ เพราะมันอยู่ในลักษณะของสามัญสำนึก ถ้าตัวละครไม่ได้อินดี้ มีความหลุดโลกด้านวิธีคิดแล้ว การกระทำในแต่ละเรื่องก็ควรอยู่ในรูปในรอย หรือในจุดที่คนทั่วไปพึงกระทำ
ส่วนวิธีการปรับก็ทำได้ทั้งปรับที่การกระทำของตัวละครเลย อะไรแปลก ๆ ก็อย่าไปทำ อย่าไปใส่บทแบบนั้นโดยไม่จำเป็น
หรืออาจปรับได้ที่บทของเรื่องเลย เช่นถ้าใส่บทแบบนี้มาแล้วตัวละครจะกระทำอะไรแปลก ๆ ไม่สมเหตุสมผลลงไป ก็อาจตัดบทนั้นออก หรือโยนให้ตัวละครอื่นที่นิสัย หรือจังหวะให้กว่าเล่นไป เป็นต้น
ให้เรามองบทแบบกว้าง ๆ ไว้แล้วค่อย ๆ ปรับทีละนิด แล้วในที่สุดมันจะเจอจุดที่คิดว่ามีความสมเหตุสมผลพอครับ
ขอบคุณค่ะ
ส่วนใหญ๋จะไปรู้ตัวตอนมีคนอ่านบอกเลยเลือกที่จะแก้ความไม่สมเหตุสมผลในช่วงตอนต่อๆ ไปค่ะ
แต่ล่าสุดนี่เขียนพลาดไปซึ่งก็โชคดีที่เป็นตอนพิเศษ เลยลบออกเขียนใหม่เลย ถถถ
ไม่ค่อยนะ ความสมเหตุผลมาเต็ม รวมไปถึงการสร้างตัวละครที่งี่เง่าเหมือนไร้เหตุผลก็ตาม
โดยนิสัย เราเป็นหนูจำไมมาแต่ไหนแต่ไรค่ะ ดังนั้นพอเวลาเขียน เราเริ่มจากการคุยเนื้อเรื่องกับคู่หู คุยเองก็ตั้งคำถามแล้วช่วยตอบกันเองว่าทำไม ความสมเหตุสมผลเลยมาเต็มพิกัด
ถ้าเราสงสัย ก็เป็นไปได้ว่าคนอ่านสงสัย และถ้าให้ดี ต้องสงสัยให้มากกว่าคนอ่านด้วยค่ะ คำถามใดที่ผุดขึ้นมาต้องตอบให้ได้ ไม่ตะแบงมั่วไปให้จบ เพราะมันก่อให้เกิดทางตันขึ้นได้เวลาที่ลงมือเขียน
เปิดประตูระบายน้ำให้มากที่สุดก่อนลงมือเขียนดีสุด จะไม่มีปัญหาเรื่องความไม่สมเหตุสมผล และตัดหนทางจะตันไปได้ด้วยค่ะ เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการวางแผนก่อนเขียนนะคะ เราว่า
นี่เคยโดนคนอ่านว่าด้วยค่ะ5555555555555555555 เขียนไม่สมจริงบ้าง เขียนไม่มีเหตุผลบ้าง มีหลายอย่าง โดนจนชินเลยค่ะ55555555555
นิสัยตัวละครเรามันขาดความสมเหตุสมผลไปไกลจนไม่อาจกลับมาได้
เราเลยต้องมีแก่นเรื่องไว้ พยายามลากมันกลับมาให้สมเหตุสมผล ถ้าทำไม่ได้ก็ทิ้ง
มันเป็นจุดขายของผมนะ ทำเป็นเล่นไป (ฮา)
ตั้งใจเขียนให้ทั้งเกรียนทั้งเว่อร์เอาแบบหาความสมจริงแทบไม่ได้ ที่สำคัญคือคนอ่านส่วนใหญ่ก็ชอบนี่ล่ะครับ 555+
พยายามดึงให้กลับมา moderate ตลอด พอเขียนๆไป แล้วลองกลับมาดูอีกที อะไรที่มันเวอร์เกินไปก็ดึงกลับมา แต่อะไรหยวนได้ก็หยวนๆไป พยายามใช้วิธีคิดสไตล์เกมกระดานแนวโรลเพลย์ที่แต้มสกิลยังกากๆอยู่ประมาณพวก DnD เรามีสกิลแค่นี้ เราต้องใช้แค่นี้ เยอะกว่านี้ทำไม่ได้
บ่อยครับ เวลาเขียนสดหรือง่วงจัด มึนจัด ก็อาจจะต้องมาปรับแก้บ้าง 55555555
...................
สำหรับเรื่องการเปลี่ยนตอน หรือขึ้นย่อหน้าใหม่ อันนี้ผมใช้เทคนิคเหมือนตัดฉากแบบภาพยนตร์ คือจะมีความต่อเนื่องจากฉากที่แล้ว ๆ มาบ้าง และสามารถพาเรื่องให้ดำเนินต่อไปได้โดยไม่ติดขัด เช่น
เสียงรองเท้าส้นสูงเดินเร็วๆ ไล่หลังเพราะด้วยความที่วิ่งไม่ถนัด พนักงานทำความสะอาดเหลือบมามอง โดยไม่ได้สังเกต เธอชนกับชายผู้หนึ่งที่เดินสวนมาตรงทางเดิน ไม้ถูพื้นที่วางบนรถเข็นฟาดใบหน้านั้นเต็มๆ
“เหวอ!” หญิงสาวผงะ เธอรีบยกมือไหว้ “ข...ขอโทษค่ะ...!” เธอรีบจับรถเข็นให้มั่นและรีบเข็นเดินออกไปจากดินแดนนรกที่น่ากลัวกว่าภาพยนตร์ผีบางเรื่อง
“แกคิดว่าจะหนีฉันได้เหรอ! อีปวีณา!” หญิงสาวผู้นั้นยังคงตวาดไล่หลัง --- ก่อนที่ชายคนนั้น ชายที่พนักงานทำความสะอาดชนไปจะมาดักหน้าเธอ พร้อมด้วยยามรักษาความปลอดภัยอีกห้าคน
“นี่ แซลลี่” เขาพูด จ้องหญิงสาวด้วยความโกรธเคือง “คุณกล้าดียังไงถึงได้ไปหาเรื่องพนักงานทำความสะอาดแบบนั้นน่ะฮึ?”
ตัดจบเหลือเท่านี้ก็ขึ้นตอนสองได้ง่าย ๆ เลยครับเพราะเรายกประเด็นจากย่อหน้านี้มาพูดก็ได้ หรืออย่างง่ายที่สุด เขียนยาวเป็นพรืดมาก่อนแล้วอยากตัดตรงไหนก็ตัดเลยครับ เอาไปยกยอดตอนสองหรือสลับย่อหน้ากันก็ได้ (ถ้ามีเหตุและปัจจัยที่ทำได้นะครับ 5555)
ขอบคุณค่ะ
เคยครับ แต่สุดท้ายคือหาจุดเมคเซนส์เท่าที่ทำได้ ส่วนที่เหลือ ดมกาวให้หมดถุง แล้วเขียนด้วยความเมากาว
55555+
ผมลบทิ้ง และไปฟังเพลงกับอ่านดูนิยาย(นิยายเก่าๆ)อนิเมะมังงะหนังซีรี่ย์เกมชิวๆ หลังจากนั้นผมก็มาเขียนใหม่
ปล.แต่เพื่อนผมมันแค่ดองปีนึงและกลับมารีไรท์ใหม่ดีขึ้นกว่าผมอีก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?