Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ท้อกับการเรียนมหาลัย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
จขกท เพิ่งขึ้นมหาลัยค่ะ เรียนคณะหนึ่งในจุฬา และเพิ่งผ่านมิดเทอมมาเลย มิดเทอมรู้สึกว่าเหนื่อยและหนักมากๆๆๆ เรารู้สึกว่าตัวเองตั้งใจสุดๆ ก็ยังทำข้อสอบได้ไม่ดี เราตั้งใจทำเปเปอร์มากๆๆ แต่อาจารย์ส่งงานคืนมา ปรากฏว่าได้คะแนนน้อยกว่าเพื่อนที่ปั่นส่งในสามวัน คือเราท้อมากๆ ไม่อยากไปเรียนแล้ว ไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่คือเหนื่อยเฉยๆหรืออะไรกันแน่ ทั้งๆที่มั่นใจมากตลอดว่าตัวเองชอบคณะนี้มากๆ แต่คือแค่นี้ก็หมดไฟแล้วอะค่ะ ถ้าจะให้ซิ่วก็คิดไม่ออกว่าจะไปเรียนคณะไหน TT ทุกวันนี้เราชอบวิชาเอกมากที่สุดค่ะ แต่ปวดหัวกับวิชาบังคับคณะมากกกกก อยากเข้าเอกไวๆ แต่ก็กลัวว่าเข้าไปจะหนักกว่านี้อีกเพราะพี่ขู่มา ฮือออ อีกเรื่องที่ทำให้เราเครียดคือเราเพิ่งรู้ตัวว่าจริงๆอยากเป็นล่ามค่ะ ซึ่งก็ตรงกับคณะที่เราเรียนพอดี แต่เงินเดือนล่ามภาษาที่เราชอบมันโดนกดมากๆๆๆๆในไทย เราเลยคิดว่าควรเรียนทักษะอะไรไว้เผื่อบ้าง ซึ่งก็คิดไม่ออกอีกว่าทักษะอะไร เพราะภาษาคือสิ่งเดียวที่เราชอบจริงๆ เรากลัวว่าจบไปจะเลี้ยงครอบครัวได้ไม่ดีพอ ไม่รู้ทำไมแค่เพิ่งขึ้นปี1 ถึงเครียดได้ขนาดนี้อะค่ะ

#เพิ่งเข้ามาดู จขกท ปรับตัวได้แล้วนะคะ   เรียนมาเกินครึ่งทางแล้ว 555555 ใครที่มีปัญหาแบบเดียวกันก็ส่งข้อความลับมาปรึกษาได้นะคะ  ขอบคุณมากค่า

แสดงความคิดเห็น

>

28 ความคิดเห็น

จริงงงงงงงงงง 20 ต.ค. 61 เวลา 20:24 น. 1

สู้ๆ นอนๆ เรียนๆ เล่นๆ อ่านนิยาย แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ปีสี่ เชื่อดิ นี่ผ่านมาก่อนแล้ว ถึงตอนนั้น จะงง เว้ย ไรเว้ยยย เหมือนเมื่อวานยัยงบนเหนื่อยที่เพิ่งขึ้นมหาลัยอยู่เลย นี่ต้องออกไปทำงานแล้วววววววววววววววววววว

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:30 น. 1-1

อยากถึงจุดนั้นบ้างง อยากจบแล้วค่ะ 55555 (แต่จบแล้วก็ต้องทำงาน กรี๊ดดด )

0
kaeonat 20 ต.ค. 61 เวลา 20:29 น. 2

สู้ๆครับ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้นครับ


ชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ


ต้องผ่านอุปสรรค ปัญหา และวิกฤต มากมายครับ


แต่ก็เห็นหลายคน สามารถฝันฝ่าไปได้


อาจจะมีช่วงที่อ่อนแอ ท้อ ถอยเหมือนกัน


แล้วแต่ใครจะเจอแบบไหน ทุกอย่างมีทางแก้หมดแล้วครับ


อยู่ที่เราจะมีสติ นึกคิด แก้ปัญหา ปลงบ้างได้ นิดๆก็ยังดี


ถ้าเราสามารถผ่านพ้นไปได้


แล้วเราจะเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่เพียบพร้อมครับ


ถ้าเหนือยก็พัก หาอะไรทำที่ทำให้ตัวเองมีความสุข แต่อย่าให้เดือดร้อนตัวเอง และคนรอบข้างก็พอครับ


พอมีพลังก็สู้ต่อครับ


พี่เชื่อว่า จนกท จะผ่านไปได้ด้วยดีครับ ขออวยพรครับ

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:32 น. 2-1

ขอบคุณนะคะ ช่วงนี้อุปสรรคอาจจะเยอะขึ้นแล้วเราไม่สู้เองแหละค่ะ ตอนนี้ได้รับพลังแล้วว จะพยายามให้มากขึ้นแน่นอน

0
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:34 น. 3-1

ขอบคุณนะคะ เข้ามาเรียนได้แบบงงๆ ไม่ได้เก่งอะไรเลยจริงๆ สู้ต่อแน่นอนนน

0
ผ่านมาเดี๋ยวก็ผ่านไป 20 ต.ค. 61 เวลา 23:47 น. 4

รู้สึกเหมือนกันน มิดเทอมเราก็ตกมีน ท้อจนคิดถึงทางอื่นแต่ก็ตัน เลยกลับมาคิดใหม่ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เราพยายามที่สุดของเราแล้ว สู้ๆนะจขกท

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:35 น. 4-1

จขคห ก็สู้ๆนะคะ เราต้องผ่านไปด้วยกันน เย่

0
₩!_€ 21 ต.ค. 61 เวลา 00:00 น. 5

ผมยังไม่ติดจุฬาด้วยซ้ำไปครับ จขกท คุณเก่งมากแล้วนะหมดไฟหาอะไรทำเป็นงานอดิเรกจะได้ไม่ซ้ำซากดีไม่ดีอาจจะเจอสิ่งที่เราทำได้ดีเผื่อเป็นอาชีพสำรองไว้ก็ได้ครับ #ผมเล่นดนตรีแต่เรียนเอกภาษาไทยครับ555

ว่างๆมันก็ช่วยเราคลายเครียดได้นะ

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:38 น. 5-1

ติดจุฬาไม่ได้หมายความว่าเก่งเสมอไปหรอกค่ะ เช่นเราเป็นต้น 55555 คุณเก่งมากอ่าา เราพยายามเล่นดนตรีแล้ว แต่เล่นไม่ดีสักอย่าง จำโน้ตไม่ได้ เล่นได้ตรงคีย์ก็บุญแล้ว อิอิ

0
baeconyummy 21 ต.ค. 61 เวลา 00:20 น. 6

เป็นธรรมดาที่จะมีหมดไฟบ้างแหละในชีวิตมหาลัย ในเมื่อถ้าอาชีพที่เราอยากเป็นตรงกับคณะที่เข้าแล้วก็ไม่ต้องซิ่วหรอก ปี1อาจจะยังอยุ่ในช่วงปรับตัว เดี๋ยวพอปรับได้น่าจะเครียดน้อยลง ลองสู้ดูก่อน ส่วนเรื่องการงานในอนาคตอย่าเพิ่งไปคิด โฟกัสกับเทอมนี้ไปก่อน สู้ ๆ นะ

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:40 น. 6-1

โกรธตัวเองที่แค่เพิ่งเริ่มก็ท้อซะแล้ว จะพยายามมากขึ้นนะคะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png

0
pakhaydaow 21 ต.ค. 61 เวลา 01:02 น. 7

การมีเป้าหมาย มีสิ่งที่อยากทำ นั่นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในความโชคดีของชีวิตแล้วนะ ในชีวิตเราอาจมีวันที่เหนื่อยหรือท้อแต่สิ่งที่เราอยากทำมันจะเรียกให้เรากลับไปหาอยู่เสมอ ความจริงแล้วชีวิตของเราไม่สามารถนำเปรียบเทียบกับคนอื่นได้แต่ส่วนใหญ่แล้วเราก็เผลอเปรียบเทียบตลอด เราแค่อาจต้องใช้เวลานานขึ้นหน่อย เรียนรู้มากขึ้นอีกหน่อย บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าจะมีความสำเร็จที่เราต้องการเกิดขึ้นจริงๆรึเปล่าแต่ถ้าจะทิ้งมัน ล้มเลิกไปเพราะคิดว่า พยายามที่สุดในชีวิตแล้ว บางทีมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เราแค่อาจต้องลองหาแนวทางบางอย่าง ที่ทำให้เราใกล้สิ่งที่เราต้องการมากขึ้นอีกนิด สำหรับสิ่งที่มุ่งมั่นว่าเราต้องการมันจริงๆแล้ว ความพยายามไม่เคยทำร้ายใครเลย มันจะนำพาเราไปเอง จนถึงจุดหนึ่งที่ดีที่สุดหรือหลายครั้งเราก็ลองผ่อนคลายบ้างก็ได้ จะได้ไม่เครียด บางอย่างมันก็ต้องการๆพักเพื่อรอการฟื้นฟู

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:43 น. 7-1

จริงค่ะ บางทีวิธีเราพยายามอยู่อาจจะผิด จะลองดูวิธีใหม่นะคะ ขอบคุณสำหรับคำเตือน ข้อคิดดีๆค่ะ ข้อความของคุณทำให้ฉุกคิดอะไรได้เยอะเลยค่ะ

0
mindkoky 21 ต.ค. 61 เวลา 02:32 น. 8

นี่ก็เพิ่งขึ้นปีหนึ่งเหมือนกันค่ะ เราอยากบอกว่าจุฬาเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้ามากๆๆๆ ตอนtcasเราลองยื่นลองสอบทุกรอบแต่ก็พลาดหมดทั้ง5รอบ สุดท้ายเราก็มาจบที่เอกชน สังคมกับงานที่ำก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ แต่เราเพิ่งมารู้ว่าการกดดันตัวเองมันยิ่งแย่ เราเลยลองคบเพื่อนที่เขาดูใจดีๆเรียนเก่ง ซึ่งมันเวิร์คมากเลย ก่อนสอบเขาก็ช่วยเราติว มีงานอะไรก็คอยเตือน แต่เราก็ต้องพึ่งพาตัวเองด้วย จขกทยังดีนะคะว่ารู้ตัวเองว่าอยากเป็นอะไร แต่เราเนี่ยยังไม่รู้เลย55555 อย่าเพิ่งยอมแพ้เนาะ สู้หน่อย ปล่อยวางบ้างอย่าไปแบกอะไรเยอะ เหนื่อยก็พักแล้วก็ค่อยกลับมาฮึดขึ้นสู้ใหม่นะคะ ถ้าเครียดก็ดูหนังตลกๆ อ่านฟิค ไปเที่ยวเล่นพักผ่อน หรือหาของอร่อยๆกิน หาบรรยากาศดีๆในการปั่นงาน ทำการบ้าน หรืออ่านหนังสือ เราว่าน่าจะช่วยได้ ไฟท์ติ้งนะคะ

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:45 น. 8-1

จขคห ก็อย่าเครียดน้าา ค่อยๆหาไป ยังมีเวลาอีกมาก เราโชคร้ายที่รู้ตัวว่าชอบ แต่ไปยังไม่สุดเท่าไหร่ เรามาพยายามด้วยกันน้าาา

0
Kazerez 21 ต.ค. 61 เวลา 02:37 น. 9

การให้คะแนนส่วนใหญ่ในระดับมหาวิทยาลัยจะเป็นการให้คะแนนแบบ 'อิงเกณฑ์' นั่นหมายความว่า

ถึงข้อสอบจะมีคะแนนเต็มที่ 10 คะแนน และเราทำได้ 7 คะแนน แต่เพื่อนเกือบทั้งห้องทำได้ 9-10 คะแนน เกรดเราก็แย่แล้วครับ จำไว้ว่าคนที่เข้ามาเรียนอยู่ข้างๆ น้องได้ คือคนที่ไม่ได้เก่งน้อยไปกว่าน้องเลย เพราะพวกเค้าถูกคัดเลือกมาด้วยระบบเดียวกับที่น้องเจอมา


ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทุ่มเทสุดๆ ให้เหนือกว่าแค่คำว่า 'คิดว่าดีแล้ว'

ในมหาวิทยาลัยนี่แทบไม่ต่างจากการทำงานเลยครับ แค่มีความตึงเครียดน้อยกว่าเล็กน้อย และเงินเดือนที่ได้ก็ยังมาจากพ่อ-แม่ แต่จะไม่มีระบบช่วยให้ผ่านชั้นเรียนเหมือนตอนมัธยมอีกต่อไป


และควรเปลี่ยน mindset ที่ว่า 'คนที่ให้เวลากับสิ่งหนึ่งมากกว่า ย่อมให้ผลงานที่ดีกว่าเสมอ' เพราะมันไม่ถูก 100% แต่อยากให้คิดว่า 'คนนั้นทำอย่างไรที่ใช้เวลาน้อยกว่า แต่ผลออกมาดีกว่า' อันนี้น่าสนใจ ให้ลองไปถามหรือขอคำปรึกษาดูครับ **โดยที่มันเป็นวิธีที่ถูกต้อง ไม่ทุจริตด้วยนะ**


อ้อ ภาษาที่น้องกำลังศึกษาคือภาษาอะไรเอ่ย ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ พี่อาจจะพอช่วยได้บ้าง

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:48 น. 9-1

จริงค่ะ เพื่อนที่นี่คือเก่งมากๆ อยากเอาธูปเทียนไปไหว้เลยว่านี่คนหรือเทพ 55555 จะลองไปปรึกษาเพื่อนคนนั้นดูนะคะ เรียนภาษาที่สามอยู่ค่ะแต่ก็ชอบภาษาอังกฤษเหมือนกัน พอจะมีคำแนะนำอะไรไหมคะ การฟังกับการพูด จขกท คือห่วยมากกhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-03.png

0
ignoremeimcrazy 21 ต.ค. 61 เวลา 02:53 น. 10

ในฐานะเด็กปี 1 เหมือนกัน เราคงไม่สามารถแนะนำอะไรได้มากแต่เราเข้าใจเธอนะ ถึงมอเราจะไม่ได้เครียดเรื่องวิชาบังคับมาก แต่เรื่องอนาคตที่กำลังแขวนบนเส้นด้ายน่ะเข้าใจดีเลย บ้านเราฐานะไม่ได้ดีมาก มีหนี้สินติดคนนู่นคนนี่เต็มไปหมด มิหน่ำซ้ำถ้าเราจบป.ตรีเมื่อไหร่รายได้ช่องทางเดียวที่เข้ามาก็จะโดนตัดทันที เท่ากับเราต้องหางานที่เลี้ยงตัวเองเลี้ยงครอบครัวและจ่ายหนี้เองทั้งหมดทันทีที่เรียนจบซึ้งมันน่ากลัวมากๆเลย เครียดมากๆ ว่าอีก 4 ปีจะต้องทำยังไงให้ครอบครัวอยู่รอดต่อไปได้ด้วยกำลังของเราเพียงคนเดียว เรามองไม่เห็นอนาคตตัวเองเลยว่าจะไปต่อยังไง สาขาที่เราเรียนก็แทบจะหางานในไทยไม่ได้เลยด้วย แต่เรามีอย่างหนึ่งที่เหมือนกับเธอคือเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบเจอแล้ว มันเลยทำให้เราพยายามหาหนทางหาทางเดินที่จะพาให้ตัวเองรอดให้ได้ในอนาคต เราเข้าใจดีว่าความไม่มั่นคงของอนาคตมันน่ากลัวยังไง


เจอสิ่งที่ใฝ่ฝันแล้วอย่าทิ้งมันไปเลยนะ การที่คนเราจะรู้ใจตัวเองมันไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนกว่าจะรู้ตัวว่าชอบทำอะไรก็ปาไป 40 50 แล้วก็มี คิดให้ดีๆนะ ถ้ามันเป็นสิ่งที่เราตั้งใจและมุ่งมั่นจริงๆ ทำให้มันเป็นแรงผลักดันให้ไปต่อให้ได้ ไม่เก่งเท่าเพื่อนก็ขยันเอา เพื่อนขยันอ่าน 10 ครั้ง เราก็อ่านมันไป 30 ครั้ง มันอาจจะไม่ได้เห็นผลเร็วแต่เห็นผลแน่เราเชื่อแบบนั้น ทุกอย่างมันมีทางออกของมันแค่ต้องตั้งสติดีๆ คุยกับตัวเอง แล้วค่อยๆมองหาทางแก้ไขปรับปรุง


เรื่องที่เราเขียนอาจจะไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่เพราะเราแค่มาแบ่งปันเรื่องราวให้เธอฟัง 5555 แต่อย่างน้อยอยากให้รู้ว่ามีคนที่กำลังเจอปัญหาเหมือนกับเธออยู่นะ และยังมีอีกเยอะเลยด้วย เรามาสู้ๆไปด้วยกันนะ ^^



1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:56 น. 10-1

ใช่ เราเครียดแค่จบมาจะทำให้คุณภาพชีวิตครอบครัวดีขึ้นไม่ได้ ถึงพ่อแม่จะไม่เคยกดดัน แต่เรารู้แหละว่าลึกๆท่านก็คาดหวัง อาจเพราะเราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ครอบครัวไม่ได้คาดหวังว่าจะให้มาถึงจุดนี้ พอมันมาถึงได้จริงๆแล้วความกดดันมันเยอะขึ้น ตอนนี้เราอาจแค่เหนื่อย แต่จะสู้ต่อไปแน่นอนค่าา จขคห ก็ สู้ๆเหมือนกันนะคะ เราสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของ จขคห จากตัวอักษรเลยอ่าา ขอชื่นชมม

0
Cake Chokedeevipits 21 ต.ค. 61 เวลา 08:53 น. 11

แกก...เราก็เป็นจ้าเราอักษรแต่คนละมหา'ลัยเราสอบมิดเทอมฝรส.ไปแล้วก็กลัวมากว่ามันจะไม่ผ่านครึ่งด้วยซ้ำเราก็เลยไปปรึกษาว่าจะซิ่วไปโบราณคดีดีมั้ย เพื่อนเราก็บอกว่าคิดดีๆนะ เราอาจจะคิดแบบอยากซิ่วอารมณ์ชั่ววูบ จริงๆเราร้องไห้หลายรอบมากแบบเราก็ทำเก็บคะแนนฝรส.ย่อยอย่างตั้งใจนะแต่ก็ได้คะแนนน้อย เราว่าต้องอ่านหนังสือมากกว่านี้อ่ะ แบบน่าจะเป็นวิธีที่คิดว่าแก้ได้ดีที่สุด เอาเป็นว่า จขกท.ต้องสู้ๆนะ!! เราเชื่อว่าจขกท.สามารถทำมันได้^^https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png


ปล.เราตอบกระทู้ครั้งแรกอาจจะแปลกๆหน่อยน้า

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 16:58 น. 11-1

เราเข้าใจนะ คือเวลาชอบวิชาไหนมากๆพอผิดหวังมันจะเหมือนคนอกหักเลยอะ อย่าเพิ่งท้อน้าา พยายามใหม่ สักวันคนที่เราชอบจะต้องเห็นความดีของเรา!https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png

0
Ca-Nom 21 ต.ค. 61 เวลา 09:58 น. 12

สู้ๆนะคะ ได้เรียนสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนทำให้เต็มที่นะคะ หนูอยากเรียนสถาปัตย์แต่มหาลัยใกล้บ้านไม่มีคณะนี้ พ่อแม่ไม่อยากให้ไปไกลก็เลยเรียนคณะที่ใกล้เคียง

จากเด็ก62https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 17:02 น. 12-1

ยังไงก็อยากให้เรื่องคณะที่ตัวเองชอบน้าา ขนาดพี่เลือกคณะที่ชอบยังเหนื่อยขนาดนี้ ไม่อยากให้น้องจินตนาการถึงคณะที่พอเรียนได้หรือไม่ชอบเลย... น้องก็สู้ๆนะคะ มีอะไรก็ส่งข้อความมาหาได้นะ

0
สาวชราชุดสีดำ 21 ต.ค. 61 เวลา 13:33 น. 13

อักษรป่าว? ในฐานะที่คณะเราอยู่ถนนอังรีเหมือนกัน ก็อยากจะบอกว่าสู้ๆนะ ตอนนี้เราก็เป็นห่วงเกรดเราเหมือนกัน คือล่อแล่กับวิชาบังคับคณะเราเองมากๆ คือสอบ 100% อ่ะ งานเปเปอร์อะไรไม่ค่อยมีเลย เอาง่ายๆ ถ้าไม่อ่าน ไม่เข้าใจเนื้อหา ก็คือไม่มีคะแนนไปตัดเกรดอ่ะ 5555555 T T ของแกยังดีนะที่มีเปเปอร์ ลองพยายามดูอีกนะ เราเชื่อว่าเปเปอร์ครั้งหน้าแกต้องได้คะแนนดี อย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ให้เราเปรียบเทียบตัวเราเอง พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆทีละนิด เซตเป้าหมายไว้ดีแล้ว แต่อย่าไปเคร่งเครียดกับมันมาก ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ make a progress ทำเรื่อยๆ นี่เครียดว่าคะแนนวิชาบังคับคณะจะตกมีนเนี่ย กลัววว 5555 เอาจริงๆ ก่อนมิดเทอม เราก็เหนื่อยเหมือนเธอนะ สรุป short note อ่านไม่ทัน จำเนื้อหาไปเขียนตอบอาจารย์ไม่ครบ ยังปรับตัวไม่ได้เท่าไหร่ ศุกร์ที่ผ่านมา อาจารย์อ่านคำตอบข้อสอบปีเรา โดนสาปทั้ง 4 ภาคอ่ะ ง่ายๆคือทั้งชั้นปี55555 กดดั๊น กดดัน ยังไงก็ตามแต่ ยังมีเวลาแก้ไขเกรดของเราแก อีกครึ่งเทอม สู้ๆ ลองหาดูว่ามีอะไรตรงไหนที่เราพลาดไปรึเปล่า เราตอบตรงประเด็นที่อาจารย์ถามรึเปล่า เพราะคณะเราเองก็เน้นการเขียนมากๆ เหมือนกัน สู้ๆ

4
KIWON 21 ต.ค. 61 เวลา 16:21 น. 13-1

ตัวอยู่รัฐศาสตร์ป่าวคะ ถ้าใช่ก็จะบอกว่าเราก็กังวลคะแนนเหมือนกัน TT TT

0
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 17:07 น. 13-2

ความนรกคือคณะมีทั้งวิชาที่สอบล้วน และคะแนนงานส่วนใหญ่ แต่งานที่ทำก็คุณภาพต้องสูงปรี๊ดดด มิดเทอมเราอ่านทันนะ แต่ก็เหมือนไม่ทันอยู่ดีอะ(เอ๊ะ?) จขคห ก็สู้น้าา ผ่านปี1 ไปก็คงดีขึ้น เหนื่อยก็พักบ้างง เราต้องผ่านมันไปได้แน่นอนน

0
KIWON 21 ต.ค. 61 เวลา 19:10 น. 13-4

ฮือออออ จับมือ มาลุ้นคะแนนไปด้วยกันนะคะ

0
~poidxert~ 21 ต.ค. 61 เวลา 13:55 น. 14

ตอนจบมาแล้วหางานทำไม่ได้จะหนักกว่านี้

ตอนทำงานแล้วคิดงานไม่ออก ส่งงานไม่ทันจะหนักกว่านี้

ตอนที่ภาระทางการเงินมากขึ้นจนหมุนเงินไม่ทันไม่มีตังกินข้าวจะหนักกว่านี้

การเรียนปี1ตอนนี้ของน้องมันก็หนักค่ะ พี่เข้าใจ แต่อดทนไว้นะ เพื่อให้อีสามข้อบนมันหนักน้อยลงให้ได้

ตั้งใจทำให้เต็มที่ ไม่ต้องเสียใจหรือกังวลกับผลที่ไม่เป็นตามคาด ขอให้เรียนให้จบ มีงานทำ ส่งงานทัน คิดงานออก และไม่มีภาระหนี้เกิดขึ้นเลยนะ #สู้ๆ

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 17:07 น. 14-1

ขอบคุณค่ะ จะทำให้ดีที่สุดแน่นอน

0
mystery_pp 21 ต.ค. 61 เวลา 14:34 น. 15

ขอแทนตัวเองว่าพี่แล้วกันนะคะ จขกท.น่าจะเด็กกว่าเราแหละ

ตอนพี่ปี1ไปเรียนม.ที่ไกลบ้านแบบโคตรๆเลย จากเด็กที่เคยได้ที่1ตลอดพอไปเรียนมหาลัยเกรดเทอมแรกคือ2.ปลายๆ ช็อคมาก โคตรท้อ พี่เคยรู้สึกแบบน้องนี่แหละ แต่ใันอาจจะเพราะเรายังใหม่ ต้องปรับตัวอีกไรอีก พอเริ่มชินพี่ก็เข้ากิจกรรมบ้างอะไรบ้างค่ะ มันทำให้เรามีเพื่อน ปรับตัวได้เร็วขึ้นมาก มีกลุ่มติวมีแนวข้อสอบ แล้วถ้าน้องชอบสิ่งที่เรียนอยู่พี่ว่าปัญหามันคงเป็นแค่เรื่องของการปรับตัวแหละ จนตอนนี้พี่ปี4แล้ว ถามว่าท้อมั้ย พี่บอกเลยว่าความรู้สึกเหนื่อย,ท้อมันไม่มีวันหายไปค่ะ5555 แต่น้องจะชินและรู้วิธีจัดการกับมัน ส่วนเรื่องรุ่นพี่สปอยว่าวิชานู้นนี่ยาก พี่ว่าเราไม่ต้องเชื่อทั้งหมดนะ ยากเค้ายากเราไม่เหมือนกัน อย่าตัดกำลังใจตัวเอง ถ้าเราคิดว่ามันยากไปแล้วพอเราไปเจอ แม้มันจะง่ายเราก็จะว่ายากค่ะ ทำใจสบายๆเน้อ สู้ๆนะคะ

1
ERRoa 21 ต.ค. 61 เวลา 17:10 น. 15-1

แม้แต่ในสิ่งที่เราชอบ ก็ต้องมีสิ่งที่ทำให้เราเครียดสินะ TT จะพยายามไม่เครียดเกินไปนะคะ จริงๆก็ไม่อยากกดดันตัวเองเลย แต่ก็ชอบเผลอ ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำค่ะ

0
น้องเอง 21 ต.ค. 61 เวลา 17:51 น. 17

เราก็อยู่ปี 1 จุฬาเหมือนกัน พอคะแนนออกมานี กุมขมับเลย ท้อเหมือนกัน แต่ว่าเพื่อนๆก็บอกให้สู้ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ถ้าตอนนี้ท้อก็พักก่อน และค่อยสู้ใหม่ ดังนั้าจขกท. อย่าเครียดเน่อ สู้ไปด้วยกันจ้า

0
JustOneHumans 21 ต.ค. 61 เวลา 19:44 น. 18

คนที่ปั่นสามวัน อาจจะได้ตัวอย่างดีๆจากเพื่อนหลายๆคนเเล้วเอามารวมกันก็ได้นะ หรืออาจจะทำเองก็ได้


อยากเป็นล่ามเหมือนกันค่ะ มีกลุ่มพวกหางานเเปล งานล่าม ในเฟซด้วยนะคะ ลองเข้าไปส่องดูค่ะ ว่าเขาต้องการคนเเบบไหน ได้ภาษาอะไรบ้าง เน้นเฉพาะทางไหมไรงี้ค่ะ


เคยเห็น เขาบอกว่านอกจากอังกฤษกับไทยก็ควรได้ภาษาที่สามด้วย เเล้วพวก อังกฤษ-จีน อังกฤษ-ญี่ปุ่น จะค่อนข้างได้เงินดีนะคะ


ปีหนึ่งเป็นปีที่ต้องปรับตัวเยอะมากกกกก จขกท.สู้นะ เวลาว่างๆก็ลองเเปลบทความ ดูซีรีย์เเล้วฝึกภาษาควบคู่ไปด้วยก็ได้ค่ะ เเบบฝึกไปด้วย เรียนไปด้วย น่าจะได้ดีนะคะ


เป็นกำลังใจให้ผ่านปีนี้ไปให้ได้นะคะ ปีหน้าค่อยว่ากันอีกที 5555

0
คะน้าตัวน้อยตัวนิดน่าดูยูฮูวู้ฮู 21 ต.ค. 61 เวลา 19:50 น. 19

พอปีสี่จะท้อหนักกว่าเดิม

เชื่อเราเพราะต้องแย่งที่ฝึกงานกับคนอื่น จบมาก็ต้องแย่งที่ทำงานกันต่อ

ไม่ปลอบใจแม้แต่น้อย๕๕๕๕

โลกการแข่งชันมันอย่างนี้แหละ

ยิ่งปีถัดไปยิ่งหนักเป็นทุกที่ไม่มีเบาลง นอกจากดร็อปให้เป็นตำหนิบนtranscript


ท้อไม่ได้ ท้อแล้วอด-

เอายันต์กันท้อมาให้ จิ๊กมาจากที่ทำงาน


=====สำหรับเด็กม.รัฐและเอกชน=====

อย่าเชื่อคนว่าเกรดแค่ตัวเลข รู้ไหมว่าตัวเลขนี้น่ะ กำหนดชะตาชีวิตของเราเลย

อย่างสายโปรแกรมเมอร์ developerต้องการขั้นต่ำ 2.75ขึ้น ไม่ว่ารัฐหรือเอกชน แค่ฝึกงานก็กำหนดเกรดแล้ว ที่ดีๆ ปูเส้นทางในอนาคตให้เรากำหนดเกรดหมด

อย่าเรียนให้ได้ตำกว่านี้ คณะอื่นไม่รู้เป็นไง เพื่อใครเรียนไอทีผ่านมาเจอก็จำไว้ ที่เขากำหนดเกรดเพราะอะไร เขาอยากดูว่าเราขยันแค่ไหน มีความรับผิดชอบไหม แค่นี้ก็คัดคนมีความรับผิดชอบกับไม่มีออกได้แล้ว อันนี้พี่เขาบอกมา

=====และอย่าเชื่อว่าจะใช้เส้นสายในการสมัครงาน

ถ้าเก่งไม่จริงใครจะเอา มีเส้นเป็นร้อยก็ช่วยไม่ได้

https://image.dek-d.com/27/0313/6807/127693374

0
อยากกินไอติม 21 ต.ค. 61 เวลา 20:20 น. 20

เราว่าที่งานได้คะแนนน้อยแล้วท้ออ่ะ อันนี้ปกติเลย

พอเราคิดว่าตั้งใจทำดีที่สุดแล้วแต่มันออกมาไม่ดีอย่างที่คิดก็รู้สึกเฟลเป็นธรรมดา

ตรงนี้ปรับตัวได้นะ คือให้มั่นใจในตัวเองน้อยลงหน่อย ให้คิดแล้วคิดอีกเวลาทำงานแต่ละอย่าง ใช้คะแนนน้อยที่ได้มานี่แหละมาเป็นแง่บวกในการปรับตัว คือรอบคอบมากกว่าเดิม ให้คิดว่า เฮ้ยงานนี้คะแนนไม่ดี เอาใหม่ๆ งานหน้าเราต้องพยายามมากกว่านี้ ถ้าไม่ดีอีกก็ต้องพยายาม ปรับปรุง พัฒนาให้มากๆขึ้นอีก

สิ่งสำคัญมันคือ งานแต่ละงานมันช่วยฝึกให้เราเก่งขึ้น เราผิดเราก็รู้มากขึ้นว่ามันผิด ได้รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำในแต่ละงานมากขึ้น ถือเป็นการพัฒนาตัวเอง ให้มองในแง่นี้ไว้ มันสำคัญกว่าเกรด


ถ้าชอบคณะนี้ก็ดีแล้ว


ส่วนวิชาเอกหนัก คือไม่ว่าคณะไหนก็หนักหมดแหละ เรียนมหาลัยไม่มีง่ายหรอก เราจะผ่านมันได้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ ความพยายาม ใจรักแล้วแหละ อย่างที่บอก อย่าท้อเพราะคะแนนน้อย ถ้ารู้ว่ายังดีไม่พอก็พยายาม แค่เห็นว่าตัวเองเก่งขึ้นทีละนิดก็น่าภูมิใจแล้ว ไม่ต้องเร่งรัด เพราะยังไงสูตรความสำเร็จแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน อยากให้ทำใจสบายๆ เพิ่งอยู่ปีหนึ่ง ก็ปรับตัวก่อน คือชีวิตมหาลัยมันไม่ใช่แค่เรียน มันฝึกปรับตัวให้กับสิ่งที่แปลกใหม่ อาจารย์ วิชา สังคมเพื่อน การใช้ชีวิตอีก


ส่วนเรื่องทักษะที่อยากมีเพิ่ม คิดว่าเวลาเราจะเรียนรู้อะไรเพิ่มก็อยากให้เป็นเพราะpassionมากกว่าเรียนเพราะได้เงินอ่ะ มันจะไปได้ไกลกว่า แต่ถ้าจะให้แนะนำสิ่งที่เรียนรู้แล้วมีประโยชน์ก็คิดว่าภาษาอื่นๆที่มากกว่าตัวเองรู้ตอนนี้ เพราะยิ่งเป็นล่ามแล้วรู้มากกว่าสามภาษา หรือรู้หลายภาษาก็ยิ่งมีประโยชน์ ค่าตัวดีขึ้น หรืออาจจะลงเรียนการตลาดเพิ่มมากขึ้น ถ้าอยากเป็นล่ามธุรกิจเพื่อจะได้เข้าใจเวลาล่ามให้ลูกค้า หรืออยากเป็นล่ามด้านไหนก็ลองลงเรียนศาสตร์ด้านนั้นๆเพิ่มดู เช่นพวกนิติ รัฐศาสตร์


และสุดท้ายก็อย่าเครียด สบาย ๆ เข้าไว้

0