Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(อยากทราบค่ะ) ว่าทุกคนเขียนนิยายแล้ว สอดแทรกข้อคิดคติสอนใจเอาไว้บ้างไหมคะ แล้วมีใครที่เขียนบ้างคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ 

เราอยากรู้ค่ะ ในนิยายของเรามีข้อคิดสอนใจทุกเรื่องเลยค่ะ เพราะเราชอบ เราอยากให้ผู้ที่ได้อ่าน เอาไปคิดทบทวน แล้วนำกลับเอาไปปรับนำไปใช้ชีวิตประจำวันได้ค่ะ เราอยากให้ทุกคนรู้แจ้งว่า ว่าการกระทำสิ่งไหนไม่ดี ว่าการกระทำสิ่งไหนดี แล้วมีผลลัพธ์เป็นยังไง ต่อไปในภาคหน้าค่ะ 

แล้วทุกคนละคะ เขียนแบบไหนกันบ้างคะ สอดแทรกข้อคิดคติสอนใจไว้ไหมคะ??

แสดงความคิดเห็น

>

31 ความคิดเห็น

Kumigura Mewi 24 ต.ค. 61 เวลา 19:46 น. 1

ทางนี้อยากจะแต่งเรื่องโดยมีคอนเซปท์หลักเป็นคำสอนอยู่ค่ะ แต่งานเขียนที่ผ่านมานี่มีแต่สนองนีทซะเยอะ 555

0
K.W.E. 24 ต.ค. 61 เวลา 19:49 น. 2

เพียบครับ ทั้งปรัชญา รวมไปถึงตรรกะ และวิชาการบางด้านที่พอรู้


ส่วนใหญ่จะแทรกมาในบทอีเว้นต์ต่าง ๆ

เช่นถ้าเรื่องที่ตัวเอกเป็นพี่ชาย กับน้องสาวบุญธรรม ก็จะออกในเชิงพี่สอนน้อง

หรือบางเหตุการณ์ต้องเอาตัวรอด ก็ใช้วิธีการกระทำ แล้วให้ฝ่ายน้องเป็นผู้ถามแล้วพี่ชายบอกใบ้ หรือแอบสอน ก็จะเป็นการเดินเรื่องแบบเนียน ๆ อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด


บางเรื่องที่ต้องการเน้นให้ตัวเองเด่นมาก ๆ ก็อาศัยการกระทำผสมกับการบรรยายประกอบครับ

ยัดไปทีละนิด ดูจังหวะเรื่อง ช่วงเบาๆ ก็ยัดได้มากหน่อย ช่วงไหนเน้นก็ปล่อยไปเลย แล้วใช้ผลลัพธ์เป็นตัวยืนยันคำพูดที่สอนหรือแนะนำไป


ใช้สูตรนี้มาหลายฉากมาก แต่ดูเหมือนผู้อ่านจะโอเคนะครับ บางคนบอกชอบที่ได้ข้อคิดจากเรื่องด้วยสิ

เห็นแล้วปลื้มเลย

1
Miran/Licht 24 ต.ค. 61 เวลา 19:59 น. 4

ของเรามันเป็นเรื่องเด็กอนุบาล ตัวเอกเป็นครูก็จะสอนโดยเล่านิทานให้เด็กฟัง แล้วก็จะถามว่ารู้สึกอย่างไร บางทีก็ให้เด็กเสนอว่าอยากทำอะไร


ที่สำคัญเวลาตัวเอกเขาจีบกันจะจีบกันด้วยบทกวีค่ะ


https://image.dek-d.com/27/0060/1867/127731456


ป.ล. บทกวีทั้งหมดจากหนังสือ ‘หิ่งห้อย’ของรพินทรนาถ ฐากูร

1
24 ต.ค. 61 เวลา 20:38 น. 4-1

โห เป็นบทกวีเลยเหรอคะ อัศจรรย์จริงๆเลยค่ะ

0
chinchang22 24 ต.ค. 61 เวลา 20:06 น. 5

มีค่ะ แต่เราอยากทำให้ดีขึ้นโดยการแทรกให้เนียนกว่านี้

คหสต ถ้าใส่ได้แนบเนียนมากๆ คงยิ่งดีค่ะ

0
โมจิย่างร้อนๆ 24 ต.ค. 61 เวลา 20:40 น. 6

นิยายของเราสอนให้รู้ว่า....

.


.


.


.


.


.


สิ่งที่เรียกว่านกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง (ทำไมกันน๊า ชอบจังเลย เขียนให้มีตัวละครนกเนี่ย หึๆ มาซบอกคนเขียนมาา~)



#โอเค สารภาพว่าแบบเป็นเรื่องเป็นราวนี่ไม่มีเลย แต่แบบง่ายๆ บนพื้นฐานชีวิตนี่ก็มีพอสมควรค่ะ 55

3
24 ต.ค. 61 เวลา 21:09 น. 6-2

บทพระรองใช่ไหมคะ ที่ชอบนางเอก แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้คู่กัน แปลว่านกใช่ไหมคะ555

0
โมจิย่างร้อนๆ 25 ต.ค. 61 เวลา 04:55 น. 6-3

#6-1 แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักค่ะ เราเองก็เขียนเรื่องที่มีแมวอยู่เช่นกัน เอาไว้เป็น กขค.ตอนตัวละครเลิฟๆ กัน หวานดีนักมนุษย์ ขวางเลย 5555


#6-2 ส่วนใหญ่เราจะให้พระ-นาง นกเองซะมากกว่าค่ะ ส่วนตัวรองก็คอยมองดูไป 555 เพราะทำแบบนี้ ตัวละครถึงติดปีกบินกันพรึบๆ -v-



0
24 ต.ค. 61 เวลา 21:10 น. 7-1

ลั่นเลยค่ะ พอบอกว่าด่าลุงแถวบ้านนี่สุดยอดจริงๆ

0
24 ต.ค. 61 เวลา 21:11 น. 8-1

นั่นน่ะสิคะ แต่บางช่วงเราก็ตั้งใจให้ทุกคนได้เห็นค่ะ

0
varunyanee 24 ต.ค. 61 เวลา 21:16 น. 9

เราก็มีค่ะ แทรกในบางเรื่อง เรื่องที่อินที่สุด เป็นเรื่องแนวครอบครัว แทรกเยอะมาก...อยากฝึกความเข้มแข็งในใจผู้อ่านค่ะ เราบอกเขาแบบนี้

.

.

"รักที่สุด ยังไม่เท่า...รักษาอย่างไรให้นานที่สุด มีของดีในมือ...อย่าปล่อยให้หลุดมือนะคะ วันหนึ่ง ...ถ้ามันเสื่อมสภาพ ... ก็ขอให้ดูแลกัน "

.

.ประมาณนี้

1
คะน้าตัวน้อยตัวนิดน่าดูยูฮูวู้ฮู 24 ต.ค. 61 เวลา 21:39 น. 10

มีเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าใครจะทันสังเกตว่่าความรักคือความทุกข์ นิยายทุกเรื่องของเราเน้นเรื่องนี้หมด


1
พิณนภา / ~AMA~ 25 ต.ค. 61 เวลา 04:05 น. 12

ใส่เรื่อย ๆ ตามแต่ที่คิดไว้

พยายามสอดแทรกแบบเนียน ๆ ให้เข้ากับเนื้อเรื่องค่ะ

ไม่ให้เหมือนอ่านคำสอนเกินไป

https://image.dek-d.com/27/0085/8045/127733881

0
เมษ มาร์ส 25 ต.ค. 61 เวลา 05:52 น. 13

ถ้าใส่ เราจะพยายามหลีกเลี่ยงลักษณะคล้าย "เทศนา" ค่ะ

อาจใส่ในรูปแบบ ให้ตัวละครพูดคุย ถกเถียง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยการหยิบยกสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาเป็นหัวข้อสนทนา อย่างเช่น หนังสือ เป็นต้น...


" "ฉันคิดว่าโฟลเรนติโน อรีซา ไม่ได้รักเฟร์มีนา ดาซาจริงๆหรอก เขาแค่หลงใหลในตัวเธอก็เท่านั้น แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหว ละเมอเพ้อพบ กินไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักลดเหมือนคนเป็นโรคห่า เขาก็เลยยึดมั่นถือมั่น ว่าความรู้สึกที่มีให้เธอนั้นคือความรักจริงๆ"


ป้าคงกำลังพูดถึงตัวละครในหนังสือนิยายกับบรรดาป้าๆในกลุ่มบุ้คคลับ คืนวันพุธสุดท้ายของเดือนเช่นนี้ เพื่อนอาจารย์ที่เคยทำงานในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับป้าภา มักมาทานข้าวเย็นด้วยกันกับป้าที่บ้านและพูดคุยเรื่องวรรณกรรมที่พวกท่านได้อ่านกันมาตั้งแต่ต้นเดือน


ความสนใจของคนเรานั้นตายยาก ป้าภาเคยเป็นอาจารย์สอนวรรณคดีอังกฤษในมหาวิทยาลัยชื่อดัง แม้เกษียณมาหลายปีแล้ว แต่ป้ายังคลั่งไคล้ในความงามของวรรณกรรมตะวันตก นางอ่านทุกวัน ซึ่งจะว่าไปแล้ว ความสนใจของป้ามีส่วนผลักดันให้ตุลย์พัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองไม่น้อย เวลาปิดเทอมแล้วไม่อยากไปเกาะพะงันตามคำขอของมารดา ตุลย์มักใช้ป้าภาเป็นโล่ห์บังหน้า แต่ป้าภามักมีข้อแลกเปลี่ยนในการช่วยพูดกับแม่ให้เขาได้อยู่กรุงเทพฯต่อเสมอ ซึ่งข้อแลกเปลี่ยนดังกล่าวคือให้เขาอ่านหนังสือวรรณกรรมภาษาอังกฤษทุกวันหลังกลับจากเที่ยวเล่นกับเพื่อน


ตุลย์เคารพรักป้าภาเหมือนแม่อีกคน และเคารพรักลุงอนันต์เหมือนพ่อที่เขาอยากมี ในความรักความเอ็นดู ลุงกับป้าให้อิสระกับตุลย์เสมอ ไม่ใช่คนแก่เคร่งครัด เวลาอยู่กับพวกท่านเขาจึงมักทำตัวเป็นเด็กดี

"ใช่ ...หรือไม่ก็คง in love with love ...หลงรักในความรัก ไม่ใช่ในตัวนางเอก" เพื่อนคนหนึ่งของป้าแสดงความคิดเห็นเสียงเนิบๆ ตุลย์คิดว่าเสียงนั้นคลับคล้ายคลับคลาเสียงของป้าน้ำอบ


"แหม แม่ภา แม่น้ำอบ ...ถ้าเขาไม่รักเขาจะรอนางเอกมากว่าห้าสิบปีหรือ? ฉันว่าเขารักนางเอกจริงๆ แม้ตอนที่ตกหลุมรักนั้นอายุจะยังน้อยแต่ฉันเชื่อว่ามันเป็นความรักไม่ใช่ความหลงใหลชั่วครั้งชั่วคราว ใครๆต่างบอกว่าเด็กวัยรุ่นไม่รู้จักความรัก ฉันบอกเลยว่าไม่เห็นด้วย"


และนั่นคงเป็นเสียงของป้าจันทร์...


เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้า ตุลย์นึกอยากย่องเดินหนีแล้วค่อยกลับมาสวัสดีป้าภาใหม่หลังจากป้าๆทุกคนกลับไปแล้ว แต่คำพูดของป้าจันทร์กลับดึงดูดความสนใจของเขาจนต้องนิ่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจด้วยความเผลอไผลลืมตัว ราวกับว่าสิ่งที่ป้าจันทร์พูดไปนั้นช่างใกล้ตัวเขายิ่งนัก


"นั่นน่ะสิ ...ฉันล่ะสงสารพระเอก เพราะสถานการณ์บีบบังคับแท้ๆทำให้ต้องรักเฟร์มีนาอย่างเจียมตัว รักอยู่ในมุมเงียบๆ อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย" เจ้าของเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ตาม 'พระเอก' ผู้แสนรันทด คงเป็นป้าชื่น


"เรียกว่า 'อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย' ก็คงไม่ถูกหรอกแม่ชื่น ช่วงเฟร์มีนาแต่งงานกับคุณหมออูร์บีโน โฟลเรนติโนก็ไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า" ป้าน้ำอบแย้งอย่างเผยความหมั่นไส้เต็มเหนี่ยว ก่อนป้าภาจะเสริมต่ออย่างมีอารมณ์


"ใช่ๆ หลายคนเชียว แถมอีกคนนี่เด็กมากกกก คิดถึงตรงนี้แล้วฉันรับไม่ได้ ทำตัวอย่างกับเฒ่าหัวงู!"


ตุลย์กระแอมไอสองสามทีเพื่อเรียกความสนใจจากป้าๆ เขาอยากรีบสวัสดีทุกคนตามมารยาทแล้วกลับบ้านพัก"


..........


ประมาณนี้ล่ะค่ะ แหะๆ

3
Miran/Licht 25 ต.ค. 61 เวลา 06:47 น. 13-1

นำเรื่อง Love in the time of Cholera รักเมื่อคราวห่าลง มาถกกันสินะคะ เรื่องนี้ผู้หญิงน่าสงสารจริง

0
white cane 25 ต.ค. 61 เวลา 09:07 น. 14

ผมเขียนแทรกเอาไว้ในเรื่อง ให้นักอ่านเอาไปคิด แต่จะคิดได้ไหมอันนี้ไม่รู้ เพราะผมไม่แสดงให้โจ่งแจ้ง แค่เขียนออกมาให้เป็นองค์ประกอบของฉากและผลกระทบที่ตัวละครต้องเจอ

0
Kun_Mu 25 ต.ค. 61 เวลา 11:01 น. 15

มีแทบตลอดค่ะ ทั้งแบบบอกโจ่งแจ้งและซ่อน หรือบางอันก็ต้องตีความ ถ้าไม่ฉุกคิดจะไม่เข้าใจเลยก็มีค่ะ 555

0
แก้วน้ำสีฟ้า 25 ต.ค. 61 เวลา 12:31 น. 17

พยายามยัดความรู้เข้าไปเป็น tips เล็กๆ น้อยๆ ที่ได้จากการอ่านค่ะ 555


เรื่องฟอกเงิน เรื่องสิทธิมนุษยชน อะไรทำนองนั้น

0
no one know 25 ต.ค. 61 เวลา 13:09 น. 18

อาจจะไม่ได้เป็นไอเดียใหม่สดหรือแหวกแนวกว่าทั่วไป แต่ส่วนใหญ่ผมก็มักสอดแทรกข้อคิดไว้ในนิยายด้วยครับ (ล่าสุดก็แนวเกมออนไลน์ทั้งสองภาค) เพราะถือว่าคนที่เข้ามาอ่านนิยายของผม นอกจากความบันเทิง ตลกโปกฮาแล้วก็ควรได้อะไรดี ๆ ติดมือกลับไปด้วย


ถ้าให้ยกตัวอย่าง : เกมออนไลน์ภาคแรก ผมสอดแทรกแนวคิดที่ว่าโลกโซเชี่ยลและไซเบอร์ เรียลลิตี้มันเป็นเหมือนดาบสองคม คือมันเป็นช่องทางรับข้อมูลข่าวสารและการเข้าถึงความบันเทิงอย่างภาพยนตร์หรือเกมออนไลน์ได้ก็จริง แต่อีกด้านมันก็ยังมีเรื่องไซเบอร์บูลลี่และประเด็นของคนที่ยึดติดกับโลกไซเบอร์เพื่อเยียวยาความเจ็บปวดทางใจ โดยไม่ได้หันกลับมามองผลกระทบที่เกิดกับคนรอบข้างเลย (ล็อคอินค้างในเกมเป็นปี ๆ ส่วนตัวจริงนอนเป็นผักให้คนอื่นคอยดูแล)

1
Octory 25 ต.ค. 61 เวลา 16:52 น. 19

เนื่องจากเรื่องที่เขียนส่วนใหญ่เป็นแนวที่ไม่ได้ให้เด็กอ่าน การจะใส่ข้อคิดลงไปในคำพูดจึงต้องระวังมาก ถ้ามีก็มักจะไม่บอกตรง ๆ จะอ้อม ๆ เอา เพราะกลัวว่าจะไปทำให้คนอ่านหมั่นไส้ว่าเป็นใครมาสั่งสอน

แต่เชื่อเถอะ เป็นนักเขียน มันต้องสอนครับ สอนแบบไม่สอน ดังนั้นจึงเอาเมสเสจส่วนใหญ่ไปใส่ไว้ใน "แก่น" ของเรื่องแทน ซึ่งมันจี๊ดกว่าเยอะ อารมณ์​ประมาณคนอ่านอ่านจบแล้ว ได้รับเมมสเสจแล้วถึงมาทราบว่าเราต้องการจะบอกอะไรนั่นแหละ ถือว่าประสบความสำเร็จ

0
ลินคนธรรมดา 25 ต.ค. 61 เวลา 17:26 น. 20

การเขียนสอดแทรกข้อคิดในนิยายนี้ เรานิยามใส่ในนิยายตัวเองว่า จงแนบเนียนเข้าไว้ อย่าไปบอกแบบตรงๆ ถ้าบอกตรงๆ ก็อาจจะโดนทิ้งกลางคันก็ได้ค่ะ และดูน่าเบื่อไปเลยก็ได้


เราเลยเสนอแบบอ้อมๆค่ะ555

0
Ciel En Rose 25 ต.ค. 61 เวลา 19:33 น. 21

มีค่ะ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านอะไรที่ให้ข้อคิด เวลาเขียนเลยใส่ไปด้วยค่ะ แบบให้ข้อคิดนางร้ายบ้าง จะได้ไม่นกไรงี้ ฮา

ความรู้สึกส่วนตัว หาไร้ข้อคิดก็จะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ==!

2
25 ต.ค. 61 เวลา 19:43 น. 21-1

มาจับมือกันค่ะ เหมือนกันเลยค่ะ555

0
toon_luf 25 ต.ค. 61 เวลา 22:04 น. 23

ของเราไม่เชิงคำคมหรือปรัชญาแต่จะเป็นความรู้สึกของเราที่มีข้อคิดจากเหตุการณ์ซะส่วนใหญ่ เช่น เราเคยเขียนว่านางเอกโดนพระเอกข่มขืนแต่พระเอกมาอ้างว่าทำเพราะรัก แต่นางเอกก็บอกว่ารักก็ส่วนรักอย่าเอาการกระทำแบบนี้มาเป็นข้ออ้าง อะไรทำนองนี้ค่ะ มันไม่ได้ดูสวยหรูอะไรหรอกแต่เราอยากให้คนอ่านเค้ารู้ว่าเราคิดยังไง ตัวละครคิดยังไง

1
Nyx 26 ต.ค. 61 เวลา 19:13 น. 25

คติสอนใจเป็นของต้องมีนะ จะมากหรือน้อยก็ต้องมี เพียงแต่จะแทรกลงไปได้แนบเนียนหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือ หรือถ้าโชคดีมันจะมีอยู่แล้วในเรื่องราวโดยไม่จำเป็นต้องใส่เพิ่ม


แต่ถ้าถามผมว่าทำไมต้องมี ผมคิดว่านอกจากต้องการสอนใจแล้วมันแสดงวุฒิภาวะของคนเขียนนะ วุฒิภาวะที่ได้มาจากการเผชิญโลก การใช้ชีวิตในสังคม เป็นการส่งต่อภูมิปัญญา ส่งต่อสิ่งที่มีที่เป็นและจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในสังคมไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม


คราวนี้กลับมาที่นิยายตัวเองมั่ง อย่างของผมแต่งกลอนเป็นเรื่องยาว ตอนนี้พ่อแม่สอนลูกชายขึ้น ม. 1 เดิมเรียนประถมขับรถไปรับไปส่ง แต่พอขึ้นมัธยมก็เปลี่ยนให้ขึ้นรถเมล์ไปกลับเอง มันเอื้อให้แทรกอยู่แล้วผมก็ใส่เลย


https://image.dek-d.com/27/0069/0642/127744004


แทรกเป็นรูปไม่ได้กลัวก๊อปนะ แต่ถ้าพิมพ์จะเว้นวรรคกลอนลำบาก ยังมีต่ออีกสามสี่บทแต่พอแค่นี้ดีกว่า ไม่อยากสปอย

3
ลินคนธรรมดา 26 ต.ค. 61 เวลา 19:17 น. 25-1

แต่งเป็นกลอนเลยหรือคะ สุดยอดๆ นับถือๆค่ะ คาราวะสักจอกสองจอกเป็นเลยเป็นไง555

0
Nyx 26 ต.ค. 61 เวลา 20:05 น. 25-2

มิกล้า มิกล้า 555+ ถ้าเป็นเรื่องภูมิความรู้กับการเป็นนักอ่านผมมั่นใจนะตัวเองว่าไม่ด้อยกว่าใคร แต่กับเรื่องงานเขียนผมยังรู้สึกว่าตัวเอง "เป็นบ้านนอกขอบชนบท ไม่ปรากฏศักดากล้าหาญ" ครับ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-01.png

0
ลินคนธรรมดา 26 ต.ค. 61 เวลา 20:26 น. 25-3

5555 รู้ค่ะรู้ เพียงแต่มีน้อยคนมาก ที่จะแต่งออกมาเป็นกลอนแบบนี้น่ะค่ะ ส่วนตัวเราก็แต่งเป็นนะ แต่ทางที่ดี อย่าเลยดีกว่าค่ะ เรื่องนี้เราขอบอกเลยว่า ไม่ถนัดเลยค่ะ5555

0
Lurun-kun/Susanoo 26 ต.ค. 61 เวลา 20:00 น. 26

มีเยอะอยู่นะ ไม่เชื่อแวะเข้าไปดูได้ แต่ไม่รู้นักอ่านสนใจจะมองกันบ้างมั้ย^_^"

เหมือนจะไปโฟกัสจุดเรียกเลือดของเราซะมากกว่า=^.-=

สำนวนทุกอย่างต่างคิดเอง ในเนื้อหาก็มีแง่คิดทรอดแทรก


นอกจากจะให้ความบันเทิงเราก็ใส่แง่คิดในมุมมองต่างๆให้ด้วย

แต่ยอมรับไม่ใช่คนโลกสวย นิยายก็ไม่โลกสวย แนวแบบเราเชื่อว่าคนอ่านเข้าใจได้

1
ลินคนธรรมดา 26 ต.ค. 61 เวลา 20:28 น. 26-1

เป็นกำลังใจให้นะคะ เราชอบให้ในนิยายมีคติสอนใจอยู่ในนั้นค่ะ ไม่ว่าจะเสนอในรูปแบบไหน ก็ตามค่ะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png

0
allsleep 26 ต.ค. 61 เวลา 20:47 น. 27

ก็เขียน เเต่ว่าเรื่องหลักที่เขียนมาคือเรื่องของกฏเเห่งกรรมซะมากกว่า

0
โยนาริ 26 ต.ค. 61 เวลา 20:53 น. 28

สำหรับเราก็สอดแทรกนะ ในแก่นของเรื่อง ให้ข้อคิดเยอะถ้าอ่านจบ แต่ถ้าไม่จบก็ดูไม่ค่อยเป็นรูปร่าง เหมือนมีแต่บทโหดเยอะ ดราม่าแยะ ประมาณนี้ ความจริงแอบเสียดสีสังคมนิดหน่อยด้วย55

1
26 ต.ค. 61 เวลา 21:53 น. 29

จะสอดหรือจะแทรกตรงไหนนั้น บางทีก็บอกไม่ถูกค่ะ 555


ถึงแม้ว่าจะอ่านเรื่องเดียวกัน แต่ก็มีมุมมองที่ต่างกันได้


บางครั้งเราต้องการนำเสนอในมุมมองหนึ่ง คนอ่านอาจจะเข้าใจและสนใจในอีกมุมมองหนึ่ง


เรียกว่าต่างจิตต่างใจกันเลยทีเดียว


เหมือนเพลงเดียวกัน แต่เปลี่ยนวิธีการสื่อออกมาก็ทำให้อารมณ์เพลงเปลี่ยนไป


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png

สำคัญคือ คนอ่านกับคนเขียนต่างมีความสุขที่ได้ร่วมแบ่งปันจินตนาการร่วมกันจ้าาาา

1
ลินคนธรรมดา 26 ต.ค. 61 เวลา 22:07 น. 29-1

เห็นด้วยๆ คนเราทุกคนต่างก็มีความคิดไม่เหมือนกัน และก็เปลี่ยนความคิดคนๆนั้น ไม่ได้ด้วยเลยค่ะ555

0
lb'skLyrmN 27 ต.ค. 61 เวลา 08:35 น. 30

ข้อคิดในนิยายของผมก็คือ - ไม่ใช่ทุกคนที่ทำดีแล้วจะได้ดี - คนเราดีชั่วอยู่ที่สายตาคนมอง - สวรรค์ไม่มีตา เขียนมาอย่างนี้ทุกเรื่อง ดูแล้วเหมือนพวกหัวขบถยังไงไม่รู้

2
Nyx 28 ต.ค. 61 เวลา 09:50 น. 30-2

นั่นเพราะลีลาของศิลปินมีหลายนัยครับ

0
Prairie Stone 28 ต.ค. 61 เวลา 00:45 น. 31

เราถนัดเขียนแนวดราม่าค่ะ ส่วนตัวชอบสัจธรรมการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของคนเราและรูปแบบความรักที่เน้นคุณค่าทางจิตใจมากกว่า เลยนำสองเรื่องนี้ลงไปในนิยายค่อนข้างเยอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ออกมาในรูปแบบสอดแทรกเหมือนนักเขียนท่านอื่น ๆ ส่วนใหญ่ เพราะอยากให้นักอ่านได้นำไปพิจารณาในแบบของตัวเองด้วยค่ะ

0