เตือนผู้ใหญ่เป็นเรื่องที่ผิดหรอ ?
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
18 ความคิดเห็น
ใช่ครับ ในสายตาผู้ใหญ่ ถึงเขาจะผิดยังไง เขาก็ไม่ยอมรับ ยิ่งเราะเราเป็นลูกด้วยแล้ว
เอาตามตรง นะครับ เอาเป็นกลาง แม่เรานะผิดแน่นอน เต็มประตู
เรานะทำถูกต้องแล้ว แต่ติดที่เป็นเด็ก
เรามีความคิดความอ่านที่ดี พี่ขอสนับสนุครับ
แต่ไม่ได้ให้ไปทะเลาะกับแม่นะครับ เพราะยังไงซะก็แม่เรา
เรานี้ยากครับ ถ้าเราจะทำได้คือ ต้องให้คนอื่นเป็นคนบอกครับ
ปล่อยแม่เขาไป แต่ว่าห่างๆแม่หน่อย เดี๋ยวก็มีคนมามองแม่เราเอง
โอเคค่ะ จะตามดูห่างๆอย่างห่วงๆ
เตือนได้ไม่ผิดค่ะ เพราะเราบอกแม่เราบ่อยๆแต่แม่ก็ปรับตัวและทำตามได้เสมอ แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ ผู้ใหญ่บางคนไม่ชอบให้เด็กมาเตือน เราไม่รู้หรอกนะคะว่าทำไม แต่สิ่งที่จขกท.ทำนั้นถูกต้องแล้วค่ะ ยังดีที่เตือน แต่ไม่รู้ว่าคุณแม่จะนำกลับไปปรับปรุงหรือเปล่า แต่เราดันเป็นคนที่ไม่ชอบเวลาแม่พูดอะไรแบบที่คุณโดยด้วยสิ เลยรู้สึกว่ายอมไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องปล่อยไปล่ะค่ะ อย่างที่คุณคห.1 บอก ต้องให้คนมาเตือนคุณแม่ของคุณเอง เตือนสักครั้งสองครั้งจากนั้นก็เริ่มห่างๆเพราะถือว่าเราได้เตือนแล้ว
คุณแม่เราเตือนทีไรโดนด่ากลับมาตลอดเลย ต้องทำใจ เถียงมีโดนตบปาก ;;;;
เอาจริงๆคือไม่ผิด แค่ไม่มีสิทธิ์เพราะผู้ใหญ่เขาไม่เคยให้สิทธิ์เรา 555555555 แต่ถ้าเป็นเราแม่ตอบอย่างงั้นคือจะพูดให้เคลียร์เลยตรงนั้นเลย เราเป็นคนตรงๆอะ แต่ผู้ใหญ่จะบอกว่าเรา- แต่นั่นแหละ ผู้ปกครองแบบนี้เราไม่อยากมี เขาไม่ยอมรับไม่เป็นไร แต่เราต้องการพูดให้เขา รับรู้ และ เอากลับไปคิด นะคะ
เราไม่ค่อยกล้าเถียงแม่อะค่ะ มีบางครั้งเถียงจนโดนตบหน้าเต็มๆ หราบเลย
อืม...ถ้าที่คุณเล่ามาไม่หมกเม็ด(เราเชื่อว่าอย่างนั้น) เราก็ขอบอกว่าแม่ผิดอย่างที่คุณคิด
จากคำพูดนี้ของแม่ "...คนจะคุยโทรศัพท์ก็เรื่องของเขาสิ เสียงดังก็เรื่องของเขา สิทธิของเขาใครจะรำคาญก็ไปที่อื่นสิ" เรารู้สึกตะขิดตะขวงใจมากกับการที่บอกว่าการทำเสียงดังเป็นสิทธิ เราคิดว่าเสียงที่ดังเกินค่าๆหนึ่งมันน่าจะผิดกฎหมายเสียด้วยซ้ำ แต่กรณีนี้เป็นเรื่องความเหมาะสม
เราคิดว่าคุณมีคำตอบสำหรับคำถามคุณแล้วแหละ และนี่ก็คือ "อาวุโสนิยม" ไง เราคาดว่านอกจากในบ้านที่ๆแม่คุณรังแกคุณแล้ว ที่โรงเรียน ที่มหาวิทยาลัย และที่ทำงาน คุณน่าจะเผชิญกับอาวุโสนิยมมาไม่มากก็น้อย
เป้าหมายนึงของเราก็คือการเปลี่ยนแปลงสังคมโดยการต้านอำนาจอาวุโสนิยม เราขอเชิญให้คุณเริ่มต้นตื่นรู้ในอธรรมของอาวุโสนิยมเป็นก้าวแรก
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่าซึ่งเราเป็นห่วงคือ มีความเป็นไปได้สูงว่าที่ผ่านๆมาคุณน่าจะขาดความรักความอบอุ่นจากคุณแม่ด้วย เพราะการใช้ภาษาของคุณแม่ชี้ให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่จะไม่ยอมคุยด้วยอย่างละเอียดอ่อนทางความรู้สึก
เราอยู่ตรงนี้และอยากรับฟังคุณนะ ขอเชิญคุณบอกเล่าสัมพันธภาพระหว่างคุณกับแม่ของคุณได้ตรงคอมเม้นเรา
สนไหม?
ไม่เลยค่ะ เราได้รับความรักจากคุณแม่มาเต็มๆเลย แม่เป็นคนที่รักเรามาก คือเวลาเราเครียด เสียใจ กลุ้มใจอะไรเนี่ย แม่จะเข้ามาถาม มาปลอบเราก่อนเสมอเราอุ่นใจค่ะเวลาอยู่กับแม่ ท่านเป็นแม่ที่ดีคนนึง แต่บางเรื่องท่านก็อาจมีข้อผิดพลาดคือคุณแม่เนี่ยเป็นคนค่อนข้างอารมณ์ร้อน ถ้าพูดให้ตะหงิดใจก็จะต่อว่า พ่อยังกลัวเลยค่ะ และที่เราเอามาเล่ามันเป็นข้อเสียหลักๆของแม่คือชอบพูดดัง เราทนไม่ไหวเลยมาเอาลงค่ะ ส่วนเรื่องความสัมพันธภาพไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ท่านรักเราแล้วเราก็รักท่านมาก
อ้าวเหรอ งั้นเขาก็เป็นแม่ที่ดีสิเนี่ย ต่างจากของเราแฮะ อืมดีแล้วล่ะ เราเจอมาหมดทั้งเรื่องพูดดัง ไม่ยอมฟังเหตุผล พูดจิกกัดกลับ แต่ที่แย่กว่าแม่ของคุณคือ เขาไม่มีอารมณ์อ่อนไหวใดๆเลย เขาไม่เข้ามาถาม ไม่เข้ามาปลอบเรา คือไม่ใดๆเลย
เราไม่เคยส่งเสียงบอกเล่าให้ใครฟังเลยทั้งในชีวิตจริงและในเน็ท เพราะชีวิตจริงของเรายิ่งกว่านิยายอีก
อืม...อย่างนี้ก็น่าจะสรุปได้ว่า บางทีแม่ของคุณก็พลั้งพลาดปล่อยอารมณ์ไปตามเลย แต่ไม่ใช่นิสัยติดกมลสันดานของเขา เพราะยามปกติ "เขาเข้ามาถามและเข้ามาปลอบคุณก่อนเสมอ"
ฉะนั้นแล้ว แม่ของคุณอาจจะไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แต่เขาอาจจะรับฟังที่คุณบอกแล้วเก็บไปพิจารณาก็ได้ เพียงแต่ ณ สถานการณ์ตอนที่เล่ามา เขาอาจจะกำลังอินกับการสนทานา ก็เลยไม่พอใจที่โดนคุณขัดใจ
อืม สรุปคือ กรณีของคุณไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เป็นเรื่องเล็กปะติ๋วเสียจนไม่เห็นจำเป็นต้องเอามาโพสต์ในเด็กดี เราคิดว่าคุณน่าจะรู้จักอดทนให้มากกว่านี้นะ เพราะคนอื่นเจอมาหนักกว่าคุณแต่พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้บอกเล่าให้ใครฟัง
ขอชื่นชมครับที่คุณเป็นอภิชาตบุตร ไม่เป็นบุคคลแย่ๆเหมือนแม่คุณ
ผู้ใหญ่ทำผิดเปรียบเสมือนคนเมาเหล้าแล้วไม่ยอม
รับว่าตนเมาเหล้านั้นแหลาะ ต้องโดนจับปรับล้าน
ห้า 555555 ความจริงแค่ 500-1000 พาลกับเมา
และโว้ยวาย อย่าเพิ่งด่าผมนะ "ส่อถึงสกุล ว่าเคย
ถูกเลียงดูมาอย่างไร" พ่อของผมลักษณะคล้ายแม่
คุณจขกทเลยครับ ถ้าไปเทียวต่างประเทศบาง
ประเทศโดนจับอย่างแน่นอน ผมต้องขอโทษคุณ
จขกท ถ้าคุณจขกทไม่พอใจผมนะ ผู้ใหญ่ถ้าไม่
ยอมฟังผู้น้อย อย่างมากแค่แก่กะโหลกกะลาครับ
แต่คุณจขกทเป็นอภิชาติบุตรดีนะครับ อย่าทิ้ง
ตัวตนของคุณละครับ โชคดีหวังว่าคงได้เจอกันอีก
เช่นกันค่ะ
ผมก็เพื่งโดนมา คือ เราก็อธิบาย บางครั้้งเค้าก็หาว่าเราเถียง บางครั้งเรา บางครั้งเราแนะนำในสิ่งที่เค้าไม่รู้ เค้าก็ ใส่อารมณ์กลับมาหาเรา หรือว่าเราผิดให้ได้ เราก็ทำได้แค่ปล่อยมัน เเล้วก็พายามออกมาจากจุดนั้น และหาจุดอื่น ที่จะทำให้เรารอดจากตรงนั้นได้ อาจจะเปลี่ยนเรื่องคุย หรือ ปล่อยไปอะครับ ใครมีวิธีดีๆก็มาแชร์กันได้ครับผม
เตือนได้ไม่ผิด เราก็มีสิทธิ์นะ
เอาง่ายๆ นะครับ สังคมไทย "เด็ก" หรือ "ผู้มีอายุน้อยกว่า" ต้องอยู่ในฐานะต่ำเสมอ ไม่อาจตีเสมอผู้ใหญ่ได้ ต่อให้จะเก่งหรือถูกต้องแค่ไหนก็ตาม
ส่วนเด็กที่ไปสั่นสอนผู้ใหญ่ หรือพูดแทรกอย่างนั้น จะเรียกว่า "สอด" และ "ไม่รู้จักกาลเทศะ"
แต่ถ้าวันนั้นมียายไปด้วย น้องกระซิบบอกให้ยายสั่นสอนแม่ได้เลย มันจะกลายเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดครับ เพราะว่ามันจะกลายเป็น "ผู้ใหญ่เหนือผู้ใหญ่อีกที" มาสั่นสอน คุณยายน้องจะไม่มีวันผิดครับ
อันนี้ไม่ได้มาเขียนให้รู้จักการต่อต่อต้านผู้เป็นแม่หรือทำตัวเหนือผู้ใหญ่ ถึงยังไงเธอก็เป็นแม่ของน้องข
ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำค่ะ
รบกวนคุณ white cane ช่วยขยายความที่คุณบอกว่า "เอาง่ายๆ นะครับ สังคมไทย 'เด็ก' หรือ 'ผู้มีอายุน้อยกว่า' ต้องอยู่ในฐานะต่ำเสมอ ไม่อาจตีเสมอผู้ใหญ่ได้ ต่อให้จะเก่งหรือถูกต้องแค่ไหนก็ตาม"
เราเข้าใจที่คุณตัดสินเด็กที่สั่งสอนผู้ใหญ่ว่าสอดหรือไม่รู้จักกาลเทศะ ซึ่งในกรณีที่เด็กใช้วาจาเข้าข่ายว่าสั่งสอนผู้ใหญ่ เราเห็นด้วยว่าไม่เหมาะสม
แต่ เราสงสัยว่าคุณwhite cane คิดอย่างไร?...หากลูกจะสามารถเรียกร้องให้พ่อแม่กระทำการบางอย่างด้วยเหตุผลที่มีน้ำหนัก
คิดเห็นยังไงหรือ ? อืม... ก็คิดเห็นเป็นเรื่องปกติ อย่างแม้แต่เรื่องง่ายๆ เช่น เด็กตัวเล็ก ต้องการให้ผู้ใหญ่หยิบของที่อยู่สูงลงมาให้หน่อย ก็ต้องใช้คำพูดขอร้องให้เขาช่วยหยิบให้ ไม่ใช่ไปพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนตวาด หรือสั่งการราวกับเห็นเป็นคนรับใช้ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องนี้ เราก็ต้องใช้ความคิด บอกให้คนอื่นไปพูดแทน เพราะจากเท่าที่เจ้าของกระทู้เขียนบทคำพูดมา ดูเหมือนว่าแม่ของน้องไม่ชอบให้ “เด็กมาสั่นสอน” อาจเพราะท่านยังคงยึดติดกับการแบ่งฐานะอยู่ แต่ถ้าเปลี่ยนตัวน้องไปเป็นใครอื่น เรื่องอาจพลิกกลับด้าน โดยเฉพาะเป็นคนที่อยู่เหนือกว่าตัวผู้เป็นแม่ ไม่ว่าจะเป็นคุณตาคุณยาย หรือแม้กระทั่งเจ้านาย(ในที่ทำงาน)m
แม่เราก็พูดเสียงดัง ยิ่งคุยโทรศัพท์ยิ่งดัง
แต่ทุกครั้งจะเตือน สะกิด แต่จบแล้วจบไปไม่ย้ำใส่เค้า
ให้เค้าเข้าใจว่าที่เตือนไม่ใช่เพราะเราอาย แต่เราแค่ไม่อยากให้ใครมองแม่ไม่ดี
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ
เตือนไม่ผิดหรอก ลูกที่ตักเตือนพ่อแม่ได้นั้นดีแล้ว แต่มันก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้ใหญ่ไม่ยอมรับฟัง เช่นทิฐิของผู้ใหญ่นั่นแหละ และอีกส่วนก็คำพูดของเราด้วย ถ้าผู้ใหญ่คนนั้นมีทิฐิแรงอยู่แล้ว บางทีคำพูดดีๆที่เราคิดว่าดีและไม่เห็นจะเป็นอะไร อาจจะไม่เข้าหูเขาก็ได้ ในกรณีที่เล่ามา เขาค่อนข้างมีทิฐินะ แล้วไม่ชอบให้ใครมาตำหนิ ครั้งหน้าถ้าคุณจะเตือน คุณลองใช้คำพูดแบบอื่นเช่น "แม่คะลดเสียงลงนิดนึง คนอื่นเขามอง น้องกลัวคนอื่น
เขาจะแอบฟังที่แม่คุย" พูดแบบนี้ พูดถึงประโยชน์ของเขา แบบไม่ให้เขารู้สึกว่าถูกเตือน มันอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ได้นะ เขาอาจจะลดทิฐิลง ที่เราพูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะบอกว่าคุณพูดแย่อะไร แต่อยากจะบอกว่าบางทีเราแก้ที่คนอื่นไม่ได้ เราต้องหาวิธีปรับที่ตัวเรา เพื่อให้คนอื่นฟังเรา ต่อๆไปเหตุการณ์แบบนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในครอบครัวคุณ แต่พอคุณโตขึ้นแล้วทำงาน คุณก็จะต้องปรับคำพูด กับผู้ใหญ่บางคน เพียงแค่พูดสุภาพกับท่าน ท่านก็ฟังเหตุผล แต่กับผู้ใหญ่บางคนคำว่าสุภาพนี่ไม่พอแล้ว เราเองก็จะต้องพูดให้เป็น ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้คิดจะสอนหรือเข้าข้างแม่คุณนะ แต่เราพูดไปตามประสบการณ์ที่เราเจอมาเท่านั้นเอง
เราจะลองไปปรับใช้ดูนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
เราชอบที่คุณTwin25 สังเกตเห็นว่าผู้ใหญ่บางคนมี "ทิฏฐิมานะ" แรง (ในพระไตรปิฎกปรากฎ "ทิฏฐิ 62" และ "มานะ" ซึ่งเป็นสองมโนทัศน์แยกจากกัน ส่วนคำว่าทิฏฐิมานะเป็นคำภาษาไทย ไม่ใช่พุทธวจนะ หากคุณบอกว่าคนๆหนึ่งมีทิฐิคุณกำลังหมายถึงว่าเขาไม่ยอมคนและไม่ยอมเปลี่ยนความคิดง่ายๆ ไม่เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้า)
เราเห็นด้วยกับการที่คุณTwin25 แนะนำให้คุณMumun1ใช้ภาษาสุภาพและรู้จักปรับคำพูด เรารู้ว่าในหลายๆสถานการณ์ทักษะการพูดอย่างเฉลียวมีประโยชน์มากและเห็นผลลัพธ์ได้จริงๆ
แต่เราเอะใจบางเรื่อง เราอยากรบกวนถามคุณTwin25 หน่อยว่า พ่อแม่ที่มีทิฏฐิมานะมากหรือมีนิสัยดื้อด้านเอาแต่ใจไร้เหตุผลและไม่ฟังเหตุผลลูกง่ายๆ พวกเขาเหมาะสมไหมกับสถานภาพผู้ปกครองลูก?
เราคิดว่าพ่อแม่ไม่มีบุญคุณและเด็กๆไม่ได้ขอให้เกิดมา สัมพันธภาพระหว่างพ่อแม่และลูกไม่สมมาตร เมื่อเทียบกับสัมพันธภาพระหว่างนายจ้างและลูกจ้างที่สมมาตรเนื่องจากทั้งสองฝ่ายสมัครใจทำสัญญากัน
เราขอชมว่าที่คุณแนะนำดีระดับนึงแล้วล่ะ หากคุณสามารถตอบคำถามข้างบนของเราได้ด้วยเหตุผลละเอียด เราก็คงจะพึงพอใจความเห็นคุณหมดจด
จากประสบการณ์เรา แม่เราก็เป็นคนอารมณ์ร้อน กับแม่เราสะกิดแล้วทำท่าทางเตือนให้เค้าเห็นครั้งเดียวค่ะ ว่าเสียงดังแล้วนะ เค้าก็จะพยักหน้ารับรู้ แล้วก็คุยต่อ จะลดไม่ลดก็อยู่ที่เค้าแล้วค่ะ แรกๆเค้าก็สงสัยว่าทำท่าอะไรของแก เราก็บอกว่า แม่เริ่มเสียงดังแล้ว ลดเสียงหน่อย แค่นั้นแหละค่ะ หลังๆแม่เห็นเราทำท่านี้แม่ก็เก็ทค่ะ ว่าแม่เริ่มเสียงดังแล้ว จะเรียกว่าโค้ดลับแม่ลูกก็ได้ 555555
เราก็เคยเจอคะ มีอยู่ครั้งนึงไปกินข้าวกับครอบครัวเพื่อนพ่อแล้วเขามีญาติเป็นฝรั่งมาด้วย แล้วเรานั่งข้างแม่ แล้วแม่พูดภาษาอังกฤษคำนึงผิด เราก็สะกิดแม่บอกว่าต้องใช้อีกคำนะคะ แค่นั้นแหละโดนมองจิกเลยสักพักแล้วคุยต่อ คือเราหวังดีอะคะ พอกลับถึงบ้านเท่านั้นแหละโดยตบเลย แถมโดยด่าว่า"นี่แกจะทำให้กูขายขี้หน้าหรือไง" ตบหน้าไม่ธรรมดานะคะ"รองเท้า"คะ โดนไล่ตบจนชิดมุมห้องไม่มีใครกล้าห้ามแถมพ่อยังเห็นดีเห็นงามด้วยอีก เซ็งคะ คือเราว่าใช้คำผิดความหมายมันน่าขายหน้ามากกว่าเยอะเลยนะคะ ปัจจุบันความรู้สึกกระด้านไปแล้วละคะ เพราะผิดนิดผิดหน่อยก็โดน แถมโดยหาว่าตั้งใจทั้งที่ไม่เจตนาเลยสักนิด (อ้าว จะมาแสดงความเห็นกลายเป็นบ่นชีวิตให้ฟังซะงั้น)โตได้ก็บุญแล้วจ้า
เห็นใจจังเลยครับ ผมก็เคยมีปัญหาแบบนี้ ตอนนี้ผมเป็นพ่อคนแล้วจึงไม่อยากเป็นพ่อประเภท "ลูกเตือนพ่อไม่ได้" บ้านผมจึงสอนให้เตือนสติกันเป็นเรื่องปรกติ ลูกสาวผมเจ็ดขวบสามารถเดินมาบอกผมเวลาโมโหยังได้เลยว่า "พ่อ ตอนนี้พ่อกำลังโมโห ใจเย็นๆ ก่อนนะ" แล้วแบบอารมณ์จะลงเร็วมาก เพราะลูกเห็น ลูกกำลังมองอยู่ ถ้าพวกเราแก้ไขอดีตไม่ได้ (รุ่นพ่อแม่เรา) เราก็สร้างปัจจุบัน (ตัวเรา) และอนาคต (ลูกเรา) ให้ดีๆกันเถอะครับ
ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะคุณเป็นเด็ก ผู้ใหญ๋ไทยมักไม่ชอบให้ใครมาสอน โดยเฉพาะลูกของตัวเอง
สิ่งที่คุณจะทำได้ ก็คือ เตือนตัวเอง อย่าทำแบบพ่อแม่คุณ เท่านั้นเอง
เวลาเตือนเค้า วาจาวาทะศิลป์สำคัญมากนะ ที่คุณแม่ต่อต้านคำพูดส่วนหนึ่งคือประโยคที่ว่า "ควรมีมารยาททางสังคม" คือคำตำหนิที่รุนแรงพอสมควร ใช้คำที่สละสลวย หรือจังหวะที่ถูกต้องเหมาะสม
เห็นด้วยกับน้องคะ ผู้ใหญ่สมัยนี้ ก็คือพ่อแม่เรานั่นแร่ะคิดว่าการกระทำคำพูดของตัวเองถูกเสมอ แก้ที่เค้าไม่ได้ ควรแก้ที่เรา คือเงียบอย่างเดียวคะ แล้วแต่ครอบครัวนะคะ
ไม่ผิดหลอกลูก
น้าก็เป็นคนเสียงดังเวลาอารมณ์มันพาไปไม่ว่าจะสนุก,โมโห,เศร้า
แต่การที่ลูกของเรามาเตือนไม่ใช่ไม่รับฟังแต่เด็กสมัยนี้แปลกอย่างนึงจะไม่ค่อยใช้คำพูดที่น่าฟังกับพ่อแม่ตัวเอง แต่กับคนนอกจะเกรงกลัวแบะเกรงใจมากกว่า บ้างครั้งการทำแบบนี้ก็ทำให้เราซึ้งอยู่ในจุดนั้นอายที่ต้องมาโดนลูกตัวเองดุด่า ก็ต้องแสดงอาการต่อต้านเหมือนเด็กๆที่เวลาโดนพ่อแม่โอหรอว่าต่อหน้าคนแยะๆก็จะยิ่งต่อต้าน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?