Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เราขอวิธีที่ปฏิเสธแบบอ้อมๆยังไงๆม่ให้กระทบความรู้สึกและจิตใจของคนที่เราไม่ได้ชอบเขาคะ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า เรามีเพื่อนในห้องคนนึงอ่ะค่ะที่เขาแอบชอบเราอยู่ แต่ว่าเขาก็ได้บอกชอบเราแล้วค่ะ คือ เราอ่ะไม่กล้าปฏิเสธเขาไปตรงๆหรอกนะคะ เพราะว่า เรากลัวเพื่อนคนนี้เขาเจ็บ แล้วก็อีกอย่าง เขาเป็นคนที่มีโรคประจำตัวคือ โรคซึมเศร้า และ หัวใจเต้นผิดจังหวะค่ะ และเขาก็เคยแอบชอบเพื่อนในห้องซึ่งไม่ใช่เราอยู่มาก่อนหน้านั้นค่ะ แล้วพอเขาก็บอกชอบเพื่อนคนนั้นไป เพื่อนคนนั้นก็ไม่ได้ชอบเขา เขาก็เข้าใจดีค่ะ แต่ว่าเขาก็เกิดอาการชัก และ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ค่ะ ซึ่งเราไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับเขาซ้ำอีกครั้งค่ะ
.
..เราเป็นห่วงเพื่อนมาก มากจนเราไม่กล้าบอกเขาไปตรงๆ และเขาก็เป็นคนที่เราสนิทนิดๆเพราะมีความฝันที่คล้ายคลึงกัน คุยกันตลอด แต่เราก็ไม่ได้ชอบเขาแบบแฟนค่ะ เพราะเราไม่ชอบเอาเพื่อนสนิทตัวเองมาเป็นแฟนด้วย แต่การที่เราไม่ปฏิเสธมันก็ทำให้เรารู้สึกเป็นทุกข์มากๆเลยค่ะ
.
...และเราเป็นโรคแพนิคอยู่ด้วย มันทรมาณมากเลยค่ะกับการที่เราต้องทนอยู่แบบนี้ พอเราปรึกษาแม่ของเรา แม่ก็บอกว่าให้ปล่อยไป แต่เราลองทำดูแล้วมันกลับรู้สึกว่าเขาล้ำเส้นเรามากเกินไปแล้วค่ะ เราทนไม่ไหวแล้วค่ะ พอจะมีวิธีที่ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลหรือไม่กระทบจิตใจเขาไหมคะ รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...

แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

White Frangipani 10 พ.ย. 61 เวลา 21:43 น. 1


เราขอวิธีที่ปฏิเสธแบบอ้อมๆยังไงๆม่ให้กระทบความรู้สึกและจิตใจของคนที่เราไม่ได้ชอบเขาคะ?


...


......


....................


แต่เราลองทำดูแล้วมันกลับรู้สึกว่าเขาล้ำเส้นเรามากเกินไปแล้วค่ะ เราทนไม่ไหวแล้วค่ะ พอจะมีวิธีที่ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลหรือไม่กระทบจิตใจเขาไหมคะ รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...


สวัสดีค่ะ


หากคุณไม่รักเขานะคะ แนะนำว่าก็พยายามตีตัวออกห่างๆๆๆ...เขาไปเรื่อยๆค่ะ


ความห่างเหินนะคะ จะนำพาให้คนสองคนเดินไปคนละทางได้ด้วยความสันติในที่สุดค่ะ


คุณไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องกังวลว่าคุณจะทำร้ายเขาด้วยการที่คุณต้องจากเขาไป...นะคะ


เพราะความจริงซึ่งมีอยู่ว่า คือคุณไม่รักเขา ก็ไม่ต้องรั้งตัวคุณเอง หรือไม่ต้องคิดมากให้คุณเองต้องสับสนค่ะ


ในด้านของเขานั้น เมื่อความห่างเหินเข้ามาเป็นตัวกลาง...ทุกอย่างก็จะเลือนลางลง เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ


ในความจริงคนเราทุกๆคนล้วนมีวิถีชีวิตที่เขาจะดำเนินไป...เมื่อห่างกันออกไปแล้ว ในที่สุด ทุกอย่างก็จะจบลง เป็นธรรมดา คือเขาก็จะสามารถเดินต่อไปได้...ด้วยวิธีของเขาอย่างแน่นอนค่ะ


ขอเพียงให้คุณรู้แก่ใจของคุณเองให้จงได้นะคะ ว่าคุณไม่ได้รักเขาจริง


เพราะหากความจริงคุณเองที่รักเขา...แต่เพราะอะไร?คุณจึงไม่ยอมรับ กลับที่จะตีตัวจาก...หากเป็นเช่นนั้น คุณเองค่ะที่จะทรมาน(เพราะจริงแล้วจิตใจ จิตใต้สำนึกของคนเรานะ มันต้องการเหตุผลเสมอ เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติด้วยค่ะ)


คือแนะนำว่า ขอให้คุณเองรู้ตัวคุณเองว่า คุณรู้สึกอย่างไร...? ต่อเขาคนนั้น...เมื่อรู้ได้แล้ว และก็จัดหาวิธี...คือตีตัวห่างๆๆๆ...ออกไปเรื่อยๆ และเป็นวิธีที่ง่าย และสันติด้วย เท่านี้ความรู้สึกผูกพันธ์ทุกอย่างก็จะจบลงค่ะ


1
Ppaps 11 พ.ย. 61 เวลา 07:45 น. 1-1

ขอบคุณมากๆนะคะ ..... เราจะลองวิธีนี้ดู(อีกครั้งนะคะ)เพราะว่า ตอนแรกเราก็พยายามตีตัวออกห่างแหละค่ะ แต่อีกใจเราเคยกังวลว่าเขาจะเสียใจหรือเปล่า มันจะกระทบโรคของเขาหรือเปล่าอ่ะค่ะ

.

......แต่ตอนนี้เราอ่านความคิดเห็นของคุณแล้ว ขอบคุณมากนะคะที่ทำให้เราได้รู้และเข้าใจว่าตัวเราเองน่าเป็นห่วงที่สุดค่ะ ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะคะ เราจะลองดูนะคะ

0
Ppaps 11 พ.ย. 61 เวลา 07:52 น. 2-1

เราเคยบอกไปแล้วค่ะ....แต่เขาก็บอกให้เราเปิดใจ เราก็ไม่ได้ชอบอ่ะ และเขาก็เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆด้วย เราก็แบบ...เหนื่อยใจ ปวดหัวอ่าค่ะ

0
Hareki! 11 พ.ย. 61 เวลา 09:12 น. 3

จากประสบการณ์ที่ถูกปฏิเสธมาหลายครั้งจนเพลา ๆ จากเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ลงได้นะครับ (ฮา)


อันดับแรกนะครับ เราต้องเด็ดขาดครับว่าเราไม่ได้อยากเป็นไปมากกว่าเพื่อน คือเรายังคงเป็นเพื่อนกัน แต่ต้องหนักแน่นครับ ว่าห้ามล้ำเส้นกันเกินไปนะ เพื่อนก็คือเพื่อน เว้นระยะห่าง (ในแง่ความสัมพันธ์) กับคนนั้นไว้ครับ แน่นอนว่าถ้าไม่หนักแน่นพอเค้าอาจจะคิดว่าเรายังเปิดโอกาสได้อยู่

และสำหรับกรณีคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แนะนำครับว่าถ้าเค้ารู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนั้นจริง ๆ ให้เค้าไปพบแพทย์ครับ ผมว่าถ้าเป็นเพื่อนกันก็ยังให้คำแนะนำในเรื่องแบบนี้ได้อยู่นะ แต่ก็พยายามใช้คำพูดที่ในฐานะเพื่อนน่ะครับ ถ้าใช้คำพูดเชิงเป็นห่วงมาก ๆ จนเค้าอาจจะคิดว่า "เรามีใจให้เค้า แบบนี้ก็ยังมีโอกาสสิ" จะกลายเป็นว่าลำบากในการปฏิเสธกว่าเดิมอีก 555

และอีกวิธีที่คอมเมนท์ข้างบนบอกไปครับ ตัวของจขกท.ก็ส่วนจขกท.เอง เราไปแคร์เค้าได้ไม่ตลอดหรอกครับ พอถึงซักช่วงเวลาก็ต้องมีการแยกย้ายกันไป จะค่อย ๆ ห่างเหินจนสุดท้ายเค้าก็เลิกคิดไปเองแบบนั้นก็ได้ครับ


เอาเป็นว่าขอให้เค้าเข้าใจและจบด้วยการที่ยังเป็นเพื่อนกันต่อได้นะครับ :)

0
Windey 11 พ.ย. 61 เวลา 12:06 น. 4

ทางที่ดีควรปฏิเสธไปตรงๆ นะคะ ว่าเราไม่ได้ชอบจริงๆ

บางทีการปฏิเสธแบบอ้อมๆ อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดมากกว่า

และมันจะกลายเป็นว่าการปฏิเสธแบบอ้อมๆ ทำร้ายทั้งเราและเพื่อน

0
Akitan~ 11 พ.ย. 61 เวลา 13:39 น. 5

ต้องเน้นที่ความเป็นเพื่อนค่ะ เช่น อ้าวหวัดดีเพื่อน เพื่อน.(ชื่อ) วันนี้เป็นไงบ้าง คือพูดไรใส่คำว่าเพื่อนไปให้หมด5555 คือทำแค่นี้เขาก็น่าจะพอรู้สถานะตัวเองอยู่ ถามส่าเขาเสียใจมั้ย ก็ต้องมีบ้างอยู่แล้ว ใครมันจะไปได้สิ่งที่ตัวเองหวังทุกอย่างล่ะ ปฏิเสธตรงๆเองก็ง่ายดีนะ เช่น ขอบคุณนะ แต่เรายังไม่อยากมีความรักตอนนี้ เรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว หรืออะไรก็ว่าไป

1
Ppaps 12 พ.ย. 61 เวลา 20:16 น. 5-1

เราเคยทำมาทั้งหมดที่คุณแนะนำมาแล้วค่ะ แต่..... เขากลับบอกว่าอยากให้เราเปิดใจ และ เขาบอกว่าจะรอเราจนถึงวันนั้นค่ะ คือ เราก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้วหล่ะค่ะ ยกเว้น ปฏิเสธแบบตรง ๆ ว่าเราไม่ได้ชอบนะคะ อันนี้เรายังไม่ทำเพราะเรากลัวเขาอาการกำเริบ แต่เราเคยไปถามเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าให้เราหาแฟนใหม่ทางเดียวอ่ะค่ะ อันนี้ คือ เราก็เคยมีแฟนมาแล้วด้วยในฐานะที่ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ เราก็ไม่อยากคบใครแล้วอ่ะค่ะ อยากตั้งใจเรียน มากกว่า แต่ว่าเราจะลองหาโอกาสนั้นดูนะคะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ

0
White Frangipani 11 พ.ย. 61 เวลา 17:04 น. 6-1

สวัสดีค่ะ คห.ที่6


ให้เขาเข้ามาอ่านในนี้เลยครับ"...แต่คุณเจ้าของกระทู้นะคะเธอน่าจะเป็นคนที่มีจิตใจที่อ่อนโยน คือเธออุตส่าห์เข้ามาตั้งกระทู้ถาม...เพื่อหาทางออกด้วยวิธี่อ้อมๆ เพื่อที่จะรักษานํ้าใจ และความรู้สึกของเขานะคะ


หากแต่การที่จะให้เขามาอ่านในกระทู้นี้เลย...เป็นคำแนะนำ...นะคะ ดูจะเป็นการทำร้ายความรู้สึกของทั้งเจ้าของกระทู้เอง และเขานะคะ


...และเราเป็นโรคแพนิคอยู่ด้วย มันทรมาณมากเลยค่ะกับการที่เราต้องทนอยู่แบบนี้ พอเราปรึกษาแม่ของเรา แม่ก็บอกว่าให้ปล่อยไป


ยิ่งเจ้าของกระทู้เป็นโรคแพนิคอยู่ด้วยแล้ว น่าจะเป็นอะไรที่ไม่ดีนักนะคะ


คือหากกระทู้นี้ของเจ้าของกระทู้จะสามารถทำให้คนทั้งสองกลับต้องทุกข์ทรมาน...นั้น ดูคล้ายจะเป็นการสร้างปัญหาบนปัญหานะคะ



คือเจ้าของเม้นต์นี้สงสารเขาทั้งสองคนค่ะ ไม่อยากให้เขาทั้งสองเสียใจมากมายนะ


และเรื่องของความรักนะ มันเปราะบางนะคะ เป็นอะไรที่ง่ายที่จะนำความรู้สึกทุกข์ทรมานมา...หากมันถูกกระทบแบบจังๆ คือเข้าใจว่าการที่จะหาทางออกด้วยวิธีอะลุ่มอล่วย และนุ่มนวล หรือที่เจ้าของกระทู้ขอ คือวิธีอ้อมๆ...นั้นจะเป็นเรื่องดีที่สุดค่ะ



คือเธอต้องการที่จะใช้วิธีนี้ ก็ให้เธอได้ทำตามความรู้สึกดีกว่านะคะ


หรือคุณว่าไงคะ??



อะลุ่มอล่วย

ก. ไกล่เกลี่ยโดยผ่อนหนักผ่อนเบา, ปรองดองกัน, ผ่อนหนักเบาให้แก่กัน (เหมือน อะลุ้มอล่วย).


0
นกที่บินผ่านมา 11 พ.ย. 61 เวลา 16:12 น. 7

ต้องพูดตรงๆ หนักแน่นเด็ดขาดค่ะ คุณต้องรักษาสิทธิของคุณเองค่ะเขาไม่มีสิทธิอะไรจะมาเอาความเจ็บป่วยของตัวเองเป็นข้ออ้างค่ะ ถ้าปฏิเสธไปแล้วยังไม่ได้ผลแนะนำให้ปรึกษากับพ่อแม่เขาเลยค่ะ เคลียร์ให้จบไม่อย่างงั้นก็ต้องมานั่งเครียดแบบนี้

0
Sixtyone 11 พ.ย. 61 เวลา 18:38 น. 8

เป็นเราจะพูดตรง ๆ แบบไม่ปิดโอกาส เอ๊ะ! ยังไง

เพราะคุณอายุยังน้อย ตอนนี้คุณไม่ชอบเขา แต่วันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าไม่แน่ ถึงขนาดคุยกันได้ตลอดแสดงว่ามีใจให้ระดับหนึ่ง (อันนี้ไม่ได้หมายถึงชอบเขาในความสัมพันธ์ฉันคนรักนะ มีใจให้คือคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ) ส่วนที่ตอนนี้ไม่ชอบก็บอกว่าเขาว่าไม่ชอบ ลองพูดประมาณว่า

"เรายังไม่ชอบนายแบบแฟน ยังไม่ชอบแบบคนรัก อยากให้เป็นเพื่อนกัน ให้ดูกันไปเรื่อย ๆ ก่อน เรายังไม่อยากให้นายล้ำเส้น ถ้าชอบเราจริง รอได้หรือเปล่า"

ถ้าเขาถามว่าต้องรอไปถึงเมื่อไหร่

"ก็รอจนกว่าความรักของนายจะทำให้เรารู้สึกชอบนายมากกว่าเพื่อน"

น้ำเน่าไปหรือเปล่า เราบอกเผื่อไว้ อิอิ แต่ถ้าวันหนึ่งคุณไปเจอคนที่ปิ๊งตรงสเป็ก ก็ดูว่าวันนั้นเขายังชอบคุณอยู่ไหม ฟังจากคุณเล่าเหมือนเพื่อนคุณแค่เหงา หรือมีจุดประสงค์ในการมีแฟน ถ้าเราเป็นคุณ เราจะถามเพื่อนด้วยซ้ำทำไมถึงมาชอบ เมื่อไม่กี่วันก่อนเห็นยังขอบคนนั้นอยู่เลยไม่ใช่เหรอ


ส่วนเรื่องไม่เอาเพื่อนสนิทมาเป็นแฟน ขอบอกไว้ว่าอย่าปักธง ไม่อย่างนั้นโลกใบนี้จะมีคำว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อเหรออออ คุณรู้หรือเปล่าว่าทำไมคนคนหนึ่งถึงกลายมาเป็นเพื่อนสนิท เพราะเราถูกชะตากับเขา เพราะเราคุยกับเขาถูกคอ เพราะเราสบายใจที่ได้อยู่กับเขา เพราะเราไม่ทะเลาะกันหรือถึงทะเลาะกันเราก็สามารถกลับมาคืนดีกันได้ นี่มันคือคุณสมบัติของในครอบครัวนะ คนที่เป็นคู่รักเมื่อคบไปนาน ๆ ก็ให้อารมณ์เพื่อนสนิท ไม่อย่างนั้นจะมีข้ออ้างในการเลิกว่าเพราะไม่หวาน ไม่เหมือนคู่รักกันเหรอออ


0
Ameliay-7993 ť norty [v.2] 11 พ.ย. 61 เวลา 19:36 น. 9

คุณจขกทบอกแถมเขาไปนิดหนึ่ง ว่า

"คนที่ชอบ กับ คนที่ใช้แตกต่างกันนะคะ คนที่

ไม่ใช้ ถ้าไปให้ความหวัง ก็เหมือนคนที่โดนทิ้ง

กลางทางนั้นแหลาะ เส้นทางของคุณมีเพียง

แค่เส้นทางเดียว เพียงแค่คุณเดินออกไป หรือ

จมอยู่ตรงนี้ ก็แล้วแต่คุณค่ะ" คำพูดประโยคนี้

เป็นการเตือน ให้เห็นถึงความเป็นจริงว่า แต่ละคน

ถ้าเดินหลงทาง ควรย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น


มีแต่คนที่เจอเรื่องหนัก ถึงจะบอกได้ค่ะ

ไม่ต้องถาม และ อย่าถามเรื่องมันเศร้า T^T

0
ซากุระ คิโนโมโตะ 12 พ.ย. 61 เวลา 07:54 น. 10

เราเคยมีเหตุการ์ณคล้ายๆกันนะคะ จริงๆเราว่ามันไม่มีวิธีบอกแบบอ้อมไม่ให้เขาเจ็บ มีแต่บอกวิธีไหนเจ็บมากน้อยกว่ากัน


เราเคยปล่อยๆไป สรุปเราโดนว่าว่าให้ความหวังค่ะ อันนี้ความคิดเรา ว่าจขกทจะเก็บทุกอย่างไว้เศร้าเอง หรือคุยกันตรงๆ

จริงๆโรคซึมเศร้าไม่ใช่ข้ออ้างค่ะ เพราะเราก็เป็น และมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะร่วมด้วย แต่โดนปฏิเสธก็ไม่เป็นขนาดนั้นะคะ แค่นอย์ดๆนิดนึง



จขกทลองเปิดใจคุยกันเลยว่าแบบนี้ไม่โอนะ เธอชอบเราจริงๆก็แคร์เราบ้างสิ มาหาตรงกลางมั้ยที่รู้สึกโอทั้งสองฝ่ายไรแบบนี้ ลองดูนะคะ เพราะจขกทก็แพนิคอยู่ เราว่าน่าจะคีพความรู้สึกตัวเองนิดนึงก่อนที่จะแย่นะคะ

สู้ๆค่ะ

สุดท้าย ทุกปัญหามีทางแก้ค่ะ แค่ตอนนี้เรายังไม่เจอ พอเจอเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองเนอะ~

1
Ppaps 12 พ.ย. 61 เวลา 20:23 น. 10-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกคนมากเลยนะคะ จขกท จะพยายามทำตามคำแนะนำของทุกเม้นดูนะคะ แต่อาจจะเสี่ยงหน่อยๆ เพราะ จขกท เอง ก็ไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนในห้องซักเท่าไหร่อ่ะค่ะ เพราะ เพื่อนในห้อง จขกท เนี่ย นิสัยน่ารัก กันทุกคนเลย แต่ ก็คิดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวเองจนได้ แต่ก็ดันเกิด .....งั้น จขกท จะลองดูนะคะ อาจจะต้องใช้เวลานานมากเลยค่ะ เพราะบางทีเราก็สงสารเพื่อนเราอ่ะ แต่ก็สงสารตัวเองอยู่เหมือนกัน

0