ระดับความเครียดเวลาเขียนนิยาย?
ตั้งกระทู้ใหม่
(จำนวนคนโหวต 56 คน)
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
22 ความคิดเห็น
มาเขียนคลายเครียดแล้วจะเพิ่มระดับความเครียดทำไม ยิ่งเขียนอะไรกาวๆ นี่สนุกมากเลยค่ะ
เราเป็นผื่นขึ้นหน้า หมอบอกว่าเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่จะไม่หายตลอดชีวิต ทำได้แค่ควบคุมอาการ
คือห้ามเครียด พักผ่อนเยอะๆ ห้ามอยู่ที่ร้อน ห้ามกินของเผ็ด
ต่อไปนี้เราเลยต้องปรับวิธีการเขียนนิยายใหม่ คือระหว่างเขียนต้องห้ามเครียดเด็ดขาดอะค่ะ55
โอย ทรมาน
เรียกว่าโรคโรซาเชียอะค่ะ
ขออนุญาตถามคุณสมเหมียวได้มั้ยครับ ถ้าคุณเครียดมันจะขึ้นจริงหรือเปล่าครับ เท่าที่ผมเข้าใจโรซาเชียจะสัมพันธ์กับอาการโกรธหรือเขินอายมากกว่าครับ
ตามนี้ค่ะ
ขออนุญาตไม่ออกความเห็นเรื่องแหล่งอ้างอิงดังกล่าวนะครับ พอดีผมแค่อยากทราบประสบการณ์เฉยๆ ครับ เพราะผมไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเกี่ยวข้องกันครับ แต่ผมอาจจะผิดก็ได้ครับ เลยแค่อยากทราบเป็นความรู้เฉยๆครับ
ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นประเมินอาการหาสาเหตุว่าเกิดอะไรถึงเป็นอะค่ะ
ซึ่งสิ่งที่คุณหมอบอกกับในเว็บทั้งหลายตรงกันคือ เป็นโรคที่ไม่มีสาเหตุการเกิดโรคที่แน่ชัดว่าปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดโรคมาจากอะไรค่ะ
และเราได้หาข้อมูลทั้งเว็บไทยและต่างประเทศเปรียบเทียบกันแล้ว สาเหตุที่แดงเกิดจากเส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นขยายตัว ซึ่งจะแดงตลอดเวลาหรือแดงเฉพาะบางเวลาก็ได้ค่ะ
ยังไงก็เสียใจด้วยกับจขกท.ที่เป็นโรคดังกล่าวนะครับ หวังว่าจะตอบสนองได้ดีต่อการรักษาและไม่กลับมาเป็นซ้ำนะครับ
เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาของโลกค่ะ อิอิ
เครียดนี้ไม่ใช่อะไรเลยค่ะ กังวลว่าคนอ่านจะชอบหรือเปล่าถ้าเราแต่งแบบนี้ แบบนี้ (ฮา)
เราเครียดเวลาเขียนแล้วมันไม่ลื่นปรื๊ดลื่นปรื๊ดอะค่ะ เค้นจนสมองเหือดเลย55
เครียด เมื่อต้องคิดพล็อต
เครียดมาก เมื่อต้องเขียนโดยที่พล็อตไม่สมบูรณ์
เครียดสุด ๆ เมื่อดองนิยายมานานระยะเวลาหนึ่ง ตอนแต่งพล็อตก็ไม่มี แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องลงให้ได้หนึ่งตอน
แต่โดยหลักแล้ว เมื่อต้องเขียนนิยาย มันต้องใช้ทักษะ สมาธิ ซึ่งความเครียดบางอย่างจะลดทอนมัน แต่ความเครียดบางอย่างก็เสริมการทำงาน จึงชอบเลี้ยงความเครียดเอาไว้ เหมือนนักบอลที่ต้องเล่นบอลอย่างมีสมาธิ จริงจังทุกจังหวะ ไม่เล่นขำ ๆ ไม่ปล่อยจังหวะ มีช่องต้องยิง มีจังหวะต้องคว้า
ของเราอยู่ช่วง 51-100% เลยค่ะ 555555
นิยายเราค่อนข้างใหญ่ แต่ที่เครียดไม่ใช่แค่เนื้อหา เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ (ซึ่งเราซีเรียสกับมันมากๆ ตรงนี้) ความสนุกของตัวนิยาย รวมถึงความเข้าใจง่ายของมัน บางช่วงที่เครียดหนักมากๆ ไอเดียจะไม่ไหลคิดอะไรไม่ออกเลย แถมพาลจะประสาทเสียเอาได้ง่ายๆ ต้องหยุดพักถอยออกมาบ่อยครั้งเหมือนกันค่ะ
ตอนนี้พยายามเลี้ยงให้มันไม่พุ่งไปสูงเกินอยู่ค่ะ เดี๋ยวเรื่องเลวร้ายจะตามมา 55555
เป็นความเครียดที่มาจากการเป็น
perfectionist หรือเปล่าคะเดา55
คงจะอย่างนั้นละมังคะ 55555 แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกพาลไม่อยากเขียนต่อแล้วทั้งที่มีพล็อตอะไรเรียบร้อย อาจต้องพักไปอีกรอบค่อยมาเขียนต่อ เฮ้อ
ของเราความเครียดจะขึ้นอยู่กับตอนที่ต้องแต่งค่ะ ถ้าเป็นฉากที่ต้องจริงจัง ดราม่า ก็จะเครียด และในกรณีแต่งฉาก NC นี่ยิ่งเครียดเลยค่ะ คนอ่านฟินแต่หารู้ไม่ว่าคนแต่งกว่าจะกลั่นออกมาได้แต่ละคำนี่เครียดมาก กลัวภาษาจะออกมาไม่สวย กลัวมันจะดูหยาบเกินไป บลาๆ แต่ถ้าเป็นฉากหวานๆกุ๊กกิ๊ก หรือฉากเบาๆสบายๆก็จะไม่เครียดค่ะ
อืม การเขียน nc แบบละมุนละม่อมนี่ยากจริงๆล่ะค่ะ เราเลยแก้ปัญหาด้วยการไม่เขียนเลย ไปโจ้งแจ้งตอนรวมเล่มละกันน้าท่านผู้อ่าน55
ตามหลักวิชาการนะคะ ความเครียดในระดับหนึ่งจะกระตุ้นให้มีความคิดสร้างสรรค์
แต่เครียดมากก็บ้าได้ค่ะ ฉะนั้นเครียดแต่พอดี
กำลังรู้สึกว่า เครียดกับขี้เกียจ....เส้นแบ่งมันบางมาก (^^)
ตอนคิดพล๊อตเราไม่เครียดนะ จะเครียดเฉพาะเวลาเขียนอะค่ะ55
มากอยู่ค่ะ มีหลายเลเวล
ตั้งแต่ระดับแรก แค่ปวดฉี่บ่อย ตามมาด้วยนอนไม่หลับ พอจะหลับก็จะตื่นขึ้นมาเพราะเสียงอันแสนจะเบาแสนเบา แต่ถ้าหลับไปก็จะฝันร้ายบ่อยค่ะ แขนขาเป็นเหน็บชา ไม่มีแรง กินไม่ลงพอกินได้หน่อยก็เริ่มมีแรง แต่ถ้าไม่กินก็จะจะเป็นลม ปวดตามร่างกาย ปวดไปถึงข้อกระดูก ปวดหัวข้างเดียว ตามมาด้วยคันตามมือและเท้าค่ะ
ทั้งหมดจะเป็นๆหายๆ ไม่รวมกับอาการอื่นที่เป็นโรคทั่วไปค่ะ
แต่เรารู้ว่ามันจะเครียดตอนที่คิดไม่ออกหรือว่ากดดันตัวเองมากๆค่ะ ทุกอย่างเกิดจากอารมณ์ของตัวเองล้วนๆ บวกกับความเครียดเรื่องอื่นด้วย
ดังนั้นพยายามอย่าเครียดนะคะ แม้จะยากแต่ก็ต้องพยายามค่ะ
ความเครียดมันพัฒนาไปได้หลายโรค
รักษาสุขภาพด้วยนะค้า
ผมรักเจ้าของกระทุ้นะ ผมชื่อชัย จำได้เปล่า เรียนด้วยกัน ม3 อยากจะบอกว่าเราแอบชอบมานานแล้ว แต่ความเปนจริงคือผมเมา
มีพี่ส. เป็นไอดอลใช่ไหมนี่ ไม่เมาสร้างสรรค์ผลงานไม่ได้55
55 โทดคับๆ เมื่อคืนนี้เมา
สำหรับเราต้องคงเเล้วแต่เรื่องค่ะ
จากประสบการณ์ที่น่าจะพีคที่สุดคืออัพนิยายไปตอนเดียวแล้วมีสนพ.ทักมาว่าอยากได้เรื่องนี้ไปเป็นนิยายเปิดสนพ. ตอนนั้นจะว่าดีใจก็ดีใจค่ะ แต่ช็อกมากกว่า เราเลยถามเรื่องเวลาไป เหมือนจะให้ประมาณสามเดือนบวกลบได้ แต่เราเข็ดกับการเซ็นสัญญาระหว่างเขียนมาก เลยปฏิเสธไปก่อน บอกว่าถ้าจบค่อยคิดทีหลัง จากนั้นก็ไม่แตะเรื่องนั้นอีกเลย
คือเรามีนิสัยเครียดง่ายกับขี้กังวลอยู่แล้ว + เป็นซึมเศร้าขั้นที่ต้องกินยาเดือนละสองพันกว่าบาท แถมเป็นประเภทไอเดียแล่นตลอด เลยชอบเปิดนิยายทิ้งไว้หลายเรื่อง พอเรื่องไหนมีสนพ.สนใจ จากลื่นไหลๆ นี่สะดุดหัวทิ่มเลย ไปต่อไม่ได้ เหมือนมิเตอร์ความกลัวพุ่งปรี๊ด สุดท้ายก็เข้าไหไปตามระเบียบ
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นก็คือพยายามไม่สนใจผลที่ตามมาค่ะ คือ เอาเขียนแบบที่ชอบเลยจริงๆ ชอบเขียนนิยายเพราะได้วางพล็อตก็วางมันไปให้เต็มที่ ไม่ต้องคิดว่าใครชอบไม่ชอบ ขายได้หรือไม่ได้ พอๆ กับยอดไลค์แล้วก็ยอดแฟนคลับ บางทีจากได้ตอนละเกือบร้อยลงมาเหลือสิบกว่าก็มี 5555 จนบางครั้งต้องสัญญากับตัวเองว่าต้องไม่เปิดดูนิยายตัวเองจนกว่าจะอัพครั้งใหม่ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน เขียนนานเข้าก็ไม่เชิงว่าจะระบายความเครียดอย่างเดียวค่ะ ฮาา
สำหรับคนที่อยากตีออกเล่ม ถ้าเป็น สนพ ที่ชอบก็คงดีใจ และยิ่งกดดันมาก
แต่เราไม่พิมพ์กับ สนพ อยู่แล้ว เป็นสายใต้ดินนอกรีตค่ะ55
เคยเครียดมากถึงขนาดร้องไห้ค่ะ 55555555555 คิดว่าน่าจะเครียดบวกกับอินพล็อตตัวเองด้วย คงเพราะช่วงนั้นคิดพล็อตอย่างเดียว ก่อนนอนก็คิดโน่นนี่นั่นจนกลายเป็นแทบนอนไม่หลับ
เราเป็นพวกอารมณ์เครียดง่ายระดับนึงอยู่แล้ว ยิ่งนิยายที่ตัวเองเขียนมีปมร้อยแปด ดราม่า ปัญหาชีวิต เลยกลายเป็นว่าจมดิ่งไปกับตัวละครตัวเองจนดึงออกมาไม่ได้ซะงั้น
งานนี้ก็ไปโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวเอง จนเลิกเขียนนิยายไปพักใหญ่เลยค่ะ ฮา
ไม่แปลกใจเลยที่เขาบอกว่าอาชีพนักเขียนค่อนข้างมีสิทธิ์เป็นโรคซึมเศร้าได้ง่าย ;;
กินยาพวกโรคทางจิตประสาทนี้ กระทบชีวิตมากเลย
ดีที่ไหวตัวทันไม่เครียดจนพัฒนาเป็นโรคนะคะ
ถ้าเขียนปกติไม่เครียดนะ แต่บังเอิญว่ามาไม่ตรงสาย...
คือใจจริงถนัดเขียนแนวดราม่า เนื้อเรื่องเครียด ๆ กดดัน ตัวละครคิดมากคิดเยอะ แต่ในความเป็นจริงคือเขียนแนวตลกบ้าบอ ๆ แล้วไปรุ่งที่สุด (ฮา)
ต้องลองเขียนลงเว็บอื่นดูค่ะ แต่ละเว็บก็นักอ่านคนละกลุ่มกัน
\\\\٩( 'ω' )و //// ไฟท์โตะๆ
ขึ้นอยู่กับเขียนตอนไหนของเนื้อเรื่องค่ะ ถ้าตอนเครียดก็เครียดตาม ถ้าตอนลั้ลลาก็ลั้ลลาตาม
นิยายแต่ละเรื่องช่วงเครียดสุดคือช่วงปมขมวดไปจนถึงจุดพีคก็จะเครียดตอนนั้นมากที่สุด แต่พอปิดคอมก็หาอะไรแก้เครียดเพื่อทำให้หัวเย็นลงค่ะ และดึงตัวเองกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด
เคยเขียนงานในช่วงแรกๆ แล้วหัวแล่นตลอด นอนไม่ได้ ทรมานเกินเลยต้องปรับตัวค่ะ หาวิธีที่เหมาะกับตัวเองไปเรื่อยๆ ตั้งแต่การวางแผนเขียนเนื้อเรื่อง การจัดการอารมณ์ จำนวนครั้งในการรีไรท์ ฯลฯ
การเขียนเป็นเรื่องศิลปะก็จริง แต่ควรอยู่ภายใต้การจัดการที่ดีด้วยน่ะค่ะ
ตอนเขียนไม่เครียดหรอก แต่พอกดเผยแพร่เท่านั้นล่ะ เริ่มเครียดนิดๆล่ะ
ตอนเขียนไม่เครียดค่ะ เพราะได้ปลดปล่อยจินตนาการ สนุกดี แต่เครียดน้อยตอนมารีไรท์นี่แหละค่ะ กับที่ต้องคิดว่าจะเขียนคำราชาศัพท์ประมาณไหนถึงจะเหมาะสมกับนิยายของเรา ด้วยเนื่องมาจากเขียนเรื่องแรกและเพิ่งเริ่มเขียนได้สองเดือนก็เลยยังไม่รู้ความเหมาะสมของการใช้คำราชาศัพท์ให้พอดีกับแนวนิยายของตัวเอง
บางทีก็สับสนนะระหว่าง 'เครียด' กับ 'จริงจัง'
เราเครียดเพราะเขียน ออกมาไม่ได้ดั่งใจ ทั้งที่มันน่าจะเขียนให้ได้ดีกว่านี้ เป็นสาเหตุหลักๆเลยอะค่ะ
การเขียนนิยายมันคือการระบายและปลดปล่อย ไม่อาวไม่เครียดดด
เขียนไม่ค่อยเครียด
แต่งจบเผยแพร่แล้วมาอ่านทีหลังรู้สึกเครียด
เราว่าคุณคะน้าตัวน้อย เป็นแนว perfectionist นะ เท่าที่สังเกตอะค่ะ55
แล้วแต่แนวที่เขียนค่ะ ถ้าแนวตลกไร้สาระก็แค่ห้าสิบ แต่ถ้าดราม่านี่ให้เกือบร้อยเลยค่ะ
แต่งดราม่านี่ค่อนข้างเสี่ยงกับความเครียดมากนะคะ สมมุติคนอ่านรับสิบ คนเขียนนี่คูณไปอีกหลายเท่าค่ะ
ช่วงนั้นเราหน่วงหาสาเหตุไม่ได้ไปพักใหญ่เลยเพราะรับอารมณ์มาจากนิยาย รู้สึกหดหู่ ท้อแท้ใจ ไม่มีความหวังในชีวิต ไร้ค่า ทุกความรู้สึกมาหมด เพราะเราเขียนฉากจะฆ่าตัวตายของตัวละครค่ะ 555
ก่อนนักอ่านจะตับพัง คนเขียนนั้นตับวายไปล่วงหน้าแล้วสินะคะ55
ถามว่าเวลาเขียนเครียดมั้ย เครียดตรงอาณาบริเวณรอบ ๆ บ้านนี่แหละครับ (คือเสียงดังมากกกกกกกก) กับช่วงที่แบบเดดไลน์จี้ตูดแล้วต้องเขียนให้ทันคือก็ท้าทายพอสมควร แต่โดยมากถ้าเขียนแล้วจะทำให้อารมณ์ดี ๆ มาก ๆ เลยครับ แต่อาจจะน้อยกว่าเล่นกับเหมียวสักนิดเพราะเวลาใช้คอมนาน ๆ จะปวดหัวมาก
เครียดนะ เครียดตอนเขียนนี่แหละ เขียนๆไปทำไมไม่ได้ดั่งใจ ตอนคิดพล็อต วางเนื้อเรื่องอ่ะไม่เครียด พอลงมือเขียนละเครียดเลยฮะ คือเขียนไป ก็คิดว่ามันยังไม่ใช่อ่ะกิ๊ฟฟฟฟว์ (ขอนุญาตลากเสียงวิบัติ เพื่ออารมณืในการสื่อสารนะฮะ) ; ^ ;
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?