Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เครียดเรียนต่อม.4

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีคะ หนูอยู่ม.3 ซึ่งแม่อยากให้อยู่วิทย์คณิต เพื่อต่อแพทย์ เเต่เกรดหนูมันแย่มากๆ วันนี้หนูพึ่งได้พูดกับแม่เรื่องเกรด ว่ามันคงไม่ไหวกับการต่อโรงเรียนเดิม เลยคุยว่าจะลองไปสมัครโรงเรียนอื่น ตอนแรกแม่ก็เหมือนจะเข้าใจ แต่คือตอนนี้แม่ด่าแรงมาก ถึงขั้นไม่ให้เรียกแม่ ที่ผ่านมาหนูพยายามมากกับการเรียน แต่มันไม่ได้เลย หนูรู้ตั้งนานว่าตัวเองคงไม่เหมาะกับสาย วิทย์ คณิต แต่แม่คาดหวังให้เป็นหมอ หนูก็อยากเป็นนะคะ แต่สมองหนูมันไม่ได้จริงๆ ซึ่งเรื่องเกรดหนูรู้มาได้3อาทิตกว่าๆแล้ว ไม่มีวันไหนไม่คิดเรื่องเรียนต่อเลย หนูเครียดมาก จนวันนี้ตัดสินใจพูดดู แต่มันก็เป็นอย่างที่คิดไว้ หนูเหนื่อยมากคะ เหมือนต้องอยู่คนเดียวตลอด เวลาหนูทำคะเเนนเเย่ไม่เคยมีครั้งไหนที่แม่จะให้กำลังใจเลย มีแต่ตอกย้ำ ทุกคนคงสงสัยว่า ทำไมพูดถึงแต่แม่ แล้วพ่อละ พ่อหนูเสียตั้งแต่ก่อนเข้าม.1แล้วคะ ตอนนี้หนูกับแม่อยู่กันสองคน ยอมรับว่าเหมือนหลอกตัวเองว่าต้องเรียนวิทย์คณิต ทั้งที่สมองมันไม่ให้เลย
ปล.อาจดูเป็นการระบายส่วนใหญ่นะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

24 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

.... 24 พ.ย. 61 เวลา 17:21 น. 1-4

1-1 ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากเปลือง พท เว็บ

0
Whydontubemaboy? 23 พ.ย. 61 เวลา 19:51 น. 2

เราว่าถ้าอยากไปต่อในสายวิทย์แต่ต่อในรรเดิมไม่ได้ ลองไปต่อสายวิทย์ในรรอื่นดีกว่าค่ะ แล้วเริ่มต้นใหม่ ตั้งใจเรียนตอนช่วงมอปลาย ยังมีเวลาสามปีให้เตรียมตัว แต่ถ้าไม่รัก/ไม่ชอบสายวิทย์ลองค้นหาตัวเองแล้วต่อสายศิลป์ก็ดีน้า สายศิลป์ก็ไปได้หลายสายงาน ส่วนเรื่องแม่ลองให้เหตุผลเขาดูเนอะ ว่าถ้าสมมติเราได้ต่อสายวิทย์เราจะตั้งใจ/พยายามยังไงบ้าง เพราะเหลืออีกหลายปีกว่าจะสอบเข้ามหาลัยhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png สู้ๆน้า ตั้งใจสอบเข้าม.4 หละะะ

0
Aunya 23 พ.ย. 61 เวลา 20:43 น. 3

น่าสงสารจังเลยลูก ในฐานะที่เป็นแม่ ตอนนี้ลูกสาว อยู่ ม.4 สอบติด พสวท.สมทบ แม่ก็เคยหวังให้ลูกไปเรียนหมอเหมือนกัน เพราะลูกออกแลปหลายครั้งแล้ว แกเคยไปดูอาจารย์ใหญ่ด้วย เรียนได้แต่ไม่ชอบ แกอยากเป็นสถาปนิก ก็ตามใจลูก ไม่เคยว่าเลย แต่ลูกกลับคิดมาก กลัวแม่ด่าเรื่องเกรด อยากให้แม่หนูได้อ่าน และไม่บังคับหนู แล้วให้หนูเรียนในสิ่งที่ชอบ อย่าคิดสั้นนะคะ เพราะคุณแม่เหลือหนูคนเดียว เอาใจช่วยนะลูก

0
Fluke1123 23 พ.ย. 61 เวลา 20:45 น. 4

น้องครับ พี่ไม่รู้ว่าที่เราพูดมามันจริงเท็จหรือร้ายแรงขนาดไหน แต่อยากจะถามตัวน้องว่า เราพิมพ์บอกว่า "หนูก็อยากเป็นนะคะ" นี่คือเราอยากเป้นหมอจริงๆ หรือ อยากเป็นเพราะค่านิยมที่คุณพ่อแม่น้องปลูกฝังมา พ่อแม่ให้ชีวิตน้องมา ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็น เจ้าชีวิต ที่จะจูงจมูกให้น้องทำทุกอย่างตามเขา พ่อแม่ส่วนใหญ่สร้างลูกมาเพื่อทำให้ความฝันของตัวเขาเป็นจริง แต่ไม่ได้สนใจว่าลูกเต้าจะต้องการแบบนั่นหรอเปล่า ปัจจุบันพี่เรียน มหาลัยปี 5 พี่ก็เจอประสบการณ์วัย มัธยมมาเหมือนๆเรา ถามตัวเราก่อนครับ " ปัจจุบันเรา ทำไปเนี่ย เพื่อความฝันของใครบางคน หรือ สิ่งที่ตนเองต้องการจริงๆ " ลองทำอะไรใหม่ๆในชีวิตบ้างก็ได้ครับ หาไลฟ์สไตล์ "ไม่ต้องคิดไปไหนไกลเลย แค่เรียนเรายังรู้สึกไม่ดี ถ้าเราไปอยู่ในจุดที่หมอเป็นอยู่ เราคงไม่พ้นการฆ่าตัวตาย พี่พูดจริงๆ" เราฝืน สุดท้ายเราก็จะเป็นโรคซึมเศร้า โรคเคลียดสะสม คนที่โดนแรงกดดันด้านนี่้นานๆและไม่มีภูมิคุ้มกัน สุดท้ายก็เลือกจบชีวิตตัวเองทั้งนั่น ซึ่งแม่งโครตน่าหดหู่เอาจริงๆ ซึ่งตอนนี้น้องยังไม่ถึงขนาดนั่น รีบผลักตัวเองออกมา หรือ อะไรที่แม่งตึงไปก็ผ่อนๆลงๆไปซะ "เสียงรอบข้างของครอบครัว อย่าให้มันเป็น รั้วกันกรอบความคิดของตัวเรา" ชีวิตฉัน ฉันเป็นคนลิขิต ไม่ใช่คนรอบตัว ถ้ามันไปไม่รอด สุดท้ายแนะนำให้คุยกับคุณแม่ว่าเรียนไม่ไหวและค่อยวางแผนเรื่องในอนาคตเอาครับ แต่ถ้าพ่อแม่ไม่รับฟัง แนะนำให้คุยกับ อ.ประจำห้อง/อ.ที่ปรึกษา เอาครับ เพราะอย่าหาว่าพี่หน้าเ-้ยหรืออะไรเลยนะ พ่อแม่บางคนมีโรคจิตประจำตัว ไม่ก็หัวโบราณที่ไม่ยอมเปิดรับความคิดเห็นอะไรใหม่ๆ ซึ่งกรณีนี้อาจจะเป็นพ่อแม่ของน้องก็เป็นได้ สุดท้ายนี้ ถ้าพี่พิมพ์อะไรแรงๆไป ก็ขอโทษด้วยนะ เราก็ยังไม่ได้เจอโลกที่โหดร้ายระดับมหาลัยมาก่อน เลยไม่แปลกที่รับความเคลียดด้านนั่นและต้องหาทางมาระบาย ซึ่งแม่งทำถุกแล้วที่มาขอคำปรึกษา ดีกว่าเก็บไว้เฉยๆ แต่อยากให้เรารู้ไว้ว่า คนอื่นๆก็ต้องเจอปัญหาคล้ายๆกับเรา แต่ทุกคนต้องทำทางออกสำหรับปัญหานั่นๆด้วยตนเอง และก็จำไว้ ชีวิตฉัน ฉันเป็นคนกำหนดhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png ขอจบไว้แค่นี้

0
นานา 23 พ.ย. 61 เวลา 20:47 น. 5

เป็นกำลังใจให้นะคะ อย่างแรกเลยอยากให้หนูให้อภัยคุณแม่ก่อน แม่ของหนูเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาที่ไม่สมบูรณ์แบบ มีการกระทำที่ผิดพลาดหรือมีความคิดที่ผิดพลาดได้ หนูเองเมื่อโตขึ้นก็อาจเลี้ยงลูกได้ไม่สมบูรณ์แบบได้เช่นกัน ชีวิตคุณแม่คงเจอความกดดันมามากจนเอาความกดดันนั้นมาใส่ไว้ที่ลูก คาดหวังกับลูกจนเกินพอดี มันเป็นการยัดเยียดความเครียดให้ลูกอย่างที่ตัวแม่เองก็ไม่รู้ตัว

ส่วนใหญ่เด็กที่โตมากับคุณแม่แบบนี้แรกๆก็เป็นเด็กดี เรียบร้อย อดทน จนถึงจุดหนึ่ง จะอยากเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ก็จะเริ่มเตลิดไปจากแม่

ตอนนี้ตัวหนูเองคงไม่สามารถหักดิบสุดโต่งกับคุณแม่ได้ และพี่แนะนำว่าไม่ควร เพราะไม่ว่าอย่างไรเราก็รักแม่ และแม่ก็รักเรา การทำรุนแรงประชดกัน มันได้แค่ความสะใจสั้นๆแต่ทำลายหัวใจได้นาน

แนะนำให้หนูพยายามทำความเข้าใจหัวอกของคุณแม่ แต่ไม่ต้องทำตามเค้าในอะไรที่มันฝืนหัวใจเรา เพราะไม่งั้นต่อไปหัวใจเราจะพังไปด้วย ให้พูดจากันอย่างใจเย็น เค้าไม่เย็นก็ให้มองว่าเค้าป่วยทางใจ แต่เราจะฝึกตัวเองให้เย็น อาจขอความสนับสนุนจากญาติผู้ใหญ่ ตา ยาย น้า อา เรื่องความเห็นของเรา ว่าเราอยากเรียนในสิ่งที่เราถนัด เราจะทุ่มเทตั้งใจ และมีความสุขกับมัน

1
.... 24 พ.ย. 61 เวลา 17:25 น. 5-1

"ส่วนใหญ่เด็กที่โตมากับคุณแม่แบบนี้แรกๆก็เป็นเด็กดี เรียบร้อย อดทน จนถึงจุดหนึ่ง จะอยากเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ก็จะเริ่มเตลิดไปจากแม่"


เห็นด้วยค่ะ

0
Dolphin_w 23 พ.ย. 61 เวลา 21:00 น. 6

ขอเป็นกำลังใจให้นะคับ ไม่อยากให้เครียดเลย พี่เข้าใจเพราะปีก่อนพี่ก็พึ่งสอบเข้าม.4 พี่ก็เครียด เเละเหมือนกับน้องนั่นเเหละที่คิดว่าตัวเองต้องสู้อยู่คนเดียว เเต่จริงๆเเล้วพี่อยากให้น้องมองที่น้องอยากเป็นหมอ เพราะอะไร อยากเป็นเพราะความสุข? เพราะความฝัน? หรือเพราะอะไร การที่น้องเครียดน้องเพราะอาจจะยังไม่ปล่อยวางกับอดีตก็ได้คับ ลองกลับมานั่งคิดกับตัวเอง ว่าที่เราล้มเหลวเพราะอะไร ดีกว่าการไปนั่งโทษตัวเองว่าหัวเราไม่ได้เรื่อง ถ้าน้องคิดอย่างงั้นเกมก็จบตั้งเเต่ยังไม่เริ่มเเล้วคับ อยากให้น้องวิเคราะห์มันออกมาเเล้วปล่อยมันไปดีกว่าคับ

ลองอะไรอื่นทำคายเครียดก็ได้คับ การสอบเข้าไม่จำเป็นต้องอ่านตลอดเวลา เเค่รู้เวลาเเล้วอ่านให้เป็นเเค่นี้เราก็ทำได้เเล้ว

เเต่ถ้าน้องไม่อยากเป็น หรือไม่ชอบสไตล์เเบบนี้ พี่ก็ให้น้องเลือกเองดีกว่านะคับ

ก็ไม่อยากให้มันเครียดกับมันมากนะคับ การเครียดไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเเต่กลับทำให้เเย่ลง การล้มเเล้วยังคงล้มอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเช่นกัน อยากให้น้องลุกขึ้นเเล้วมองก้อนหินที่ตัวเองสะดุดเเล้วเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง โดยจำไว้ว่าเราเคยสะดุดมันเเล้วเราจะไม่สะดุดมันอีกเป็นครั้งที่สอง อย่างน้อยการเดินไปข้างหน้าก็ช่วยเปิดทางอีกหลายๆทางให้น้องนะคับ

สู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้เสมอนะคับ

ขอฝากว่าอย่าเครียดนะคับ ชีวิตเรายังมีอะไรอีกมาก อย่าคิดสั้นเป็นอันขาดนะคับ

//ยาวไปนิดวุ้ย

0
ท้อก็พักแล้วสู้ต่อ 23 พ.ย. 61 เวลา 21:28 น. 7

มั่นใจว่าจะเรียนหมอใช่ไหม ต่อให้น้องเรียนไม่เก่งแต่อย่าท้อ น้องก็นึกตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าจะเข้าหมอรอบ3 กสพท. ของระบบ TCAS พอน้องเข้ามอ.4 สายวิทย์ได้เกรดมันไม่ได้สำคัญมาก เพราะพี่เองแรกๆเข้า มอ.4 รร.ใหม่น้องเชื่อไหมพี่ปรับตัวไม่ได้เละเทะมากเทอมแรกได้เกรด 2.31 นั้นคือต่ำสุดในชีวิตพี่เลย แต่ตอนนี้พี่ม.5 แล้ว เกรดพี่ก็เพิ่มเฉลี่ยนรวมนี่ก็เกิน2.5 กว่าๆเกือบ2.6ล่ะ (หน่า พี่ดูเรียนไม่เก่งใช่ไหมล่ะ ใช่สิ!! หึหึ) แต่อย่าถอยนะสู้ๆถ้าน้องจะเข้ารอบ3 กสพท. แต่น้องต้องขยัน ไม่ต้องรีบเรียนนะ ถ้าไม่เข้าใจอย่าฝืนดันทุรังเรื่องที่เรียนในวันนั้นๆ ให้น้องหยุดก่อน ทำมาร์กิ้งจุดที่ไม่เข้าใจแล้วไปถามเพื่อน ครู อาจารย์ หรือใครก็ได้ที่น้องคิดว่าเขาช่วยได้ ค่อยๆเรียนเก็บเนื้อหาให้เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในห้อง หรือ อ่าน นส.เพื่อเก็บเนื้อหาสอบหมอนะครับ อย่าหักโหมมากจนเกินไปนะครับ ถ้ารู้สึกอึดอัดไม่ไหวก็พักก่อนนะครับ กลัวเสียสุขภาพเนื่องจากหักโหม ^-^


//ไม่ต้องเครียดนะครับ กว่าจะเป็นหมอนั้นยากมีหลายคนที่ซิ่วไปเป็นปีสองปี เลยนะครับถึงยังไงพี่ก็เป็นกำลังใจช่วยนะครับ ถ้าแม่ไม่เป็นกำลังใจช่วย หรือคิดว่าไม่มีใครรักเรา ให้ มองที่ตัวเองรักตัวเองให้มากๆอย่าแคร์คำพูดหรือคนที่ทำร้ายเรามาก แต่ให้ความสำคัญกับตัวเองดูแลตนเองและคนที่คอยสนับสนุนเราก็พอนะครับ สวัสดีครับ^-^

0
TAMA_KEIICHIROU 23 พ.ย. 61 เวลา 22:04 น. 8

โหน้อง จะเครียดทำไม ตอนม.3GPAพี่แค่1กว่ายังสอบต่อม.4ได้เลย จบม.6ก็ใช่ว่าเกรดจะดี ก็กลางๆ เข้ามหาลัยก็ได้

อย่าไปซีเรียส พยายามให้ถึงที่สุดก็พอแล้ว

0
Anonymous 23 พ.ย. 61 เวลา 23:11 น. 9

ลองเรียนไปก่อนก็ได้ครับ พี่เองก็เรียนสายวิทย์มาตอนมัธยม คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แทบจะสอบตกทุกครั้งที่สอบเลยครับ แต่จะได้คะแนนดีด้านสังคมและภาษามากกว่า แม่พี่ก็อยากให้เรียนหมอ ญาติๆส่วนใหญ่ก็อยากให้เรียนสายวิทย์สุขภาพ(หมอ เภสัช อื่นๆ)พี่เลยเรียนสายวิทย์มา แต่ยังดีที่พ่อพี่เข้าใจเลยให้เรียนพิเศษสังคม และเน้นภาษาด้วย แต่ด้านแม่ก็ยังให้เรียนพิเศษด้านวิทย์อยู่ เพราะยังไงถ้าเรียนหมอจริงๆเวลาสอบเข้าเค้าใช้คะแนนทุกวิชาแหละครับ ตอนสอบพี่ก็ต้องไปสอบวิชาเฉพาะแพทย์ด้วย แต่พอสอบออกมาแล้วคะแนนด้านวิทย์พี่ไม่ได้ดีหรอกนะ แต่คะแนนภาษาพี่ดี แม่พี่เลยยอมให้เรียนสายศิลป์ในมหาลัย เหมือนมาเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังแต่สรุปก็คือถ้ายังไงเรียนสายวิทย์ต่อก่อนได้ครับ ประนีประนอมกับแม่น้องไว้ ค่อยๆคุยกันไปสามปี น้องต้องตั้งใจเต็มที่เพื่อแสดงให้แม่เห็นว่าน้องพยายามอย่างมากแล้ว ถ้าคะแนนน้องไม่ได้จริงๆยังไงก็ไม่ได้ครับ ถึงเวลานัเนแม้น้องจะต้องเข้าใจได้แน่ครับ

1
Anonymous 23 พ.ย. 61 เวลา 23:22 น. 9-1

แม้น้องเค้าอาจอยากให้น้องมีอนาคตที่ดีครับ สายวิทย์สุขภาพมีข้อดีอย่างมากอยู่ข้อนึงเลยคือเมื่อเราสามารถเรียนจบแล้วจะมีงานครับ งานจะหนักเบาตามแต่ละสถานที่ต่างกันไป แต่หากเรียนสายศิลป์จะมีงานที่รองรับแน่ๆน้อยมากครับถ้าไม่มีใครจองตัวไว้ตอนปีท้ายๆก็ต้องไปหางานเองครับ ต้องเก่งมากจริงๆ

0
ยิ้มมม 23 พ.ย. 61 เวลา 23:15 น. 10

เข้ามาให้กำลังใจนะคะ


ตอนนี้พี่เรียนหมออยู่น้าา พี่อยากจะบอกว่าอดีตมันผ่านไปแล้ว เรื่องที่เกรดเทอมที่ผ่านแย่ก้ผ่ายไปแล้ว ตอนนี้น้องมีปัจจุบันและอนาคตในมือน้องนะ เพื่อนพี่ที่เรียนหมอก้มีคนที่เค้าเคยเกรดแย่ เกเรมากๆตอนมอต้นเหมือนกัน แต่มอปลายเค้าก้ดีขึ้นและเข้าหมอได้เหมือนกันค่ะ


ที่น้องบอกว่าแม่อยากให้เรียนสายวิทย์คณิตแต่เรียนต่อรร.เดิมไม่ได้ พี่อยากให้เลือกสายการเรียนที่'น้อง'ชอบดีกว่า น้องลองถามตัวเองดูว่าเราอยากเรียนวิทย์คณิตจริงๆมั้ย เพราะถ้าเราชอบพี่เชื่อว่าตอนมอปลายน้องจะทำได้ดีค่ะ ถ้าเกรดไม่ถึงที่จะต่อรร.เก่า น้องมีทางเลือกอีกมากมายเลยที่ยังจะเรียนวิทย์คณิต(หรือศิลป์ก้ตาม) ทั้งการย้ายรร. หรือสอบเข้าม.4ใหม่ที่รร.เดิม (รร.พี่มีนะ จุดนี้ลองปรึกษาอาจารย์แนะแนวดูน้า อย่าแค่ถามเพื่อนเลย บางทีเราจะพลาดโอกาสไป)


คณะแพทย์ก็เป็นอีกหนึ่งคณะที่ดีนะคะ เรียนลึกด้านร่างกายเลย เวลาเจอเรียนเจอโรคที่เคยเจอตอนเด็กๆก็จะตื่นเต้นมากๆ เรียนพวกอนาโตมี่ก็สนุกดี แต่ก็อ่านหนังสือหนักและตัดเกรดโหดเหลือเกิน TT มีแต่คนเก่งๆ มารวมกัน แต่พี่ว่าถ้าชอบก้จะรุ่งมากๆเลย อนาคตก้จะได้ช่วยผู้คนอีกมากมาย (หมอ 1 คน ตลอดช้วงชีวิตสามารถช่วยรักษาคนได้ถึง 200,000 คนเลยนะคะ)


สู้ๆนะคะะ จากคนที่ไม่ได้อยู่กับพ่อเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้ค่ะ

1
ยิ้มมม 23 พ.ย. 61 เวลา 23:21 น. 10-1

ปล. ถ้าน้องอยู่ต่างจังหวัด มันจะมีโครงการ CPIRD ODOD ที่เข้าง่ายกว่ารอบกสพท.ค่ะ สอบแข่งแค่ในจังหวัด/อำเภอ ถ้าสนใจลองถามอาจารย์แนะแนวดูนะคะ หรือทิ้งคำถามไว้ก้ได้ค่า

0
ปี1จะตายแล้วจ่ะ 24 พ.ย. 61 เวลา 00:06 น. 11

น้องคะในฐานะที่พี่่ก็็เคยผ่านช่วงเวลาที่มันยากแบบนี้มาแล้ว พี่จะบอกน้องว่าสุดท้ายแล้วชีวิตน้องมันก็คือของน้องนะคะ น้องมีอนาคตเป็นของตัวเอง ไม่ควรยอมให้ใครมาจูงจมูก ทางที่ดีพี่ว่าหนูควรลองคุยกับคุณแม่อย่างจริงจังนะคะเพื่อบอกท่านไปเลยว่าปัญหาอยู่ตรงไหน พี่เชื่อว่าคุณแม่ของหนูก็รักหนูมากเลยเลือกสิ่งที่ดีในความคิดของท่านให้กับหนู แต่สุดท้ายแล้วอย่างที่เคยบอกค่ะว่าชีวิตของน้องเป็นของน้องเอง ถึงเวลาต้องเลือกทางเดินสู่อนาคตเนอะ ถึงตอนนั้นน้องคงตัดสินใจได้เองว่าควรทำอะไร เป็นกำลังใจให้นะคะ

0
ผ่านมาอล้วววววว 24 พ.ย. 61 เวลา 11:07 น. 12

สำหรับพี่ยังแนะนำให้เรียนสายวิทย์คณิตนะคะ มันมีทางเือกเยอะกว่าคาะ โดยส่วนตัวใครบอกว่าวิทย์คณิตยากมันก้ไม่ได้ยากที่คิดหรอก หลายคนชอบแปลุกฝังกันเองว่ายากแต่ก้ไม่ได้ขนาดนั้นค่ะ ถ้าตัวนอนไม่ได้มีความโดดเด่นไปเลยทางด้านภาษา หรือทางด้านความสามารถพิเศษวาดรูป หรือดนตรีอะไรพวกนี้ พี่ไม่แนะนำให้เรียนสายศิลป์นะคะ โดยส่วนตัวคิดว่าให้เรียนไปก่อนพอเข้าไปได้ที่เนียนอยุ่ก้จะเป็นเรื่องปกติไปเองค่ะ ในส่วนเร่่องการต่อแพทย์เรื่องของแพทย์ไม่ใช่แค่ขยันก้ไปได้ต้องสมองดีเป็นฐานอยู่แ้วเพราะฉะนั้นแม่ฝืนให้เข้าก้เข้าไม่ได้หรอกค่ะ5555555 เพราะฉะนั้นเวลาสามปีมี่อยู่ในรั้วมปลาย ก้ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ ตามจริงคนเราแทบไม่รุ้หรอกค่ะว่าอะไรเป้นสิ่งที่ถนัดมันต้ององผิดลองถุกไปเรื่อง บางคนลองมาทั้งชีวิตก้รุ้ว่าสิ่งที่ถนัดคือนอนโง่อยุ่บนเตียง5555..... เพราะฉะนั้นพี่อยากให้ยน้องลองในกรอบที่กว้างกว่ากรอบแคบๆอย่างเรียนสายศิลป์ พี่แค่ลองคิดว่าถ้าสมัยก่อนพี่เลือกสายศิลแ์ในตอนนี้จะเป็นยังไงก้นึกไม่ออกแล้วค่ะ


ปล.ถ้าน้องคิดว่าตัวเองหัวไม่ไปจริง คณิตไม่ใช่ ภาษาไม่ชอบ แนะนำต่อปวชปวสไปเลยดีกว่า ทำงานเร้วหางานง่ายกว่าป.ตรีอีกค่ะ

0
Tipp 24 พ.ย. 61 เวลา 11:42 น. 13

เห็นใจและเข้าใจนะคะ น้าเองก็มีลูก อยู่ ม.3เหมือนกัน วิทย์ กับคณิต ก็ไม่ค่อยดี เหมือนกัน ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ลองให้คุณครูที่สนิท ช่วยคุยกับคุณแม่ดีไหมคะ เรียนสายอื่น ก็มีอาชีพ ที่ดีนะ ยังเอาใจช่วยนะคะ

0
Theglen 24 พ.ย. 61 เวลา 12:35 น. 14

พี่อยากให้น้องลองคิดดูให้แน่ใจก่อน (ซึ่งน้องก็ยังมีเวลาคิดอีกตั้งหลายปีจนถึง ม.6 น่ะนะ) ว่าที่น้องบอกว่าอยากเป็นหมอเนี่ย เป็นความปรารถนาที่แท้จริงของน้องหรือเปล่า มันเป็นเนื้อแท้ของสิ่งที่น้องอยากเป็นจริงๆ หรือเป็นแค่เปลือกนอกที่น้องสร้างขึ้นมาหุ้มเนื้อแท้เพื่อหลอกตัวเองกันแน่

อย่าเข้าใจผิดว่าพี่ดูถูกความตั้งใจของน้องนะ มันแค่เป็นสิ่งที่พี่กำลังประสบอยู่ตอนนี้จริงๆ แค่นั้น พี่เลยมาเตือนไว้ก่อนเพื่อไม่ให้น้องต้องมาทรมานเหมือนพี่อีก

คือยกตัวอย่างพี่เนี่ย ตอน ม.ต้น โดนพ่อแม่ล่อว่าเป็นอัยการแล้วมันดีอย่างนั้นอย่างนี้จนพี่เห็นดีเห็นงามด้วย เลยบอกว่าตัวเองอยากเป็นอัยการ ซึ่งพอมามองย้อนกลับไปแล้วพี่ว่าตอนนั้นพี่กำลังหลอกตัวเองอยู่ชัดๆ แต่พี่ก็ยังหลอกตัวเองอยู่อย่างนั้นเรื่อยมาจนเข้าคณะนิติศาสตร์ในมหาลัยที่หวังไว้ได้ แต่พอลองเรียนแล้วกลับกลายเป็นว่าพีไม่ได้ชอบกฎหมายเลย ไม่ได้อยากเรียนกฎหมาย ไม่ได้อยากเป็นอัยการ แต่พอจะหันหลังกลับตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว

ก็นั่นแหละ พี่แค่ไม่อยากให้น้องต้องมาประสบอะไรแบบเดียวกับพี่เลยมาเตือนไว้ก่อน

0
Theglen 24 พ.ย. 61 เวลา 12:49 น. 15

อีกเรื่องนึง น้องชอบเลขหรือวิทยาศาสตร์หริอเปล่า หรือชอบแต่กลับทำไม่ได้ดี แล้ววิชาจำพวกไทย อังกฤษ สังคม ประวัติศาสตร์อะไรแบบนี้ล่ะชอบไหม ทำได้ดีหรือเปล่า ถ้าน้องชอบและทำวิชาทางสายศิลป์ได้ดีก็ลองปรึกษาอาจารย์แนะแนวดูนะว่าควรจะไปเข้าสายศิลป์แทนไหม คืออย่างพี่เนี่ย เกรด ป.1 - ม.3 พี่ย่ำแย่มาก ได้แค่ประมาณเกรด 1 กว่าๆ - 2 ต้นๆ แต่พอเข้าสายฝรั่งเศสตอน ม.ปลายที่ไม่ต้องเรียนเลขกับวิทย์ยากๆ อีกแล้ว เกรดพี่ก็พุ่งไปถึง 3.6 ปลายๆ เลยจ้า

หรือน้องจะลองทำตามที่พี่คนข้างบนแนะนำก็ได้ว่าลองทู่ซี้เรียนสายวิทย์ไปก่อน แต่ก็เรียนวิชาทางศิลป์คู่ไปด้วย อะไรอย่างนั้นก็ได้นะ

แล้วก็อย่าลืมว่าชีวิตน้องเป็นของน้องเองนะ

0
Theflooknado 24 พ.ย. 61 เวลา 14:38 น. 16

พี่เป็นเหมือนน้องเลยคะ ปัจจุบันพี่เรียนสายวิทย์ ตามใจพ่อกับแม่มาตลอดเลยคะ ซึ่งพี่ไม่ชอบวิทย์หรอกนะคะแต่พี่ก็ไม่อยากทำให้พ่อกะแม่ผิดหวัง พี่ยังไม่รู้เลยคะว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดด้านอะไร เพราะพ่อกะแม่ปูทางให้ตลอดเลย เคยจะร้องขอ ซิ่วไปเรียน สายภาษาเพราะว่าพี่ชอบภาษาแต่แม่ไม่ปลื้มเท่าไหร่คะ เลยต้องจำใจเรียนทางสายนี้

สู้ๆนะคะพี่เป็นกำลังใจให้ พ่อแม่ทุกคนหวังดีกะลูกเสมอแหละคะ คงอยากให้น้องได้ดีนะ

0
รักโดยอง 24 พ.ย. 61 เวลา 18:29 น. 17

ตอนม.ต้นพี่เรียนห้องกิฟวิทย์ ตอนแรกก็อยากต่อสายวิทย์นะเพราะเพื่อนจะต่อสายนี้กันหมด แต่พี่เพิ่งมารู้ตัวตอนม.3เทอม2ว่าชอบภาษามากกว่า พี่แยกออกมาเรียนสายศิลป์คนเดียวในกลุ่มเพื่อนเลย อยากให้น้องเลือกในสิ่งที่ชอบ ลองคุยกับคุณแม่ดูนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

0
ใส่เปิ๊กคนไร้ตัวตน 24 พ.ย. 61 เวลา 18:40 น. 18

อย่ามารู้สึกเสียใจทีหลังแบบเราเลยค่ะ​ ไม่มีอะไรเลยจริงๆแม้กระทั่งความชอบ​ บางทีก็คิดว่าชีวิตที่มีอยู่ตอนนี้เหมือนกับไม่ใช่ชีวิตของเราเลยค่ะ​ #รักตัวเองบ้างนะคะ​ อย่าเพิ่งคิดมากเลยค่ะ​ ถึงเกรดจะแย่ในสายวิทย์​ ลองดันทุรังเรียนไปอีกสักหน่อยเถอะค่ะ​ สู้ๆนะคะ​ เราตอนนี้เรียนป.ตรีปี3 แล้วค่ะ​ ตอนเรียนม.ปลาย​เกรดน้อยมากค่ะ​ ประมาณ​ 2.5 กว่าๆ​ ถึงยังไงสายวิทย์ก็มีหลายแขนงนะคะ​ เราเชื่อว่าน้องคงจะย้ายที่เรียนไม่ได้แน่ๆ​ เพราะในตอนนั้นพี่ก็ทำไม่ได้ค่ะ​ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย​ หรือที่เรียนใหม่มันหาไม่ได้จริงๆ​ พ่อแม่ก็ไม่สนับสนุนค่ะ​ เราก็เลยดันทุรังเรียนไปเรื่อยๆในสายวิทย์น่ะค่ะ​ แต่เกรดก็ดีขึ้นค่ะ​ เพราะเราพยายามมากด้วยแหละค่ะ​ ศักดิ์ศรี​เราก็แรงกล้ามากด้วย​ เหมือนกำลังพิสูจน์​ตัวเองเลยค่ะ​ ถึงแม้ว่าจะมองกลับไปช่วงเวลานั่นทีไรก็เสียดายเวลาทุกที​ โดนดูถูก​ โดนด่า​ โดนมองเหมือนอากาศจากคนที่เป็นครอบครัว​ มันทรมานมากค่ะ​ เพราะเราตอนนี้ก็ยังไม่สามารถเป็นอย่างที่เขาหวังไว้ได้เลยค่ะ...

0
คนรักการอ่าน 24 พ.ย. 61 เวลา 21:03 น. 19

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ พี่คิดว่าน้องคุยกับแม่เองแม่อาจจะไม่เข้าใจ น้องลองไปปรึกษานี้กับญาติผู้ใหญ่ที่แม่เคารพ เช่น ปู่ย่าตายาย หรือ คุณครูที่โรงเรียน แล้วให้บุคคลที่น้องปรึกษาช่วยคุยกับแม่ให้ พี่ว่าน่าจะดี พี่เป็นหมอพี่สามารถพูดได้เลยว่าตอนเรียน หรือแม้แต่ตอนทำงานมันไม่ได้สบายนะคะ หนักกว่าอาชีพอื่นหลายๆอาชีพ และรายได้ไม่ได้ดีไปกว่าหลายๆอาชีพ รายได้ที่เหมือนจะเยอะ แลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยและความกดดัน

0
Mister Diiji 25 พ.ย. 61 เวลา 20:51 น. 20

สายวิทย์ กับ สายศิลป์

ในสายตาของผมแทบไม่ต่างกัน

วิทย์ ย่อ มาจากวิทยาการ


คนที่ไม่รู้ตรงนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนไม่ใส่ใจ เถียงคอ

คอเป็นเอ็ด ถ้าแม่ค้าพ่อค้ารู้ดีมาทำงานศาสดา

จารย์เลยเอาไหม


แม่ค้าขายข้าว ขายอาหาร เป็นส่วนหนึ่งวิทยาการ

ถ้ามองจากนักเคมี คนเราอย่าทำอะไรเพราะความ

สนใจ หรือ ใจรัก ถ้าไม่ถนัดก็หวยแตก


ไม่ได้ด่านะ เพราะไม่ยอมรับว่าตนถนัดวิชาอะไร

ถ้ารู้ตัว บุคคลนั้นเรียนรู้เร็วได้ เหมือนที่แอลเบิต์ร

ไอไตล์บอก


ปลาไม่สามารถไต่ต้นไม้ ลิงไม่สามารถว่ายน้ำได้

แต่เพราะรู้ว่าตนถนัดอะไร แล้วไปให้สุดทาง แล้ว

ค่อยพัฒนาตนที่หลัง ไปได้ไกล้กว่า


เพราะคนที่ถนัดเมื่อเรียนมัธยมจบไปแล้ว ไม่ต้อง

กลับมาเรียนมัธยมอีก แต่ในกรณีมหาวิทยาลัย

นั้นต่างกัน สามารถกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยใหม่


ตรงนี้ เป็นของจริง เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาตนเอง

คุณจขกทเรียนสายวิชาที่ตนถนัดก่อนเลย ศาสตร์

อื่นวันนี้ เราไม่ถนัด แต่ไม่ใช้ว่าวันข้างหน้าเราไม่


ถนัดเสียเมื่อไร มนุษย์ทุกคนอยู่ที่การออกแบบ

ตนเอง คุณจขกทเอาสายที่ตนถนัดแล้วไปทำงาน

อาชีพที่ตนถนัน เก็บเงิน หลังจากนั้นจะเรียนต่อ


ฟิสิกส์วิทยาการ

เคมีวิทยาการ

ชีวะวิทยาการ


คนที่จบปริญญาตรี ไม่ว่าสายไหนผมกล้าท้า ถ้า

หัวใจยังมีความอยากสามารถพัฒนาตนไปได้ ใน

ทุกอาชีพ ตรงนี้อย่าเพิ่งด่าผม อ่านให้จบและถ้วน


ถี คนที่แทบไม่รู้อะไรเลย แล้วให้ความรู้ผิดๆ มัน

ใช้เหรอ ขายข้าวผัด ถ้าให้นักเคมีวิทยา ไปขาย

รับรองทำร้อยจาน ขายได้ร้อยจาน ก่อนที่ไปว่า


ทำอาชีพนั้นไม่ดี อาชีพนี้ไม่ดี ก่อนจะว่าอาชีพ

ถามหน่อยเถอะมีความสามารถไปทำอาชีพนั้น

โดยไม่เคยศึกษา วิธีการทำ การปรุง ใส่ทุกราย


ละเอียด *บึง ใส่ใจเก็บรายละเอียดบางไม ไม่ใช้

เป็นคนไร้ความสามารถไปวิจารณ์อาชีพ บุคคล

อื่น ความสามารถไม่ถึงควรหมันฝึกฝนวิชา ถึง


เอาตัวรอด ไม่ใช้มาบ่น* ผมบ่นตรงไหน ตรงดอก

จันทร์นั้นแหลาะ อ่านให้ดีๆ ครับ ผมไม่ชอบบุคคล

ประเภทนี้ มากก ครับ คนที่เรียนจบมหาวิทยาลัย


สามารถกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยได้ครับ อย่า

มาบ่น

0