ข้อสงสัย ซาลาเปา ขนมจีบ อีแปะ ชั่ง จีนโบราณ( สำหรับเขียนนิยาย )
ตั้งกระทู้ใหม่
คือเรากำลังเขียนนิยายอยู่อยากให้ตัวเอกค้าขายแต่ไม่รู้จะใช้ค่าเงินยังไง
ตัวอย่าง
ซาลาเปา 1 ลูก 5 อีแปะ
ขนมจีบ 10 ลูก 3 อีแปะ
ถั่วเขียว ถั่วเหลือง 1 ชั่ง (500กรัม) 1 ตำลึงเงิน ดีไหม
ปลาหนัก 2 ชั่ง 30 อีแปะ ดีไหม
(1,000 อีแปะ 1 ตำลึงเงินถูกไหม)
หรือราคาจะถูกไปคะ แนะนำที
5 ความคิดเห็น
จขกทตั้งราคาเองเลยค่ะ แต่ระบุให้นักอ่านเก็ทด้วยว่าเป็นสภาวะแบบไหน
ถ้ายุคข้าวยากหมากแพงก็เขียนแพงหน่อย
ถ้าสงบสุข ก็เขียนถูกหน่อย
แต่ละเมืองก็ขายไม่เท่ากัน ถ้าติดทะเล ก็เขียนให้ข้าวสารแพง ปลาถูก
ถ้าพื้นที่ราบก็ข้าวสารถูก ซาลาเปาก็จะถูก ผักก็จะหลายชนิด
แล้วราคาที่เราตั้งไปพอได้ไหมคะ อยากขายซาลาเปาเป็นลูก ไม่มีสงครามบ้านเมืองสงบสุขค่ะ 5อีแปะ หรือน้อยไป ช่วยทีค่ะ
ตอบไม่ตรงคำถามนะคะ.
ชั่งของคนจีนส่วนใหญ่จะประมาณ 6 ขีด ค่ะ
เสี่ยวหลงเปาไม่ใช่อันที่เหมือนเกี๊ยวแล้วมีน้ำซุปหรอคะ
ขอบคุณค่า
แล้วราคาที่เราตั้งไปพอได้ไหมคะ อยากขายเป็นลูก
ตอนแรกว่าจะเตือนเจ้าของความเห็นสักหน่อย กลับมาดูอีกรอบไม่ต้องเตือนแล้ว ที่เราจะเตือนคือเสี่ยวหลงเปากับซาลาเปาคนละอย่างกันแต่เป็นหม่านโถวชนิดหนึ่งเหมือนกัน
เราไปลองค้นประวัติมาให้ แต่ขอพูดแบบย่อๆละกัน
ซาลาเปา นี่ขงเบ้งเป็นคนคิดค้นขึ้นมา แต่คนสมัยนั้นเห็นว่าวิธีการทำค่อนข้างยุ่งยาก เลยลดขั้นตอนเอาไส้ที่แต่เดิมใช้เนื้อวัวหรือเนื้อแพะออก กลายเป็นหมั่นโถว
ต่อมาสมัยราชวงศ์ซ่ง ถึงได้เริ่มทำมีขนาดเล็กลง และเริ่มใส่ไส้ต่างๆ ราคาสมัยนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณขายที่ไหน หากเป็นย่านใจกลางเมือง ตามร้านอาหารราคาก็จะอยู่ที่ 1 ลูก 1-2 อีแปะ แต่หากจุดที่เลือกขายเป็นเขตชานเมือง 1 อีแปะ อาจได้ซาลาเปามา 5-6 ลูก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณอัพสกิลต่อราคาไว้แค่ไหน ส่วนในสมัยราชวงศ์หมิงและชิงนั้นราคามาตรฐานอยู่ที่ 1 ลูก 5-6 อีแปะ
สำหรับขนมจีบนั้น เริ่มเป็นที่รู้จักก็ในสมัยราชวงศ์หยวน (มองโกล) สาเหตุเป็นเพราะขนมจีบเป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองของชาวมองโกล ในสมัยก่อนมักจะขายในลักษณะเป็นของกินเล่นในร้านน้ำชา ปกติเข่งหนึ่งจะมีประมาณ 6 ลูก ราคาอยู่ที่ประมาณเข่งละ 6 อีแปะ
หึมมมม ดีใจจนน้ำตาจะไหล
ขอบคุณมากๆนะคะ
ลองไปค้นเพิ่มมาอีกหน่อย...
ของกินประเภทข้าวและธัญพืชต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง โดยปกติจะใช้ “โต่ว” เป็นหน่วยในการชั่งน้ำหนัก โดยมีหน่วยที่ใช้ในการวัดดังนี้
1 ต้าน = 10 โต่ว (1 โต่ว หนักประมาณ 15 กิโลกรัม)
1 โต่ว = 10 เซิง (1 เซิง หนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม)
1 เซิง = 10 เก่อ (1 เก่อ หนักประมาณ 150 กรัม)
1 เก่อ = 10 ช้อน (1 ช้อน หนักประมาณ 15 กรัม)
1 ช้อน = 10 เชา (1 เชา หนักประมาณ 1.5 กรัม)
1 เชา = 10 จัว (1 จัว หนักประมาณ 0.15 กรัม)
1 จัว = 10 หลี่ (1 หลี่ หนักประมาณ 0.015 กรัม)
เท่าที่เราค้นเจอ ราคาข้าวสารและธัญพืชประมาณ 1 ต้าน จะอยู่ที่ราว 7-8 อีแปะ
ส่วนปลานั้น ตัวหนึ่งจะตกอยู่ที่ราวๆ 1,000 อีแปะ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ราคาแพงมหาโหดแบบนี้ เกิดจากการที่ในสมัยก่อน ไม่มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการจับปลามากนัก ปลาที่จับได้ ส่วนใหญ่มักเป็นปลาตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่ใช่ปลาเลี้ยงเหมือนอย่างในปัจจุบัน ยิ่งเป็นตัวเมืองที่อยู่ห่างแหล่งน้ำ ราคายิ่งแพงตามระยะทางที่จัดส่ง
1000 อีแปะ คือ 1 ก้วน หรือ 1 ตำลึงเงินใช่ไหมคะ
อยากทราบนิดนึงว่า พล๊อตที่ตั้งไว้ กะจะอ้างอิงประเทศจีนในช่วงราชวงศ์ไหน จะได้ตอบได้ถูก
เงินไทยเรา หนึ่งร้อยสตางค์เท่ากับหนึ่งบาท ส่วนเงินจีนโบราณ คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ หนึ่งร้อยอีแปะคงเท่ากับหนึ่งตำลึงเงินจีน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?