อายุตัดสินความเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ได้หรือไม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
7 ความคิดเห็น
ก็ไม่รู้ว่า "ทำตัวไม่เหมาะสม" ที่ว่าคืออะไรนะครับ แต่ที่แน่ๆ ถ้ารับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้ อายุเท่าไหร่ก็ไม่นับว่าโตละ
ขอบคุณมากครับ
เราเห็นด้วยบางส่วนกับคำว่า"รับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้" ของคุณ Shalnark T Diabolus โดยถ้าหากคำๆนี้หมายถึงการมีวุฒิภาวะไม่พอ การไม่ขวนขวายพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง หรือการเป็นตัวถ่วงต่อคนอื่นอย่างจงใจ
สำหรับคนที่มีคุณสมบัติอย่างนั้น เราก็ชอบเผลอเรียกให้ง่ายว่าเขาคนนั้นทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่หรือทำตัวไม่เหมาะสมสมเป็นผู้ใหญ่หรือรับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้ แต่...
เอาจริงๆคำว่า"รับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้" ก็คลุมเครือไม่แพ้คำว่า"ทำตัวไม่เหมาะสม"อยู่ดี เพราะเวลาหลายคนใช้คำนี้ พวกเขาใช้เพื่อตัดสินคนที่กำลังตกงานหรือไม่มีรายได้หรือเป็นภาระของคนอื่น
มันดูไม่เป็นธรรมกับคนบางจำพวก เพราะในกลุ่มคนดังกล่าว บางคนตกงานเพราะประสบอุบัติเหตุและกำลังนอนป่วยติดเตียง หรือบางคนตกงานเพราะธุรกิจล้มละลายอย่างคาดไม่ถึง จะว่าไปแล้วในบั้นปลายของชีวิต มนุษย์ทุกคนย่อมหนีไม่พ้นความแก่ ความเจ็บและความตาย ต้องเผชิญกับสภาพอ่อนแอ ทำงานไม่ได้ และต้องพึ่งพาคนอื่น เราคงไม่ตัดสินคนเหล่านี้ว่าพวกเขารับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้หรือทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่หรอกใช่ไหม?
ส่วนคำว่า"ทำตัวไม่เหมาะสม(สมเป็นผู้ใหญ่)"มักจะนำไปใช้ปรักปรำคนที่ผู้สัมภาษณ์ไม่ชอบตอนสัมภาษณ์งาน คนที่เพื่อนร่วมงานไม่ชอบหน้า คนที่มีรสนิยมการแต่งตัวบางแบบ คนที่กำลังตกงาน คนที่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินพ่อแม่ในตอนที่อายุมากกว่า 20 แล้ว หรือคนที่ไม่ยอมแต่งงานมีลูก ฉะนั้นเราจำเป็นต้องพิจารณาดูดีๆว่าไส้ในของคำๆนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่ เช่นเดียวกับคำว่า"รับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้"
สำหรับเรา เราต่อต้านการใช้คำทั้งสองข้างต้น เพราะคลุมเครือและมักถูกนำไปใช้กล่าวโทษคนอื่นอย่างไม่เป็นธรรมเสียมากกว่า เราเสนอให้มองว่าการทำตัวเป็นผู้ใหญ่นั้นคือ 1)การมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ กล่าวคือรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ รู้จักใช้เหตุผลและคำนึงถึงสิทธิตนเอง ผู้อื่น มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม 2)รู้จักขวนขวายพัฒนาตัวเองอยู่เสมอทั้งสติปัญญา ทักษะความสามารถด้านต่างๆ และ 3)เปิดใจต่อสิ่งใหม่ๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป เปิดใจในที่นี้ เราหมายถึงตั้งใจฟังและพิจารณาเหตุผลของฝ่ายอื่นๆ
จริงอยู่ที่ในทางกฎหมาย มีเส้นแบ่งเด็ดขาดว่าการบรรลุนิติภาวะคือการเป็นผู้ใหญ่ แต่การทำตัวเป็นผู้ใหญ่ในมิติอื่นๆยังเป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดอ่อน และการเติบโตเป็นเส้นพัฒนาการต่อเนื่องตราบเท่าที่คนเรายังอยากที่จะพัฒนา เราจึงไม่ค่อยชอบเวลามีคนมาขีดเส้นแบ่งฉึบฉับเด็ดขาดว่าใครทำตัวเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่
ขอบคุณครับ
หาก "คำว่าผู้ใหญ่ตามความเป็นจริง"คือ "อายุที่เยอะกว่า" แต่หากหมายถึง "นิสัยผู้ใหญ่นั้น" ตามความเป็นจริงคือ "ผู้ที่ให้คำแนะนำเด็กได้และตักเตือนเด็กได้ถูกต้อง"
หากเป็นอย่างนั้น "แทบจะทั้งหมดที่ผมพบเจอมา" ย้ำว่า "ผมเจอมา" นั้นไม่ใช่ผู้ใหญ่
เพราะ "การกดดันเด็กไม่ใช่การตักเตือน" แต่ควรแนะนำ(แบบไม่ใส่อารมณ์) และชี้ถูกผิดดูให้ดูเหตุและผลไปเลย เพราะหากใส่อารมณ์ = เจ๊งแน่นอนไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่(สำหรับการพูดกันต่อหน้า)
แต่โดยส่วนใหญ่ "มนุษย์โตมาด้วยการหลอกตัวเอง" จึงทำให้ผู้ใหญ่นิสัยเด็กเต็มไปหมด
ตัวอย่างการหลอกตัวเองเช่น "แบกของลำบากแต่ตนทำแบบนี้มาจนชิน จึงคัดค้านทั้งๆที่พัสดุแตก" เพราะมนุษย์ชอบหลอกตัวเองเปนปรกตินั่นแล
ตัวอย่างที่สอง "แฟนทิ้ง จึงคิดว่าเขาไปมีคนอื่น คิดว่าเขาไม่รักแล้ว ไม่ว่าจะคิด(ปรุง)ไปเท่าไหร่" ผิดทั้งหมด "เพราะความจริงคือคุณไม่รู้ว่าเพราะอะไร" แต่หลายๆคน "เชื่อตัวเอง" ทั้งๆที่ก็เห็นกันอยู่ "ตำตา" ว่าความจริงเป็นยังไง "นี่แหละข้อสำคัญของศาสนา" ว่ามีไว้ทำไม "แต่คนปัญญาอ่อนกลับไม่รู้เรื่อง" นั่นแล
ขอบคุณมากครับ ละเอียดมากครับ
โหวตตามหลักนิติอ่ะนะก็...บรรลุนิติภาวะที่ 18 อ่ะ นั่นแหละ ตรงตัว
บางครั้งเราก็คิดไปเองว่าเราเป็นผู้ใหญ่ ทั้งที่จริงๆ แล้ว...ไม่
ขอบคุณครับ
ถึงเราจะโตแล้ว แต่ผู้ใหญ่ก็ยังเห็นเราเป็นเด็กอย่วันยันค่ำละ
เราเห็นด้วยบางส่วนกับคำว่า"รับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้" ของคุณ Shalnark T Diabolus โดยถ้าหากคำๆนี้หมายถึงการมีวุฒิภาวะไม่พอ การไม่ขวนขวายพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง หรือการเป็นตัวถ่วงต่อคนอื่นอย่างจงใจ
สำหรับคนที่มีคุณสมบัติอย่างนั้น เราก็ชอบเผลอเรียกให้ง่ายว่าเขาคนนั้นทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่หรือทำตัวไม่เหมาะสมสมเป็นผู้ใหญ่หรือรับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้ แต่...
เอาจริงๆคำว่า"รับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้" ก็คลุมเครือไม่แพ้คำว่า"ทำตัวไม่เหมาะสม"อยู่ดี เพราะเวลาหลายคนใช้คำนี้ พวกเขาใช้เพื่อตัดสินคนที่กำลังตกงานหรือไม่มีรายได้หรือเป็นภาระของคนอื่น
มันดูไม่เป็นธรรมกับคนบางจำพวก เพราะในกลุ่มคนดังกล่าว บางคนตกงานเพราะประสบอุบัติเหตุและกำลังนอนป่วยติดเตียง หรือบางคนตกงานเพราะธุรกิจล้มละลายอย่างคาดไม่ถึง จะว่าไปแล้วในบั้นปลายของชีวิต มนุษย์ทุกคนย่อมหนีไม่พ้นความแก่ ความเจ็บและความตาย ต้องเผชิญกับสภาพอ่อนแอ ทำงานไม่ได้ และต้องพึ่งพาคนอื่น เราคงไม่ตัดสินคนเหล่านี้ว่าพวกเขารับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้หรือทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่หรอกใช่ไหม?
ส่วนคำว่า"ทำตัวไม่เหมาะสม(สมเป็นผู้ใหญ่)"มักจะนำไปใช้ปรักปรำคนที่ผู้สัมภาษณ์ไม่ชอบตอนสัมภาษณ์งาน คนที่เพื่อนร่วมงานไม่ชอบหน้า คนที่มีรสนิยมการแต่งตัวบางแบบ คนที่กำลังตกงาน คนที่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินพ่อแม่ในตอนที่อายุมากกว่า 20 แล้ว หรือคนที่ไม่ยอมแต่งงานมีลูก ฉะนั้นเราจำเป็นต้องพิจารณาดูดีๆว่าไส้ในของคำๆนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่ เช่นเดียวกับคำว่า"รับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้"
สำหรับเรา เราต่อต้านการใช้คำทั้งสองข้างต้น เพราะคลุมเครือและมักถูกนำไปใช้กล่าวโทษคนอื่นอย่างไม่เป็นธรรมเสียมากกว่า เราเสนอให้มองว่าการทำตัวเป็นผู้ใหญ่นั้นคือ 1)การมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ กล่าวคือรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ รู้จักใช้เหตุผลและคำนึงถึงสิทธิตนเอง ผู้อื่น มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม 2)รู้จักขวนขวายพัฒนาตัวเองอยู่เสมอทั้งสติปัญญา ทักษะความสามารถด้านต่างๆ และ 3)เปิดใจต่อสิ่งใหม่ๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป เปิดใจในที่นี้ เราหมายถึงตั้งใจฟังและพิจารณาเหตุผลของฝ่ายอื่นๆ
จริงอยู่ที่ในทางกฎหมาย มีเส้นแบ่งเด็ดขาดว่าการบรรลุนิติภาวะคือการเป็นผู้ใหญ่ แต่การทำตัวเป็นผู้ใหญ่ในมิติอื่นๆยังเป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดอ่อน และการเติบโตเป็นเส้นพัฒนาการต่อเนื่องตราบเท่าที่คนเรายังอยากที่จะพัฒนา เราจึงไม่ค่อยชอบเวลามีคนมาขีดเส้นแบ่งฉึบฉับเด็ดขาดว่าใครทำตัวเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่
ถ้ามองในเรื่องของสถานะทางสังคม เราว่าอายุตัดสินได้แน่นอนอยู่แล้ว
แต่ในเรื่องของ การคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การวางตัว มารยาททางสังคม อันนี้ไม่เกี่ยวกับอายุ เด็กที่มีความคิด ความรับผิดชอบ การวางตัวเหมือนผู้ใหญ่ก็มีเยอะ และผู้ใหญ่ที่เหมือนเด็กก็มีเยอะ
ผู้ใหญ่สำหรับเราคือที่มีอายุหน่อย สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หรือเป็นเสาหลักให้กับคนอื่นได้ มีประสบการณ์มาก สามารถให้คำแนะนำได้หลายเรื่อง เป็นคนที่มีความใจกว้าง เป็นผู้พูดและผู้ฟังที่ดีได้ ฯลฯ
"...สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หรือเป็นเสาหลักให้กับคนอื่นได้..."
พึ่งพาตัวเองในทางการเงินหรือสุขภาพใช่ไหม?? ถ้าอย่างนั้นมันอาจไม่เป็นธรรมกับตัวคุณเองและคนอื่นๆเพราะเมื่อแต่ละคนเริ่มแก่ชราหรือเจ็บป่วยด้วยโรคร้าย เขาย่อมทำงานไม่ได้และ
เพราะไม่มีเงินหรือออกแรงดูแลคนอื่นไม่ได้ เขาย่อมเป็นเสาหลักให้คนอื่นไม่ได้
แต่หากใช้เกณฑ์ตามที่เราเสนอใน คห.4 ปัญหาความไม่เป็นธรรมจะหมดไป นั่นคือ เราเสนอให้มองว่าการทำตัวเป็นผู้ใหญ่คือ 1)การมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ กล่าวคือรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ รู้จักใช้เหตุผลและคำนึงถึงสิทธิตนเอง ผู้อื่น มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม 2)รู้จักขวนขวายพัฒนาตัวเองอยู่เสมอทั้งสติปัญญา ทักษะความสามารถด้านต่างๆ และ 3)เปิดใจต่อสิ่งใหม่ๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป เปิดใจในที่นี้ เราหมายถึงตั้งใจฟังและพิจารณาเหตุผลของฝ่ายอื่นๆ
ทั้งสามเกณฑ์ข้างต้นเป็นผลพวงจากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการอ่าน การฟัง การสัมผัส และการคิดใคร่ครวญ ซึ่งง่ายที่จะได้มาและไม่สูญหายไปได้ง่ายๆดังเช่นเงินและสุขภาพ คุณอาจจะลองนึกถึงภาพคนเฒ่าคนแก่สั่งสอนหลานนะ พวกท่านอาจจะไม่ได้ทำงานและไม่มีเงินให้หลาน แต่พวกเขาก็เป็นผู้ใหญ่เพราะมีคุณสมบัติ 3 ประการข้างต้นที่เราบอก คือ วุฒิภาวะทางอารมณ์ สติปัญญา และการเปิดใจ
อายุเป็นแค่ตัวเลขค่ะ ประสบการณ์ชีวิตต่างหากที่บอกว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง
สำหรับเรา ความเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้วัดกันที่อายุค่ะ ดังนั้นเราเลยเลือกที่จะเคารพวุฒิภาวะและความคิดของเขา มากกว่าอายุ
ไม่ว่ายุคไหน คำว่า "ผู้ใหญ่" ก็ตัดสินจากคนรอบข้างมองคนคนนั้นเป็นผู้ใหญ่หรือไม่ เพราะแต่ละสังคมค่านิยมไม่เหมือนกัน ผู้ใหญ่ของประเทศไทยอาจนิสัยเป็นเด็กของประเทศอื่นก็ได้ ในทางกลับกันก็เช่นกัน
ส่วนตัว ถ้าใครที่รู้ว่าตัวเองถูกคนรอบข้างมองว่ายังเป็นเด็ก แต่เชื่อว่าตัวเองมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าผู้ใหญ่ คนนั้นยังเป็นเด็ก
ขอบคุณมากๆครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?