Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำยังไงให้มีความสุขในทุกวัน (กระทู้ระบาย)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เราตื่นมาทุกเช้าด้วยความงงกับชีวิต ไม่มีwayว่าอยากไปทางไหนดี เป็นคนชอบฝันต่อไปเรื่อยๆ เพราะไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอความจริงที่น่าเบื่อเลย เราชอบรุ้สึกอิจฉาชีวิตคนอื่นนะ ไม่เชิงเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตดีๆนะ แต่ เหมือนแค่ใครที่มีชีวิตเรียบง่าย เราก็ชอบแล้ว

 เรารู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ตลอดเวลา รู้สึกไม่มีใคร ทั้งที่คนเป็นห่วงก็มีนะ บางครั้งนั่งเล่นเน็ตเพลินๆ แล้วเผลอร้องไห้ออกมาเลยก็มี 

ถามว่าเป็นซึมเศร้าในวัยรุ่นมั้ย คือส่วนตัวเรามีอาการเศร้าแบบนี้ มา2-3ปีแล้วล่ะ แต่ยังไม่ตัดสินใจไปหาหมอเพราะคิดว่าแค่พยายามมีทัศนคติที่ดีมันจะช่วยได้ จนเราได้ไปหาหมอ หมอแค่วินิจฉัยว่าเป็นการกังวลในวัยรุ่นทั้งนั้น เราก็คิดนะว่าเพราะเราบอกหมอไม่หมดหรือเปล่า หรือต้นเหตุเรื่องที่เราคิดมาก หมอให้ยานอนหลับมา คงเป็นยาคลายเครียดนั่นแหละ มันก็ช่วยทำให้หลับลึกขึ้นเฉยๆ ตัวเราก็ยังชอบมีนิสัยคิดถึงเรื่องเก่าๆอยู่ 

ปัญหาที่บ้านก็มี พ่อแม่เราไม่ได้รักกัน เคยหย่าแต่ก็กลับมาจดทะเบียน แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันแหละ เราก็รุ้แหละ ไม่เคยคิดว่าตัวเองโตมาด้วยความรักเลย ปัญหาเรื่องเงินก็ดูแลบ้าง เกี่ยงกันบ้าง ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตคนเดียวในกรุงเทพนะ ก้เป็นอีกสาเหตุที่เหงานะแหละ ไม่ค่อยได้ติดต่อที่บ้านด้วย เรื่องเรียนเราก็เรียนกลางๆนะ แต่ตอนนี้มองไม่ค่อยเห็นอนาคตเลย

 ด้วยความที่เราตัดสินใจซิ่วด้วย มันคงเป็นความรุ้สึกเคว้งๆอยุ่ช่วงนี้ละมั้ง รอสอบเสร็จเดือนหน้าเราคงหายเครียดเรื่องนี้แล้วไปเครียดเรื่องอื่นแทน เรื่องเพื่อน เรามีเพื่อนที่สนิทมากๆแบบไปไหนไปกันอยู่2-3คน แต่ช่วงนี้คงต้องห่างกันบ้างเพราะเราต่างต้องสอบเข้ามหาลัยใหม่ คงเหงาเพราะเรื่องนี้ด้วยแหละ 

เราอยากเป็นคนที่ทำสิ่งที่ชอบได้ดี เอาแค่ใช้ชีวิตให้ได้ดีก่อน เราไม่ค่อยมีสติในการทำอะไรเลย วอกแวกด้วย เราท้อแท้ง่าย ให้กระทู้นี้ได้ระบายความในใจแล้วกัน เรารุ้ว่าไปพูดกับคนอื่นก็เล่าได้ไม่หมดหรอก ใครจะมาใส่ใจชีวิตคนอื่นขนาดนั้นละเนาะ

 พิมพ์ไว้เท่านี้ก่อน ถ้าใครได้มาอ่านก็อยากให้คุณมีความสุขในชีวิตเยอะๆนะ :)))   ใครที่ให้กำลังใจมาก็จะขอบคุณมาก ๆ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

55555 21 ม.ค. 62 เวลา 20:37 น. 1

การออกกำลังกาย การเดิน การเล่นกีฬา

จะทำให้ร่างกายหลั่งสาร(ฮอร์โมน) จะทำให้มีความสุขมากขึ้น

ถ้ายิ้มเก่ง จะมีเพื่อนเพิ่มขึ้น เดี๋ยวเข้ามหาลัยแล้ว

เลือกสิ่งที่ชอบ ชมรมต่าง ๆ ค่ายอาสา

ต่อไปชีวิตมีความสุขแน่นอน ใจเย็น ๆ

อย่าอยู่นิ่ง ๆ แบ่งเวลาเรื่องการออกกำลังทุกวันนะ

0
jengxx 21 ม.ค. 62 เวลา 22:27 น. 2

เราเป็นอาการคล้าย ๆ กับ จขกท. นะคะ เราวินิจฉัยด้วยตัวเองว่าเป็นภาวะ PMDD จะไม่ขออธิบายรายละเอียดตรงนี้มากนะคะ เพราะถ้าอธิบายจะยาวมากค่ะ แฮ่ะ


อยากแวะมาให้กำลังใจและทริคที่เราใช้เพื่อไม่ให้กลับไปเป็นภาวะนั้นมากเท่าควร คือยังเป็นอยู่ค่ะ แต่ก็ห้าม ๆ ใจตัวเองไว้ ซึ่งถ้าเราเอาเรื่องแบบนี้ไปปรึกษาใคร เขาจะบอกให้ว่าลองเปลี่ยนแนวคิด ฮ่า! เขาบอกทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเราเปลี่ยนแล้วเราเปลี่ยนมามากแล้ว แต่เราไม่ได้บอกไป แล้วถึงจุดนึงเราค้นพบว่าการยิ่งเอาไปปรึกษาคนอื่นมันยิ่งแย่ลง เพราะใครต่างก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ขอบอกตรงนี้ว่าไม่ธรรมดาเลยซักนิด! ส่วนใหญ่จะเกิดจากการทำงานของฮอร์โมน + กับความคิด ค่ะ ซึ่งถ้าเราเปลี่ยนความคิด ฮอร์โมนเรายังทำงานผิดปกติอยู่ ก็ยังเป็นเช่นเคยแต่อาจไม่มากเท่าเก่า


ช่วงดิ่งเราฮีลตัวเองด้วยการอยู่คนเดียวค่ะ ให้เวลากับตัวเองมาก ๆ ถ้าคิดมากจนกู่ไม่กลับเราก็จะคิดให้มากที่สุดเท่าที่จะคิดได้ คิดจนนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งหายใจไม่ออกกันไปเล๊ย แต่พอใคร่ครวญดีที่สุดจนถึงจุดนึง เราจะตะหงิดกับบางอย่างว่า เอ๊อ อันนี้คืออะไรนะ ทำไมมันเป็นงี้นะ แล้วความคิดเราจะเปลี่ยน way ไปค่ะ

แต่ทั้งหมดั้งมวลวิธีการฮีลขึ้นอยู่กับตัวบุคคลค่ะ ย้อนไปเมื่อเราเป็นเด็ก เราโตมาด้วยตัวเองค่ะ ไม่มีเพื่อนจริง ๆ สักคน ที่บ้านพึ่งพาได้แต่ค่อนข้างจะสปอยล์เราเกิน บางทีก็ปล่อยเราเกิน เราจึงใช้ชีวิตความคิดทั้งหมดด้วยตัวเราเอง ฉะนั้นการอยู่คนเดียวของเราก็ไม่เป็นพิษภัยต่อเราค่ะ และมีอีกรูปแบบนึงคือคนที่เติบโตมาด้วยสังคมค่ะ การอยู่กับคนหมู่มากคือความสุข ซึ่งอาจจะไม่ต้องให้คนหมู่มากเข้าใจในสิ่งที่เป็น แต่ขอแค่มอบความสุขเล็กน้อยให้เป็นพอ


ตอนเราเป็นอาการช่วงแรก เราสงสัยว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า เลยลองทำแบบทดสอบ ซึ่งมันก็ตรง ๆ เกือบหมด แต่เราตะหงิดใจมาว่า โรคซึมเศร้ามันมีอะไรบ้าง แบบไหน อาการอะไร จนค้นพบโรคตั่งต่างที่มีอาการคล้ายแบบนี้เยอะเลยฮะ จากตอนแรกเครียด ๆ ว่าตัวเองเป็น ก็กลายเป็นว่าเรามุ่งไปสนใจศึกษาแทนเฉยเลย นับเป็นการบ่ายเบี่ยงความคิดไป way อื่น ซึ่งจะทำให้เราเลิกเครียดได้ในระดับนึงค่ะ


เป็นเรื่องจริงที่ว่าไม่มีใครใส่ใจเรื่องของคนอื่นค่ะ เจ็บปวดมากนะคะกับความจริงข้อนี้ เพราะเราอยู่กับคนรอบข้างด้วยความไว้ใจพอตัวเลย (เราเป็นคนโลกส่วนตัวสูง คัดคนเข้าเวลาเจออะไรแบบนี้ก็สาหัสพอตัวเลยค่ะ) เราเปลี่ยนความคิดแบบ จขกท. เลยค่ะว่าไม่มีใครใส่ใจเราจริง ๆ เราจึงหันมาใส่ใจตัวเองแทน แล้วจะมีคำถามต่อว่า อะไรคือการใส่ใจตัวเอง? อันนี้แล้วแต่บุคคลเลยค่ะ การใส่ใจตัวเองของเราคือการให้ตัวเองทำอะไรที่ชอบ บางทีความชอบของเราก็คือการร้องไห้กับเรื่องบัดซบในชีวิตค่ะ

เรามีกราฟชีวิตในสายตาเรามีสามแบบ แบบแรกคือกราฟพุ่งขึ้นนั่นคือความสุข กราฟลงนั่นคือความทุกข์ตั่งต่าง กราฟเส้นตรงคือเฉย ๆ กับทุกสิ่ง พูดจากใจเราเลยนะคะ เราว่าการที่เฉย ๆ กับโลก แย่กว่าเศร้าอีกค่ะ อย่างน้อยถ้าเราเศร้ามันก็รู็ตัวเองว่าเศร้า


เราเลยคิดว่าทุกอย่างเป็นรสชาติชีวิตค่ะ เรายินดีกับความเศร้าด้วยความคิดที่ว่า วันนี้ได้เศร้าด้วยแหะ ดีว่ะ ดีกว่าเฉย ๆ เยอะ อะไรทำนองนนี้ ส่วนเรื่องความสุข เราไม่สามารถอธิบายให้เป็นภาษาเขียนได้ค่ะ แต่อยากบอกว่า ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวังนะคะ


แต่ถ้าเราเลิกคาดหวังกับอะไรไม่ได้ เราก็ลดระดับลงมาค่ะ อย่างของเราเคยคิดว่าพรุ่งนี้มันต้องดีกว่าเดิมแน่! ก็กลายเป็น พรุ่งนี้จะตื่นทันกินข้าวเช้าไหมนะ? จะได้กินอะไรนะเป็นของที่ชอบหรือเปล่า? ซึ่งถ้าวันไหนกับข้าวอร่อย หรือเป็นของที่ชอบเราก็แฮปปี้ไปทั้งวันแล้วค่ะ


จขกท. ตอนนี้อาจจะอยู่ในระดับกราฟดิ่งลง ยังไงก็อย่าท้อนะคะ เรารออยู่ที่กราฟเส้นตรงค่ะ มาเป็นเพื่อนกันฮะ!


แต่ถ้าวันไหนแย่จริงให้นึกถึงกฎของการแลกเปลี่ยน เราอาจจะเสียวันนี้เป็นวันที่แย่ พรุ่งนี้ก็อาจจะมีอะไรดี ๆ หรืออาจจะเย็นวันนั้นมีอะไรดี ๆ หรือสละสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์เฮงซวย สัปดาห์หน้าก็อาจจะมีเรื่องแฮปปี้ค่ะ

อ่ะคนเรามันก็นะมีสุดแล้วก็ต้องมีสุดอีกค่ะ เราเคยสุด ๆ กับชีวิตจนแบบไม่ไหวล่ะป่ะ โดยส่วนตัวเราอย่างที่บอกข้างต้นการอยู่คนเดียวคือที่สุดของการฮีล ฉะนั้นหนีไปค่ะ การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการหนี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เป็นผลร้ายหรือเบียดเบียนใครเข้านะคะ เราหยุดเรียนเพราะเราทนร่วมกับคนหมู่มากไม่ได้555555555 ไปฮีลตัวเองให้พร้อม


การเจอคนเยอะ ๆ พยายามต้องนู่นนี่สำหรับคือหมดพลังงานชีวิตมากเลยค่ะ ท้อแท้ แต่ก็ต้องอยู่



เราจะยกตัวอย่างความสุขโง่ ๆ ของเราให้ดูนะคะ

- ครีมอาบน้ำหอม มีกำลังใจอาบน้ำใช้ชีวิต เราเป็นคนไม่ชอบอาบน้ำสุด ๆ แต่ก็พยายามพาตัวเองไปพบว่าในความแย่ของอย่างยังมีข้อดีอยู่

- ได้นั่งที่เดิมบนรถโดยสาร เราไปเรียนด้วยรถสองแถวค่ะ เรามีที่ประจะคือนั่งชิดฝั่งข้างคนขับ เรายอมสายเพื่อนั่งที่ตรงนั้นบ่อย ๆ ด้วยค่ะ 55555555

- ได้กินอะไรที่ชอบ เรากินดุมากถ้าเครียด

- ทำอะไรใหม่ ๆ เราเคยซื้อจิ๊กซอว์ ตัวต่อ รูบิก มาเล่นค่ะ สนุก ๆ เครียด ๆ ดี

- ได้เดินรับลม (ข้อนี้ตัดไปก่อนค่ะ ช่วงนี้ฝุ่นเยอะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะทุกคน)

- นอนครบโควต้าที่ตั้ง อาทิ 6 หรือ 8 ชม. อะไรทำนองนี้ค่ะ

- เรามีชาเลนจ์ชีวิตด้วยค่ะ ตั้งแบบจะกินผักให้ครบ 5 วัน บางทีก็ 3 เพราะไม่ไหวจริงค่ะ ถ้ากฎกับตัวเองคือไม่ตึงเกิน หรือหย่อนไป พอดี ๆ ฮะ

- จัดตารางชีวิตเราให้วุ่นวายไว้ค่ะ อย่าให้ว่าง แบบวันนี้กลับมาจะอ่านชีทอิ้งที่ปริ้นมา จะลองเรียนภาษาโปรตุเกส จะดูการ์ตูนสักเรื่อง จะฝึกร้องเพลงบาร์บี้สักตอน จะเป็นงานอดิเรกอื่น ๆ แบบ คห. 1 แนะนำก็ได้ค่ะ หาที่ตัวเองชอบและสนุกไปกับสิ่งนั้นเลย!

- ห่างจากโซเชียลค่ะ คือไม่ได้ห่างแบบหายไปเลยนะคะ เรามีเฟส 2 แอคเคาท์ค่ะ ไลน์ 2 แอค ทวิตอีก 10 กว่า55555555555 แอคนึงเป็นแอคประจำ อีกแอคเป็นแอคที่เราสร้างใหม่ แล้วไล่ไลค์คอนเทนท์ที่เราสนใจไว้ค่ะ

เว้นระยะห่างจากคนรอบข้าง คือข้อนี้ จขกท. อาจจะประยุกต์อะไรก็ได้นะคะ แต่เพราะเราเป็นคนชอบอยู่คนเดียวค่ะเลยทำแบบนี้

- อันนี้ๆๆๆ เราทำตอนดิ่งมากคือเราไประบายใส่ storylog ค่ะ แต่เราระบายในเชิงรูปแบบการเขียนหนังสืออะไรพวกนี้ค่ะ (อยากเศร้าแต่ขอทางการหน่อย55555) ซึ่งขอละไว้นะคะว่าเราเขียนอะไรลงไป เขินอายฮะ เราค้นพบว่าทุกคนเขียนเรื่องเศร้า ได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ ยิ่งถ้าเราเศร้าด้วยจะยิ่งอินเลย


ก็คงจะประมาณนี้นะคะ ยาวไปหน่อยเลย เขียนเพลินมาก ๆ เลย ขออภัยนะคะถ้าบางคำพูดอาจจะกระทบกระเทือนใจหรืออะไร แต่เจตนาที่เขียนทั้งหมดเราอยากสื่อให้ จขกท. เข้าใจว่ายังมีคนเข้าใจอาการที่ จขกท. เป็นอยู่นะคะไม่มากก็น้อย แต่อย่างน้อยมีเราคนนึงยังพอเข้าใจ และอยากเป็นกำลังใจให้ จขกท. ค่ะ enjoy ur life ไว้นะคะ เชื่อใจตัวเอง รักตัวเอง ไม่มีใครจะอะไรกับเราได้เท่าตัวเราแล้วจริง ๆ ค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png

3
Supersunrise 22 ม.ค. 62 เวลา 01:59 น. 2-1

ยังอ่านไม่จบแต่ดีใจและขอบคุณมากๆเลยนะคะที่มาช่วยแชร์เรื่องราว เราก็เป็นเหมือนคุณเลยค่ะ จริงๆการที่ยิ่งปรึกษาคนรอบข้างมันก็ไม่ค่อยช่วยเพราะความคิดเราก็ยังเหมือนเดิมเนาะ 555555

จริงๆอาการช่วงนี้มันเริ่มโอเคเพราะเราลบทวิตไปซักพักละ ด้วยความที่ติดโซเชียลมาก ทำให้เจอพลังลบมาหลากหลายรูปแบบค่ะ


คงเพราะเราแคร์คนรอบข้างมากกว่าตัวเองด้วย ส่วน storylogเราก็เคยเขียนไว้นะ งืมมม จะพยายามกลับไปเขียนบ่อยๆละกันค่ะ บางทีคนเราก็หลงรักกันที่ตัวหนังสือ


จริงๆเราเป็นคนที่รู้สึกแย่กับหน้าตาและรูปลักษณ์ด้วย ยังไงดีล่ะ ถ้าเห็นคนบอกก็ปกติไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่เราเข้าสังคมไม่เก่งเพราะแบบนี้เลย ต่อหน้าเฮฮาได้แต่พออยู่คนเดียวเราไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยค่ะ


จริงๆเราเป็นคนไม่ชอบออกความคิดเห็นที่ไหนเลย พอได้มาพิมพ์แบบนี้แล้วมีคนรับฟังก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ แม้จะไม่ได้รู้จักกันจริงๆก็ตาม ขอบคุณมากเลยนะ :)

0
Supersunrise 22 ม.ค. 62 เวลา 02:02 น. 2-2

จริงๆปัญหานึงเลยที่คุณหมอบอกเราก็คือเรื่องการนอนนี่ละค่ะ บางทีเรานอนตี3-5คือเวลาปกติ บางคืนไม่ได้นอนด้วยซ้ำ ยิ่งตกดึกมายิ่งตาโตเชียว 5555 อันนี้หมอ concern มาก ไม่ได้เทคยาตามที่คุณหมอสั่งด้วย มันเลยทำให้ง่วงและทำกิจกรรมได้ไม่ดีในตอนกลางวัน การนอนนี่ส่งผลไปซะทุกอย่างเลย จะปรับเรื่องนี้ให้มากๆ ค่ะ ฮึบๆ

0
jengxx 22 ม.ค. 62 เวลา 09:05 น. 2-3

น้อมรับคำขอบคุณค่ะ


ก็ยังตอบคอนเมนท์ยาวอยู่ เก็บไว้อ่านเวลาว่างก็ได้นะคะเนี่ย 55555555


เราก็เป็นนะคะ ไม่มั่นใจตัวเอง เรามีปัญหากับรูปร่างเราจริง ๆ ค่ะ เราชอบคิดว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับตัวเรา เนื่องจากตอนเด็กโดนล้อบ่อยมากจนฝังใจ แต่พอโตมาก็เริ่มเปลี่ยนความคิดแล้วค่ะ แบบว่าไม่มีใครสนใจเราจริง ๆ หรอก ไม่มีใครอะไรกับเราขนาดนั้น อย่าคิดมาก ๆ ถ้าเรื่องไม่ฉาวจริงไม่มีใครวิจารณ์เราได้! เราเลยเป็นพวกไม่สุงสิงกับใคร เราว่ายิ่งมากคนมากความ อีกอย่างก็เพื่อปกป้องความรู้สึกตัวเองด้วย ปกติเราใช้ชีวิตแบบใส่แมสก์ตลอดเวลาเลยค่ะ ถ้าอยู่นอกบ้าน เพราะเราไม่ชินกับการเปิดหน้า คือไม่มั่นใจนั่นแหละค่ะ แล้วช่วงนี้วิกฤตฝุ่นพอดีเราเลยดูเป็นคนปกติขึ้นมานิดนึง บางวันเราก็ใส่เสื้อแขนยาวด้วยค่ะ แบบปกปิดตัวตน เป็นไปได้ก็อยากได้ผ้าคลุมล่องหนมากแน้ว แต่เราก็ยังมีเพื่อนนะคะ เฮฮาได้แต่เหนื่อยใจง่ายหน่อย แต่ส่วนมากจะ fade ตัวเองออกมาเงียบ ๆ เน้นหาเพื่อนที่เปลี่ยนได้ดีกว่า อย่างเช่นความสัมพันธ์ทางอินเทอร์เน็ตอะไรแบบนี้ คุยสนุก ๆ กับคนที่สนใจอะไรคล้าย ๆ กัน (ปกติเราคุยคนเดียวตลอดเลยค่ะ ฮือ5555555)


ส่วนเรื่องเวลานอน จขกท. ลองทำเป็นชาเลนจ์ดูก็ได้ค่ะ นอนเต็มที่สักสองวันแล้วนอนดึกสุดวันนึง สลับไปเรื่อยจนชิน หรือเราขอแนะนำอีกทางนึงที่เรากำลังใช้ค่ะ คือการตื่น ตามรอบระยะเวลา คำนวณผ่านเว็บนี้เลย https://t.co/he3teOvEwg?amp=1

ต้นตอของสารทั้งมวลเพื่อความเข้าใจมากขึ้นอยู่นี่ฮะ https://twitter.com/justyesteryear/status/1085173206732832768?s=19


อย่าคิดมากเรื่องว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไง หรือถ้าเลิกคิดไม่ได้ ลองชมตัวเองดูค่ะ เราชอบชมตัวเองพอตัวเลย ตื่นเช้าเราเก็บที่นอนเราก็จะเออออกับตัวเองว่า เก่งจังวะ ตื่นทันเก็บที่นอนด้วย เห้ยเก่งมากเก็บเรียบร้อย บางวันถ้าเวลาเยอะ ๆ เราตอนลุกไปอาบน้ำก็จะผงกหัวให้ที่นอนด้วยค่ะ อารมณ์แบบว่าขอบคุณที่ชาร์จพลังให้นะคะ5555555555555555555


ความสุขเล็ก ๆ อะไรแบบนี้ดูไร้สาระในสายตาคนอื่นมาก เราจึงเลี่ยงที่จะเล่าหรือบอกว่าเรามีความสุขกับอะไรแบบนี้ จะไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเราถ้าเราไม่บอกค่ะ


Positive thinking ไว้นะคะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องคิดบวกโดยคำนึงถึงความเป็นจริงด้วยค่ะ อย่าเลยไปเชียวไม่งั้นเราจะดาวน์กว่าเดิม คิดบวกให้พอใจฟู มีกำลังใช้ชีวิตให้หมดวันค่ะ p(^-^q)


จขกท. ไม่จำเป็นต้องทำตามที่เราบอกก็ได้ค่ะ แต่อยากแนะ way ให้ว่ายังมีแบบนี้อยู่นะ เรายังทำแบบนี้ได้ ทำชีวิตให้มีทางเลือกเข้าไว้ค่ะ จะเป็นทางเลือกที่ดีหรือแย่ ก็ขอให้มีมากกว่า 1 ทางเลือก ถ้า จขกท. คิดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว แล้วคิดว่าอาจจะยังไม่เวิร์คมากพอ ถ้ามีโอกาส เราลองแลกเปลี่ยนวิธีการหรือช่วยกันเปิดแนวทางใหม่ ๆ ให้กันได้นะคะ


0