ใครเคยมีความคิดแบบนี้บ้าง?
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมเชื่อว่านักเขียนหลายคนที่ลงนิยายในเว็บแล้วรู้สึกเครียดหรืออารมณ์แบบว่านิยายตัวเองไม่ค่อยดี
แต่ที่จะบอกคือ มีใคร เคย หานิยายที่ด้อยกว่าเราแล้วเปรียบเทียบตัวเองไหม
แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องหานิยายที่ดีเพื่อเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจ
สิ่งที่อยากจะถามคือ มีใครเป็นเหมือนเราไหมที่บางครั้งจะมองหานิยายที่ค่อนข้างด้อยกว่าเรา เพื่อทำให้รู้สึกดีขึ้น
มันเป็นวิธีที่ไม่ดีและไม่ควรทำอย่างยิ่ง ทว่ามันกลับทำให้รู้สึกดีแบบบอกไม่ถูกอ่ะ ยกตัวอย่างแบบอย่างน้อยเราก็ดีกว่าเขานะ วิวเราเยอะกว่า อะไรแบบนี้
อยากถามไรท์คนอื่นๆว่า มีโมเมนต์อะไรแบบนี้ไหม ที่แบบหาข้อเปรียบเทียบกับนิยายคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น plot
การบรรยาย คนดู เม้น
ปล. เรื่องแบบนี้มันไม่ดีอย่าลอกเลียนแบบ แค่อยากถามว่า มีใครเคยมีความคิดแบบนี้มั้ง แล้วก็ใครที่ทำอยู่ก็เลิกซะนะ มันจะทำให้เราด้อยกว่าที่เป็นอีก ทั้งงานและจิตใจ
16 ความคิดเห็น
ช่วงแรก ๆ ผมยอมรับว่าเคย เหมือนหาเหตุผลแก้ตัวไปวัน ๆ ว่าถึงคนอ่านนิยายเราน้อยก็ยังมีพวกที่แย่กว่าเรา
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสามารถเราเพิ่มได้เลย
รังแต่จะดึงจิตให้หม่นหมองลงไปไม่มีที่สิ้นสุด
พอรู้สึกตัวได้
หลังจากนั้นมา ถ้าเจอนิยายคนอื่นที่แต่งนานแล้วแต่คน Fav น้อย ผมก็จะเข้าไปอ่านทำนองเก็บข้อมูลว่ามันมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เป็นแบบนั้น แล้วพยายามอย่าทำตามก็พอ
ทุกอย่างมันมีทั้งดีและไม่ดีปนอยู่นั่นแหละค่ะ แค่เลือกที่จะ"มอง"
จขกท.แค่มองว่าที่ทำอยู่คือการให้กำลังใจตัวเองก็ได้นี่คะ ไม่จำเป็นต้องมองว่าตัวเองไม่ดีเลยที่ไปมองคนไม่เก่งกว่าแบบนั้น เพราะพอมองว่า"เราดีกว่า" ก็รู้สึกว่า "เราไม่ได้น้อยหน้าใคร" แต่ในทางกลับกัน จขกท.ไม่จำเป็นต้องทิ้งนิสัยนี้หรอกค่ะ แต่ต้องเพิ่มมาอีกนิสัยนึงคือมองงานที่ดีกว่า แต่อย่ามองว่า"เราไม่ดี" อันนี้ให้ลบดวงตาที่มองแบบนั้นทิ้งไปค่ะ ให้มองว่า"เรายังต้องพัฒนา" เพราะมันจะดันเราให้สูงขึ้น พยายามขึ้น
พอเอาสองนิสัยนี้มารวมๆกัน เราจะได้ความคิดที่เป็นกำลังใจที่ยิ่งกว่าไฟฮึกเหิมให้ตัวเองอีกค่ะ
"เราไม่น้อยหน้าใคร แต่เราก็ไม่เก่งถึงขนาดที่จะไม่หยุดพัฒนา"
ขอพูดอย่างไม่ค่อยสุภาพ และอาจจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยดี แต่จะขอพูดตรงๆ
คนในบอร์ดบางรู้จักเราในฐานะ ผู้รวบรวมข้อมูลสารพัดในบอร์ด (คล้ายๆ นักรับจ้างสารพัดแบบกินทามะ)
ไหนจะรวมคำตอบ ไล่ตอบกระทู้ ทำบทความสอนการเขียน บางคนอาจจะหมั่นไส้ว่า แล้วเราเป็นใคร เป็นนักเขียนดังหรือ
-เปล่าค่ะ เราเป็นนักเขียนที่แทบไม่มีใครรู้จัก นิยายไม่เคยติดท็อป 20 แต่บทความติดอยู่บ่อยๆ เคยได้ขึ้นหน้าแนะนำด้วย นิยายเคยทำสถิติดีสุดคือ ติดท็อป 100
แล้วในเมื่อเป็นนักเกิดอยากจะเขียนไร้ชื่อทำไมริอ่านมาสอนคนอื่น จบด้านภาษาหรือก็เปล่า
-เรื่องบางเรื่องเราทำด้วยใจรักเช่นเดียวกับความเผือกที่เหมือนจิตอาสา สระเวลาโดยไร้สิ่งตอบแทน
เขียนนิยายก็ใช่จะดี ไม่มีคนอ่านแล้วมาสอนคนอื่นนี่นะ ไม่มีสนพ.ไหนสนสักหน่อย
-ตอบอย่างอวดดีคือ เรามาเขียนนิยายให้ตัวเองอ่านค่ะ ผู้อ่านที่ติดตามถือเป็นผลพลอยได้ ส่วนเรื่องการตีพิมพ์กับสนพ. ต้องแยกให้ออกระหว่างนิยายดี กับนิยายขายดี นิยายดีบางครั้งขายไม่ได้ค่ะ สนพ.เป็นบริษัทแสวงหาผลกำไร เขาไม่สนใจผลงานที่ทำเงินไม่ได้ค่ะถึงจะเขียนดีปานเสื้อสวรรค์ไร้ตะเข็บ
เคยมองนิยายที่ด้อยกว่าแล้วเปรียบเทียบกับของตัวเองไหม
-เราไม่มองว่านิยายคนอื่นด้อยกว่าของตัวเองนะ ในสายตานักเขียนย่อมมองว่าผลงานตัวเองนั้นดีแล้ว เพียงแค่มันอาจจะยังไม่สมบูรณ์หลายๆ ครั้งที่ตามไปอ่านนิยายที่คุณนักเขียนมาขอคำวิจารณ์แล้วเราบังอาจไปแนะนำก็บ่อย ผลงานของบางท่านเป็นเพชรที่ยังเจียระไรไม่เสร็จเท่านั้นเองค่ะ
ขออภัยพิมพ์ย๊าวยาว
มันห้ามไม่ได้ครับ เพราะช่วงที่คิดแบบนั้น มันคือช่วงที่กำลังลืมตัวอยู่
ไม่เคยมองนิยายที่แย่กว่า ผมมองแต่ที่ดีกว่าตลอด นิยายเรื่องไหนที่ไม่น่าสนใจ ผมจะปล่อยผ่านเลย ไม่เข้าไปอ่านหรือศึกษา แต่ก็มีบางครั้งที่เข้าไปเพราะเกิดสนใจ หรือมีแนวเรื่องคล้ายกัน เข้าไปเพื่อศึกษาหาอะไรใหม่ ๆ ไม่ได้เข้าไปมองว่ามันต่ำหรือสูงกว่า
เรื่องที่แย่ก็เคยมองอยู่บ้างบางครั้ง แต่ไม่เคยรู้สึกว่าของเราดีกว่า รู้สึกแต่ว่า นิยายของคนอื่นที่เราเห็นว่าแย่ นิยายเรื่องนั้นสามารถทำให้ดีขึ้นได้ โดยจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ .... ซึ่งส่วนใหญ่จะเก็บไว้ในใจ ไม่ได้บอกกับคนที่เขียนเรื่องดังกล่าว
ไม่นะ ส่วนมากโฟกัสที่งานตัวเองว่าเขียนดีพอ อ่านรู้เรื่องไหมรึป่าวแค่นั้น
ถ้ามองคนที่ด้อยกว่าเรา คือเขาเขียนดีไหม ถ้าเขียนไม่ดีคนอ่านน้อยก็พอเข้าใจ ถ้าเขียนดี แต่คนอ่านน้อยก็เออ เขาคงอินดี้ ก็มองทุกคนเป็นเพื่อนนักเขียนไป55
มีคนนึง เขาเขียนดีไม่ดีหรือเปล่าไม่รู้ไม่เคยเข้าไปอ่าน แต่ขยันอัพมากเลย เขาติดนิยายแนะนำ หน้าเดียวกับเราบ่อยๆ เปิดเรื่องในเวลาใกล้ๆกัน แต่เรา เขียนไปสิบตอน นางพุ่งไป 18-19 แล้ว ก็แอบเชียร์อยากให้นางติดท๊อป แต่ก็ไม่ติดก็เสียดายแทนอยู่
แต่ตอนนี้นางออกเป็นนิยายแล้วก็ดีใจกับนางด้วย ท๊อป 20 ไม่ใช่ทุกอย่าง เขียนงานคุณภาพดีพอหรือเปล่า แค่นั้นเอง
ไม่เคย เพราะเหตุการณ์อย่างนั้นต้องไปเจออยู่แล้วประจำกับนิยายนักเขียนหน้าใหม่ แต่ไม่เคยเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ แค่ดูว่าตรงไหนมันต้องปรับปรุง จากนั้นก็เอามาปรับแก้กับตัวเองแทน ถ้าวันไหนอารมณ์ดีก็อาจจะบอกให้นักเขียนท่านนั้นรู้ตัวด้วย แต่ถ้าไม่มีอารมณ์ วันนั้นก็จะทำตัวเหมือนผีไร้หน้า (ไม่มีทั้งตา จมูก ปาก)
ส่วนตัวไม่ค่อยคิดมากนะคะ ฉันอ่านนิยายหลายแนวมาก แต่ละเรื่องมีโครงเรื่องต่าง สำนวนการเขียนก็ต่าง
กลุ่มลูกค้า(หมายถึงกลุ่มนักอ่าน)ที่ต่างกัน
แน่นอนฉันรู้ว่านิยายแนวเรื่องเดียวกับฉันนั้นได้ยอดวิวที่สูงกว่ามาก แต่ที่ต่ำกว่ามันก็มีเช่น
ฉันไม่เครียดเพราะพอใจแล้วกับผลงานของฉัน ก็มีบ้างที่หาว่าเพราะอะไรถึงไม่มียอดวิวเท่าเขา
มองหานิยายดีๆอ่านเพื่อหาข้อแตกต่างและข้อเสียให้ปรับปรุง
มองหานิยายของนักเขียนใหม่ๆ เพื่อหาจุดที่มีความผิดพลาด เพื่อนำมาปรับปรุงกับนิยายตัวเอง
พัฒนาไปเรื่อยๆ ฉันเชื่อซักสักวันฉันต้องเป็นได้อย่างที่พวกนักเขียนเก่งๆเขาเป็นกัน
อีกอย่างคือฉันแต่งนิยายเพื่อคลายเครียดให้กับตัวเองค่ะ
แล้วฉันจะมาเครียดกับนิยายตัวเองทำไม? แค่เรื่องที่ทำงานก็เครียดจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วเนี้ย
ไม่เคย เพราะไม่เคยเจอ และไม่เคยคิดที่จะทำ มีแต่เจอเรื่องดีๆกว่าตัวเอง แล้วมานั่งน้อยใจ ว่าทำไมเขาดีกว่าเรา สำนวนเขาดีเหลือเกิน แต่ก็ช่างมันเถอะ ขอแค่เรา เป็นของตัวเองเป็นที่ที่สุด เราทำได้ดีแค่ไหน ก็เอาแค่นั้น ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น เสียใจทำไม ก็ไม่เสียดายย//อ้าว ร้องเพลงซะงั้น5555
เราจะเป็นของตัวเอง เราขอเป็นนักเขียนที่อินดี้ที่สุด ดีกว่าตั้งเยอะค่ะ
ไม่เคยค่ะ
ไม่ใช่อะไรหรอก เราลงเรื่องในที่ที่ไม่สนใจเรื่องยอดวิว ไม่ได้สนใจการขึ้นเป็น Top เลยไม่มีความกดดัน ความท้อที่เกิดจากการเปรียบเทียบคนอื่นเท่าแพลตฟอร์มของเว็บนี้ ที่นี่นับว่าเป็นสมรภูมิโหดที่คัดผู้รอดที่แท้ทรูมากจริงๆ
ในเมื่อสมรภูมิมันเป็นเยี่ยงนี้ แต่ละท่านย่อมหาวิธีรอดในแบบฉบับของตัวเอง ของคุณจขกท ก็เป็นหนึ่งในวิธีเหล่านั้นเท่านั้นเอง ไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าเป็นวิธีที่ไม่ดี วิธีที่แย่ อะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่ทีนี้ เราว่าลองหาวิธีอื่นในการให้กำลังใจตัวเองเพิ่มขึ้นด้วยก็ดีค่ะ ไหนๆ จะปลอบใจตัวเองแล้ว เอาให้ตัวเองได้ประโยชน์ด้วยไปในตัวจะได้ไม่เสียเปล่านะ ^^
ส่วนใหญ่จะหานิยายสนุกๆ มาอ่านมากกว่า อาจจะเป็นคนละแนวกับที่เราเขียน แต่เป็นนิยายที่เราคิดว่าน่าจะสนุกนะ ยิ่งถ้าได้อ่่านแล้วมันสนุกจริง ถูกจริตเราจริง เราจะยิ่งรู้สึกคึกอยากเขียนนิยายขึ้นมาทันที เพราะเราจะรู้สึกว่า เราจะเขียนให้สนุกแบบนี้ หรือมากกว่านี้ให้ได้
ไม่เคยค่ะ
เราสนใจเพียงแค่ว่าเขียนยังไงให้ตัวเองอ่านแล้วรู้สึกสนุก เพราะถ้าเราซึ่งเป็นคนเขียนอ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่สนุก ก็ไม่ต้องไปคิดแล้วว่าคนอื่นจะอ่านแล้วรู้สึกสนุก
เราชอบอ่านหนังสือนะ แต่ไม่ใช่แค่หนังสือนิยาย การ์ตูนญี่ปุ่น การ์ตูนจีน หรือพวกหนังสืออ่านเสริมอย่างอื่นเราก็ชอบอ่าน แต่เราไม่เคยเอานิยายของตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
เราชอบที่จะไปแอบอ่านของนักเขียนที่ยอดวิวน้อย ๆ นะ บางคนเรายอมรับเลยว่าเขาเขียนดีมาก เพียงแต่แนวที่เขาเขียนอาจจะไม่ใช่แนวที่คนอ่านชอบ ดังนั้นอย่าไปตัดสินคนอื่นจากยอดวิว ยอดคอมเม้นต์เลยค่ะ
เราเขียนดีหรือไม่ดีตัวเราเองย่อมรู้อยู่แก่ใจ กดคนอื่นให้ต่ำกว่าตัวเองไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกค่ะ
ไม่เคยนะคะ
ไมนด์เซตเรามองนิยายตัวเองแย่ที่สุดเป็นพื้นอยู่แล้ว เราเป็นมนุษย์สายเพอร์เฟคชั่นนิสต์ที่จะรู้สึกว่าผลงานของตัวเองขาดอะไรบางอย่างตลอดเวลา และรู้สึกว่า "มันได้มากกว่านี้"
เวลามองนิยายคนอื่นจะหาข้อดีของเขาเจอเสมอเลย แต่ไม่เคยกับของตัวเอง 55555
อันนี้ไม่เชิงนะ
ด้วยความที่เป็นสายเขียนแฟนฟิคเลยจะเอาฟิคตัวเองไปเปรียบกับฟิคคนอื่นซึ่งเป็นฟิคจากเกมเกมเดียวกัน ช่วงนั้นจู่ๆยอดเมนท์ก็ดรอปลงจนน่าใจหาย เลยไปนั่งหานิยายอ่านฮีลใจตัวเอง เจออยู่ฟิคหนึ่งคือคำโปรยดูดีมาก แต่รู้สึกได้ว่าการบรรยายไม่ดีเท่าไหร่(ตรงๆเราคือค่อนข้างแย่สำหรับเรา) เนื้อเรื่องก็ธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษ
คือตอนนั้นเรานี่แบบมีกำลังใจขึ้นมาอะ รู้สึกดีขึ้นมาเลย ประมาณว่าเฮ้ย ที่เราเขียนอะมันดีแล้วนะ มีกำลังใจเขียนต่อ
ประเด็นคือ พอหันไปมองยอกเมนท์ยอดเฟบของนิยายเรื่องนั้น...
แม่เจ้า...เมนท์เยอะเฟบเยอะกว่าฟิคฉันสองเรื่องรวมกันอีก
ทำไมกัน...
นับแต่นั้นก็ไม่ทำอีก เพราะพอทำแล้วมันเจ็บกว่าเดิมเยอะ...
นักเขียนดังของฝรั่งคนนึงกล่าวเอาไว้ว่า ถ้าอยากรู้ว่าเราพร้อมจะเขียนนิยายหรือยัง
ให้ลองหยิบนิยายหลายๆเรื่องมาอ่าน เมื่อไหร่ที่เจอเล่มที่เราวางลงแล้วบอกได้ว่า
"เล่มนี้ห่วยแตก! เราเขียนได้ดีกว่า"
นั่นแหละ คุณพร้อมเขียนนิยายแล้ว (เพราะเล่มที่มันห่วยขนาดนี้ยังได้ตีพิมพ์เลย) คุณจะรออะไรอีก
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นราชานิยายสยองขวัญคนที่นิยายได้เอามาทำหนังเยอะมากเป็นคนพูดไว้ครับ
ผมว่าเป็นประเด็นที่ดีมาก มันคือการวิเคราะห์ตัวเอง
แต่มันคนละกรณีกับการปลอบใจตัวเองนะ แบบนั้นมันแค่จ้องหาเรื่องห่วยๆแล้วบอกว่าเราดีกว่าเพื่อเป็นข้ออ้างไม่พัฒนาตัวเอง
มันเป็นคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง
เพราะสุดท้ายคำถามสำคัญก็มีแค่อย่างเดียว "เราจะทำให้งานของเราเจ๋งขึ้นกว่าตอนนี้ยังไง"
อย่าว่าแต่นิยายเลยครับ ผมเป็นนักเรียนอยู่ตอนที่ผมอยู่ช่วงเด็กๆหน่อยผมเป็นคนชิวๆ เรียนง่ายๆคิดแบบว่าเราเกรดแย่ขนาดไหนยังไงก็มีคนที่เกรดแย่กว่าเราอยู่แล้ว ถึงเราอยู่อันดับที่30ในห้องแต่ในห้องมีตั้ง40คนแนะ ไม่เป็นไรหรอก
แต่พอผ่านไป2ปีผมอยู่อันดับ35 ในห้องมี37คนครับ555 ก็ยังคิดนะว่ายังเหลืออีก2คนที่แย่กว่าเรา จนกระทั่งผ่านไปอีกปีเท่านั้นแหละครับ รู้ซึ่งเลยครับคำว่าที่โหล่
คนเราก็แบบนี้แหละ อย่าว่าแต่เมื่อก่อนเลยตอนนี้ผมก็เป็นนะ เพราะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องมีคนที่อ่อนกว่าเรา แต่ถ้าเรานิ่งเฉยอยู่ยังไงซักวันคนพวกนั้นก็จะแซงเราครับ
ตอนนี้ผมก็คิดนะว่ายังไงซะก็ยังมีพวกนักเขียนมือใหม่รั้งท้ายเราอยู่ แต่จะให้เขาแซงหน้าเราที่มาก่อนได้ง่ายๆก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งรองโหล่ผมหวงนะไม่ให้แซงหรอก555
เอาเป็นว่าคิดแบบนั้นไปก็ไม่ได้แย่หรอก อย่างน้อยก็ไม่ได้ไปหนักหัวใครครับ ขอแค่เราอย่านิ่งเฉยปล่อยให้ตัวเองอยู่ที่เดิมก็พอ อิ_อิ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?