Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แก้ไขแบบร่างฉากที่เป็นการถกเถียงกัน แบบนี้พอผ่านมั้ยครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
จากกระทู้เดิมนะครับ https://www.dek-d.com/board/view/3906658/ ที่เป็นฉากตัวละครถกเถียงกันเรื่องทำแท้งกับสองวิชา คือวิชาศีลธรรม(อ.จิรานันทร์) กับวิชาสุขศึกษา(อ.ธีรัตน์)

ทีนี้มีหลายคนบอกว่าผมไม่เป็นกลาง บอกว่าผมเอนไปฝั่งภาเกินไปจนฝั่งต่อต้าน คือลั่นทมและอ.ธีรัตน์ดูไร้เหตุผลและไร้ตรรกะเกินไป ยอมรับนะครับว่าผมนึกหัวร้อนจากคนในเน็ตที่เถียงประเด็นนี้มากไป(ชื่อ อ.ธีรัตน์ก็เอามาจากคนในเน็ต คนที่ชอบไปเม้นขวางโลกตามเพจดังนี่แหละ)

ผมเลยลองคิดทบทวนดูเกี่ยวกับการแก้ไขคำพูดตัวละครฝั่งต่อต้านการทำแท้งบางส่วนครับ

ลั่นทม

วิชาศีลธรรม :
 ไม่ควรจะทำลายชีวิตของเด็กคนนึงแม้เขาจะยังเป็นคนไม่สมบูรณ์ เราจะไปตัดสินให้เขาตายเพียงเพราะความผิดพลาดที่ผู้ใหญ่ก่อขึ้นไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมอีกด้วย การฆ่าโดยเจตนานี่ยังไงก็เป็นบาป มันจะเป็นกงกำกงเกวียนติดตัวไปตลอดชีวิต ต่อให้จะอ้างเรื่องการท้องเพราะโดนข่มขืนก็ไม่ควรทำ เพราะสิ่งๆนั้นคือการชดใช้กรรมที่ก่อเอาไว้ในอดีตชาติ เด็กเกิดมาแม่ไม่รักก็เป็นกรรมของเขาที่ต้องชดใช้ เราไม่อาจไปขวางทางนั้นได้

วิชาสุขศึกษา : ไม่ควรทำ เพราะมันส่งผลกระทบในระยะยาวต่อแม่เด็ก เพราะการทำแท้งหลายๆครั้งก็อาจจะเจอเครื่องมือไม่สะอาด เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งเหตุผลเรื่องสภาพจิตใจของแม่เด็กอีกด้วย อาจส่งผลให้แม่เด็กมีลูกไม่ได้-มีลูกยาก ควรปล่อยให้เขาเกิดมาดีกว่า หากไม่พร้อมจริงๆก็หาครอบครัวบุญธรรมไม่ก็เอาไปไว้สถานรับเลี้ยงเด็กก็ยังดี

ส่วนฝั่งอาจารย์ธีรัตน์ผมยังนึกไม่ออกจริงๆว่าจะแก้ยังไง ขออนุญาตข้ามครับ คิดว่าอาจารย์ธีรัตน์ควรพูดยังไงคอมเมนต์บอกได้ครับ


ยังมีต่ออีกหน่อย อันนี้เป็นคำตอบวิชาสุขศึกษา หลังจากที่ลั่นทมพูดจบ ภาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของลั่นทม บวกกับหมั่นไส้มาตั้งแต่คาบวิชาศีลธรรมก็แย้งขึ้นทันที ส่วนนี้จะเพิ่มความเทาของฝั่งภาขึ้นมาบ้างครับ

"ถ้ากรณีที่ถูกกฎหมาย เช่นเพราะเป็นโรคร้าย เพราะโดนข่มขืนก็ทำได้ การทำแท้งถูกกฎหมาย แถมทำโดยหมอโรงพยาบาลได้มาตรฐานก็ยังมี

จะอ้างว่ายกให้ครอบครัวบุญธรรม เหอะ หายากอะที่จะเอาไปเลี้ยงแบบดีๆ ส่วนใหญ่เอาไปเป็นทาสไม่ก็ขี้ข้าเกือบทั้งนั้น

สถานสงเคราะห์ก็ไม่ใช่ว่าจะดีอะไรนะ ที่นั่นเด็กอย่างเยอะ เจ้าหน้าที่ก็น้อย ส่วนใหญ่ก็พวกฝึกงานมาแล้วก็ไป เลี้ยงกันแค่ตามหน้าที่ ไม่มีมาเอาใจทุกคนหรอก เจ้าหน้าที่หลักหน่วย-หลักสิบ เด็กหลักร้อย-หลักพัน แต่เด็กวัยนั้นเค้าต้องการความรักไง ถ้าเอาไปในนั้นเด็กก็มีปม

เอาเป็นว่าไม่ต้องดูถึงตรงนั้นหรอก ขนาดบ้านหลังใหญ่ๆคนดูแลเป็นสิบ เด็กแค่ 1-3 คนยังไม่มีปัญญาให้เวลา ให้ความรักเท่าเทียมกัน รักแค่คนสองคน ที่เหลือเป็นหมาหัวเน่า สุดท้ายผลิตขยะสังคมออกมา แล้วนับประสาอะไรกับสถานรับเลี้ยงเด็กล่ะ จริงๆถ้าทำแท้งเสรีได้ก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องมีขยะสัคมเพิ่มมาเรื่อยๆ"

เสริมนะครับ
1.สำหรับประเด็นนี้เป็นประเด็นที่โต้เถียงกันตอนปี พศ.2547 คือจะกึ่งๆพีเรียดนิดนึง ยุคที่สื่อโซเชี่ยลใหญ่ๆอย่าง Facebook Line Twitter ยังไม่มีบทบาทในไทย เวป Pantip ก็ไม่ใช่เวปที่นิยมกับเด็กวัยนี้นัก ตัวละครฝั่งต่อต้านจะอ้างเรื่องบาป-บุญมากหน่อย(ถึงไม่หนักเท่าสมัยรุ่น2540ลงไปก็ตาม) 

2.ตัวละคร ผมเขียนให้เป็นพวกเอาตัวเองเป็นใหญ่ทั้งสองฝ่าย จริงๆส่วนหนึ่งก็ด้วยอุปนิสัยที่ทั้งคู่มักจะเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก เอาอารมณ์เป็นหลัก ขาดการรับฟังที่ดี ถึงรับฟังก็ฟังเฉพาะเพื่อนกับคนที่ตัวเองรัก ประกอบกับช่วงวัยที่ยังไม่โตมากก็อาจมีความคิดแบบเด็กๆ+ขาดวุฒิภาวะ ภาเองก็มีปมโดนรังแกจากเด็กที่มีปัญหากับครอบครัวแล้วมาระบายกับคนอ่อนแอกว่า ส่วนฝั่งลั่นทมก็เป็นพวกที่ค่อนข้างมองโลกแบบขาว-ดำ มักจะดูถูกคนที่คิดในทางบาปแม้เพียงเล็กน้อยด้วยความที่บ้านของเธอเป็นพวกธรรมมะสายเคร่ง(แต่มักจะดูถูกคนทำบุญน้อยและคนที่น่าจะเป็นคนเลว-คนไม่ดี)

3.ประเด็นการทำแท้ง ไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะเขียน รายละเอียดเลยอาจจะไม่มากนัก แต่เรื่องนี้จะเน้นที่ปมขัดแย้งทางความคิดระหว่างภากับลั่นทมที่มักจะคิดตรงข้ามกันมาตลอด ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบขี้หน้ากัน ซึ่งเรื่องประเด็นการทำแท้งก็ส่วนหนึ่ง เพราะการที่ลั่นทมต่อต้าน คนในห้องมักเห็นด้วยเพราะสมัยนั้นเป็นยุคที่คนต่อต้านการทำแท้งมีมากกว่าคนมองแบบเป็นกลาง-สนับสนุน คนกลุ่มหลัวมักโดนมองว่าเป็นพวกไม่ดี(ในยุคนั้น) ภาเลยโดนมองเป็นนางร้ายไป ในขณะที่ลั่นทมคือนางเอกประจำห้อง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่มีทางดีได้เลย

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

BackHand 7 ก.พ. 62 เวลา 20:32 น. 1

ก็เหมือนที่ผมตอบในกระทู้ที่แล้วครับ ว่าความจริงแล้วมันขึ้นกับการวางคาแรกเตอร์ตัวละครของท่าน เท่าที่ติดตามจากกระทู้นั้น เหมือนท่านจะจงใจวางคาแรกเตอร์ให้ครูธีรัตน์เป็นตัวแทนของคนใจแคบ เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก ถ้าท่านจงใจวางคาแรกเตอร์แบบนั้น ก็จะให้ครูแกมีบุคลิกไม่ฟังเหตุฟังผลยังไงก็ได้ครับ


เอาจริงๆนะ ผมขอพูดตามตรงละกัน ปัญหาที่แท้จริงของท่านมันไม่ได้อยู่ที่ท่านวางบทโต้วาทีไม่เป็นกลางหรอก...


มันอยู่ที่ท่านไม่มีความมั่นใจในการสร้างนิยายของท่านมากกว่า ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่มาตั้งกระทู้ถาม แล้วพอโดนคนบ่นเรื่องท่านไม่เป็นกลางมากๆเข้า คราวนี้ท่านก็ชักเขวละ


ท่านคือคนประพันธ์นิยายนะครับ คือเจ้าของโลกที่ท่านสร้างขึ้นเอง คือคนให้กำเนิดตัวละครเหล่านั้น แล้วท่านยังต้องฟังคำคนอื่นอีกเหรอ? ความจริงต่อให้ท่านเขียนบทโต้วาทีไม่เป็นกลาง แต่องค์ประกอบอื่นๆมันสามารถทำให้ผู้อ่านคล้อยตามได้ ว่าทำไมตัวละครถึงสุดโต่งแบบนั้น นิยายของท่านก็ออกมาสมบูรณ์แบบและดูเรียลอยู่ดีนั่นแหละครับ


ผมกับคนอ่านอื่นๆ ก็ได้แต่เสนอแนะตามข้อมูลที่ท่านให้เท่านั้น แต่ข้อมูลทั้งหมด..ท่านเป็นคนกุมเอาไว้นะครับ ท่านต้องรู้จักนิยายตัวเอง รู้จักตัวละครที่ตัวเองสร้างมากกว่าคนอื่นสิ! ถูกไหมครับ?

3
FujiKung168 7 ก.พ. 62 เวลา 20:49 น. 1-1

แต่ผมก็ตระหนักจริงๆครับ ว่าบทบางส่วนดูขาว-ดำเกินไปหน่อย

0
BackHand 7 ก.พ. 62 เวลา 21:09 น. 1-2

ถ้าอย่างนั้นมันก็ต้องแก้ที่ตัวท่านเองครับ ท่านต้องสมมติตัวเองเป็นฝ่ายต่อต้านการทำแท้ง แล้วท่านลองคิดดูว่า ถ้าท่านมีเจตนาดี แค่เห็นว่าการทำแท้งมันไม่ถูกต้อง ท่านจะใช้เหตุผลอะไรมาคัดง้างฝ่ายตรงข้าม

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมเป็นฝ่ายต่อต้านการทำแท้ง นอกจากเหตุผลที่ผมเขียนให้ท่านดูในกระทู้ที่แล้ว ผมก็อาจจะเสนอหนทางแก้ปัญหา เช่นอาจจะบอกว่าผมไม่สนับสนุนการทำแท้ง แต่ผมสนับสนุนให้ยกระดับสถานสงเคราะห์ สนับสนุนให้มีการดูแลคุณแม่ที่ตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ เพื่อที่เด็กที่เกิดมาจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี คุณแม่เองก็ยังสามารถมีอนาคตต่อไปได้ อะไรทำนองนี้ครับ

แต่ก็อย่างที่ว่าครับ มันขึ้นกับท่านวางคาแรกเตอร์ตัวละครเป็นยังไง และจุดประสงค์ของบทโต้วาทีที่ท่านเขียนมันคืออะไร

ถ้าท่านอยากให้มันสูสี ท่านก็ทำให้ทั้งสองฝ่ายสูสี ถ้าท่านอยากจะสะท้อนความสุดโต่ง ท่านก็ทำให้มันสุดโต่งไปเลย ก็แค่นั้นเองครับ

ปล. อาจจะดูเหมือนผมดุ แต่เอาจริงๆ ผมต้องการให้ท่านมั่นใจในตัวเอง นี่แหละปัญหาที่แท้จริงของท่านที่ผมมองออกล่ะ

0
white cane 8 ก.พ. 62 เวลา 07:36 น. 1-3

ผมขอยืนยันอีกเสียงหนึ่ง เท่าที่สังเกตมา เป็นอย่างที่ว่าไม่มีผิด เจ้าของกระทู้ "ขาดความมั่นใจในตัวเอง"


ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง ผมว่าเจ้าของกระทู้น่าจะมาเจอตรงที่เรียกกันว่า "ตันกับเนื้อหา" ไม่รู้ว่าจะเขียนยังไงให้ตรงใจหรือเชื่อมต่อไปยังบทต่อๆ ไปได้ ผมว่าลองไปเดินเล่น หรือไม่ก็หาอะไรมาอ่านให้ใจสงบดูก่อนก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องการอ่าน ถ้าเราไปอ่านข่าว หรืออ่านนิยาย เราอาจได้ไอเดียอะไรเจ๋งๆ มาก็ได้นะครับ ผมเองก็ได้ไอเดียตลกๆ มาจากข่าวเช่นเดียวกัน จึงเอามายัดอยู่ในนิยาย ให้เป็นมุกตลกไป

0