Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์+แนะนำสอบเข้าต.อ.จากรุ่น 82 (ยาวมาก)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะน้องๆ เตรียมอุดม รุ่นที่ 83 และรุ่นต่อๆไป สำหรับปีนี้พี่ก็ซิ่วมาเพื่อสอบอีกรอบแล้วอ่ะเนอะ แต่ความมั่นใจเพิ่มขึ้นจากพี่ที่แล้วมาแค่นิดเดียวเอง สำหรับปีแรกที่เคยสอบคือปี 61 ปีนั้นพี่ลนมากๆจนทำข้อสอบไม่ได้เลยค่ะ เลยไม่สามารถแนะนำอะไรให้ได้มาก แต่ความยากของข้อสอบพี่ว่ายากกว่าปีนี้ซึ่งก็คือปี 62 อยู่พอสมควรเลย ซึ่งตรงจุดนี้แหละที่ทำให้พี่เครียด แนะนำน้องๆว่าถ้ามีกำลังพอจะซื้อคอร์สเรียน พี่สนับสนุนให้ซื้อไปเลยค่ะอย่าลังเล ถ้าไม่มีพื้นฐานแน่นๆเป็นทุนเดิม บวกกับสมองที่สามารถรับเรื่องราวต่างๆได้ภายในเวลาอันสั้นขอบอกเลยว่าอย่าประมาทโดยเด็ดขาด

ให้กำลังใจด้วยข้อพึงระวังจากประสบการณ์ ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นสามารถข้ามไปได้เลยน้า

อันดับแรกขอเกริ่นด้วยอดีตของพี่ก่อนเลย อันที่จริงพี่ตั้งใจจะสอบเข้าเตรียมอุดมมาตั้งแต่ ม.2 แล้ว แต่คำว่าเตรียมอุดมสำหรับพี่เป็นเป้าหมายที่เหมือนจะอยู่ไกลเกินไปจนพี่ลังเลเกินกว่าที่จะลงมือทำ พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าความฝันนี้เริ่มมาจากสาเหตุไหน สาเหตุหลักๆก็คงเป็นการที่พี่ไม่เก่งวิชาคณิตเอาซะเลยจนต้องมาเรียนสายภาษาอย่างเต็มตัวล่ะมั้งคะ (ฮา) แต่พี่ก็ยังไม่เริ่มทำอะไรเป็นจริงเป็นจังสักทีจนกระทั่งขึ้น ม.3 แล้ว ช่วงนั้นพี่เริ่มมีปัญหากับเพื่อน มีปัญหากับอะไรหลายๆสิ่งจนกลายเป็นว่าพี่ไม่สามารถทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาได้เลย คำว่าเตรียมอุดมพี่ก็เริ่มทิ้งมันไปเพราะพี่คิดว่าตัวเองต้องทำไม่ไหวแน่ๆ จากที่พี่มั่นใจในสกิลภาษาอังกฤษของตัวเองมาโดยตลอด กลายพี่เริ่มดูถูกตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ การที่โดนเปรียบเทียบจากใครสักคนอยู่บ่อยๆทำให้ความคิดพวกนี้เริ่มมามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเราโดยไม่รู้ตัว พี่ไม่มีความมั่นใจแม้แต่จะจับปากกาทำข้อสอบหรือหยิบแบบฝึกหัดขึ้นมาทำเลยด้วยซ้ำ ไม่อยากจะโทษเขาเลยแต่พี่ก็ยังคงโกรธในสิ่งที่เขาเคยทำกับพี่อยู่เหมือนกัน ถึงเราจะเลิกคบกันไปแล้ว แต่บาดแผลหลายๆอย่างที่กินเวลาชีวิตพี่ไปจนถึงหนึ่งปี พี่ไม่สามารถให้อภัยใครได้จริงๆ

สิ่งที่พี่อยากจะบอกน้องๆคือ พี่ไม่อยากให้หนูท้อเพราะหนูกำลังดูถูกตัวเองมากเกินไปนะคะ บางคนอาจจะโดนดูถูกจากคนอื่นหรืออะไรก็ตามแต่ แค่หนูเชื่อว่าตัวเองทำได้และลงมือทำทันทีก็เหมือนการก้าวเข้าไปหาเส้นชัยอีกก้าวแล้ว อะไรที่พี่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ พี่จะไม่ปลอบใจว่าแค่พยายามก็ทำได้หรอกเนอะ แต่ทุกคนทำได้จริงๆค่ะ เพียงแต่กว่าจะไปถึงเส้นชัยนั้นได้ แค่จุดเริ่มต้นของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันแล้วจริงๆ

ช่วงนั้นพี่สุขภาพจิตแย่มากๆตลอดทั้งหนึ่งปี ด้วยสาเหตุจากความคิดหรือทัศนคติของตัวเองประกอบกับสภาพแวดล้อมที่พี่ไม่ค่อยโอเคด้วยเท่าไหร่ พี่ทิ้งเวลาเกือบหนึ่งปีนั้นไปอย่างไร้ค่ามาก หายใจทิ้งให้พออยู่รอดไปวันๆจนลืมไปเลยว่าครั้งหนึ่งตัวเองเคยคาดหวังกับเตรียมเอาไว้มากขนาดไหน พี่เริ่มมีปัญหากับการนอนอาจจะมาจากความเครียดและวิตกกังวลในช่วงนั้นด้วย กลับบ้านมาพี่ไม่มีแรงแม้แต่จะทำการบ้านเลยค่ะ อ่านหนังสือเตรียมสอบคงไม่ต้องพูดถึง พี่ไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ ความรับผิดชอบเริ่มบกพร่องจนมีปัญหากับงานที่ใช้เป็นคะแนนเก็บ ถึงจะไม่ได้แย่มากถึงขั้นเถลไถลแต่ก็ทำเอาเกือบไม่รอดอยู่เหมือนกัน พี่บอกเลยว่า ม.3 นั้นเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยมากๆสำหรับพี่ สอบเก็บคะแนนกับการบ้านจุกจิกยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เคยมีรุ่นพี่รุ่นก่อนๆบอกเอาไว้ว่า ม.3 เป็นช่วงเวลาที่มีเวลาว่างมากที่สุดแล้ว พี่บอกเลยว่าอย่าไปเชื่อนะ ตารางชีวิต ม.3 แน่นกว่าช่วงม.2 มากเลยน้า ㅜㅡㅜ

รู้ตัวอีกทีก็เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งเดือนค่ะ พี่เริ่มเตรียมตัวก่อนสอบในช่วงปิดเทอม 1 เดือนเต็มๆ ไม่ได้เรียนพิเศษภาษาไทยหรือแม้กระทั่งสังคม ภาษาอังกฤษเรียนเอ็นคอนเซ็ปต์ แต่ก็ไม่ครบดี ใช้สกิลภาษาอย่างตามมีตามเกิด พอใกล้เวลาเข้ามาก็เหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าต้องทำตามความฝัน แต่ความฝันในครั้งนี้มันเปลี่ยนไปจากเดิมอยู่นิดหน่อย นั่นก็คือพี่อยากจะออกจากโรงเรียนเดิมมากจริงๆ เหมือนความรู้สึกที่อยากหนีกลายเป็นแรงกระตุ้นอย่างแรงกล้าทำให้พี่ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือตั้งแต่เช้ายันดึก ตลอดระยะเวลา 1 เดือน พี่เครียดมากๆเพราะพี่คาดหวังว่าตัวเองจะได้หลุดพ้นจากที่นั่นถึงแม้ลึกจะรู้อยู่แล้วว่าเวลาแค่นั้นมันไม่พอแน่ๆ พี่แอบร้องไห้อยู่หลายรอบมาก สภาพดูอิดโรยไม่ต่างกับคนป่วยเพียงแต่ตัวพี่แค่เริ่มพังมากจากข้างใน

สำหรับวันสุดท้ายก่อนสอบหรือแม้กระทั่งวันสอบพี่ก็ยังอ่านอยู่ค่ะ หลายๆคนบอกให้พี่เทไปเลยนะแต่พี่ไม่สามารถตัดใจเททุกอย่างในสองวันนี้ได้จริงๆค่ะT^T ซึ่งสำหรับคนที่อ่านมาจนพร้อมแล้วอาจจะสะดวกแบบนี้มากกว่าอันนี้ก็แล้วแต่บางคนตัดสินใจ ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆอย่างหลังจากที่ประเมินตัวเองออกมาแล้ว บางคนก็ยังมองว่า ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 วัน ก็สำคัญสำหรับเขาเหมือนกันค่ะ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบความสะดวกใจของน้องๆแต่ละคนเลยน้า ไม่จำเป็นต้องไป fix ตารางตามที่พี่ๆแนะนำเสมอไปนะคะ

ช่วงเวลาที่อยู่ในห้องสอบพี่รู้สึกมึนหัวมากๆอาจจะเพราะอากาศในห้องสอบไม่ถ่ายเทพอด้วย บวกกับคืนก่อนสอบพี่พักผ่อนเพียงแค่ 3 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น เลยกลายเป็นว่าทุกอย่างดูไม่อำนวยไปหมดแม้กระทั่งความรู้ในสมองของพี่เอง พี่ตื่นสนามจนไม่สามารถ manage เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมงครึ่งได้เลย ชั่วโมงแรกๆไม่เท่าไหร่ พอสองชั่วโมงให้หลังพี่เริ่มมีอาการปวดต้นคอจนรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน (อาการคล้ายๆกับ office syndrome ยังไงอย่างนั้นเลย) ซึ่งวันที่สอบพี่ไม่ได้พกแว่นไปด้วย อยากเตือนน้องๆที่ติดนิสัยไม่ชอบพกแว่นแต่สายตาสั้นมากๆแบบพี่อย่าประมาทตรงนี้เด็ดขาดเลยนะ ทั้งร่างกายและสมองของเราต้องมีความพร้อมอยู่เสมอค่ะ จนถึงวันนี้พี่ยังเสียใจอยู่เลยว่าถ้าสมาธิพี่ไม่หลุดไปช่วงหลังๆพี่อาจจะยังสู้ได้มากกว่านี้ แต่ก็ต้องยอมรับในผลการกระทำของตัวเองกันไปค่ะ

ปล. วันนั้นพี่สอบห้อง Grand Diamond ค่ะ พี่รู้สึกไม่ค่อยชอบห้องนี้เท่าไหร่พอเทียบกับห้อง Banquet 101 ที่พี่สอบปีล่าสุด เพราะค่อนข้างสว่างไปสำหรับพี่ นิสัยส่วนตัวคือชอบแสงสีขาวที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปอย่างห้อง Banquet มากกว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากใส่แว่นกันแดดเข้าไปเลยนะคะ แต่ก็เกรงว่าคุณครูที่คุมสอบจะไม่ให้เอาเข้าเพราะกลัวมีจาร์วิสซ่อนในแว่นของพี่นี่สิ (ล้อเล่นค่ะ)



แทรกแนวข้อสอบเล็กน้อยให้น้องๆ

ข้อสอบปี 61

พอสอบเสร็จพี่รู้สึก blank มาก เหมือนตอนนั้นจะจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าสอบเรื่องอะไรไปบ้าง เอาแค่ที่จำได้รางๆแล้วกันนะคะ

วิชาภาษาไทย

ปีนั้นออกวรรณคดีค่อนข้างเยอะอยู่ค่ะพอมาเทียบกับปีนี้ จำได้อยู่ข้อเดียวที่ถามเกี่ยวกับภูเขาสัตบริภัณฑ์ทั้ง 7 ค่ะ อยากให้น้องๆเก็บทุกหน่วยทุกเม็ดให้ได้มากที่สุดนะคะ ยิ่งเก็บได้มากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสมากเท่านั้น (วิชานี้เก็บง่ายที่สุดแล้ว)

วิชาภาษาอังกฤษ

พี่รู้สึกว่าปีนั้นออกค่อนข้างง่ายแต่พี่ทำไม่ค่อยได้เพราะพี่แกรมม่าร์ไม่แน่นเอาซะเลย ปี 61 ออก error มาทีเดียว 10 ข้อเลยถ้าพี่จำไม่ผิดนะ พี่เหวอมากๆ ทำตัวไม่ถูก พาร์ทที่พี่ไม่ถนัดที่สุดอยู่ตรงนี้ รองลงมาคือ cloze test แต่ในพาร์ท Reading ที่พี่มั่นใจว่าถนัดมากๆก็ยังไม่มั่นใจเลยค่ะ พาร์ทอื่นคงไม่ต้องพูดถึง ปีนั้นออกคำศัพท์ไม่เยอะและค่อนข้างง่ายค่ะ ในพาร์ทที่พี่ไม่ถนัดพี่อยากเน้นย้ำให้น้องเคาะพื้นฐานแกรมม่าร์ตัวเองให้แน่นจนถึงแน่นที่สุด เพราะนอกจากจะใช้ใน Cloze test และ Error มากที่สุดแล้ว ยังมีผลไปถึงการแปลพาร์ท Reading ด้วยค่ะ ในความคิดของพี่คือ ถ้าน้องอยากให้ให้เร็วๆ แปลเร็วๆ บางครั้งก็ต้องอาศัยความรู้ในเรื่องโครงสร้างประโยคด้วย วิชานี้ต้องอาศัยการฝึกฝนที่ค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยค่ะ ยิ่งถ้าต้องแข่งกับคนที่ใช้ชีวิตกับภาษานี้เหมือน native speaker แล้วก็ยิ่งหดหู่ แต่อย่าท้อนะคะ ทำความคุ้นชินกับมันไปเรื่อยๆเนอะ พี่ก็เริ่มมาจากการที่พื้นฐานแกรมม่าร์ไม่แม่น สกิล Critical Thinking แทบจะเป็น 0 เลยเหมือนกัน แต่พี่อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่ในความนานของระยะเวลาที่ใช้ไปตารางพี่ค่อนข้างจะหลวมกว่าคนอื่น ถ้าน้องกลัวว่าเวลาจะไม่พอพี่อยากให้ฝึกทั้งเช้าเย็นไปเลยค่ะ เหนื่อยหน่อยแต่ผลลัพธ์คุ้มค่ามากๆเลย

วิชาสังคม

พี่รู้สึกท้อมากที่จะแนะนำวิชานี้ แต่พี่ก็จะพยายามขุดมาเพื่อแนะนำให้น้องๆก็แล้วกันน้า พี่จำได้แค่ว่าข้อที่พี่เหมือนทำได้แต่ก็ทำไม่ได้ก็คือข้อที่ให้จับคู่พระราชกรณียกิจของแต่ละรัชกาล แต่เขาจะไม่ให้ชื่อมาโดยตรงค่ะ เขาให้มาเป็นรูปภาพ และแผนที่พี่ว่าออกทุกปีจริงๆ ขึ้นอยู่กับว่ามากน้อยแค่ไหนก็เท่านั้น ในเรื่องพระพุทธศาสนาพี่ขอโทษทีค่ะที่พี่ลืม พี่ไม่แม่นหลักธรรมจริงๆ เพราะฉะนั้นน้องๆต้องอ่านมานะคะ;-; ที่เหลือที่พี่จำได้แค่ว่าออกเกี่ยวกับอะไรบ้างคือเศรษฐศาสตร์เรื่องอุปสงค์-อุปทานค่ะ ตรงจุดนี้จะค่อนข้างพื้นๆไม่ลึกมากแต่น้องต้องรู้จริง เพราะความพื้นๆเนี่ยแหละที่ทำใครหลายคนสับสนจนผิดมาแล้ว ส่วนข่าวสารบ้านเมืองช่วงนั้นก็ต้องรู้เหมือนกันค่ะ แต่สำหรับพี่ เขาน่าจะออกข่าวดังเกี่ยวกับ Politic (Global+Thai) Geography (ที่ดังๆในช่วงนั้น ว่าประเทศไหนเจอพายุมรสุมภัยพิบัติอะไรบ้างบลาๆ เกาะขอบจอทีวีหรือทวิตเตอร์เอาไว้ให้ดีค่ะ ยิ่งดังยิ่งต้องคลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาข่าว)

ข้อสอบปี 62

วิชาภาษาไทย

สำหรับพี่ปีนี้ไม่ยากเลยค่ะน้องทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย พอง่ายก็กลายเป็นว่าเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นมาคือต้องผิดให้น้อยที่สุดเนี่ยแหละที่ทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นยากไปเลย;-; ปีนี้ส่วนใหญ่ออกหลักภาษาทั้งเช้าบ่ายเลย แต่ภาคเช้าง่ายสุดสำหรับพี่ เพราะภาคบ่ายออกส่วนที่พี่ไม่ถนัดอยู่ด้วยก็คือข้อใดมีคำที่เขียนผิด ฮือ ซึ่งตรงนี้จะชอบออกอะไรที่หน้าตาดูเหมือนจะไม่ผิดแต่ก็ผิด กับ อะไรที่หน้าตาเหมือนจะผิดแต่ไม่ผิดเนี่ยแหละ (อย่างเช่น หลับไหล>หลับใหล)

ปีนี้ออกบาลี-สัน กับ คำสมาสสนธิด้วยค่ะ แต่จำคำถามไม่ได้ขอโทษด้วยน้า แล้วก็ถามเกี่ยวกับบทละครเรื่องเห็นแก่ลูกว่าใครเป็นคนพระราชนิพนธ์บทละครนี้ แต่จะไม่ถามตรงๆค่ะ แต่ให้ไดอะล็อกของบทละครนี้มาแทน ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไรค่ะ (อยากให้น้องๆจำพระนามแฝงของรัชกาลที่ 6 มาให้แม่นๆเลยนะคะ เพราะอาจจะออกหรือไม่ออกก็ได้ แต่เรื่องนี้ค่อนข้างเด่นเลย มีถามทุกแบบฝึกหัดที่พี่ทำมา) รวมๆก็คือ ตั้งใจเรียนวรรณคดีวิจักษ์กับหลักภาษาเถอะน้า อย่าดูถูกเนื้อหาในห้องเรียนเด็ดขาดเลยนะน้องๆศิลป์ภาษาㅜㅡㅜ

ก็คือสรุปภาคเช้าจะวัดเกี่ยวกับหลักภาษาซะส่วนใหญ่นี่แหละ รู้สึกว่าจะไม่มีเกี่ยวกับวรรณคดีเลย หรืออาจจะมีสักข้อสองข้อพี่ก็จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ แง ส่วนภาคบ่ายก็จะลงลึกไปที่รายละเอียดอีกนิดหน่อย กับวรรณคดีแทรกเข้ามา ถามเกี่ยวกับโคลง กลอนอีกเล็กน้อย (ถามว่าบทประพันธ์ข้างต้นเป็นบทประพันธ์ประเภทใด ประมาณนี้) แล้วก็ราชาศัพท์และวิธีการใช้ (ถามว่าข้อใดใช้คำราชาศัพท์ได้ถูกต้อง) เรื่องลักษณะนาม โจทย์ถามว่า ข้อใดใช้ลักษณะนามเดียวกัน

วิชาภาษาอังกฤษ

อ่า บอกเลยว่าค่อนข้างอึ้ง พอไปเทียบกับปีที่แล้วคือปีนี้ค่อนข้างยากกว่า และที่สำคัญ Cloze test เยอะมากกกกก โอย ต่อให้พยายามฝึก Cloze test มามากเท่าไหร่แต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี แต่หลายคนอาจจะมองว่าไม่ยากนะถ้าพื้นฐานแกรมม่าร์น้องแน่นปึกปัก แต่สำหรับพี่มันยากตรงที่หลายๆข้อมีชอยส์ที่เหมือนจะใช่ทั้งสองข้อแล้วทำให้ตัดชอยส์ยากนี่แหละ พี่เสียเวลาตัดชอยส์นานทีเดียว และที่เสียใจที่สุดคือมีแต่คนบ่นว่าอังกฤษภาคเช้าง่าย แต่ภาคบ่ายยาก ซึ่งสำหรับพี่ภาคบ่ายง่ายกว่า เพราะภาคเช้าพี่ไม่ค่อยตรงกับที่พี่ฝึกมาเลย (พี่ก็ไม่รู้ว่าภาคเช้าจะคะแนนถึงเกณฑ์ที่ควรได้มั้ยเนี่ยสิ ฮือออออ)

ก็คือภาคเช้าจะวัดเรื่องหลักภาษาเป็นหลักนะเท่าที่พี่จำได้ แต่รีดดิ้งช่วงเช้าค่อนข้างน้อยมากเพราะเป็นข้อสอบที่ต้องใช้วัดกับทุกสาย แต่ถ้าเป็นข้อสอบภาคบ่ายคือวัดเด็กศิลป์ภาษาโดยเฉพาะ จะวัด Reading เป็นพิเศษ(ซึ่งยากมาก) กับ Cloze test ก็ยังคงออกเยอะอีกเช่นเคย แต่พิเศษขึ้นมาหน่อยคือ เพิ่ม Error มา 5 ข้อ แต่ก็ไม่ได้ยากนะคะ(แค่ไม่รู้ว่าถูกมั้ย._.) แล้วก็คำศัพท์รวมๆแล้วก็ประมาณ 5-8 ข้อ อาจจะประมาณนี้หรือน้อยกว่านั้นค่ะ ซึ่งถ้าพูดถึงตัวชอยส์ไม่ได้ยาก แต่จะใช้ถูกกับบริบทที่ให้มามั้ยคืออีกเรื่อง (ชอยส์เท่าที่พี่จำได้ > passionate inquisite chance tendency spell pronounce)

ข้อที่พี่จัดว่าเป็น miscellaneous คือข้อที่ถามว่าคำนี้ออกเสียงกร่พยางค์ (พยางค์ = syllable) และข้อที่เขาถามว่าข้อใดอ่านออกเสียงต่างจาก sure ชอยส์คือ procedure endure mature อีกข้อพี่จำไม่ได้ค่ะ แต่ข้อนี้ตอบ procedure นะ พี่ตอบผิด แงㅠㅡㅠ

วิชาสังคม

เป็นวิชาที่พี่เสียใจและเสียดายมากที่สุด และอาจเป็นวิชาที่ฉุดคะแนนพี่ลงไปเลยก็ว่าได้ เพราะปีนี้เหมือนจะออกไม่กว้างมาก แต่พี่ขอเน้นย้ำเลยว่าออกตรงกับ คอร์สพิชิตสังคมสอบเข้าต.อ. ของ อ.ชัย แทบทุกอย่าง ไม่ได้หน้าม้าค่ะแต่ออกจริงๆ พี่เพิ่งมาเก็บเอาสามวันสุดท้ายเรียนไปได้ครึ่งนึงก็คือ 6 เทป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจะทันแล้ว แต่พอพี่เรียนผ่านถึงจะจำได้ไม่หมดแต่พี่จำได้เลยว่าอ.ชัยเก็งตรงไหนไว้บ้าง (แต่ปีหน้าอาจจะตรงหรือไม่ตรงก็ได้นะคะ แต่คอร์สนี้เนื้อหาค่อนข้างเยอะก็เลยครอบคลุมทุกจุดจริงๆค่ะ)

เท่าที่พี่จำได้ ปีนี้ออกเกี่ยวกับสัทธรรมค่ะ คือเขาจะให้โจทย์มาว่า ประยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ตรงกับหลักธรรมในข้อใด (ตอบสัทธรรม) ไม่แน่ใจว่าถามประมาณนี้มั้ยนะ หรืออาจจะถามว่าหลักธรรมนี้เกี่ยวข้องกับวันสำคัญทางศาสนาในข้อใด พี่ไม่แน่ใจเลยค่ะ ถ้าบอกโจทย์ผิดพี่ขอโทษด้วยนะหนูลูก

อีกอย่างนึงที่พี่พลาดคือแผนที่ค่ะ... เขาให้แผนที่ประเทศมา และถามว่าประเทศ B คือประเทศใด ในชอยส์ ซึ่งคำตอบคือบาห์เรนแต่พี่ดันไปตอบการ์ตา พี่ได้ยินหลายๆคนเลยที่เดาบาห์เรนเพราะช่วงนี้มีข่าวดังเกี่ยวกับนักฟุตบอลที่ขอลี้ภัยจากประเทศนี้ แต่พี่นึกไม่ถึงเลย ถ้าไม่รู้จริงๆแล้วอยากเดาให้เก็บวิธีนี้ไว้พิจารณาเถอะนะคะ คิดไม่ถึงเลยว่าการเดาแบบนี้จะได้ผล โอย

ปีนี้อย่างที่บอกคือข่าวดังมาแรงมักจะออก ปีนี้ถามเกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งค่ะ แต่จะถามว่าข้อใดผิดกับข้อใดถูก ถ้าน้องๆติดตามข่าวสารดีๆก็น่าจะตอบได้ค่ะ เพราะเป็นแค่การจับจุดผิดคล้ายๆ error

พายุปาบึกㅜㅜ ปีนี้ถามว่าทิศทางทางลมในข้อใดเป็นของพายุปาบึกค่ะ ซึ่งบอกตรงๆเลยว่าพี่ไม่รู้เพราะดูแค่ผ่านๆตา พี่เลยสนับสนุนให้หนูกดเข้าไปอ่านเนื้อหาข่าวกันเยอะๆนะ เก็บทุกจุดตั้งแต่เจอข่าวเลย อย่าผัดไปอ่านครั้งหน้าแบบพี่

แนะนำที่เรียนพิเศษ

ในฐานะศิลป์-ภาษา สำหรับพี่ข้อสอบเตรียมสายนี้มันวัดว่าใครผิดน้อยที่สุดก็แค่นั้น (หรือพูดง่ายๆก็คือใครเก็งมาตรง เก็บครบทุกจุดก็สามารถทำได้แน่นอนค่ะ) แต่กว่าจะมาถึงจุดนั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้พื้นฐานอยู่พอสมควรเลย ที่เรียนพิเศษไม่สามารถช่วยน้องๆตรงจุดนี้ได้จริงๆ เพราะเขาค่อนข้างจะไปเร็ว (แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเรียนรู้ของน้องด้วยนะ ถ้าน้องๆคนไหนเรียนรู้เร็วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ) แต่น้องคนไหนรู้ว่าตัวเองเรียนพิเศษที่เนื้อหาเข้มข้น เก็งเน้นๆไม่ไหวเพราะไม่มีพื้นฐาน อ่านเนื้อหาเองก็จำไม่ค่อยได้ พี่แนะนำให้น้องๆหาวิธีปูพื้นฐานตัวเองด่วนๆเลยค่ะ

วิชาภาษาอังกฤษ

ถ้าเป็นการติวพี่เรียนอยู่ที่เดียวคือของ enconcept คอร์ส Junior Grammar & Error ถ้าอยากได้แกรมม่าร์แน่นๆพี่แนะนำเลย เพราะมันครอบคลุมมาก พี่เรียนรวม 2 รอบได้เพราะเรียนรอบแรกพี่ไม่เข้าใจเลย;-; อย่างที่บอกคือค่อนข้างจะไปเร็วมาก ถ้าน้องๆคนไหนพื้นฐานไม่ค่อยแน่นอาจจะต้องซ้ำบ่อยๆ ที่สำคัญเรียนแล้วอย่าลืมทวนบ่อยๆสลับทำโจทย์นะ!

อีกคอร์สที่พี่เรียนคือคอร์สสอบเข้าเตรียมของเอ็นคอนเซ็ปต์ค่ะ พี่เรียนเมื่อปีที่แล้วแต่เรียนไม่จบ แต่คอร์สนี้ค่อนข้างจะเน้นไปที่ reading กับตะลุยโจทย์มากที่สุด สำหรับพี่คอร์สนี้ค่อนข้างง่าย แต่ถ้าน้องคนไหนอยากเก็บสำนวนคำศัพท์เบ็ดเตล็ดและยังอ่านรีดดิ้งไม่ค่อยคล่องหรือต้องการจะเคาะทุกอย่างให้มันแน่นๆ พี่ก็แนะนำคอร์สนี้นะ อาจจะมีเก็งตรงนั้นตรงนี้ด้วยแต่ถ้าต้องการแม่นแกรมม่าร์อย่างเดียวพี่แนะนำ Junior G. มากกว่าค่ะ

Vocab พี่เรียนคอร์ส Junior Vocab & Reading ตอนม.2 แต่ก็เหมือนเดิมค่ะ เรียนไม่จบ;_; แต่ถ้ามีเวลาแล้วอยากเก็บศัพท์ได้เยอะๆพี่แนะนำคอร์สนี้นะคะ พี่ชอบ memologic ของคอร์สนี้มาก แต่ไม่ได้ลง memolody เอาไว้ สำหรับพี่ memologic เหมือนจะจำได้ง่ายกว่า เพราะมันจำความหมายเป็นคำๆไป วิธีจำก็จำได้ง่ายและติดหัวด้วย

ข้อเสียของคอร์สโวแคบคือค่อนข้างจะอัดมากเกินไปจนบางคนอาจจะรับไม่ค่อยไหว enconcept อัดเนื้อหาแน่นมากเลยไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ต้องการเรียนแบบสนุกและยืดหยุ่นเท่าไหร่ ขนาดพี่เรียนเองยังเบื่อเลยค่ะช่วงแรกๆ มันเยอะมากจริงๆ แต่ถามว่าคุ้มมั้ย พี่ว่าคุ้มเกินราคาไปมากค่ะ ได้อะไรเยอะมากๆ ซึ่งจะคุ้มหรือไม่คุ้มนั้นขึ้นอยู่กับน้องๆแล้วว่าน้องๆใส่ใจทบทวน+ทำโจทย์ได้มากขนาดไหนแล้วล่ะค่ะ (เพราะพี่เป็นคนนึงที่เรียนแบบทิ้งขว้างไม่เห็นค่า กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว)

วิชาภาษาไทย

คอร์สครูลิลลี่ในตำนาน ครบเป๊ะทุกจุด เรียนกับครูลิลลี่ถ้าบอกให้หนูจดตรงไหนหนูต้องจดนะคะแล้วอย่าลืมทวนด้วย เพราะเราไม่มีทางรู้จริงๆว่าเขาจะเลือกหยิบรายละเอียดตรงไหนมาออกบ้าง แต่ที่แน่ๆหลักภาษาพื้นฐานน้องต้องรู้ค่ะ อย่าคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะสำคัญไม่น่าจะออกค่อยเรียน/ทบทวนทีหลังแบบพี่เลย ถ้าเขาออกมาแบบไหนหนูต้องสู้ได้หมดนะ (พี่ไม่แน่ใจว่าเขาจะสลับความยากง่ายไปตามปีมั้ย อยากให้เก็บภาษาไทยไว้แน่นๆเลยค่ะ พี่กลัวว่าปีหน้าอาจจะพลิกให้ภาษาไทยออกมายากและจุกจิกกว่าเดิม เพราะปีนี้ออกภาษาไทยง่ายมาก และวิชานี้สมควรจะพลาดน้อยที่สุดจริงๆ)

พี่เรียนคอร์สเตรียมอุดม 1 กับคอร์สโค้งสุดท้ายของครูลิลลี่ค่ะ

วิชาสังคม

พี่อยากย้ำอีกทีว่าเสียดายมากมากมากมากมากมาก ปีนี้ออกไม่ค่อยกว้างและตรงกับที่อ.ชัยเก็งไว้ด้วย เพราะอ.จะช่วยเน้นว่าปีนี้มีข่าวไหนเด่นๆบ้าง จะจับมาเชื่อมโยงกับเนื้อหาที่เรียนให้ กับเรื่องไหนที่ควรรู้ แต่ปีที่แล้วมีคนบอกว่าไม่ตรงบ้าง ซึ่งถ้าต้องการทุกอย่างครบเบ็ดเสร็จสำเร็จรูป เนื้อหาแน่นๆครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานไปยันแอดวานซ์คอร์สนี้เลยค่ะ อย่างน้อยน้องก็น่าจะได้พื้นฐานมาใช้ประยุกต์บ้าง (ไม่น้อยนะคะพี่ว่า คอร์สนี้เข้มข้นมาก หนังสือเล่มโต กับตัวหนังสือเล็กๆ)

วิชานี้พี่เรียนคอร์สพิชิตสังคมสอบเข้าต.อ.ค่ะ



แนะนำหนังสือ

วิชาภาษาอังกฤษ

วิชานี้พี่ทำสะเปะสะปะมาก แต่ถ้าแนะนำจริงๆคือ bittersweet (พี่รู้สึกว่าเล่มนี้ตรงกับพาร์ทบ่ายมากกว่า แต่ก็ข้อสอบจริงก็ยังยากอยู่ดี), statice(เล่มนี้พี่รู้สึกว่ายากขึ้นมาหน่อยนึง หรือเพราะพี่ทำไม่ค่อยได้แต่คนอื่นอาจจะทำได้ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะTT) สำคัญคือ Cloze Test for practice กับ Reading & Critical Thinking ของอ.เอมอุษาค่ะ จริงๆมี Error ของอ.เอมอุษาด้วยแต่พี่ไม่ได้ซื้อมา ก็คือเล่มที่อ.เอมอุษาเขียนพี่ว่าเหมาะสำหรับการฝึกทำมากเลยนะ ไม่ได้ยากค่ะ แต่ก็ไม่ได้ง่ายเกินไป ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย

Youme ในตำนาน พี่มีแต่ทำได้ไม่กี่ชุดค่ะ เลยแนะนำอะไรไม่ได้ ขอโทษจริงๆ แต่ก็ยังอยากส่งต่อให้น้องๆอยู่นะT^T

จับตายวายร้าย Vocab พี่ชอบเล่มนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกก เพราะมีคำศัพท์มาให้เยอะมากที่ต้องใช้ วิธีการจำไม่ต้องมานั่งท่องให้ปวดสมอง (แต่ก็ยังต้องทวนและใช้บ่อยๆ งงมั้ย เราต้องทำทุกทางให้ vocab ที่เราเจอจัดอยู่ใน long-term ให้ได้ค่ะ) แต่ถ้าน้องถนัดจำคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ Vocab สีชมพูของดร.ศุภวัฒน์ อาจจะเหมาะกับน้องก็ได้ค่ะ เพราะคำศัพท์เยอะและน่าจะครอบคลุมกว่าด้วย รวมถึงคำศัพท์ยากๆเท่าที่พี่พรีวิวดู เล่มนี้อาจจะตอบโจทย์กว่า แต่พี่ไม่ได้อ่านเล่มสีชมพูเป็นหลักนะ พี่ยืมของพี่สาวมาดูนิดหน่อย เพราะมันเยอะมาก ปรากฏว่าพี่สู้ไม่ค่อยไหว

สรุปก็คือ ภาษาอังกฤษทำจากหลายๆเล่มดีที่สุดค่ะ พี่ไม่สามารถบอกได้ว่าเล่มไหนตรงที่สุดได้จริงๆ เพราะขนาดที่พี่มั่นใจว่าฝึกมาเยอะแล้ว มาเจอข้อสอบจริงยังอึ้งและใจแป้วไปเลย ดังนั้นน้องต้องฝึกมาทุกระดับนะคะถึงจะปลอดภัย เขาให้เราทำอะไรเราต้องทำได้นะ!

วิชาภาษาไทย

มีหนังสือน้อยมากจริงๆค่ะ ถ้าไม่นับหนังสือของรุ่นพี่เพราะเขารวมภาษาอังกฤษกับไทยไว้ด้วยกันอยู่แล้ว แต่ที่แนะนำจริงๆคือ ตะลุยโจทย์ภาษาไทย ม.3 สอบเข้า ม.4 เตรียมอุดม เล่มสีฟ้าค่ะ เล่มนี้ยากนะสำหรับพี่และตรงหลายอย่างด้วย คือไม่อยากแนะนำอะไรมากเพราะนึกไม่ออก แต่มันดีจริงๆ ครอบคลุมมากๆเลย อีกอย่างคือมันสามารถทำให้หนูกลับไปทบทวนได้ตรงจุดมากขึ้นด้วย เฉลยละเอียดมากๆ พี่ชอบ

ที่เหลือพี่ฝึกจากหนังสือของรุ่นพี่และทวนจากที่เรียนพิเศษเอาค่ะ

วิชาสังคม

... ขอโทษค่ะ ไม่ได้ฝึกตะลุยโจทย์อะไรทั้งสิ้นเลย แงงงงงงงงงง น้องๆอย่าประมาทแบบพี่อย่างนี้นะคะ ถ้ามีเวลาก็ใส่ใจให้มากๆนะ วิชานี้อาจเป็นตัวชี้ชะตาของหนูๆศิลป์ภาษาได้เลยนะลูก

รวมๆคือประมาณนี้ค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้แนบรูปหนังสือไว้ให้เพราะบางส่วนพี่ไม่ได้ขนมาจากบ้านค่ะ ถ้ากลับบ้านแล้วพี่จะรีบแนบรูปหนังสือให้น้องๆเลยนะคะ

สุดท้ายแล้ว!

หลังจากที่เขียนยาวมานาน กระทู้นี้อาจจะเวิ่นๆน้ำๆเยอะหน่อย แต่พี่พยายามนึกทุกอย่างเท่าที่นึกจะนึกได้และพยายามแนะนำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อให้หนูไม่มาเสียใจเอาทีหลังแบบพี่นะ อย่ามัวแต่นึกว่าพรุ่งนี้จะมีเวลา อาจจะเหมาะสมกว่าที่จะเริ่มต้นพรุ่งนี้ หนูนึกขึ้นได้เมื่อไหร่ทำตอนนั้นเลย ต่อให้วันนั้นจะอ่านได้แค่สองสามหน้า แต่ถ้าได้เริ่มแล้วจะไม่มีทางเสียใจอย่างแน่นอน เชื่อพี่นะ อีกอย่างคือ อย่าท้อ อย่าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ อย่าฟังคำดูถูกของคนอื่น หรือแม้แต่จะเทเพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่ทัน สำคัญที่สุดคือน้องๆให้คุณค่ากับความสามารถของตัวเองไว้ขนาดไหน ถ้าประเมินตัวเองแล้วว่าเรามีทุนน้อย พื้นฐานน้อยอาจจะต้องพยายามกว่าคนอื่นให้มากขึ้น แต่หนูต้องทำได้แน่นอนค่ะ รักตัวเองให้มากๆ ฟังคนอื่นให้น้อยลง(แต่ไม่ใช่ไม่ฟังเลยนะ!) ถ้อยคำดูถูกต่างๆนานา พี่รู้นะว่ามันยากที่จะเปลี่ยนให้คำดูถูกพวกนี้มาเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเองได้ แต่สักวันหนึ่ง พี่เชื่อนะว่าน้องๆจะต้องทำใจยอมรับที่อยู่กับมันให้ได้ พี่ไม่อยากให้ถ้อยคำพวกนั้นมามีอิทธิพลต่อการพัฒนาของหนู คิดซะว่าสุดท้ายแล้ว มันก็แค่คำๆหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้มานั่งใส่ใจกับทุกจังหวะของชีวิตของเราจริงๆ หรือต่อให้เขาเกลียดเรา ยังไงเขาก็ต้องหาเรื่องมากดหนูให้จมลงไปให้ได้อย่างที่เขาต้องการอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าไปให้ค่ากับอะไรแย่ๆมากเกินไปจนเสียเวลาชีวิตแบบพี่ พูดก็พูดง่ายเนอะ;-; แต่พี่รู้ค่ะว่าหนูจะต้องเรียนรู้ได้ในสักวัน


สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด! พี่อยากให้น้องๆทุกคนตั้งใจอย่างเต็มที่ อ่านกระทู้พี่เสร็จแล้วเปิดหนังสืออ่านทันทีได้ยิ่งดีค่ะ เต็มที่และสนุกไปกับมัน ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องมาเสียใจในภายหลัง ต่อให้ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ถ้าน้องพยายามอย่างเต็มที่พี่ว่ามันก็คุ้มค่านะ พี่รู้ว่าถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่เหมือนอย่างที่หวังไว้ ใครๆก็ต้องเสียใจเหมือนกัน เพราะพี่ก็เป็นค่ะ แต่เสียใจเสร็จแล้วเราต้องมูฟออนให้ได้ ซึ่งพี่ก็พยายามตรงนี้อยู่เหมือนกัน อย่าลืมว่าคนที่ผิดหวังไม่ได้มีแค่น้องคนเดียวน้าㅜㅡㅜ ทุกคนพร้อมที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางไปกับหนูไปจนถึงตอนจบอีกเยอะแยะเลย พี่อยากให้น้องๆ มองว่าระหว่างทางเราได้อะไรมากกว่าการมองผลลัพธ์ที่ปลายทาง ไม่อยากเห็นใครต้องโดนความผิดหวังกลืนกินระยะเวลาช่วงหนึ่งในชีวิตเหมือนอย่างพี่

สู้ๆนะคะทุกคน ด้วยรักถึงเหล่าคนผู้มีความฝัน ขอให้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานและคุ้มค่าที่สุดช่วงหนึ่งของน้องๆ อย่าลืมความฝัน อย่าละทิ้งตัวตน และอย่าลืมที่จะมีความสุขอยู่เสมอนะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

REDMELLOW2 13 มี.ค. 62 เวลา 22:25 น. 1

พี่ขอแก้ไขจากด้านบนนี้น้า พี่เข้าใจผิดค่ะว่าภาคเช้าทุกสายสอบอังกฤษชุดเดียวกันซึ่งก็คือ ฉ.2 แต่ไม่ใช่ค่ะ ภาคบ่าย ฉ.1 อิ้งสอบเหมือนกันทุกสายเนอะ แงงงงงง ขออภัยในความผิดพลาด;-;

0
REDMELLOW2 13 มี.ค. 62 เวลา 22:39 น. 2

โอยยยยยยย จุดที่พีเขียนผิดเยอะเลย ภาษาอังกฤษชุดที่พี่บอกว่ายากคือชุดภาคบ่ายที่วัดทุกสายนะคะนะคะะะ ฉ.1 ฉ.2 พี่สับสยไปหมดแล่ว ขอโทษจริงๆค่ะ

1

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น