Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ว่างครับ หาเพื่อนคุย ถาม-ตอบ แลกเปลี่ยนสารพันปัญหาเกี่ยวกับการเขียนนิยาย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อนั่นเลย

แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

llsamplell 30 มี.ค. 62 เวลา 23:04 น. 1-1

ที่นี่แหละครับ แต่ถ้าเป็นความลับก็ค่อยว่ากันหลังไมค์ก็ได้

0
llsamplell 30 มี.ค. 62 เวลา 23:08 น. 2-1

คุยเรื่องเกี่ยวกับการเขียนนิยายครับ ^^

0
คนเบลอกับตัวอักษรที่ผิดเพี้ยน 30 มี.ค. 62 เวลา 23:19 น. 3

ตอนนี้มีปัญหาแค่ว่าติดเล่นโซเชียลจนไม่มีเวลาจะแต่งนิยาย

แถมตอนนี้อยากจะแต่งเรื่องใหม่เพิ่มอีกด้วยแหละ...


ถามได้แบบนี้ได้ไหม?

5
llsamplell 30 มี.ค. 62 เวลา 23:44 น. 3-3

คำถามแรก


ตอบ : เล่นไปด้วยเขียนไปด้วยครับ อาจจะเขียนใส่กระดาษก็ได้ แล้วเล่นโซเชียลในคอมหรือมือถือ


คำถามที่สอง


ตอบ : ต้องกดปุ่มหยุดคิดไว้ก่อนครับ ถ้าจะคิดแวบเมื่อไรต้องรีบกดหยุดปุ่มทันที อย่าปล่อยให้ไฟมันลาม555

0
กัปตันหมาป่า 30 มี.ค. 62 เวลา 23:48 น. 3-4

เราไม่มีคำตอบให้ค่ะ แต่เราจะบอกว่า....เราก็เป็นเหมือนกันค่าาาาา555555 แต่เอาจริงๆก็แอบยุ่งเรื่องการเรียนการสอบด้วยแหละ55555

0
yurinohanakotoba 30 มี.ค. 62 เวลา 23:28 น. 4

ขอถามสองข้อแล้วกันครับ นั่งคุยกับเพื่อนแล้วยังไม่ค่อยพอใจกับบทสรุปที่ได้ อยากสร้างสไตล์ของตัวเองที่โดนใจคนอ่านต้องเริ่มอย่างไรครับ Voice ต้องถูกใช้ออกมาแบบไหนงานถึงจะดูมีเสน่ห์

18
llsamplell 30 มี.ค. 62 เวลา 23:35 น. 4-1

คำถามแรกนะครับ


ตอบ : ต้องเริ่มจากคิดถึงใจคนอ่านก่อนครับ เริ่มตั้งแต่เขียนให้คนกลุ่มไหนอ่าน คนกลุ่มนั้นชอบแบบไหนยังไง ส่วนสไตล์นั้นต่อให้ไม่อยากสร้างมัน มันก็มีความเฉพาะของแต่ละคนอยู่ดี


คำถามที่สอง


ตอบ : Voice ต้องถูกใช้ออกมาแบบที่คนเล่าเรื่องรู้สึก 'สนุก' ตอนที่เล่าเรื่องด้วยครับ อันนี้สำคัญมากเลย การยืม Voice มาจากเพลงหรือแรงบันดาลใจถือเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งเพราะมันจะถูกใช้แก้ขัดได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นแต่ไม่มีความยั่งยืน

0
yurinohanakotoba 31 มี.ค. 62 เวลา 00:14 น. 4-2

แล้วเรื่องสไตล์นี่ผมจะเริ่มแบบไหนครับ ขอแบบเป็นรูปธรรมหน่อยได้ไหมครับ อยากได้คำแนะนำ แล้วก็เรื่อง voice นี่ค่อนข้างเกี่ยวกับเรื่องสไตล์อยู่เหมือนกัน แต่ผมไม่มั่นใจว่าเราคุยกันความหมายเดียวกันหรือเปล่า https://image.dek-d.com/27/0733/2441/128541090

จริง ๆ ผมเองก็สับสนเรื่องสไตล์กับวอยซ์อยู่เหมือนกันว่าอะไรจะมีอธิพลต่อคนอ่านมากกว่ากันในเรื่องของความจับใจ คุยกับเพื่อนความเห็นก็ค่อนข้างแตก ว่าเราควรแน้นสไตล์หรือวอยซ์มากกว่ากัน

0
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 00:27 น. 4-3

งั้นเอาแบบนี้ดีกว่าครับ คุณช่วยขยายความระหว่าง voice กับ สไตล์ ในความเข้าใจของคุณให้ได้ไหมครับ เพื่อที่จะได้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน เพราะหลายๆความเห็นค่อนข้างจะแตกออกและไม่ค่อยจะตรงกันในเชิงความเข้าใจสักเท่าไร


ส่วนสำหรับผม ผมไม่ได้มองสองอย่างนี้สำคัญเลย เพราะผมมองว่าสองสิ่งนี้จะแฝงอยู่ในงานเขียนด้วยตัวของมันเองเมื่อมีปัจจัย 2 อย่าง


1. คือการกำหนดแก่นหลักใจความสำคัญ


2. คือเมื่อคุณมีทักษะของ 'การเล่าเรื่องที่ดีพอ'

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 00:45 น. 4-5

ผมค่อนข้างขอค้านครับ Voice ไม่ใช่เรื่องที่จะเปลี่ยนกันได้ง่ายนั่นเรื่องจริง และการเลือกเรื่องที่เข้ากับ Voice นั่นก็ทำให้ง่ายกว่าก็จริง แต่คนเขียนสามารถกำหนดและเปลี่ยนแปลง Voice ได้ตาม 'มุมมอง' ครับ ถ้าลองเปลี่ยนมุมมอง Voice ก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

yurinohanakotoba 31 มี.ค. 62 เวลา 11:46 น. 4-7

เอ มันไม่ต้องขยายความอะไรเลยนะครับคำว่า style กับ voice ความหมายในเชิงงานเขียนมันใช้กันชัดเจนอยู่แล้ว เหมือนเราพูดคำว่า plot กับ theme เราคงไม่ต้องย้อนถามกันหรอกนะว่า plot ในความเข้าใจของผมคืออะไร นิยายทุกเรื่องมันก็มี style และ voice ของผู้แต่งอยู่แล้วล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นนิยายที่เล่าเรื่องดีหรือแย่ คำถามผมเลยอยากพูดคุยเรื่องการสร้าง style จะเริ่มสร้างอย่างไร "อย่างเป็นรูปธรรม" ถ้าผมจะปล่อย style ให้เกิดขึ้นอย่างตามมีตามเกิดก็คงไม่ถามขึ้นมาหรอกครับ ส่วนเรื่อง voice หลายครั้งที่เห็นผู้เขียนสนุกกับการเล่าเรื่องแต่คนอ่านไม่ได้สนุกด้วย นักเขียนจึงควรรู้จังหวะการใช้ voice ของตัวเองให้เกิดเสน่ห์ แล้วเราจะใช้ออกมาแบบไหนดี ขอถามย้ำอีกครั้งแล้วกันครับ อยากฟังไอเดียเพื่อนำมาใช้ สำหรับคุณคนเมาคำ voice ของนักเขียนแต่ละคนไม่ใช่เรื่องที่จะเปลียนได้เลย คำถามของผมเลยมุ่งไปที่การถูกนำมาใช้อย่างมีเสน่ห์ คำตอบของคุณคือการเลือกเรื่องที่เขียนให้เข้ากับ voice ของคนเขียน ผมพิจารณาแล้วก็เห็นด้วยอยู่หลายส่วน แต่พอเป็นนักเขียนเราก็อยากจะเล่าเรื่องหลาย ๆ แนว เลยอยากได้ไอเดียที่ยืดหยุ่นกว่านี้ ยังไงก็ขอบคุณมากครับสำหรับไอเดียนี้



0
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 16:36 น. 4-8

ก่อนอื่นนะครับ การถามถึง Voice กับ Style สำหรับผมมันไม่ต่างจากคำถามที่ว่า 'การเป็นตัวของตัวเองมันต้องทำยังไงเพื่อให้มีสเน่ห์' เพราะคำตอบในใจของผมคือนั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะประเด็นสำคัญคือ เพื่อใคร เพื่ออะไร ทำอย่างไร ด้วยวิธีไหน และเมื่อไร


เอาเรื่องสไตล์กันก่อน ขอบอกถึงการสร้างสไตล์ของตัวผมเองอย่างเป็น 'รูปธรรม' ผมเริ่มสร้างตั้งแต่การศึกษากลุ่มเป้าหมายที่ตัวผมต้องการจะเขียนนิยายให้พวกเค้าอ่าน ผมเขียนนิยายโรแมนติกครับ แต่พื้นของตัวผมชอบเขียนแอ็คชั่น กลุ่มนักอ่านของผมคือ 'ผู้หญิง' เป็นส่วนใหญ่ สไตล์ของผมจึงถูกสร้างตาม 'กรอบพื้นความชอบของกลุ่มเป้าหมาย' และตัดส่วนเกินที่กลุ่มเป้าหมายไม่ต้องการออกไป เช่น ตัวเอกควรเป็นผู้หญิง ตัวเอกควรมีนิสัยชวนเพ้อฝัน บรรยายกาศของเรื่องควรจะละมุนอบอุ่นหัวใจ จังหวะการดำเนินเรื่องควรจะชวนลุ้น(รัก)


การตอบครั้งแรกผมบอกว่า '...การคิดถึงใจคนอ่านก่อน' การคิดถึงใจคนอ่านจะสร้างกรอบว่าอะไรควรทำไม่ควรทำในงานเขียน และสุดท้ายสไตล์จะเกิดขึ้นในกรอบนั้นเอง(ขออภัยที่ผมอาจตอบได้ไม่เข้าใจ)


ส่วนคำตอบครั้งที่สองผมตอบว่า 'เมื่อมีการกำหนดแก่นหลักใจความสำคัญ' และ 'เมื่อมีทักษะในการเล่าเรื่องที่ดีพอ' สไตล์จะตามมาเอง เพราะข้อแรก เมื่อคุณกำหนดแก่นหลักใจความสำคัญว่าคุณเขียนเพื่อใคร อะไร อย่างไร เท่าไร แบบใด สิ่งที่ได้ตามมาคือ 'กรอบ' ที่จะเป็นแม่พิมพ์ในการสร้างสไตล์ขึ้นมา


ข้อสอง เมื่อคุณมีทักษะในการเล่าเรื่องที่ดีพอ อันนี้ค่อนข้างจะเทไปทางว๊อยซ์ซึ่งตรงกับที่คุณถามตอนหลังพอดี ถ้าเปรียบให้เห็นภาพมากขึ้นด้วยการเปรียบการเขียนนิยายเป็นการเล่านิทาน ต้องเล่าอย่างไร แค่ไหน เมื่อไร เพื่ออะไร มีวัตถุประสงค์อย่างไร หลังจากที่คุณเข้าใจในเรื่องของ 'ทักษะการเล่าเรื่องแล้ว' ถึงตอนนั้นที่ขาดไม่ได้เลยคือ 'ความสนุกที่การเล่าเรื่องของเราทำให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมตามไปด้วย'


ทั้งสองคำตอบอาจไม่ใช่คำตอบทางตรง แต่ผมเชื่อว่ามันมีผลโดยตรงต่อทั้งว๊อยซ์และสไตล์แน่นอน


ผมยังยืนยันว่าว๊อยซ์ของคนเขียนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามมุมมอง และไม่ใช่แค่ว๊อยซ์ แต่ความจริงนักเขียนยังสามารถเปลี่ยนสไตล์การเขียนได้ด้วย ผมเคยเจอนักเขียนคนนึงที่ทำได้แบบนั้น เค้าสามารถเขียนงานสองชิ้นให้ดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจนนึกว่าเป็นคนละคนเขียนได้ด้วยการเปลี่ยนมุมมองของผู้เขียนที่มีต่องานเขียน(เสียดายที่ผมไม่ได้เซฟเก็บไว้เพื่อนำมาให้ดู)


อันนี้เป็นตัวอย่างงานเขียนอีกสองชิ้น ผมอยากให้ลองสังเกตงานเขียนสองชิ้นนี้ที่มีพื้นฐานของ 'ความกลัว' เหมือนกัน แต่ใช้ 'มุมมอง' ต่างกัน หากมองข้ามเรื่องของเทคนิคการเขียน จะพอเห็นได้ว่า 'สไตล์ของงานทั้งสองชิ้นต่างกันเหมือนเหรียญคนละด้าน'


https://image.dek-d.com/27/0784/5848/128544059

.

.

.

https://image.dek-d.com/27/0784/5848/128544058

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

llsamplell 1 เม.ย. 62 เวลา 13:46 น. 4-10

คำถาม 1. คิดว่าในงานสองชิ้นนี้มีนักเขียนกี่คน

2. คิดว่างานเขียนทั้งสองชิ้นนี้มีงานเขียนไหนที่ใช้คนเขียนเดียวกับงานสองชิ้นด้านบนหรือไม่?

https://image.dek-d.com/27/0784/5848/128549234

.

.

.

https://image.dek-d.com/27/0784/5848/128549250


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

llsamplell 1 เม.ย. 62 เวลา 21:48 น. 4-13

ขอบคุณสำหรับคำถามด้วยครับ คุณช่วยให้ผมได้มองเห็นในมุมมองใหม่ๆเยอะขึ้นด้วย ขอบคุณครับ


ผมพยายามนั่งหาคำตอบว่าถ้านักเขียนสามารถเปลี่ยนว๊อยซ์หรือสไตล์ได้ ทำไมนักเขียนจึงไม่เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คำตอบที่ผมพอจะคิดได้คือเพราะความชอบส่วนนึง และเพราะว่าเราได้เลือกสไตล์หรือว๊อยซ์ที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับตัวเองแล้วส่วนนึง ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาให้วุ่นวายหรือเสียเวลาโดยไม่จำเป็น


ตอนแรกผมพยายามจะแสดงให้คุณเห็นด้วยการเปลี่ยนว๊อยซ์หรือสไตล์ของตัวเองเป็นตัวอย่าง มันพอจะทำได้แต่ใจมันไม่โอเค เหมือนใจมันไม่ยอมรับในผลงานที่รู้แก่ใจว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เรารู้สึกว่าโอเคที่สุด ผมเลยขอให้คนรู้จักช่วยโดยการขอให้เค้าลองเปลี่ยนมุมมองในการเขียนดู ซึ่งก็ได้ผลตามตัวอย่างด้านบน


ผมไม่เคยคิดถึงมุมมองอะไรแบบนี้เลย ขอบคุณมากครับ ผมรู้สึกว่าได้รับประโยชน์เยอะมากจากความคิดที่แตกต่างกัน หวังว่าจะมีอะไรที่ได้มานั่งถกกันอีกในโอกาสต่อไป


ขอบคุณครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

yurinohanakotoba 2 เม.ย. 62 เวลา 14:26 น. 4-15

; _ ;) ไม่อยากจะพิมพ์อะไรยาว ๆ เลยครับ ไม่ค่อยมีเวลา และเรื่องพวกนี้พูดไปก็เหมือน สอนหนังสือสังฆราช คนรู้มากเห็นเข้ามีแต่จะหัวเราะ แต่มีสองจุดที่ผมเห็นต่าง

Style จะเป็นเรื่องของการเขียนครับ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค การเลือกใช้คำ การใช้ระดับภาษา แม้แต่โทนเสียง ความสั้นยาวของประโยค การเว้นจังหวะหายใจเวลาอ่าน ยังมีจำแนกอีกว่าเป็น style แบบบรรยาย โน้มน้าวใจ เล่าเรื่อง OK ผมสรุปที่คุณจะพูดคือ ถ้าผมอยากเขียนไลท์โนเวล ผมต้องไปหาไลท์โนเวลมาศึกษา Style แล้วผมก็จะพบว่าไลท์โนเวลใช้ประโยคสั้น ๆ ใช้บทพูด จะ Narrative กันไว ผมก็ต้องเขียนโดยใช้ style นั้นสื่อสารกับคนอ่าน แค่นั้นก็พอแล้ว ไปสนใจการเล่าเรื่องดีกว่าเพราะเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งหมดจะบอกว่าไม่ผิดนะครับ การเล่าเรื่องสำคัญแน่นอนครับ แต่ไม่ตรงกับคำตอบที่ผมต้องการ ; ; Voice จะถูกแบ่งเป็น Author’s Voice (วอยซ์ของผู้เขียน) กับ Character’s Voice (วอยซ์ของตัวละคร) เรามาที่ Character’s Voice กันก่อน Voice ในที่นี้ไม่ใช่เสียงพูดของตัวละคร แต่เป็นการสื่อสารที่ตัวละครนั้นแสดงออกมา ถ้าตัวละครคุณโตมาในครอบครัวที่เข้มงวด ถูกกดด้วยสังคมแบบอำนาจนิยม แต่ดันมีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงมัน คุณก็ต้องออกแบบการพูดการใช้คำการแสดงออกให้เข้ากับตัวละคร นั่นคือความหมายของคำว่าวอยซ์ ลองคิดต่อไปว่า ตัวละครตัวเดิมดันมีตำแหน่งเป็นเจ้าชายพ่วงเข้าไปด้วย การพูดการแสดงออกการใช้คำก็ยิ่งซับซ้อน แล้วหากเขาเป็นเด็กข้างถนน วอยซ์ของตัวละครก็จะยิ่งพลิกไปเป็นอีกแบบหนึ่ง

Author’s Voice ก็ทำงานเหมือนกับวอยซ์ของตัวละครแต่ต่างกันทีมันคือวอยซ์ของผู้เขียนที่ถ่ายทอดผ่านนิยาย ยกตัวอย่างเช่น นิยายสืบสวนเรื่่องหนึ่ง ผู้เขียนเป็นนักหนังสือพิมพ์ ทำงานอยู่กองข่าวอาชญากรรม กับอีกคนหนึ่งเขียนนิยายสืบสวนเหมือนกัน แต่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่คลั่งไคล้นิยายรหัสคดี คนหนึ่งงานจะดูสมจริงสมจัง แต่อาจจะไม่ลึกลับมีเสน่ห์เท่ากับอีกคนหนึ่ง เพราะต่างมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน วอยซ์เป็นสิ่งที่หล่อหลอมอยู่ในจิตไร้สำนึกของผู้เขียน มันจึงยากที่จะเปลี่ยนแปลง อย่างคนหนึ่งเป็นศิลปินวาดภาพ อีกคนเป็นช่างภาพ การบรรยายภาพของผู้หญิงก็จะแตกต่างกัน คนแรกอาจจะเริ่มที่เส้นโค้งของโครงหน้า ในขณะที่ช่างภาพอาจจะพูดถึงอิมแพ็คที่เกิดขึ้นตอนเห็นผู้หญิงคนนั้น ซึ่งทั้งหมดที่พูดเพื่อบอกว่า Style เปลี่ยนได้ แค่อ่านนิยายสักเล่มก็อาจจะเปลี่ยน Style การเขียนไปแล้ว (แต่การสร้าง Style เฉพาะตัวผมกลับรู้สึกทำไม่ได้) แต่ Voice นี่เปลี่ยนไม่ได้หรอกครับมันมีแต่จะชัดเจนขึ้น (stable) อีกอย่างหนึ่งคำว่า signature ในงานเขียนนี่เป็นยังไงครับพออธิบายหรือยกตัวอย่างได้ไหมครับ ผมเพิ่งรู้จักคำนี้แล้ว Google หาความหมายไม่พบ

0
llsamplell 2 เม.ย. 62 เวลา 14:41 น. 4-16

yorinohanakotoba ผมเห็นด้วยกับคุณทุกอย่างครับ ทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดของผมเองครับ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาจริงๆครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

llsamplell 30 มี.ค. 62 เวลา 23:36 น. 5-1

อะไรก็ได้เกี่ยวกับการเขียนนิยายผมคุยได้หมดครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

llsamplell 30 มี.ค. 62 เวลา 23:39 น. 6-3

หลับตาแล้วยกหมอนข้างขึ้นมาครับ จากนั้นก็...


ก็จินตนาการเอาครับ 555

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

llsamplell 30 มี.ค. 62 เวลา 23:53 น. 7-5

อันนี้ปัญหาน่าจะเกิดจากการที่ตอนเขียนคุณอาจเล่นคำ หรือเล่นสำนวนครับ การจำคล้ายๆกับการทานอาหาร...บางทีอะไรที่ง่ายๆก็ย่อยง่ายตามไปด้วย


หรือถ้าไม่ใช่ปัญหานี้ ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นเพราะการกำหนดจังหวะไม่ดี การกำหนดจุดเริ่ม จุดพักก็สำคัญไม่แพ้กัน คล้ายๆตอนที่เราเล่าเรื่องให้ใครสักคนฟัง เราก็ต้องกะจังหวะในการเล่าให้อีกฝ่ายคิดตามให้ทันด้วยครับ

0
llsamplell 30 มี.ค. 62 เวลา 23:55 น. 7-6

อ้อลืม อีกประเด็นคือการกำหนดใจความสำคัญครับ บางทีบางย่อหน้า เราก็อาจลืมใส่ในส่วนที่เป็นใจความสำคัญหลักไป

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

31 มี.ค. 62 เวลา 00:00 น. 7-9

คืออ่านแล้วรู้สึกมีน้ำมากกว่าเหนือหรือคะ หรือแบบไม่ดีเท่าสำนวนเมื่อก่อน

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 00:12 น. 7-14

ถ้าให้ตอบ งั้นช่วยขยายความของคำว่า 'สำนวนหลวม' ทีครับ


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ปล่อยอึ่ง 30 มี.ค. 62 เวลา 23:49 น. 8

ขอข้อมูลนิยายในจักรวาลเดอะ หลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์หน่อยครับ


นอกจากเดอะ ฮอบบิทแล้ว ยังมีอะไรอีกไหม ผมเข้าไปดูในพันทิปแล้วยังงงๆ กับการให้ข้อมูลอยู่เลย


มีนิยายเรื่องอะไรบ้าง มีกี่เล่ม


หากมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็จัดมาเลยครับ เรียบเรียงข้อมูลให้ด้วยก็ดี ใครจะตอบแทนก็ได้ ขอบคุณ

3
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 00:01 น. 8-1

ถ้าเป็นคำถามนอกเหนือจาก 'การเขียนนิยาย' ผมจะตอบไม่ค่อยได้ครับ 555 ขออภัยด้วยจริงๆ

0
ก้อนขนสีขาว ปุย ปุย 30 มี.ค. 62 เวลา 23:51 น. 9

มีปัญหากับการห่างหายแล้วภาษาดิ่งลงเหวค่ะ และแย่ยิ่งกว่ามีปัญหาเรื่องตัวละครคุยบทสนทนามากกว่า 3 ตัวขึ้นไป จะสับเปลี่ยนบทไม่ถูก 55555555555

2
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 00:08 น. 9-1

ปัญหาห่างหายแล้วภาษาดิ่งลงเหว ส่วนใหญ่จะเกิดจากการยืม Voice มาจากเพลง งานเขียน หรือหลายๆสิ่งที่นักเขียนใช้ยึดเป็นแรงบันดาลใจครับ ซึ่งก็ตรงความหมายของคำว่า 'ยืม' ที่เมื่อต้องคืนเมื่อไรก็หมดครับ555


ส่วนปัญหาเรื่องตัวละครคุยกันหลายๆตัวแล้วสับเปลี่ยนบทพูดไม่ถูก อันนี้ถ้ายังไม่ชำนาญก็ใส่เป็นประโยคคำพูดตอบโต้กันเปลือยๆ แล้วบรรยายตอนหลังก็ได้ครับว่าใครพูดกับใครบ้าง หรือจะใช้การ 'หลบ' โดยบรรยายเอาแทนก็ได้ไม่ต้องใช้บทสนทนา

0
เจ้าหมาขาว 31 มี.ค. 62 เวลา 09:31 น. 9-2

ขอบคุณมากเลยค่ะ ที่บอกว่ายืมจากเพลงหรืออะไรก็ตามแล้วหมดนี่ใช่เลย

0
FreudM 31 มี.ค. 62 เวลา 01:21 น. 10

ทำไมเวลาตูตั้งกระทู้ให้ถาม แล้วไม่มีใครมาถามแบบนี้บ้างวะ เรียกแขกก็เรียกแล้ว พวกนี้แม่มไม่รู้จักของดี มีแต่นอกเหนือคำถามมาคุยง้อแง้งๆ กันสองคนเพิ่มยอดเม้นที่ไม่ต้องการในกระทู้ให้


แถมยังโดนเว็บมาสเตอร์มารยาททรามมาตามลบเม้นที่เราอุตส่าห์ช่วยเซ็นเซอร์คำหยาบให้ในกระทู้อีก เซ็งเลย

2
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 01:26 น. 10-1

ผมก็ไม่คิดว่าจะเรียกแขกขนาดนี้ครับ รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่คาดเดาได้เลย

0
FreudM 31 มี.ค. 62 เวลา 01:44 น. 10-2

ถูกต้องแล้วไอน้อง ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สามารถคาดเดาได้

0
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 01:37 น. 11-1

คำถามนี้ไม่สามารถตอบได้ครับ แต่ถ้าจะตอบคงมีคำตอบเดียว


คือขึ้นอยู่ที่ว่านักเขียนต้องการเล่นกับอารมณ์ ความรู้สึกของคนอ่านแบบไหน นักเขียนจำเป็นต้องตอบคำถามนี้กับตัวเองให้ได้ก่อน แล้วค่อยยึดคำตอบนั้นเป็นหลักในการ 'เริ่มต้นนิยาย'


ย้ำนะครับ '...เล่นกับอารมณ์ ความรู้สึก'

0
Individualista314159 31 มี.ค. 62 เวลา 09:47 น. 12

สวัสดีค่ะ


บ่อยครั้ง เรารู้สึกว่าคำฟุ่มเฟือยก็มีประโยชน์ในตัว คือทำให้ประโยคสมบูรณ์ขึ้น แต่มากเกินไปก็ทำให้รู้สึกว่าประโยคขาดความกระชับ สละสลวย


ไม่ทราบว่า จขกท มีวิธีหรือคำแนะนำในการกำจัดคำฟุ่มเฟือยแต่ยังทำให้ประโยคคงความสมบูรณ์ไหมคะ?


ขอบคุณค่ะ


1
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 16:41 น. 12-1

การใช้ 'หลักภาษา' เพื่อนำมาเป็นกรอบวัดความขาดเกินของรูปประโยคจะช่วยได้ในระดับนึงครับ เช่น ในหลักภาษาเรื่องการสร้างประโยค หลักของมันอาจช่วยวางกรอบให้เราได้ว่าเราควรจะขยายคำใด ข้อความไหนในประโยคเพื่อให้เกิความสมบูรณ์ของเนื้อหา

0
บุปผาหิมะโปรย 31 มี.ค. 62 เวลา 10:58 น. 13

แรงบันดาลใจอะไร ที่ทำให้คุณมาเขียนนิยายหรือคะ? เพราะเหตุอะไร แต่งเพื่อความชอบตัวเอง หรือเพื่อคนอื่น หรือตามกระแส?

5
PutterChanall 31 มี.ค. 62 เวลา 11:54 น. 13-1

แต่งนิยายอืม..ก็คงจะเป็นเพราะอยากปลดปล่อยจินตนาการตัวเองละมั่ง คือการสร้างเรื่องราวของตนเองละม้างงแต่ละคนคงอยสกปลดปล่อยความเบียวในหัวใจหรือการมโนปลดปล่อยมั้ง

0
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 16:45 น. 13-4

คำตอบของผมคงเป็น ทั้งสามข้อที่คุณบอกมาเลยครับ


ความชอบหนึ่ง


เพื่อต้องการมอบบางอย่างให้คนอ่านหนึ่ง อันนี้ขอตอบยาวนิดนึงว่าผมเคยมีปัญหาชีวิตแบบหนักมากๆ และนิยาย หนัง อนิเมะ มังงะ ช่วยทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา จากเรื่องราวที่สนุก มีข้อคิดบ้าง ไร้สาระบ้าง ผมอยากอยู่ในจุดที่มอบความรู้สึกว่ายังอยากมีชีวิตอยู่นะ ส่งต่อไปให้คนอื่นๆบ้างผ่านงานเขียน


และสุดท้ายตามกระแสอีกหนึ่งครับ เพราะผมเชื่อว่าต่อให้คนเขียนปารถนาดีแค่ไหนแต่ถ้าตัวงานเขียนส่งไปไม่ถึงคนอ่านก็คงจะน่าเสียดาย

0
บุปผาหิมะโปรย 31 มี.ค. 62 เวลา 17:04 น. 13-5

หื้มม แบบนี้นี่เอง ส่วนตัวเราเขียนเพราะว่า ไม่มีนิยายที่อยากอ่าน เลยผันตัวเองมาเขียนซะเองเลยเป็นไง ทุกวันนี้ที่เราเขียนและเป็นนักเขียน เพราะว่าความชอบของเราค่ะ เราเขียนแนวไหนก็แล้วแต่ เราจะเขียนตามความชื่นชอบของเราเท่านั้นเอง แนวไหนที่ไม่ได้จริงๆ ก็จะไม่เขียน เรามีแนวยึดหลักเป็นของตัวเอง ไม่ตามกระแสค่ะ ไม่ตามใจผู้อ่าน เพราะถ้าเราตามใจ เราคงจะเหนื่อยแย่เลย และไม่เป็นของตัวเองด้วยค่ะ

0
PutterChanall 31 มี.ค. 62 เวลา 11:52 น. 14

โอ้โหรู้สึกว่าตัวเองโง่ไปเลยอ่ะ Voice คืออารายยไม่ได้ศึกษามาแค่เห็นเค้าเขียนไงก็เอามาเขียนสไตล์ตัวเองเฉยๆ

1
llsamplell 31 มี.ค. 62 เวลา 17:58 น. 14-1

บางคนบอกว่าว๊อยซ์กับสไตล์แตกต่างกัน บางคนก็ว่ามันไม่แตกต่างกันเลย อ้อ ยังมีเรื่องของ signature อีกอย่างครับ ซึ่งระดับความสำคัญของแต่ละอย่าง แต่ละคนก็ให้ความสำคัญแตกต่าง แต่ส่วนใหญ่จะมุ่งไปให้ความสำคัญที่ซิกเนเจอร์เลยเพราะมันเป็นหน่วยใหญ่สุด

0
ฐาดา 1 เม.ย. 62 เวลา 20:09 น. 15

คิดฟิคเรื่องต่อไป อย่างแต่งแบบเบาสมอง แต่พอแต่งจริง ดันดร่าม่าจนได้ ใครมีเคล็ดลับบ้างบอกทีค่ะ

2
llsamplell 1 เม.ย. 62 เวลา 21:57 น. 15-1

อันนี้แนะนำให้ศึกษาศาสตร์ของ 'การเล่าเรื่อง' ครับ จะช่วยคุณได้ มันต้องใช้ทริคเรื่องของ 'มุมมองต่อการเขียนนิยาย' เวลาเขียนผสมเข้าไปด้วย ไม่ใช่สิ่งที่จะสอนกันได้ง่ายๆนะครับ เพราะคนที่ทำได้จริงๆมีแค่หยิบมือจริงๆ คือมีน้อยยิ่งกว่าน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนติดปัญหาแบบเดียวกับคุณทั้งสิ้น จึงมีการแก้ขัด หรือทดแทนในส่วนนั้นด้วยการยิงมุขABCอะไรก็ว่าไป ซึ่งถ้ามีใครผ่านปัญหานี้ได้ผมเชื่อว่าเค้าได้ 'เปิดประตูไปอีกมิติที่เป็นขั้นสูงสุดของการเขียนนิยาย' แล้ว

0
llsamplell 1 เม.ย. 62 เวลา 22:00 น. 15-2

ขอเสริมอีกนิด ผมเชื่อว่ามันเป็นช่วงคอขวดที่นักเขียนต้องเจอ ซึ่งส่วนใหญ่พอผ่านไปไม่ได้ก็จะหันไปเขียนนิยายที่มีดราม่าหนักๆ สยองขวัญ หรือนิยายแนวที่มีความกดดันสูงๆแทน


0