Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สตีเฟ่น คิง นี่เขามีอะไรกับศาสนาคริสต์หรือคะ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เคยดูหนังสองเรื่อง แคร์รี่ กับ เดอะมิสท์ มีตัวละครที่เป็นพวกคลั่งศาสนาคริสต์ อย่างแค่ร์รี่ ก็มีแม่เป็นคนบ้าศาสนา เรื่องเดอะมิสท์ ก็มีเหมือนกัน อยากทราบว่าเขา ไม่ค่อยจะชอบศาสนาคริสต์หรือไงคะ? สงสัยมากๆ เพราะทั้งสองเรื่อง ทำให้ศาสนาดูน่ากลัวไปเลย

แสดงความคิดเห็น

13 ความคิดเห็น

โมจิย่างร้อนๆ 2 เม.ย. 62 เวลา 23:36 น. 2

แนวๆ นี้ขายออกนะคะ เพราะมันน่าสนใจ เล่นเรื่องการคลั่งศาสนา การนับถือพระเจ้า เรายังอยากแอบๆ ใส่ลงในนิยายตัวเองเลย 55

0
kurozuki 10 ธ.ค. 62 เวลา 15:13 น. 4-3

บางคนไม่ค่อยเข้าใจก็อย่าไปว่าเขาดิ...


มันเป็นประวัติศาสตร์ในยุคมืดของฝั่งยุโรปน่ะ...แต่ประวัติศาสตร์แบบนี้ไม่ว่าใครก็อยากลืมทั้งนั้นแหละ...

0
อศาสนิก 3 เม.ย. 62 เวลา 01:42 น. 5

หนังสนุกดี


ส่วนศาสนานั้นมีส่วนที่น่ากลัวหรือดำมืดในตัวอยู่แล้ว ในสายมืดมนการจะนำสิ่งที่มีความขัดแย้งกันอย่างสุดขั้วมาเป็นวัตถุดิบถือเป็นเรื่องปกติ แครี่เล่นกับความกดดันในครอบครัว เดอะมิสต์ที่เป็นตำนานได้ส่วนหนึ่งก็เพราะมนุษย์ป้าคนนั้นเลยนะ ประเด็นของคุณคือทำไมต้องคริสต์สินะ




ถ้าคุณจะใส่ตัวละครคลั่งศาสนา ลองจินตนาการสิ่งที่เกิดขึ้นดู


พุทธ ดัดจริตไม่ฉาย - โดยรวมคนคลั่งพุทธไม่ค่อยเป็นพิษเป็นภัยกับใคร ไม่จับคนมาบูชายัญหรือทำอะไรที่มันอุกฉกรรจ์ วัตถุดิบที่ถูกใช้บ่อยก็คือพระ คอเมดี้ได้ สยองขวัญได้ ดราม่าก็ได้ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมล่ะนะ หนังแต่อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับพุทธเมื่อทำออกมาจะต้องพบกับกระแสวิจารณ์และอาจไม่ได้ฉาย


อิสลาม กลัวตายไม่ฉาย - ในภาพยนตร์ ผู้ก่อการร้ายกับศาสนาจะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ดูสิพวกเขาก็แค่คนถือปืนโพกผ้า หนังอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับที่เกียวกับอิสลามในเชิงลบ นอกจากจะไม่ได้ฉายแล้วยังอาจถูกพวกหัวรุนแรงทำร้ายอีกด้วย


คริสต์ ... โอเคเว้ยเฮ้ย! - คุณเล่นได้ คุณวิจารณ์ได้ คุณล้อเลียนได้ คุณขายได้ คุณขยี้ได้ ไม่มีคนตามฆ่าคุณหรือทำอะไรที่เลวร้าย คุณยังคงได้รับการคุ้มครองการกฎหมาย* คุณทำได้แม่มทุกอย่างคุณอยากจะทำอะไรล่ะ ผมจะบอกว่าผมโอเคกับศาสนานี้มากเลยนะ ศาสนานี้เป็นศาสนาที่ "ศาสนากับคนบ้า" ถูกแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด แม่ของแครี่กับมนุษย์ป้าในเดอะมิสต์ให้ใครมาดูก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาบ้าไปแล้ว ไม่ว่าจะนับถืออะไรก็ตาม แต่ผมกล้าที่จะพูดว่าถ้ายัยสองป้านี้นับถือศาสนาอื่นพวกเขาอาจจะเป็นคนดี เคร่งครัด และมีศรัทธามาก มีหน้ามีตาในสังคม




สรุปว่าผู้แต่งสายมืดมนทุกคนไม่ได้มีอะไรกับศาสนาคริสต์เลยครับ พวกเขาชอบด้วยซ้ำ


นอกจากนี้คริสเตียนหลายคนยังค่อนข้างจะพูดจาน่ารักอีกด้วยเวลาถามตอบเรื่องศาสนา ถ้าเทียบกับศาสนาที่เหลือ รู้สึกถึงออร่าแห่งความรักและการให้อภัยเลยล่ะครับ อันนี้ไม่ได้อวยนะครับ ผมพูดจากประสบการณ์เวลาสอบถามข้อสงสัยเรื่องศาสนาซึ่งมันก็นานมาแล้วล่ะนะ

5
อศาสนิก 3 เม.ย. 62 เวลา 01:49 น. 5-1

แก้ไขนิด ตรงที่บอกว่า


"สรุปว่าผู้แต่งสายมืดมนทุกคนไม่ได้มีอะไรกับศาสนาคริสต์เลยครับ พวกเขาชอบด้วยซ้ำ"


ผมชอบ ส่วนคนอื่นผมไม่รู้และไม่สนด้วย

0
White Frangipani 3 เม.ย. 62 เวลา 05:54 น. 5-2

สวัสดีค่ะ


คห.ที่5


ขอนุญาตแลกเปลี่ยน แบ่งปัน ข้อความข้างล่างนี้ ของคุณนะคะ


พุทธ ดัดจริตไม่ฉาย - โดยรวมคนคลั่งพุทธไม่ค่อยเป็นพิษเป็นภัยกับใคร ไม่จับคนมาบูชายัญหรือทำอะไรที่มันอุกฉกรรจ์ วัตถุดิบที่ถูกใช้บ่อยก็คือพระ คอเมดี้ได้ สยองขวัญได้ ดราม่าก็ได้ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมล่ะนะ หนังแต่อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับพุทธเมื่อทำออกมาจะต้องพบกับกระแสวิจารณ์และอาจไม่ได้ฉาย


คือในความเป็นจริงนะคะ นิยาย หรือละคร หรือแม้ภาพยนต์ ของไทยแทบทุกเรื่องซึ่งถูกนำเสนอ ตั้งแต่มีการถูกเขียนนิยาย หรือตั้งแต่มีการสร้างละคร หรือสร้างภาพยนต์ของไทย เจ้าของเม้นต์นี้ เข้าใจว่าทุกๆเรื่องราว นั้นเป็นนิยามของพุทธค่ะ


หรือเป็นแบ็คกราวน์ของพุทธศาสนาแฝงอยู่ แทบทุกๆเรื่องนะคะ


ปมต่างๆ ซึ่งในพล็อตต่างๆ มากมายนั้น มีความหมายของ ความผิด ถูก ชอบ ชอบ ดี เป็นปมซ่อน หรือแฝงอยู่ในทุกๆ เรื่องค่ะ (คุณไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จริงหรือคะ คุณเจ้าของเม้นต์)


คือหากคุณจะดู หรืออ่านแก่นแท้ของวรรณกรรม ในรูปแบบต่างๆ ของไทย นั้นแท้จริงคุณจะได้เห็น หรือได้ชมคาแร็คเต่อร์ของเหล่าตัวละครซึ่งเป็นเช่นศิษย์ของพระพุทธเจ้าแทบทุกเรื่องค่ะ


ไม่ว่าพระเอก นางเอก พระรอง หรือแม้ตัวประกอบตัวต่างๆก็ตามที ส่วนมากตัวละครทุกๆ ตัวจะถูกมอบบทบาท ซึ่งเขาทั้งหลายสามารถรู้ได้ว่า ผิด ถูก ชอบ ชั่ว หรือ ดี นั้นเป็นเช่นไร


และผลของมันจะเป็นเช่นไร ได้เป็นอย่างดี


คือคาแร็คเต่อร์ที่แท้จริงแล้วตัวละครเหล่านี้ พยายามเดินตามทางรอย หรือพยายามเป็น อยู่ ในรูปแบบของคำสั้่งสอนของศาสดาแทบทุกๆ ตัวนะคะ


แม้ตัวร้าย หรือตัวโกง หรือนางร้าย ในหลายๆเรื่องซึ่งมีคาแร็คเต่อร์ที่ร้ายแบบสุดๆ หลุดความเป็นคน ในหลายๆ เรื่องหรือ ก็ถูกคนเขียนพยายามหักเห หรือพยายามเปลี่ยนแปลงภาพพจน์ให้กับคาแร็คเต่อร์แก่ตัวละครดังกล่าวทั้งหลายนั้น


คือส่วนมากจะเขียนให้เขาเหล่านี้พยายามกลับตัว กลับใจไงคะ


ยกตัวอย่าง เช่น เหตุการณ์การเข้าใจในความผิดพลาดของเขาที่เคยกระทำตลอดเรื่อง ของตัวละคร แม้จะเป็นเพียงวินาทีสุดท้่ายของชีวิต ที่เขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็ตามที


เช่น ตอนอวสาน แทบทุกเรื่องในเรื่องราวซึ่งมีพล็อตบู๊ล้างผลาญ เช่น ในฉากซึ่งตัวโกง ตัวร้าย ผู้ซึ่งเคยร้ายราวไม่มีจิตสำนึก แม้เขาจะถูกกระสุนเจาะเข้าที่หัวใจ ก่อนตายเขาตัวร้าย ตัวโกง หรือนางร้าย ในหลายๆ เรื่องเหล่านี้ ก็มีบท หรือฉากในการสารภาพบาปของตน ซึ่งเหตุนี้้เกิดขึ้นจริง และถูกเขียนขึ้นจริง และตลอดมา


คือแม้วินาทีสุดท้ายในชีวิต สำหรับคนตกตํ่า มืดมน เช่นเขา เมื่อรู้ว่าผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดีได้ นั้นคือเขาพบทางสว่างแล้ว เขาก็จะสามารถเป็นสุข และตายตาหลับ แบบนั้นนะคะ


ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้คือการนำเสนอ...ภาคปฎิบัติ ซึ่งสามารถเห็นได้ถึงการกระทำ... และผล...ของมัน และนี่คือ พุทธ ร้อยเปรอเซ็นต์ค่ะ


คือจริงแล้วความเป็นศาสนา...ในวรรณกรรมของไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่มีพล็อตเป็นเช่นไร แม้จะเป็นเรื่องในแนวรักๆ เช่น รักดราม่า หรือรักหวานแว๋ว พล็อตแทบทุกเรื่องหรือ ก็มีความเป็นปรัชญาแห่งพุทธซ่อน หรือแฝงไว้แบบลงตัว


เช่น นางเอกที่ดีของไทย ต้องเป็นคนดี เป็นแม่พระ มีสติ มีปัญญาดี มีความรักจริง ซื่อตรง ไม่เล่นชู้ มีความอดกลั้น อดทน มีความพากเพียรพยายามในความดี มีมุมานะสูง และที่สำคัญเธอเป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี ปฎิบัติดีโดยรวมค่ะ


ส่วนในด้านพระเอกก็เช่นกันนะคะ พระเอกต้องเป็นพ่อพระ มีความเข้าใจ มีความชาญฉลาด มีสติ มีปัญญา มีความสามารถมากมาย มีความถ่อมตนในที


มีความรักจริง มีความจริงใจ มีความกรุณา ปรานีเป็นที่ตั้งเสมอ


คือแม้เขาตัวละครทั้งหลายเหล่านี้จะมีด้านมืดบ้างในบางบท ในบางฉาก แต่นั้นก็เป็นความจริงในธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนนะคะ


และนี้...แท้จริงคือ...ผลงานการนำเสนอ...ภาคปฎิบัติ คำสั่งสอน หรือปรัชญา แห่งศาสดา ผ่านคาแร็คเต่อร์ของตัวละครอย่างแท้จริงค่ะ


ทั้งหมดนี้คือเหตุที่เกิดขึ้นจริงตลอดมาค่ะ


ซึ่งยังไม่มีชนเผ่าใด หรือชนชาติใดในโลกมีความสามารถนำพา หรือยึดมั่นในศาสนาของตนได้แน่นแฟ้น ผ่านการนำเสนอดังกล่าว


คือการนำพาศาสนาของตนผ่านกาลเวลามาตามครรลองของการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ผ่านกาลเวลาได้ดีเยี่ยม เช่นคนเขียน หรือคนสร้างผลงานในรูปแบบต่างๆดังกล่าวนี้ ได้ดีกว่าเมืองไทยค่ะ


ซึ่งแท้จริงพุทธศาสนามีอายุถึง2562 คือเป็นศาสนาที่เก่าแก่พอสมควรเลย


หากแต่ การดำเนินไปตามครรลองของบทบาทของตัวละครนั้น ยังคงมีความเป็นศาสนาแฝงอยู่แน่นแฟ้นยิ่งนัก


คือตามสายตาของเจ้าของเม้นต์นี้เห็นเป็นเหตุ เป็นแก่นสาร เป็นสาระ เป็นแบ็คกราวน์ในวรรณกรรมของไทยในรูปแบบต่างๆ ดังที่บอกเล่ามานี้ค่ะ



ซึ่งเจ้าของเม้นต์น๊้เป็นทั้งพุทธ และคริสต์ ด้วยค่ะ


แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และมุมมองนะคะ



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png



0
อศาสนิก 3 เม.ย. 62 เวลา 07:59 น. 5-3

ไม่ๆ ไม่ใช่หนังทุกเรื่องสิ หนังพุทธ ≠ หนังไทย ไม่งั้นผมจะรวม R - X เข้าไปด้วย


ผมไม่มีปัญหากับพล็อตตัวร้ายกลับตัวกลับใจหรือ พล็อตที่ธำรงไว้ซึ่งศีลธรรมอันดีหรือ ธรรมะต้องชนะอธรรม เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรหรืออะไรพวกนั้น เฮ้เอ่อ ผมรู้ว่าคำว่าดัดจริตนี่มันแรงนะ แต่มันตรง งั้นเปลี่ยนมาใช้ความหมายในราชบัณฑิตยสถานแทนละกัน "แสร้งทำกิริยาหรือวาจาให้เกินควร" แบบนี้ละกันเนอะ ผมจะพูดในฐานะแฟนหนังละกัน ตามเนื้อหากระทู้นี่แหล่ะเนอะ


ถ้าพูดถึงหนังเกี่ยวกับพุทธ ที่ทำให้ผมคิ้วกระตุกเลยก็คือนาคปรกและอาบัติ และความ "แสร้งทำกิริยาหรือวาจาให้เกินควร" ของผู้ที่เกี่ยวข้องก็ทำให้ผมค่อนข้างผิดหวัง ผมก็เหมือนแฟนหนังที่รู้สึกไม่ดีเหมือนกับคนอื่นๆนั่นแหล่ะที่รู้แจ้งว่าอะไรที่ล้ำเส้นพุทธจะไม่ได้ฉายและเส้นพุทธบางมาก (หนัง) อะไรที่เกียวกับพุทธมักจะมีปัญหาเสมอ


ลองเปรี่ยบเทียบกับคริสต์ บาทหลวงในหนังเคยผ่านมาแล้วทั้งบทบาทฆาตรกร รักร่วมเพศ ลอบมีสัมพันธ์กับเด็ก หรือแม้แต่สาวกของปีศาจ คริสต์ไม่เห็นจะอะไรมากมายเพราะพวกเขารู้ว่ามันเป็นหนัง ผลก็คือเรื่องราวของพวกเค้าเป็นที่รู้จัก ตรีเอกภาพเอย ทูตสวรรค์เอย บาปทั้ง 7 เอย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรมที่แพร่หลายไปทั่วโลก นิยายท็อป 20 แฟนตาซีแทบจะไม่เคยขาดอิทธิพลคริสต์ซึ่งต่างจากพุทธอย่าว่าแต่ท็อป 100 ท็อป 1000 ก็คงจะไม่มี


ยกเว้นแนวคิดกลับชาติ ... แต่ขอโทษมันเป็นเป็นเพราะญี่ปุ่นที่นับถือชินโต (ฮา)

0
White Frangipani 4 เม.ย. 62 เวลา 01:13 น. 5-4

ฮ่า ฮ่า ฮ่า


สวัสดีค่ะ


อ่านความเห็นของคุณแล้วก็ต้องปล่อยหัวเราะค่ะ ที่ปล่อยหัวเราะนี้ เพราะถูกใจในข้อความ ซึ่งเป็นความเห็นของคุณนะคะ (คือหัวเราะเพราะชอบใจนะคะ:)


อ่านสนุกค่ะ


อ่านแล้วพลอยรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยกับคุณเลยด้วยค่ะ


โดยเฉพาะวรรคนี้ ของคุณค่ะ


ลองเปรี่ยบเทียบกับคริสต์ บาทหลวงในหนังเคยผ่านมาแล้วทั้งบทบาทฆาตรกร รักร่วมเพศ ลอบมีสัมพันธ์กับเด็ก หรือแม้แต่สาวกของปีศาจ คริสต์ไม่เห็นจะอะไรมากมายเพราะพวกเขารู้ว่ามันเป็นหนัง ผลก็คือเรื่องราวของพวกเค้าเป็นที่รู้จัก ตรีเอกภาพเอย ทูตสวรรค์เอย บาปทั้ง 7 เอย


ฮ่า ฮ่า ฮ่า จริงด้วยสินะ เหตุเช่นนี้เกิดขึ้นจริงค่ะ


ซึ่งไม่ใช่ในหนังหรือก็เกิดขึ้นจริงค่ะ


เพราะดิฉันเองก็เป็นคริสต์ด้วยเช่นกันค่ะ


เป็นคริสต์ที่เคร่งมากพอสมควรด้วยค่ะ


ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ หากมีเวลา หรือโอกาสที่จะทำได้นะ และก็มีความศรัทธาที่จะเข้าใจในปรัชญาของคริสต์ด้วยค่ะ


เพราะฉะนั้นดิฉันรู้จักคริสต์ดีพอสมควรเลย


ด้วยเหตุนี้จึงรู้สึกว่าสนุกที่ได้อ่านมุมมองของคุณทีทมีต่อทั้งคริสต์ และพุทธค่ะ


และดิฉันก็มีความจำนงที่จะแลกเปลี่ยนกับคุณเกี่ยวกับตรงนี้ " ผมรู้ว่าคำว่าดัดจริตนี่มันแรงนะ แต่มันตรง งั้นเปลี่ยนมาใช้ความหมายในราชบัณฑิตยสถานแทนละกันแสร้งทำกิริยาหรือวาจาให้เกินควร"


ของคุณด้วยนะคะ


คืออ่านแล้วเข้าใจว่าคุณเข้าใจอะไรผิดไปมั้งคะ?


คุณเข้าใจอะไรผิดไป หรือว่าคุณตีความเหตุการณ์ดังที่คุณกล่าวมานี้ จากมุมมองของคุณเองหรือไม่คะนี่?


หากแต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ที่ทำให้คุณรู้สึกในรูปแบบที่คุณกล่าวมา เจ้าของเม้นต์นี้ก็อยากที่จะแลกเปลี่ยนมุมมองกับคุณอยู่ดีค่ะ


หากแต่ขณะนี้ยุ่งๆ ไม่สามารถตั้งใจจดจ่อเพื่อสำรวมในการดึงความเข้าใจของตนออกมาบรรยายได้(คือกำลังยุ่งๆอยู่กับงานอื่นๆอยู่ด้วยค่ะ ต้องขออภัยที่บอกเหตุผลค่ะ)


คือทุกครั้งที่ตอบเม้นต์ต้องมีความสงบ(คือต้องสงบ นิ่งมากๆ คล้ายต้องเข้าฌานเลยด้วยค่ะ ฮ่า ฮ่า ไม่อย่างนั้นตอบไม่ได้)


และแน่นอนต้องจดจ่อต่อความรู้สึกของตนเนาะ จึงจะสามารถบรรยายได้ชัดเจนตามที่ตนมีความรู้สึกต่อเหตุการณ์ต่างๆค่ะ


จะกลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อเม้นต์แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และแง่มุม ซึ่งดิฉันมีอยู่ และแตกต่างจากของคุณด้วยค่ะ


หวังว่าจะไม่ทำให้คุณรำคาญนะคะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-01.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png




เข้าฌาน

ก. ทําใจให้สงบตามหลักทางศาสนา โดยปริยายหมายถึงนั่งหลับหรือนั่งเหม่อใจลอยไม่รับรู้อะไร.

(ดู ฌาน).


0
kurozuki 10 ธ.ค. 62 เวลา 15:24 น. 5-5

โพสต์แบบนี้ระวังปลิว--ขนาดเราเขียนเรื่องทำนองนี้ยังเสียว ๆ เหมือนกัน


เจอพวกไม่เคร่งก็แล้วไปแต่ถ้าเจอพวกเคร่งหัวรุนแรงก็ตายได้เหมือนกันนะ...



0
Andy Ryu 3 เม.ย. 62 เวลา 04:46 น. 6

เพราะศาสนาคริสต์ทำให้ผู้แต่งนิยายสายมืดมนพบกับทางสว่าง



P.S. เหนือ The Mist ยังมี PM 2.5

2
Individualista314159 3 เม.ย. 62 เวลา 07:20 น. 7

จขกท ช่างสังเกตดีนะคะ :)


เรื่อง The Dead Zone ก็มีตัวละครคลั่งศาสนา (คริสต์) เช่นกันค่ะ นางเป็นแม่ของพระเอก แต่นางไม่ได้คลั่งแบบสายดาร์ก ออกแนวคอเมดี้ เพี้ยนๆ และติดจะน่ารักด้วยซ้ำ


ส่วนคำถามที่ว่าสตีเฟ่น คิง มีปมกับศาสนาคริสต์หรือเปล่า? เราไปค้นคว้าหาคำตอบเล็กๆน้อยๆมาให้...


บทความ "Stephen King: ‘Religion is a dangerous tool … but I choose to believe God exists’" ในหนังสือพิมพ์ The Guardian เขียนโดย Alison Flood เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2014 บอกว่าสตีเฟ่น คิง พูดถึงองค์กรศาสนาว่า


“ศาสนาเป็นเครื่องมืออันตรายที่ถูกหลายคนนำไปใช้ในทางที่ผิด”


นอกจากนี้ ในบทความยังบอกอีกว่า มิสเตอร์คิงผู้ซึ่งเติบโตมากับศาสนาคริสต์นิกาย Methodist มีความแคลงใจในองค์กรศาสนามาตั้งแต่เด็ก และหลังเรียนจบไฮสกูล เขาก็แบบพอแล้วกับศาสนา...


กระนั้นแล้ว มิสเตอร์คิงก็ "เลือก" ที่จะเชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง และเชื่อว่า “สิ่งชั่วร้าย” มีอยู่จริง โดยเฉพาะสิ่งชั่วร้ายที่ฝังอยู่ในตัวบุคคลไม่ใช่จากอิทธิพลภายนอก


ที่มา: https://www.theguardian.com/books/2014/oct/29/stephen-king-religion-dangerous-god-exists

11
Individualista314159 3 เม.ย. 62 เวลา 07:32 น. 7-1

ปล) หากเข้าเวบไซต์ไม่ได้ ลองใช้ประโยคนี้ค้นหาในกูเกิ้ลนะคะ


"Stephen King: ‘Religion is a dangerous tool … but I choose to believe God exists’"

0
Individualista314159 3 เม.ย. 62 เวลา 15:40 น. 7-3

เราเป็นแฟนคลับหนังสือของป๋าได้ไม่นานค่ะคุณนางฟ้า และไม่สนใจเรื่องมุมมองทางศาสนาของป๋า

เราหวังว่าจะอ่านงานเขียนของป๋าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ล่าสุดอ่านโนเวลล่าเรื่อง Elevation ก็สนุกและ "แปลก" ดีตามประสาป๋าคิง

นี่ก็รอให้ The Institute คลอดในเดือนกันยายนนี้ เห็นบางคนบอกว่าฟีลเรื่องนี้น่าจะคล้ายๆซีรีส์ Stranger Things แหม...แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว ^_^


0
Tdeuy 3 เม.ย. 62 เวลา 21:26 น. 7-5

ยังไม่นอนอีกเหรอน้องอัป

หรือหาอะไรกินในห้องน้ำอยู่ //เผ่น

0
Tdeuy 3 เม.ย. 62 เวลา 21:28 น. 7-7

ไอติมอะไรมันอยู่ในห้องน้ำ

รสทุเรียนรึ

กินทั้งวันเลย

แต่ก็ดี จะได้อ้วนขึ้น

ไปไหนมาไหนไม่ต้องคลาน

กลิ้งอย่างเดียวพอ ^^

0
Tdeuy 3 เม.ย. 62 เวลา 21:42 น. 7-11

อ้าวเรอะ

กินจุอย่างนี้กลางคืนจะนอนหลับเหรอ

ดึก ๆ ไม่กินแล้ว

ว่าแล้วพี่ก็หยิบนมเข้าปาก 55

0
Tdeuy 3 เม.ย. 62 เวลา 10:34 น. 8-1

ดีจัง

น้องอัปเป็นคนพูด

ส่วนเพื่อนเป็นคนคิด

//เผ่น

สามัคคีเนอะดีที่สุด

0
Tdeuy 3 เม.ย. 62 เวลา 10:44 น. 8-3

ได้ เอากรองมาดอง

ดองเค็มแล้วกันเนอะ

0
Tdeuy 3 เม.ย. 62 เวลา 10:56 น. 8-9

หมุนได้เรอะ

อย่าพยายามขยับตัวเลย

นู่นไปเล่นห้องคุณยู

เดี๋ยวรบกวนห้องนี้


0
Talkable Dust 3 เม.ย. 62 เวลา 14:26 น. 9

หากให้คาดเดา

เฮียคงไม่ถึงขั้นแอนตี้คริสต์ไปเลย

แต่แค่ไม่ชอบคนที่คลั่งศาสนาเกินไปจนสร้างปัญหามากกว่าค่ะ

0
มุกน้ำค้าง 3 เม.ย. 62 เวลา 14:47 น. 10

เราว่าเค้าเล่นกับด้านมืดของคนมากกว่าค่ะ


ในความสุดโต่งของคนเรามักจะก่อโศกนาฏกรรม


อะไรจะแสดงถึงความสุดโต่งให้เห็นได้ชัดเท่าความเชื่อศาสนา


แค่ความคิดแบบอึ่งหางกุดจ้า

ผิดถูกไม่รู้ รู้แค่คิดแบบเนี๊ยะอ่ะ

0
ปีศาจหัวโต 3 เม.ย. 62 เวลา 16:18 น. 11

เราว่าเป็นบางเรื่องนะ เรื่องที่ไม่อิงมากเกินก็มี และ มีความสนุกแตกต่างกันออกไป


ส่วนมากคิงชอบเอาความกลัวที่ประสบพบเจอมาในชีวิตนั่นแหละนำมาเขียนใส่ในนิยาย

และ เขาอาจจะกลัวเกี่ยวกับการจำกัด ข้อห้าม กฎ ต่าง ๆ ของศาสนา เลยเอามาเขียนก็เป็นได้


เราชอบแนวคิดที่คิงเคยบอกว่า พวกเราทุกคนล้วนป่วยทางจิต เพียงแต่ว่าคนที่อยู่นอกสถานบำบัดเก็บอาการได้ดีกว่าเท่านั้นเอง

0
มัณทนา[ไหดองล้านปีกับอาราเล่] 3 เม.ย. 62 เวลา 17:54 น. 12

ก็ลุงคิงอยากจะบอกให้รู้ไงคะว่าคนที่นับถือศาสนาคริสต์มีทั้งคนดีและคนไม่ดี

ลุงคิงไม่ได้เกลียด ไม่ได้แอนตี้ศาสนาคริสต์

ทุกศาสนามีทั้งคนดีและคนไม่ดี

ไม่ว่าจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม

0
kurozuki 10 ธ.ค. 62 เวลา 15:10 น. 13

ไม่มีอะไรหรอก--ก็แค่สะท้อนปัญหาสังคมอย่างหนึ่งเท่านั้นแบบพวกความคิดสุดโต่ง ยึดมั่นถือมั่นแบบสุดขั้ว


ของเรายังเขียนในนิยายเลยแต่ต้องระวังไม่ให้ล้ำเส้นกลายเป็นหมิ่นก็เท่านั้นเอง...

0