อยากให้อดทนและเปิดรับฟังความคิดเห็น
ตั้งกระทู้ใหม่
ไม่ใช่สักแต่ว่าแต่งแล้วพูดง่ายๆว่า " มันก็แค่ฟิคจะเอาอะไรนักหนานอกจากความสนุก " เราไม่อยากว่าคุณว่าเป็นนักเขียนที่ไร้ความรับผิดชอบเลย(แต่คุณเป็น)
การที่เราให้คำแนะนำ เนื่องจากคุณแปะตัวใหญ่หน้าแนะนำนิยายเองว่า สามารถแนะนำและติชมได้เนื่องจากเราเป็นมือใหม่ แต่พอเราให้คำแนะนำและติเตียนเรื่องการใช้คำหยาบคาย การใช้ [ ค่ะ/คะ/ครับ/จ้ะ] ให้ถูกต้อง คุณกลับตอบเราด้วยประโยคเช่นนั้นแล้วยังมาดราม่า โพสประจานใส่เราอีก
เราขอบอกไว้ ณ ที่ตรงนี้เลยว่า
เป็นนักเขียนต้องอดทนและพร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่พอเขาติคุณ คุณกลับถากถางและต่อว่า แฟนฟิคชั่นแล้วอย่างไร? คุณก็ต้องหาข้อมูลและต้องเคารพออริจินัลเช่นเดียวกัน หากคุณไม่คำนึงถึงข้อนี้ ก็อย่ามาตั้งคำถามหรือเรียกร้องหายอดวิวและคอมเม้นท์ ดีดดิ้นในช่องคอมเม้นท์นิยายของคุณ ไล่ตอบคอมเม้นท์เก่าๆ จี้ให้นักอ่านมาเม้นท์คุณ
สุดท้ายขอฝากไว้เท่านี้แหละค่ะ อยากให้อดทน ฝึกปรือตนเองและเป็นกำลังใจให้นะคะแต่ตอนนี้เราขออันเฟบคุณถาวร
ปล.ขออภัยที่กระทู้นี้ไม่มีอะไรเลยค่ะ แค่ออกมาบ่นนิดหน่อย
25 ความคิดเห็น
Excellent!!
พูดง่ายๆ ไม่ว่าเป็นนักเขียนหรือบุคคลใดๆ ต้องมองโลกแบบสบายๆ มองให้เป็นเรื่องตลก และซีเรียสให้ถูกเวลา แต่ต้องทำงานให้ออกมาดี รู้จักเป็นมิตร และแสดงความคิดเห็นโดยเคารพผู้อื่นครับผม
นึกถึงใจเขาใจเรา คนที่อ่านหรือใครก็ตาม ล้วนแต่มีชีวิตและจิตใจไม่ต่างกันครับ จึงควรตอบเขาอย่างนอบน้อมและเป็นกันเอง ยกเว้นมาแนวน่ายิงทิ้งนะ5555
ส่วนเรื่องนิยาย ต้องทำให้ละเอียดและมีความรับผิดชอบต่อมัน เขียนด้วยความรักที่มีต่อผู้อ่านทุกท่าน
การตอบคอมเมนต์ ควรตอบอย่างถ่อมตน นอบน้อม สุภาพ และเป็นกันเอง ใส่ใจกับผู้อ่านไม่ใช่ตอบแบบพอแล้วๆ และปล่อยผ่านไป นอกจากมีความจำเป็นจริงๆ ที่ทำให้ไม่ควรตอบดีๆ
ถ้าเขามาแนวหาเรื่อง เราสามารถเมินหรือจะเลือดเย็นกลับไปเลยก็ได้ครับ แต่อันนี้ต้องดูตามสมควรนะ
ตัวอย่างการแสดงออกก็เช่น...
"ขอโทษนะครับ ไว้มีโอกาสจะหาข้อมูลและรีไรท์ครับผม ขอบคุณมากๆ ครับ^^"
หรือถ้าเขาบอกจุดที่ควรแก้ไข "ขอบคุณครับ ผมจะไม่ลืมเลย^^"
หรือถ้าโดนทวง "ขอโทษครับ กำลังแก้ดราฟต์ไปมาอยู่ และมีปัญหานิดหน่อย จะรีบมาแน่ๆ ครับ หมายถึงปีหน้านะ5555"
เท่อย่างไทยนั้นคือการนอบน้อมและเป็นกันเองครับ
ขออนุญาตปักหมุดนะคะ
ครับผม^^
ของเรานี่ไม่มีมาเลยค่ะ คำพูดพวกนี้ นักเขียนคนนั้นจะเมินเราจริงๆ
เขาคงขาดประสบการณ์ที่จะรับมืออย่างถูกต้องตามสมควรน่ะครับ เวลาจะสอนเขาเอง
อืม จริงค่ะ
"เวลาจะสอนเขาเอง" โครตเท่เลยว่ะไอน้อง ฟังกี่ทีก็จั๊กกะเดี๋ยม
แต่บางทีก็มีนะ
ถ้าช่วงที่นักเขียนเกิดอ่อนไหวเป็นพิเศษ
แค่คนหายใจยังหงุดหงิดเลย
ไม่แน่ จขกท อาจเข้าไปเม้นไม่ถูกช่วง
คิดในแง่ดีไว้จะได้สบายใจ
กดไลค์ให้รัวๆค่า ^^
เคยเห็นน้องๆเขียนนิยายแล้วอีโก้สูงมาก ไม่รับฟังอะไรเลย ไม่ตอบคอมเม้นที่เตือนเรื่อง ค่ะ นะคะ พวกนี้ค่ะ
จะตอบกลับแต่คอมเมนต์ที่อวยกันเว่อร์
อ่านแล้วก็จากไปอย่างเงียบๆค่ะ บางทีก็คิดว่าหรือเราเยอะเอง แต่ก็บอกกับตัวเองว่าค่ะ นะคะนี่คือพื้นฐานของการเขียนให้ได้ เดี๋ยวนี้เจอ
ฝรรดี หลายๆคำที่เราต้อง........ “ป้าไม่เข้าใจว่าหนูต้องการสื่ออะไรคะลูก เขียนไม่ถูกมันไม่เท่ค่ะลูก”
สุดท้ายแล้วเราลองมองย้อนไป ตอนเราเป็นวัยรุ่นเราก็เขียนภาษาแย่ค่ะ5555 เอาความสะดวกเป็นหลัก
ก้อ เค้า ชั้น (ทั้งๆที่กดชิบดูจะง่ายกว่า) พอมาเขียนนิยาย เวลาคุยกันเพื่อนจะติด ฉัน เรา เขา
เพื่อนชอบแซว “สวัสดีค่ะคุณครูภาษาไทย” ก็ฉันแค่อยากพิมพ์ให้ถูกเดี๋ยวมันติดเวลาเขียนลงในนิยายแล้วเราจะเผลอ ขำไปนะคะ
คุณจขกท ระบายมาเถอะค่ะ เราชอบยุ่งวุ่นวายตามอ่านมากค่ะ 5555555 เผื่อมีไอเดียอะไรขึ้นมาค่ะ
จริงของคุณ ณริสาค่ะ ภาษาวัยรุ่นมันพิมพ์ง่ายและเร็ว
แต่เมื่อใดก็ตามที่ต้องมาเขียนนิยาย
อันนี้ควรเขียนให้ถูก
บางทีถ้าไปเม้นแล้วไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดอีก
เราก็ไม่เม้นเหมือนกัน บางทีอาจเทเรื่องนั้นไปเลย
ปรบมือๆ เม้นท์ดีค่ะ // ไม่ขอพูดเยอะนะ
ส่วนใหญ่เลย นักเขียนที่นี่ เด็กจริงๆ
ครั้งแรกที่รู้เลย เป็นเด็ก ม . ต้น แบบนับถือน้องๆมาก
นับถือการเปิดโอกาสให้น้องๆ ของที่นี่
ต่อมาเจอ ม .ปลาย น้องแต่งดี มียอดขายแบบถล่มทลาย
น้องๆมหาลัยก็เยอะ
.....เพราะฉะนั้น ไม่แปลกเลย
ที่....จะชอบคนชม ไม่อดทนต่อเม้นท์ติ ....
หลายกระทู้เราบอกผ่านที่จะออกความเห็น
เพราะนักเขียนมีความหลากหลายทาง....วุฒิภาวะ
นักอ่านที่เราเจอครั้งแรก ก็ติค่ะ .....
เราขอบคุณ เพราะเราโตแล้ว (^^)
ทุกวันนี้เขาเป็น FC ที่เหนียวแน่นของเรา
.....อยากให้เข้าใจกัน ใจเย็น เลือกสิ่งที่ถูกใจ บอกผ่านสิ่งที่ไม่ถูกใจ แล้วจะมีความสุขค่ะ ^^
เราเข้าใจว่าตัวนักเขียนก็มีความภูมิใจของตัวเอง แต่ก็ต้องเข้าใจว่านักอ่านบางคน exp. สูงกว่าซ้ำยังคงละชั้นกับเรา แค่เขากรุณามาอ่านและบอกเราตรงๆ นี่ตอนนั้นดีใจมากแล้ว
เมื่อก่อนเราสิงห้องถนนนักเขียนที่พันทิบไม่ค่อยได้มาเด็กดี เด็กดีมีไว้แค่ลงนิยาย
และเราเป็นพวก ไปตามอ่านตามเมนต์ชาวบ้านเขาทุกกระทู้ aka ที่นั้นตั้งนิยายเป็นกระทู้ จนเขารู้จักในนามมนุษย์คีย์บอร์ดที่...ไม่ต้องกลัวเหงาเพราะจะมีเราที่เมนต์ให้ทุกคน ฮาา
แต่ตอนนั้นเราก็ม.ปลายเอง เพราะเพิ่งได้มีคอมเป็นของตัวเอง แต่คอมเครื่องเดียวแบ่งกับพี่ชายอีก 2 คน
แต่ที่นั่นทุกคนจะเจียมเนื้อเจียมตัวนักเขียนไม่ได้ตอบโต้นักอ่านแบบที่นี่เลย เราเพิ่งมาเจอนักเขียนเกรี้ยวกราดก็ที่เด็กดีนี่แหละ คงเพราะเมื่อก่อนจะเขียนนิยายลงเน็ตก็ต้องมีคอม ไม่งั้นก็ต้องไปเข้าร้านเน็ตรายชม.ซึ่งแพงไง แทบจะต้องเขียนมาจากบ้านแล้วไปนั่งพิมพ์ร้านก่อนลง แต่สมัยนี้ความยับยั้งชั่งใจมันลดลง ฉันไม่ชอบ ไม่ยอม ใส่ซะโดยลืมไปว่า...ตัวเองไม่ใช่หรือที่ติดป้ายว่า 'ติชมได้'
ย้อนกลับมาเรื่องอีโก้ส่วนตัวนักเขียน ทุกคนก็มีแหละค่ะเพียงแต่ว่า เราจะเปิดใจรับได้แค่ไหน ให้น้องคนหล่อเล่าเองก็ได้ค่ะ เพราะตอนนั้นน้องก็มาขอเมนต์เรานี่แหละ จากนั้น...โดนกระซวกด้วยความจริง ก็บอกแล้ว่าเราเมนต์ตามความเป็นจริงสากลโลก
ไหนคุณเอมี่บอกว่า ไม่พูดเยอะไงคะ ยาวเป็นปื้ดเลย5555
มันควรมี เขาเรียกอะไร ให้ความเคารพคนอ่าน แต่ก็ ภาคภูมิในตนเองอย่างพอเหมาะพอดี
ผมสื่อสารไม่เก่ง เขาเรียกอะไรนะ555
ตอนนั้นไม่รู้เรียกอีโก้ป่ะนะ แบบ เสียใจนิดๆ งอนพี่มิรัน (ทั้งที่มาติให้ 20 นาทีต่อมาผมก็ค่อยคิดได้ รุ่งเช้าจึงมาขอบคุณ555)
แต่นั่นแหละ เพราะพี่เขา ผมทำงานละเอียดขึ้น เรียลขึ้น สำนวนดีขึ้น ใช้ภาษาถูกหลักกว่าเดิม ทว่ายังคงไม่สามารถควบคุมบุคลิกตัวละครให้คงที่ได้อยู่ดี555
เดี๋ยวตอนพักเที่ยงค่อยไปตอบให้กระทู้เธอแล้วกัน ดูท่าต้องร่ายยาว
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและความเห็นดีดีนะคะ สำหรับเราเราคิดว่าเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ค่อยเป็นค่ะ วันนี้ได้ข้อคิดและบทเรียนว่าจะคอมเมนต์อะไรก็แล้วแต่ต้องตรองไว้มากๆ แล้วต้องดูอารมณ์นักเขียนท่านนั้นๆด้วย มิฉะนั้นจะเจอปรมาณูแบบที่เจอมา
ปล.ขอบคุณจริงๆค่ะ
แวะมาอ่าน...
ยินดีรับฟังค่ะ
แต่คิดว่าคงไม่ออกความเห็น
หรือเข้าข้างใคร
เพราะมันเรื่องระหว่างคนสองคน
แค่เข้ามาอ่านก็สุขใจแล้วค่ะ พี่เตย
จ้ะ มิอาจพูดอะไรให้รู้สึกดีขึ้นได้
เพราะแต่ละคนล้วนมีสิ่งที่เรียกว่าความคิดเป็นของตัวเอง
และสิ่งนั้นมันเป็นดาบสองคม
คมหนึ่งคือแสดงด้านดี สร้างสรรค์ ก่อเกิด
อีกคมคือ การทำลายล้าง
เพราะฉะนั้น
ความคิดจึงเป็นได้ทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย
โดยมีเวลาเป็นเครื่องมือในการที่จะเกิดผล
ขอส่งใจให้เม้นท์นี้ ล้านดวงเลยค่ะ +1000000
เป็นคำพูดที่ดีค่ะ คนเราก็เป็นแบบนี้แหละ ร้อยพ่อพันแม่
เคยมีนะ
คนที่เขาน่าจะโหลดอีบุ้คไปอ่านแหละ
แต่ไม่พอใจหลายอย่าง
ทั้งราคา เนื้อเรื่อง
เขาก็ไม่ซื้อแหละ แต่ไปบ่นใส่ไง
แต่ที่บ่นอ่ะ คนอื่นสามารถเห็นได้หมด
ส่วนนักเขียนก็ใช่ย่อย
ไปเม้นต่อว่า ขอไม่ขอบคุณเม้นนี้นะคะ คงเพราะคิดว่าไม่เกิดประโยชน์
เห็นไหม พอกันทั้งคู่
นักอ่าน ถ้าไม่พอใจ ไม่ซื้อก็จบ จะไปโพสทำไม
นักเขียน แจกแจงเหตุผลก็ได้ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ หรือลบไปเลยก็ได้
คืนนี้จะต้มยำหัวใจกินกับมาม่า
ถึงอย่างนั้นเลยเหรอคะ
อืม คนที่มีเรื่องตอนนั้นอ่ะ ที่ว่าถูกกล่าวหาวาลอกของคนอื่นมา
ลองไปค้นหาดูเลยเจอ
แต่บางทีคนเม้นก็แรงนะ เพิ่งเปิดเจอไม่นาน
บ่นซะแบบ ว่าพระนางโง่อย่างนั้นอย่างนี้เกือบสิบบรรทัดมั้ง
แล้วตบท้ายด้วยมันไม่ใช่แนวที่ตนชอบ
เอ่อ ถ้าไม่ชอบก็ช่วยเม้นให้เกียรติกว่านี้หน่อยน่าจะดี
หลายคนบอกสนุก แต่คนนี้เม้นเรามองว่าแรงนะ
ต่อให้เสียเงินซื้อแต่บางทีมันน่าจะแค่แบบ รู้สึกไม่สมเหตุสมผล ไม่ค่อยชอบเลย
อะไรประมาณนี้น่าจะดีกว่านะ
ใช่ค่ะ ไม่ควรไปเม้นแบบนั้นจริงๆ คนเม้นก็น่าจะโดนบ้างอ่ะเนาะ
จริง ๆ สไตล์การเขียนแต่ละคนนี่ไม่เหมือนกันนะ
ต่อให้ดีแค่ไหน ก็อาจไม่ถูกใจใครหลายคน
หรือต่อให้แย่แค่ไหน มันก็อาจถูกใจใครหลายคนได้
ก็หยั่งว่าแหละ มันขึ้นอยู่กับจริต
เหนือจริตก็ต้องมีมารยาทด้วย
ใช่ค่ะ การเม้นควรเม้นให้มีมารยาทด้วย
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
เราก็เจอมาเหมือนกันจ้ะ บางคนก็ปิดเรื่องไปเลยอ่ะ เราไม่ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นด้วยซ้ำ และนักเขียนบางคนก็ไม่รับฟัง สิ่งที่เราบอกไป ปิดทับตัวเองด้วยการ เทปูนซีเมนต์ลงไป ปิดไม่รับอีกเลยค่ะ
ใช่เลยค่ะ กลายเป็นว่าเรารู้สึกผิดและทำให้เราไม่กล้าคอมเม้นท์อีกเลยค่ะ TT
นี่เราก็ไม่กล้าอีกเลยค่ะ ถ้าเขาอยากได้จริงๆ เราก็จะถามไปเลย ว่ารับได้แค่ไหน
จะตอบว่ายังไงดีล่ะ " เดี๋ยวคงชินไปเองล่ะมั้ง " ต้องเข้าใจด้วยว่าคนแต่งแฟนฟิคส่วนใหญ่อายุน้อยนะ ต่อให้เราอธิบายยังไงก็.......กรณีของจขกท.อันนี้มีคนเคยโดนมาแล้วค่ะ
โอเคเอาเป็นว่าให้กำลังใจก็แล้วกันค่ะ
ต้องทำใจให้ชินสินะคะพี่หมาขาว
สวัสดียามดึกค่ะคุณก้อน
สวัสดีค่ะคุณเตย ขอโทษนะคะเมื่อคืนมาตอบแล้วก็น็อกเลยค่ะ 55555
พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ เดี๋ยวขนร่วง ว้ายเผ่น
ช่วงนี้ผลัดขนขนล่วงเยอะมากเลย เอ้ะ......ไม่ใช่สิ อย่าเพิ่งเผ่นไปไหนสิคะ
ฮัลโหล สวัสดีค่ะ
สวัสดียามดึกค่ะคุณเบลล่า
คร้าาา ทำอะไรยู่หรือคะ
ดูวันพีชสลับกับสิงบอร์ดนี่แหละค่ะ
ดูวันพีชด้วยหรือคะ
ดูค่ะ เป็นแฟนพันธุ์แท้เลย
แฟนดุไหมคะ555
แฟนไม่ดุค่ะเพราะไม่มีแฟนนนน 5555
อ้าว ซะงั้น แล้วกิ๊กล่ะคะ
กิ๊กก็ไม่มีเลยค่ะ มีแต่ Gigabyte สองสามตัวที่บ้านค่ะ
อ๋อค่ะ55555 แล้วสามีขาาาล่ะคะ ว่าไง
สามีมีหลายคนเลยค่ะ ล่าสุดอยู่ในเรื่อง Fantastic beasts 2
อ่อเหรอคะ55555
ว่าแต่เรานอนประจำกี่ทุ่มหรือ
แล้วแต่วันค่ะ บางวัน 3-4 ทุ่ม บางวันตี 1-2 ไม่ก็เช้าเลย
เราไม่สามารถบังคับให้คนอื่นคิดแบบที่เราต้องการได้
ดังนั้นก็ไม่ต้องใส่ใจพวกไร้ความรับผิดชอบเหล่านั้นดีกว่าครับ
ถ้าเขาไม่ยอมฟัง พูดไปเท่าไหร่ก็ไร้ความหมาย
เอาเวลาไปติชมนักเขียนที่ต้องการคำติชมอย่างแท้จริงดีกว่า(อย่างเช่นผม 55+)
เดี๋ยวไปอ่านนะคะ ^^
มีขายตรงอย่างเนียนๆ
มีบริการขายตรงเสียด้วย
เนียนมาก555
เกี่ยวกับเรื่องนี้เราก็พูดอยู่บ่อยครั้งนะเวลามีคนมาร้องแรกแหกกระเชอมาขอคอมเมนต์ ไม่มีปานจะขาดใจ เราก็เตือนว่า
-ได้คอมเมนต์ที่วิจารณ์กันตรงๆ รับได้ไหม ?
-เจอเมนต์ฝากนิยายล่ะ ?
-เมนต์ที่ไม่ได้สนอะไรด่าอย่างเดียว
-เมนต์ทวงแล้วทวงเล่า จนหวาดผวา
เมนต์เหล่านี้อยากได้จริงหรือ ได้ไปแล้วรับได้ไหม
หรือแม้กระทั่งแบบนี้
อยากได้คอมเม้นในหน้านิยายเยอะๆครับ
https://www.dek-d.com/board/view/3909258/
quote คุณเตย : เราว่าคุณไปแต่งให้นิยายดีก่อนไหม จะได้คู่ควรกับเม้นที่สวยงาม นี่แหละคำเดียวจบ
อันนี้เห็นด้วยค่ะ
บางทีมันต้องถามตนเองดูก่อนว่ารับได้ไหม
เคยขอจากนักอ่านก่อนนิยายจบเช่นกันค่ะ
นักอ่านจัดให้ได้น่ารักมาก ตรงตามความต้องการ
สรุปคือ แก้ไขใหม่ทั้งเรื่องโดยเพิ่มเติมเนื้อหา เพราะข้อผิดพลาดเยอะมาก
ซึ่งอันนี้ยอมรับเลยว่ามันดีกับตัวเราเอง
บางครั้งเขียนไปก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าแย่แค่ไหน เพราะนักอ่านที่มาเม้น
คงไม่กล้ารุนแรงกับมือใหม่ เลยบอกแต่สนุก
ต้องขอบคุณนักอ่านที่มาติมากเลย
ไม่งั้นก็ยังคงแย่อยู่เหมือนเดิม
เจอ quote เข้าไปสะดุ้งเลย เพราะเคยเป็นมาก่อน ถึงกล้าเขียนแบบนั้น
บางอันเขาอาจไปเม้นให้โดยที่มิได้ร้องขอก็ได้
ทุกอย่างเป็นดาบสองคมหมดแหละ
คำว่าปรารถนาดี มันใช้ให้ดีได้กับบางคน
แต่กับบางคนเขาไม่อยากรับมัน
เพราะเขาอาจมองว่าตนนั้นมีดีอยู่แล้ว
ปรารถนาดี นั้นมาจากไหน มันแปลว่าอะไร ง่าย ๆ
ปรา รถ ดี มันน่าจะอร่อยนะ
พี่อุตส่าห์อยู่ในฝั่ง
นี่จะออกทะเลอีกรึ
มีแต่ซูซูกิ
อืม...ดีนะที่เมื่อเช้าบริโภคข้าวจี่ไป คุณเตยทำอะไรเราไม่ได้
ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก
ข้าวจี่นี่กินไม่เป็นจริง ๆ ค่ะ
เห็นแต่เพื่อนชอบกิน
มันคือข้าวเหนียวปิ้งชุบไข่ค่ะ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากซูชินัก ในทางกายภาพ
นั่นล่ะค่ะ ไม่แตกต่าง แต่มันคนละความรู้สึกเลย
เห็นเพื่อนชอบมาก กินกับน้ำพริกที่เขาแถมมาให้ด้วย
น้องอัปก็ชอบรึ
ไปอยู่สารคามสิ่งที่ไม่เคยแตะต้องเลยคือข้าวจี่
กับพวกลาบดิบนี่แหละ
อันนั้นภาพเมื่อวันก่อน เห็นแต่ละคนกินละหิวบ้าง
เกี๊ยวน้ำเบา ๆ พอ
อ่านไปอ่านมาทำไมมันกลายร่างกลายเป็นทัวร์แวะชิมไปแล้วเนี่ย
พูดถึงอาหาร มื้อเช้ายังไม่กินอะไรเลย นอกจากกาแฟถ้วยเดียว อ่า.... เพิ่มเบาหวานความดันให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว
@คุณTdeuy เรากินข้าวจี่เปล่าๆ ร่วมกับอย่างอื่นค่ะไม่ได้จิ้มกับแจ่ว ของดิบเราก็ไม่ทานนะคะ มันผิดสุขอนามัยค่ะมันจะมีบางอย่างใส่ไข่ดิบเรายังไม่ทานเลย ไข่บ้านเรามันทานดิบไม่ได้ต่อให้บอกว่ามาจากฟาร์มปิดก็เถอะ เพื่อเพื่อนเราทานเราบอกว่าเตรียมยาแก้ท้องเสียกับคาร์บอนไว้นะ
@คุณwhite cane กาแฟเราดื่มแต่กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลค่ะ เพิ่มแต่คาเฟอีนอย่างเดียว
แถวนั้นเขากินกันแบบนั้นเลยค่ะคุณมิรัน
ขาวัวแขวนไว้เลย
ใครมาสั่งก็ปาดขายกันตรงนั้นเลย
เวลาไปนั่งกับเพื่อนนี่ทรมานมาก
เพราะเราทนกลิ่นเนื้อวัวไม่ไหว
คือแบบเนื้อดิบมาเลย พวกเพื่อนก็กินกันธรรมดามากนะ
มันมีแต่เนื้อวัว พี่กินไม่ได้
ถ้ากินหรือได้กลิ่นบางทีแทบอาเจียนเลย
เราไม่ได้กินเนื้อวัวมานานแล้ว ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ถ้ากินจะแพ้ไหม
น่าอร่อยทั้งนั้น แต่เนื้อมัวกลัวอย่างเดียว เหมียวหรือเปล่าครับ ยังไม่เคยกินเลย เคยกินแต่เนื้อควาย เดี๋ยวสุด
คุณมิรันชนะอยู่แล้วค่ะ
ว่าแต่มีแพ้ด้วยหรือคะ
ไม่แย่หรอกน้องอัป
เวลาดูซีรี่ย์เกาหลีแล้วสบายหน่อย
ไม่ได้รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาเลย
เนื้อคุณน้องช่างน่าลิ้มลอง
คุณ w เคยกินเนื้อควายด้วยเหรอ โห
ไม่ย่อแล้วพิมพ์ยากอ่ะ
ลดความอยากได้นะ
น้องอัปลองนั่งดูคนกินไส้เดือนแล้วกินอาหารไปพร้อมกันสิ
อันนี้เห็นกินเนื้อวัวแล้วทำหน้าฟิน
แต่พี่กินไม่ได้ไง แค่ได้กลิ่นยังแย่เลย
ถ้าเผลอกินโดยไม่รู้นี่ จากนั้นจะไม่ยอมกินอะไรเลยกว่ากลิ่นจะหายไปจากปาก
ตอนเด็กๆ เราก็กินนะคะ เนื้อควายทอดกับข้าวเหนียว
พอโตมาเราเลิกกินเนื้อค่ะ มีบางคนที่เขากินเนื้อแล้วแพ้ก็มีค่ะ ผื่นขึ้นเลย ยิ่งเราไม่ได้กินนานแล้วเลยไม่รู้ว่าจะแพ้อาหารไหม ขนาดนมนี่เดี่ยวนี้บางทีต้องลุ้นค่ะ เราก็กินนมมาตลอดแท้ๆ ไม่เคยเป็นอะไร แต่มีช่วงหลังๆ
บางยี่ห้อกินได้ไม่มีปัญหา บางยี่ห้อกินแล้วท้องเสีย
แต่ถ้าเกรงจะมีปัญหาเราต้องเลี่ยงไปกินแบบ lactose free ไปเลยแล้วจะไม่มีปัญหาใด
ท่าทางคุณน้องจะกินเก่งเกินไปแล้ว
เคยแพ้แต่กุ้งค่ะ กินเข้าไปแล้วจะคันคอ
แต่ก็ยังกินอยู่ดี โดยหวังว่าวันนึงจะเอาชนะมันได้
เราว่าเราออกไปตั้งกระทู้นอกเรื่องกันเถอะออกทะเลของกินไปไกลแล้ว เกรงใจคุณกขกท.เขา
หรือเราไปคุยแชทอื่นดี สมาคมของกิน...
ตอนเด็กกินเนื้อควายเค็มทอดค่ะ มันก็จะเหนียวๆ กระด้างๆ หน่อย สีมันจะเข้มจนทอดมาแล้วเป็นสีดำเลย ที่สำคัญคือฉีกออกมาเป็นเส้นๆ ได้ สมัยนี้น่าจะหากินยาก
โอ้ แหม กลายเป็นความสุขไปแล้วสิเนี่ย555
ตามที่หมายเลข 29 บอกไปเลยครับ แต่รสชาติในความทรงจำของผมมันเป็นย่าง ซึ่งมีอยู่สองประเภท
ทั้งเหนียวและเหม็นสาป อันนี้ไม่ทราบว่าคนย่างมันทำไม่ดีหรือไงก็ไม่รู้
อย่างที่สองมีเหนียวมากอย่างเดียว แต่บางครั้งมันก็เหนียวจนเคี้ยวแทนหมากฝรั่งได้เลย
แต่ว่าแบบย่างมันไม่มีเค้มนะครับ
มันก็แล้วแต่คน หรือไม่ก็แล้วแต่ในอารมณ์ช่วงนั้น อย่างเช่นนักเขียนอารมณ์ไม่ดี จึงตอบกลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด
สำหรับตัวผมก็เขียนไว้หน้าเรื่องเหมือนกันว่า "เจอคำผิดตรงไหนก็สามารถบอกนักเขียนได้ ตัวนักเขียนจะย้อนกลับมาแก้ไขภายหลังให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์" มันก็มีคนมาบอกเราจริงๆ แต่ว่าเขาบอกเพียงแค่ว่า "มีคำผิดนะ" แต่ไม่ยอมบอกว่ามันอยู่ตรงไหน ผมก็ไม่รู้ แต่ผมไม่ตอบโต้อะไรกลับไป รอแก้ไขในช่วงรีไรท์ทีเดียว
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ผมคิดว่าเราลืมไปหรือเปล่าว่า "นักเขียนอายุเท่าไหร่" ดังนั้นเรื่องวุฒิภาวะตรงส่วนนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพียงแค่อ่านชื่อเว็บไซต์และอ่านตรงที่เขียนว่าเป็นมือใหม่หัดแต่ง เราทุกคนในบอร์ดแห่งนี้คงจะเข้าใจความหมายที่ผมพูดแล้วใช่ไหม ? สรุปแล้ว คิดเสียว่าเราทำตามเจตนาที่นักเขียนต้องการแล้ว แต่ในเมื่อเขาไม่ยอมรับก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมากอีก ก็อย่างว่าแหละครับในช่วงอายุนี้อารมณ์จะแปรปรวน ฮ่าๆ
ใช่ มันแล้วแต่ช่วงจริงๆ
ตอนที่เขียนว่า “ติชมได้นะ” เป็นช่วงที่เริ่มเปิดเรื่องใหม่ๆกำลังมีไฟไรงี้
ตอนที่คอมเม้นเหวี่ยงก็อาจเป็นตอนที่อารมณ์ไม่ดี มีปัญหาหลายอย่างเข้ามารุมเร้า เหนื่อยจากงาน เจอเรื่องที่ขัดหูขัดตา ทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง ตอนนั้นเฟลว่า รู้สึกว่าตัวเองไม่มีดีอะไรสักอย่าง ต้องการกำลังใจมาก แต่มาเจอแบบนี้ก็เหมือนไปกระตุ้นอารมณ์โกรธให้รุนแรงขึ้น
จะเหมารวมพูดว่าไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่ได้หรอก น่าจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบมากกว่า แต่ถ้าเขาเป็นแบบที่ว่ามาตลอดก็อาจจะเป็นแบบที่หลายๆคนเหมารวมกัน แต่บางคนก็ถือเรื่องไม่เหมือนกัน เราเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ เห็นคนที่ทำไม่ได้ก็อยากเตือนเขา แต่หารู้ไม่ว่าที่เขาไม่ทำเพราะไม่เห็นความสำคัญจึงปล่อยผ่านโดยง่าย อันนี้ก็ต้องดูจังหวะ ดูว่าเขาเป็นคนยังไง เพราะคนเรามันไม่เหมือนกัน
ถ้าเป็นเราจะไม่ตอบทันที โดยเฉพาะกับเรื่องที่ชอบ รอให้อารมณ์ดีก่อนแล้วค่อยมาทำ ถ้าเราทำไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเนื้องาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง พอกลับมาทำอีกที ก็อาจทำให้รู้สึกชอบน้อยลง เพราะมันมีเรื่องให้ต้องแก้เต็มไปหมด แต่ถ้าทำดีภายในครั้งเดียวไม่ได้ เรียนรู้จากประสบการณ์ก็เป็นวิธีที่ดีอย่างหนึ่ง สามารถเรียนรู้ได้โดยตรง รู้ที่มาที่ไป พอเข้าใจแล้วก็จะทำได้เอง
ในนิยายเราค่อนข้างเม้นเป็นกันเอง มีแต่สกรีมเนื้อเรื่อง ไม่ค่อยมีบอกให้ทำตามหลักการเท่าไร เราก็ไม่ถือเรื่องการใช้คำพูดเขียนเม้น ปล่อยฟรีเลย รับได้หมด
เราท่องไว้ให้ขึ้นใจ
'ความหวังดีของเรา อาจเป็นความปรารถนาดีที่น่าเวียนหัวของคนอื่น'
อะค่ะ55
เห็นด้วยมากเรื่องคำหยาบ โดยเฉพาะวายไทย ฟิคไทย เลยเลือกอ่านงานแปลเป็นส่วนใหญ่ด้วยประการฉะนี้ สบายใจ อิอิ
ฟื้ด ดมกาว! แล้วก็ไปให้ไกลถึงดวงดาว
'ความหวังดีของเรา อาจเป็นความปรารถนาดีที่น่าเสียนหัวของคนอื่น' อันนี้รู้ซึ้งเลยค่ะเพราะเคยโดนมากับตัว
ปล.มัวแต่ยุ่งจนลืมวันไปเลย ต้องกลับไปเซงเม้งทว่าโทรมาเตือนป่านนี้ก็ไม่ทันแล้วล่ะ //ต้องการยาแก้ไบโพลาร์ด่วน
เชงเม้งเราปิดจ๊อบตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้วค่ะ55
ของเราเขาโทรมาถามเมื่อคืนว่าทำไมยังไม่มา เราก็เลยนึกออกว่าตัวเองลืม ฮ่า
รู้สึกดีใจที่ไม่ต้องไปเชงเม้งถึงซัวเถา อิอิ
3-5 ปีค่อยไปทีก็ได้เนอะ //คนมันยุ่ง
นึกว่ามีเพียงเราที่ออกทะเล
อันนี้ไปต่างประเทศกันเลยทีเดียว
เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ
ชอบกระรอกอ่ะ ท่าดมนี่สุดยอด
ชอบกระรอกต้องจัดให้เคอะ บ้าจี้ อิอิ
มุ้งมิ้ง
น่าร้ากกกกกอ่ะ
น่ากินนนนนนน
น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆ
เคยเจอนะคะ เลยแบบเอาที่เขาสบายใจเถอะ ปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตนเองไป นานาจิตตังมาก แต่เอาไปประจานก็เกินไปนะ ถ้านักเขียนเอาเมนต์ที่คุณโพสไปประจาน แล้วนักเขียนที่ว่าจะโดนกระแสตีกลับ เดี๋ยวจะหาว่าโดนบลูลี่ คือ มันมีหลายเคสนะ อะไรพวกนี้ มองแบบกว้าง ๆ เขาก็มีอีโก้ มั่นใจว่างานของฉันโปรนาจา ถ้านักอ่านบางคนเจอมาเยอะ ก็อ่านเงา ๆ เอาไปเม้าธ์เงียบ ๆ บางคนหวังดีแบบช่วยวิจารณ์ นักเขียนบางท่านน่ารักนะ มีขอบคุณที่เราช่วยชี้้จุดบกพร่อง แบบอยากจะเรียกมาหอมหัวที บางท่านนี่ก็นี่ฉันไม่น่าไปเมนต์เลย ลบได้มะ
อันนี้ขำ ๆ นะ บางทียินดีรับฟังติชม คงอยากได้แต่คำชมมากกว่า แบบสนุกค่ะ มาอัปต่อนะ พอมาเป็นเชิงวิจารณ์หรือด้านภาษา จะใจบางรับไม่ได้ แบบมันสั่นคลอนความมั่นใจอะไรแบบนั้น
เราว่าภาษาไทยก็เขียนให้ถูกต้องทีเดียวไปเลยค่ะ จะได้ไม่ติดภาษาผิด ๆ ไปใช้ในเอกสารสำคัญ เคยเจอรายงานที่รุ่นน้องทำ หลุดภาษาแชท นะค่ะ น่ะค่ะ อ่ะค่ะ ปรากด แบบวงตัวแดงสนุกเลย ใช้ภาษาถูกต้องมันไม่เชยหรอกค่ะ มันจะได้ติดตัวกันไป
ส่วนนักเขียนเอง ต้องคิดว่าเราเอาผลงานมาเผยแพร่ ทุกคนพร้อมวิจารณ์รับฟังแบบมีจุดยืนอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่าเถอะ กระทู้ของคุณแสดงถึงความคิดเมื่อเจอนักเขียนไม่ค่อยน่ารักสักเท่าไหร่ หงุดหงิดกับการเรียน การงาน พอเห็นคำเมนต์ติ ก็สวนหมัดตรง ทั้งที่นักเขียนคนนั้นน่ารักกับนักอ่านมาตลอด กลายเป็นว่าคุณดูแย่ในสายตานักอ่านเพียงเพราะประโยคเดียวเลย อย่าลืมค่ะ สมัยนี้อะไรออนไลน์ ต่อให้คุณลบเพียงนี้ความผิด แต่มือแคปแน่นอน ตั้งสติก่อนเมนต์กลับค่ะ นักเขียนก็คนนั่นแหละค่ะ แต่เราอยู่ในบทนี้ควรมีสติในการคอมเมนต์โต้ตอบนักอ่านสักนิด ไม่งั้นคุณจะเสียนักอ่านไปเลย
ชอบคอมเมนต์นี้จังค่ะ
สุดยอดยกนิ้วให้เลย
ยกนิ้วให้กับความเกรียนของนักเขียนท่านนั้นเหรอครับ? อย่าเลย น่าสงสารออก ถ้าเขามาเห็นคงเสียใจแน่ๆ
"เป็นนักเขียนต้องอดทนและพร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่พอเขาติคุณ คุณกลับถากถางและต่อว่า แฟนฟิคชั่นแล้วอย่างไร? คุณก็ต้องหาข้อมูลและต้องเคารพออริจินัลเช่นเดียวกัน หากคุณไม่คำนึงถึงข้อนี้ ก็อย่ามาตั้งคำถามหรือเรียกร้องหายอดวิวและคอมเม้นท์ ดีดดิ้นในช่องคอมเม้นท์นิยายของคุณ ไล่ตอบคอมเม้นท์เก่าๆ จี้ให้นักอ่านมาเม้นท์คุณ"
ยกนิ้วให้กับข้อความนี้นะ เป็นอะไรที่เหมาะแก้การชื่นชมเป็นอย่างมาก
ชมเลยครับ^/////^
มันแรงไปใช่มั้ยคะ? T T
ก็ไม่หรอกครับ555
มีนักเขียนอยู่อีกประเภท คือนักอยากเขียน เขียนขำ ๆ เอาสนุก ไม่ได้ยึดหลักจริงจังเรื่องการเขียน คอมเม้นที่เขาอยากได้น่าจะออกไปทางชม หรือสนุกกับเนื้อเรื่องมากกว่า การตำหนิ หรือบอกว่าข้อมูลไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ไม่พอใจได้
ตัวคนวิจารณ์ก็ต้องระวังเช่นกัน คนวิจารณ์ผิดหรือเปล่าผมไม่รู้ เพราะบางครั้งคนวิจารณ์ใช้คำธรรมดาทั่วไป แต่อีกฝ่ายอาจมมองว่ารุนแรงก็ได้ จิตใจของคนมันยากที่จะคาดเดา
คะ ค่ะ นี้ระเบิดชั้นดีเลยนะ ถ้าไปเจอนักเขียนแนวปกป้องตัวเอง ชอบแก้ตัวในความผิดพลาด การทักไปว่าใช้ คะ ค่ะ ผิด อาจไปกระตุ้นนิสัยส่วนนี้ขึ้นมา ยิ่งลูกหาบเชียร์ด้วยแล้ว ยิ่งทำอะไรไม่ได้ แม้จะเห็นว่าผิดจริง ๆ ก็ตาม
ปัจจุบันเราก็เห็นกันเยอะแยะนะคนที่มีนิสัยแบบนี้ ลุงข้างบ้านผมก็เป็น ใครวิจารณ์แก่แก่จะอารมณ์เสีย แล้วก็จบด้วยการบอกว่า แก่เป็นคนดี ป่วยการจะเถียงจริง ๆ
แค่จะบอกว่า เลือกวิจารณ์คนที่พร้อมรับคำวิจารณ์จริง ๆ เจ้าของกระทู้แค่โชคร้ายพลาดไปเหยียบกับระเบิดเท่านั้น (นักเขียนที่บอกว่าวิจารณ์ได้ แต่จริง ๆ แล้วหัวร้อนกับคำวิจารณ์) ต้องมองลาดเลาดี ๆ ว่าคนแต่งคนนี้วิจารณ์ได้หรือเปล่า จะด้วยลองการถอดล็อคอินก่อนก็ได้ ถ้าวิจารณ์แล้วอีกฝ่ายหัวร้อน ก็ต้องถอยออกมา
ถ้าคนแต่งคนนั้นไม่คิดจะส่งประกวดอะไร ก็ให้เขาแต่งไปแบบนั้นแหละ
ถ้าไปคอมเมนท์ข้อเสียก็อาจจะโดนโกรธ งั้นไม่เมนท์เลยจะดีกว่าไหม หลายคนคงคิดงี้
แต่นักเขียนน่ารัก ๆ ก็มีเยอะนะฮะ ที่รอให้คนมาเมนท์และพร้อมที่จะรับความคิดเห็นของผู้อ่านเสมอ
เปรียบเสมือนน้ำครึ่งแก้ว ไม่ใช่น้ำล้นแก้ว สามารถพัฒนาไปได้อีกแบบนี้ก็น่าสนับสนุนกว่า
เพราะงั้นเราคิดว่าเมนท์ได้ก็เมนท์แหละ นักเขียนทุกคนก็อยากได้อยู่แล้ว
ถ้าเมนท์ข้อติ แล้วเขาไม่โอเค ต้องเผื่อใจไว้ด้วยนะ อยากให้เขารับฟังเอาไปพัฒนางานเขียน แต่เขาไม่อยากแก้ไข ไม่ชั่งน้ำหนักเหตุและผลใด ๆ ก็เรื่องของเขาแล้วล่ะ
แต่ถ้าไม่จบ ก็คงต้องตบนะฮะ
ตบบ่าเนี่ยแหละ ถอนหายใจแผ่วเบาแล้วเดินจากไป
การไปแสดงความเห็นเพื่อชี้จุดที่สามารถปรับปรุง แก้ไข หรือพัฒนาให้กับผลงานของใครสักคน แม้เจ้าตัวจะบอกว่า "ขอคำชี้แนะด้วย" ก็ตาม
เชื่อเถอะว่า เขาไม่ได้เตรียมใจมาเพื่อรับความเห็นในเชิงลบที่มีต่องานเขียนของเขาแน่ๆ
เมื่อเขียนออกมา ทำออกมา ก็อยากให้คนชม อยากให้คนเห็นถึงความตั้งใจ คาดหวังไว้สูงว่าต้องมีคนมาชื่นชมผลงานของตัวเองเป็นแน่
แต่เหตุการณ์กลับพลิกผัน ผลงานที่อุตส่าห์สร้างสรรค์มา ถูกหาว่าใช้คำผิด บอกว่าคำหยาบที่ใช้มันไม่สมควร
เหมือนถูกตีกลางแสกหน้า ฟ้าผ่าลงกลางใจ โดนลากไปตบกลางสี่แยกไฟแดงชิบุย่าให้ตื่นมาพบกับความจริง ว่านิยายของเขามันไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ มันยังมีจุดที่ควรปรับปรุง
นั่นแหละ แค่นั้นคอสโม่ในใจก็มอดไหม้ รับไม่ได้ ต้องออกมาทำอะไรสักอย่าง ให้ความรู้สึกมั่นใจที่ถูกทำลายลงฟื้นคืนกลับขึ้นมาบ้าง
แปลงร่างจากนักเขียนเป็นซุปเปอร์ไซย่า อาละวาดใส่เจ้าฟรีซ่าที่มาทำลายความสงบสุขในโลกของตน
นักเขียนหลายคนเป็นเช่นนี้ แต่ก็มีหลายคนเช่นกันที่เก็บคอมเมนท์ต่างๆไปแก้ไขและปรับปรุง หรือบางคนใช่วิธีละมุนละม่อมอย่างการเมินเฉยข้อติติงนั้น
ขณะเดียวกัน นักอ่านที่ไปแสดงความเห็นหรือวิจารณ์เอง ก็ต้องเตรียมใจด้วยว่า ไม่ใช่ทุกคนจะมองว่าคำพูดของเราที่มีต่อผลงานเขา เป็นแค่คำพูดธรรมดา
ตัวอักษรไม่มีเสียง นักอ่านอาจคิดว่าเราใช้แรงสะกิดแค่เบาๆทำไมต้องโต้ตอบขนาดนี้
บางทีสำหรับนักเขียน แรงสะกิดนั้นมันแรงเกินกว่าที่เขาจะรับได้ มันเหมือนดาบที่แทงเขาจนมิดด้ามถึงได้โต้กลับคนที่ทำเขาเจ็บช้ำน้ำใจแบบนั้นออกมา
เพราะทุกคนมีประสบการณ์ มุมมอง ความรู้ และวุฒิภาวะที่แตกต่างกัน วิธีการส่งสาร รับสารและโต้ตอบสารจึงต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมตัวตนพวกเขามา
นักเขียนต้องเตรียมใจรอรับคอมเมนท์ติชมฉันท์ใด นักอ่านก็ต้องเตรียมใจรอรับผลสะท้อนจากคอมเมนท์ของตนฉันท์นั้น
เหมือนจะขำ แต่มาแนวซีเรียสแฮะ555
จริงจังแค่ไหนเรียกจริงจัง...
ยิ่งคาดหวังมากก็ยิ่งเจ็บมากเช่นกัน อ่า ผมเองก็จัดเป็นนักเขียนประเภทที่สองด้วยสิ แย่ๆเลยน่าตัวผม สงสัยต้องกระโดดอัพค่าพลังชีวิตละ
เป็นนักเขียนต้องมีกี่ชีวิตถึงจะพอคะ จะทำป๊อก 100 ตัวไปก็เท่านั้น...
เอาไปเลยสูตรอมตะ...
บน บน ล่าง ล่าง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา a b select start
เพิ่งบอกไปไม่กี่วัน555 เอ้อ อันนี้ไม่นับ แค่เติมพลังชีวิตในการเขียน สูตรนี้ดี กดเลยครับ554
ไม่วิจารณ์ จบ
ไม่เครียด ไม่หงุดหงิด คนเหมือนกันแต่คิดไม่เหมือนกัน
อยากได้คอมเม้นต์ก็ต้องรับให้ได้หมดทุกแบบ ยกเว้นสแปมและชวนหาเรื่อง
ถ้าไม่อยากได้คอมเม้นต์ก็แนะนำว่าให้ปิดๆช่องใส่คอมเม้นต์ไปเถอะ เขียนเงียบๆอาจจะทำให้จิตใจสบายกว่านี้ก็ได้ใครจะไปรู้
แต่ในขณะเดียวกันคนจะวิจารณ์หรือจะอินจะอะไร มันก็ต้องมีมารยาทในที่สาธารณะด้วยเหมือนกัน เพราะคำพูดไม่มีน้ำเสียงหรือท่าทางประกอบ ใช้คำห้วนๆมันก็จะถูกมองในด้านลบอยู่ดี ของพวกนี้มันก็ห้ามกันไม่ได้อีกนั่นแหละ
บ่นอยากได้คอมเม้นต์ แต่ก็ไม่อยากได้นั่นนี่ ไม่เอาด้านลบ คำวิจารณ์ อยากให้คนมาอวยก็ควรจะบอกจะบอกตรงๆ ไม่รู้จะทำตัวให้เป็นนักเขียนที่ดีไปทำไมในเมื่อตัวเองทำไม่ได้
ล่ะนะ
I like!
เสียความรู้สึกทีหลังอาจจะแย่กว่า ก็ให้มันรู้ไส้รู้พุงกันไปเลย มาตรฐานเดียวกันในฐานะนักเขียนที่ดีพูดตรงๆคือใช้ไม่ได้แล้ว
ก็เอาเป็นขึ้นกับสภานการณ์กับสภาพจิตใจคนเขียนไปเลย
เจ้าของบทความจะทำอะไรก็ได้ จะขอเม้นต์ จะบ่น จะแพนิค ก็เป็นสิทธิส่วนตัว
นักอ่านก็ตามใจท่านไปเลย จะเม้นต์อิน เม้นต์แนะนำ ไม่ต้องคิดมากว่าอุตส่าห์เข้ามาอ่านนะ นักเขียนต้องกราบชั้นสิชั้นจะพิมอะไรทับถมนักเขียนก็ได้ เปิดสาธารณะมันต้องกล้ารับทุกอย่าง อันนี้มันบ้าบอ หลงตัวเอง
ในอีกด้านนึงนักเขียนก็ต้องเคารพคนอ่านด้วย อย่างน้อยเห็นแก่คนอ่านที่รักงานคุณอยู่ รักตัวละคร รักฝีมือของคุณ ถ้าเขาไม่หาเรื่องก็ถือว่าอ่านไว้เป็นวิจารณญาณไป
เปิดใจไม่เปิดใจมันบังคับกันไม่ได้หรอก เอาแค่เรื่องเคารพกันและกันก็พอ
บางคนความอดทนไม่เท่ากัน งั้นก็ไม่ต้องทำให้มันเท่ากัน แค่ต้องยอมรับความจริงที่ว่า การกระทำเรามันก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ทุกอย่างไม่ใช่ตามที่เราคิดเสมอ แค่นั้นแหละ
ต้องให้เกียรติกันและกัน
ทั้งคนอ่านและคนเขียน
เป็นอะไรที่ติดอยู่ในใจ ตอนคอมเมนต์นึกไม่ออก อันนี้แหละ ส่วนที่เหลือที่อยากพูด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?