#How to เลือกซื้อกันแดดอย่างไร ให้ไกลจาก UV !!!!

[Kaijeaw17]

เซย์ฮายคร้า สาวๆ เข้าหน้าร้อนแล้ว 
รู้ว่าช่วงนี้ร้อนหูดับตับไหม้เลยค่ะคุณณณณณ 
อยากจะออกไปเล่นน้ำทะเล หรือออกไปสงกรานต์ก็กลัวเหลือเกิน
กับแดดประเทศไทย ทำให้ผิวไหม้แถมยังเป็นมะเร็งได้อีกด้วย
มีแต่ข้อเสียทั้งนั้นเลย วันนี้เราเลยมาแนะนำ หรือแชร์เทคนิคดีๆ ที่
เราหาอ่านมาจากหลายๆทาง มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันบ้างนะคะ 



ก่อนอื่นเลยเนอะ สาวๆ ต้องทำความเข้าใจกับ 
“UVA และ UVB” กันก่อนนะ 

UVA เป็นรังสี ที่สามารถแทรกซอนถึงผิวชั้นลึกๆ หรือผิวหนังชั้นล่าง เพื่อทำลายเนื้อเยื่อและดีเอ็นเอของเซลล์ผิว (รังสีตัวนี้ร้ายถึงขนาดทะลุกระจกและทะลุผ่านเมฆได้ชิลๆเลย) มันจะเป็นตัวทำลายคอลลาเจนและความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้แห้งกร้าน จนเกิดริ้วรอย ก่อให้เกิด ฝ่า กระ ผิวหมองคล้ำ 
แย่ที่สุดเลยคือ มะเร็วผิวหนัง เชียวนะคะ

มาจากคำว่า Protection Grade of UVA ส่วนเครื่องหมาย + ที่ตามมาข้างหลังนั้นคือความสามารถในการปกป้องผิว โดยวัดเป็นเท่าของการเกิดผิวคล้ำดำ

PA+ ป้องกันรังสี UVA ได้ 1-4 เท่าของผิวปกติ หรือป้องกันได้น้อย
PA++ ป้องกันรังสี UVA ได้ 4-8 เท่าของผิวปกติ หรือป้องกันได้ปานกลาง (ทำงานในร่ม)
PA+++ ป้องกันรังสี UVA ได้ 8-16 เท่า หรือป้องกันได้มาก (สำหรับทำงานกลางแจ้ง)
PA++++ ป้องกันรังสี UVA ได้ 16 เท่า หรือป้องกันได้สูงมาก (สำหรับทำงานกลางแจ้ง  

ตัวต่อไปค่า SPF ในการป้องกันรังสี UVB คือความสามารถในการป้องกัน
รังสี UVB ไม่ให้เกิดอาการแดงของผิวหนัง และการคำนวณระยะเวลาในการป้องกัน
รังสี UVB นั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแต่ละสีผิว อย่างเช่นคนผิวขาว
เมื่อตากแดดไปเพียง 10 นาที ผิวก็จะเริ่มแดง คนผิวสองสีใช้เวลา 15 นาที แ

ละคนผิวเข้มหรือผิวดำ ต้องตากแดดนานถึง 30 นาที ผิวถึงเริ่มแดง เป็นต้น
ส่วนค่าเลขหลัง SPF นั้น อย่างเช่น SPF30 หมายถึง การใช้ระยะเวลานานกว่า 30
เท่าของเวลาที่ทำให้ผิวแดงในเวลา 10 นาที หมายความว่า SPF30 จะสามารถ
ป้องกันไม่ให้ผิวแดงได้นาน 300 นาที (5 ชั่วโมง) หากหลังจากนั้นเลย 300 นาที
ถ้าเราจำเป็นต้องโดนแสงแดดอยู่ ก็ต้องทาครีมกันแดดซ้ำอีกทีด้วย
แต่ก็อาจจะมีการเข้าใจผิดๆ หากถูกรังสียูวีในระยะเวลาที่น้อยกว่านี้ผิวคงไม่เป็นไร !
ว่าถึงแม้ปริมาณรังสียูวีที่ได้รับจะเป็นเพียงแค่ 1 ใน 15
ของระยะเวลาในการปกป้องจากครีมกันแดด แต่ก็ไม่ได้หมายความจะทำให้อิทธิพลจากรังสียูวีเป็นศูนย์“ นะจ๊ะ
SPF 2 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 50%
SPF 4 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 75%
SPF 6 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 80%
SPF 8 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 87.5%
SPF 10 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 80%
SPF 15 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 93.3%
SPF 20 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 95%
SPF 25 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 96%
SPF 30 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 96.7%
SPF 45 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 97.8%
SPF 50 ป้องกันแสงแดด UVB ได้ 98%
จะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดที่ค่า SPF สูง ๆ นั้นแทบไม่มีความ
แตกต่างกันเลย ซึ่งอัตราการป้องกันแสงแดดจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง SPF 30 เท่านั้น
และเมื่อเลยจากจุดนี้อัตราการป้องกันจะเพิ่มขึ้นอย่างเฉื่อยมาก ๆ ดังนั้นเราจึงไม่
จำเป็นต้องไปซื้อกันแดดที่ค่า SPF สูง ๆ มากเกินไปมาใช้
สำหรับการทากันแดดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ควรทาครีมขนาดเท่าเหรียญ 10 หรือ
สองข้อนิ้วนะคะ หรือไข่มุกเม็ดใหญ่ 2 เม็ด
อย่าลืมทาหลังไปหูด้วยนะจ๊ะ เพราะใบหูนั้นเป็นส่วนที่ไหม้ง่ายที่สุด
สำหรับการแต้มลงบนหน้า
บริเวณหน้าผาก แก้มสองข้าง จมูก และคางด้วยนะจ๊ะ
อ๋อ ค่อยๆเกลี่ยๆ เนื้อกันแดดให้ซึมเขาสู่ผิว เกลี่ยๆ ลงมาถึงช่วงลำคอด้วยนะเทออ
หรือแท็บๆลงบนหน้าให้เนื้อกันแดดซึมลงสู่ผิว เพื่อไม่ให้หน้าวอกและลอยด้วยจ้า ส่วน
ปากนั้นสาวๆ ลองหาลิปมันที่มีส่วนผสมของ SPF มาทาด้วยเด้ออ 

แชร์เทคนิค สาระดีๆ กันไปบ้างแล้ว อยากจะมาแชร์ครีมกันแดด ที่ Hot! ที่สุดในปี
2019 นี้ และพลาดไม่ได้เลยกับครีมกันแดดน้องใหม่จิ๋วๆ แต่คุณภาพไม่จิ๋วนะจ๊ะ
ไปเริ่มดูกันเลยเนอะว่าวันนี้กันแดดที่เขาฮอตๆ กันช่วงนี้คือกันแดดอะไรน้า
ตัวนี้เลยจ้า 

Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+/PA+++
(15g.) ราคา 125.- บาท

อันนี้ขอยกความฮอตฮิตให้เขาไปเลยคร้า ครั้งแรกที่ไปลองเทสต์รู้สึกประทับใจมาก
สุดดดด เนื้อครีมบางเบาเหมือนน้ำพอเกลี่ยแล้วซึมไวดี สำหรับคนผิวหน้ามันๆ ตัวนี้ถือว่าเด็ดสุดเลยค่ะเพราะเป็นเนื้อเจล ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เลอะเสื้อผ้า และคุม
มันได้ดีในระหว่างวัน กันน้ำกันเหงื่อ ช่วยปกป้องให้ผิวไม่ให้หมองคล้ำ ป้องกันการ
เกิดจุดด่างดำ จากรังสี UVA และ UVB และไม่ระคายเคืองผิวด้วย
และคงความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยจ้า
 

วิธีใช้ : เทเจลลงบนฝ่ามือ ลูบไล้เบาๆ ให้ทั่วผิวหน้า แต้ม 5 จุดสำคัญ ใบหู ลำคอ
และผิวกายก่อนออกแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อประสิทธิภาพที่ดี ทาก่อนออกแดดประมาณ 10-15 นาที

 

เราไปดูตัว New อีกตัวที่เราดันไปเจอมา เราค่อนข้างปลื้มกับเนื้อกันแดดมากๆMisa UV Water Serum SPF 50+/PA+++ (8g)
ราคา 39.- บาท

ของเขานี้เหมาะกับผิวแพ้ง่ายมาก ๆ ค่ะ เพราะปราศจาก น้ำมัน, แอลกอฮอล์,
สารพาราเบน, น้ำหอม, และสีสังเคราะห์เลยนะคะ เนื้อครีมเป็นสีออกม่วงๆ
เกลี่ยง่ายมากๆ เกลี่ยดีๆ จะซึมเข้าผิวทันที กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี ปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF50 และ PA+++ ไม่ให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ
ไม่แห้งกร้าน ไม่เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ ด้วยเนอะ

พอทาไปแล้วกันแดดซึมเขาผิวทันทีเลย รู้สึกว่าบางเบาเหมือนไม่ได้ทาครีม
ไม่ทิ้งความเหนอะหนะให้รำคาญใจ ทั้งยังสามารถ กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีสุดๆไปเลย สงกรานต์นี้สาวๆ คนไหนที่เตรียมตัวจะไปสาดน้ำ ตัวนี้เรายกนิ้วให้เลยคะคู๊ณณณณณณณ

วิธีใช้ : เทเนื้อกันแดด ลูบไล้เบาๆ ให้ทั่วผิวหน้า แต้ม 5 จุดสำคัญ ใบหู ลำคอ ก่อนออกแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อประสิทธิภาพที่ดี ทาก่อนออกแดดประมาณ 10-15 นาที

 

 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่สาวๆ ได้ไม่มากก็น้อยเนอะ เมื่อรู้วิธีการเลือกกันแดดแล้ว ก็อย่าลืมไปหากันแดดมาใช้กันบางเนอะ แดดเมืองไทยมันร้ายมากกก
และอยากให้สาวๆ สวยไปด้วยกันจ้า
สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนน้า สวัสดีจ้าาาาาาาา

Comments

[Park Dari]

Misa UV Water Serum ซื้อได้ที่ไหนคะ

[Kaijeaw17]

พอดีเขาได้ตัวนี้มาจากงานออกบูธของ CP All @วันแห่งโอกาสดี ที่ ศูนย์ราชการจ้า ถ้าสนใจลองไปดูหน้าเพจของเขาได้นะคะ ของแบรนด์ royal beauty อะจ้า