อยากเป็นหมอมาก และแม่ก็เอาแต่ดูถูก ทำยังไงดี

แล้วยังไงครับ เป็นแบบที่แม่พูดไหมล่ะ ถ้าไม่ใช่ ก็สอบเข้าหมอให้ได้ ให้แม่ยอมรับเราสิครับ

ทำให้แม่เห็น แต่ถ้่ทำไม่ได้ที่แม่พูดมันก็จริง แค่นั้น

ไม่ต้องเก็บเอาไปคิดมากหรอกค่ะ เราตั้งใจอ่านหนังสือของเราให้ดีที่สุดก็พอ ถึงผลออกมาเราจะคะแนนไม่ถึงหมอตามที่แม่พูด ก็ยังมีคณะอื่นๆอีกนะคะ ยังดีที่แม่จขกท.ไม่ได้คาดหวัง อย่างพ่อแม่เราคาดหวังให้เป็นหมอเท่านั้น แต่เราขี้เกียจอ่านหนังสือมาก กดดันมากตอนนี้

ผมก็เป็นครับแต่เบากว่านี้ ผมขาดกำลังใจในการเรียน ขาดกำลังใจในการทำเพื่อพวกเขา มันเลยมีท้อๆหน่อย สุดท้ายปีนี้ก็ไม่ติด แต่ผมจะมุ่งมั่นเป็นหมอให้ได้ไม่ว่าจะทางไหน จะอีกกี่ปี จะอายุเท่าไร เพราะมันคืออาชีพเดียวที่ผมจะสามารถอยู่กับมันไปได้จนตาย เรารู้ตัวแล้วว่าอยากเป็นอะไร แต่มันจะมีอุปสรรคให้เราแก้เสมอ อุปสรรคผมก็คือกำลังใจนี้แหละ แต่ถ้าเราได้ลองคุยกับพ่อแม่ พูดให้เขารู้ว่าเราอยากเป็นจริงๆ เราอยากเป็นเพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่น และเพื่อพวกเขา หลังจากนั้นผมว่ามันอาจจะดีขึ้นก็ได้ครับ

ถ้าอยากเป็นหมอ ก็สอบเลยครับ เอาคำดูถูกมาเป็นแรงผลักดัน และถึงมันไม่เป็นอย่างที่หวัง ก็อย่ายอมแพ้ยังมีสายวิทย์สุขภาพอีกมากมาย เช่น กายภาพบำบัด สัตวแพทย์ เภสัชศาสตร์ ทันตแพทย์ สหเวช ฯลฯ สู้ๆนะครับ ชีวิตและอนาคตเป็นของเรา เราเป็นผู้ลิขิต

ช่างแม่เด้อออ ถ้าพูดกันตามตรงแม่ไม่อยู่ค้ำฟ้า เราเป็นคนอยู่กับอนาคตเราไปตลอด จะสนใจคำแม่หรือจะมั่นใจอนาคตเราเราเลือกเอง

ปล.เราอยากเข้าหมอเหมือนกันโดนดูถูกหนักมากๆจากหลายๆคน เราเลือกที่จะไม่สนใจ ให้ผลสอบเป็นคำตอบแทนละกันนะคะ

อย่าไปสนใจคำดูถูกค่ะ เลือกหมอไปเลยสัก4อันดับแรก แล้วที่เหลือก็ถามแม่ว่าอยากให้เข้าคณะไหน แล้วก็เอาคณะที่เหลือตามแม่บอก ถ้าเราไม่ติด4อันดับแรกที่เป็นแพทย์จริงๆ ก็ถือว่าเราทำเต็มที่แล้ว

เราก้เป็นแต่คงไม่ขนาดนี้ ตอนนี้เรากำลังเตรียมสอบครั้งที่สี่ละ และคิดว่ามันคือครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ความฝันเรามันขึ้นอยู่กับเราจริงๆไม่มีใครมากำหนดได้ สู้ให้ถึงที่สุด จนกว่าจะถึงวันที่เรารู้ด้วยตัวเองว่าไหวไม่ไหวแล้วแล้วค่อยมาว่ากันอีกทีว่าเราสามารถเป็นอย่างอื่นได้ไหม สุดท้ายอยากให้ตอบตัวเองให้ได้ว่า อยากเป็นหมอเพราะอะไร ช่วยคนไข้ เพราะเงิน หรือเอาชนะคำสบประมาทของแม่เรา ถ้าเราอยากเป็นหมอเพราะอยากช่วยคนขอให้คุณสู้ให้ถึงที่สุด แล้วคนรอบข้างจะสนับสนุนคุณในสิ่งที่คุณตัดสินใจแน่นอน

เราเป็นเด็กซิ่วที่ซิ่วแบบอยู่บ้านเป็นเวลา 2 ปี ตอน ม.6 สอบ 9วิชาได้คะแนนรวมทั้งหมดประมาณ 45 และฟิสิกส์ได้แค่ 8 เต็มร้อย บอกแค่นี้ก็คงรู้ว่าห่วยมาก ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำคณะอะไรเลยใน กสพท.

ซิ่วปีแรกเราเรียนพิเศษทุกวิชา ได้คะแนนรวม 59.1 ก็ยังไม่ติด

ซิ่วปีทีสองคือปี 62 นี้ เราไปเรียนเพิ่มแค่อังกฤษ แล้วเอาโจทย์เก่าๆมานั่งทำใหม่หมดและปริ้นข้อสอบเก่าจากเน็ตมาทำ เราได้คะแนน 65.4

เราอยากจะบอกแค่ว่า มันไม่มีอะไรยากเกินความพยายามหรอก ดูเราสิปีแรกที่สอบเพิ่งจบ ม.6 แท้ๆ คะแนนแย่มาก แต่เราไม่เคยยอมแพ้ วันนี้เราทำตามฝันได้แล้ว

อยากให้คิดว่า ถ้าทำตามที่แม่บอก จขกท. จะมาเสียใจภายหลังไหม? ลองคิดดูค่ะ เเล้ว จขกท. จะได้คำตอบเอง

เป็นกำลังใจให้นะคะ

อย่าไปสนใจครับและสู้ต่อเพื่อความฝัน ตั้งใจทำข้อสอบ นำคำดูถูกมาเป็นแรงฮึดสู้ ขอให้โชคดีครับ

สิ่งที่แม่พูดอาจจะเป็นเพราะเขากลัวว่าเราจะเสียใจหากต้องผิดหวังจากสิ่งที่คิด เราไม่รู้หรอกว่าในชีวิตหนึ่งของแม่ผ่านอะไรมาบ้าง แต่ที่บอกแบบนี้ไม่ได้บอกว่าให้ จขกท เชื่อแล้วยอมแพ้ไปเลยนะคะ ชีวิตเป็นของเราค่ะ เราเลือกเอง

ตอนเราเลือกคณะครั้งแรกถึงกับนอนร้องไห้คุยกับแม่เลย บอกให้เขารู้ว่าที่เราเลือกเป็นเพราะเราอยากทำมันมากแค่ไหน และทำเพื่ออะไร ถ้า จขกท ตอบตัวเองได้ก็ไม่ต้องกลัวค่ะ ลุยทำให้ถึงที่สุด ได้ไม่ได้ขอให้ได้พยายามก่อน เพราะสุดท้ายเราจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง

สู้ๆ ค่ะ

ไม่มีความฝันใด ที่มันสูงเกินใจจะใฝ่ และไม่มีใครต่ำต้อยที่ใจจะฝัน

ถ้าเราอยากเป็นจริงไม่ว่าจะมีอุปสรรคผ่านเข้ามามามากมายแค่ไหนมันก็เป็นเพียงบททดสอบของความสำเร็จเท่านั้นเอง

ความฝันที่ยิ่งใหญ่ ก็ได้ใช่ความพยายามที่ยิ่งใหญ่

สู้ๆนะครับ

ถ้าอยากขนาดนั้น ลองไป อบรมศิริราช มีเปิด ให้ทดลองเป็นหมอ ปัจจุบันนะ จะได้รู้ว่่ชอบไม่ชอบ , อ้อส่วนหมอสมัยนี้มันมีอีกหลายสาขา เช่นหมอด้านแพทย์แผนไทย ม.สุโขทัยเปิดให้เรียน สบายๆอ่านหนังาือมีสอนนวดแผนไทยด้วย , หมอฝังเข็ม ที่ ม หัวเฉียว , หรือ หมอ มธ. ก็เรียนตอนจบ สายวิทย์ ป ตรี แล้วไปเรียนต่อห้าปีเพิ่มเติมได้

ถ้ามันเป็นความฝัน ทำให้เต็มที่เลยค่ะ พยายามให้ถึงที่สุดก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆอย่างน้อยเราก็อาจจะรู้สึกดีที่ได้ทำเต็มที่แล้ว และอยากจะบอกว่าถึงแม้ว่าแม่ไม่เชื่อมั่นในตัวเรา มันไม่แย่เท่ากับเราไม่เชื่อมั่นในตัวเองนะคะ สู้ๆค่ะ

ถ้าเราเชื่อในตัวเอง ก็พยายามทำนะคะ แต่อย่าเข้าเพราะอยากลบคำสบประมาทเลยนะ เข้าเพราะเราอยากทำมันจริงๆ การเข้ามหาลัย อยากให้ฟังตัวเองเป็นหลักนะ จะบอกว่าอย่าสนใจคนอื่นเลยก็คงจะทำได้ยาก แต่ถ้าทำได้จะดีมากเลยนะคะ อย่าสนใจคนอื่นเลย เอาตัวเราเป็นหลัก มองเราเป็นหลัก อนาคตของเรา ชีวิตของเรา เราควรมีสิทธิ์กำหนดเองเนอะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ใช้พลังด้านมืดให้เป็นประโยชน์ เปลี่ยนมันให้เป็นแรงผลักดันสิครับ

มายด์เข้าใจความรู้สึกเวลาที่คนที่เรารัก เขาไม่เชื่อในตัวเรานะคะ แน่นอนว่ามันเจ็บปวด และรู้สึกท้อแท้มาก หมดกำลังใจ ไม่อยากทำอะไรต่อ อยากให้เขาเปลี่ยนความคิด อยากให้เขาเปลี่ยนมาให้กำลังใจเรา แต่บางครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะที่เราจะหวังให้ทุกคนมาคอยให้กำลังใจเราตลอด พยายามมองให้มันเป็นบททดสอบหนึ่งที่ต้องผ่านไปให้ได้ และถ้าหากว่าทุกครั้งที่บอกแม่ว่า "อยากเรียนหมอ" แล้วเขาตอบกลับมาด้วยคำพูดที่บั่นทอนกำลังใจ งั้นต่อจากนี้พยายามไม่ต้องพูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก แต่ให้ "ลงมือทำ" ค่ะ ลงมืออ่านหนังสือ ลงมือทำข้อสอบ ลงมือทำยังไงก็ได้ที่จะช่วยให้เราสอบติด ให้เราพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำได้ Actions speak louder than word สู้ ๆ นะคะ

มีเทคนิคการเรียน และรีวิวคณะแพทย์ในชาเนลนี้นะคะ http://bit.ly/2Gxk4WX

อย่าไปคิดมากเลยค่ะ เรามีความฝันอย่างนึงซึ่งแม่เราก็ไม่เคยสนับสนุนเพราะคิดว่าเราทำไม่ได้ ทำให้แม่เขาเห็นไปเลยค่ะว่าสิ่งที่แม่ดูถูก จริงๆแล้วแม่ดูผิด!! สู้ๆค่ะ

เปลี่ยนคำพูดดูถูกเหล่านั้นให้เป็นแรงผลักดันสิคะ ^^

ทำให้เขาเห็น ไม่ต้องพูดเยอะ

แม่เธอจะดูถูกเธอยังไงก็ช่าง แต่เธอห้ามดูถูกตัวเองนะ เรากลัวว่าเธอจะเอาถ้อยคำเหล่านั้นมาใส่หัว แล้วคิดย้ำๆ จนสุดท้ายก็เชื่อว่ามันเป็นจริง อ่านแล้วเป็นห่วง ขอให้เชื่อมั่นว่าเธอเอาชนะคำดูถูกนั้นได้นะ