Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์​เข้ารร.ใหม่​ แผนการเรียน​วิทย์​-คณิต​ และการระบายปัญหา

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดี​ค่ะ​ปี62นี้เราเพิ่งขึ้นม.4มาสดๆร้อนๆ​ เราไม่ใช่คนที่เรียนดีเพียบพร้อม​ขนาดนั้นนะคะ​ อยากจะมาแชร์ประสบการณ์​และให้กำลังใจนะคะ
ปล.ประสบการณ์​ส่วนตัวเรานะคะ​ และเราพูดในมุมมองตัวเอง

เราจะขอบอกก่อนนะคะ​ ว่ารร.เราเป็นรร. รัฐบาล​และมี​ แผนการเรียน​ดังนี้ 1.วิทย์​คณิต​
2.ศิลป์​คำนวญ(คณิตอังกฤษ)​
3.ศิลป์​จีน(ภาษาจีน)​
4.ศิลป์​อังกฤษ​(ภาษาอังกฤษ)​
5.ศิลป์​สังคม(สังคมไทย)​
6.ศิลป์ญี่ปุ่น​(ภาษาญี่ปุ่น)​
7.ศิลป์​ดนตรี​
8.ศิลปะ​

เราจะไม่มาตัดสินว่าแผนการ​เรียน​นี้ดีหรือไม่ดีนะ​ เพราะแต่ละแผนการ​เรียน​มันมีดีที่ตัวของมัน​ 

ส่วนเรา​ ตอนสมัครเราเลือก​แผนการเรียน​ วิทย์​คณิต​อันดับหนึ่ง​ ศิลป์​คำนวญอันดับสอง​ ศิลป์​อังกฤษ​อันดับสาม

ซึ่งเราได้แผนการเรียน​วิทย์​คณิต​ห้องแรก​ (สำหรับรร.เรา​ วิทย์​คณิต​ห้องแรกถือเป็นห้องคิง​ ไม่ใช่ห้องกิ้ฟนะคะ)​ 

เราเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเคยย้ายรร.ครั้งแรก​ ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยย้ายรร.เลยอยู่ที่เดิมมา12ปี​ เราไม่มีประสบการณ์​ย้ายรร.​ พอย้ายรร.ครั้งแรกก็งงนิดหน่อยและรู้สึกกังวล
​ ตอนเรียนปรับพื้น​ฐาน​ เราอยากจะบอกน้องๆรุ่นหลังเลยนะคะ​ ให้พยายามหาเพื่อนที่เข้าใหม่ด้วยกัน​ หรือเพื่อนที่ยังไม่มีกลุ่มตายตัว​ เพราะอย่างน้อยเราจะมั่นใจได้ว่า เขาจะไม่ทิ้งเรา​ ตอนปรับพื้น​ฐาน​ควรรีบทำความรู้จักกับเพื่อนโดยเร็ว​ จริงๆแล้วสนิทกับเพื่อนที่เป็นเด็กเก่าจะดีกว่า​ มีเรื่องอะไรเรายังถามได้​ (ตอนปรับพื้น​ฐาน​เรานั่งกับเพื่อนผู้ชาย​ พอเปิดเทอมเราเลยไม่มีเพื่อนนั่งด้วย)​
รร.เราเป็นรร.ที่ทุกคนไม่ได้พยายามอยากจะเข้าหาเด็กใหม่​ และค่อนข้างมีอคติ​กับเด็กใหม่​ อย่างรร.เก่าเราเป็นรร.เอกชนคาทอลิก​ เมื่อมีเพื่อนใหม่มาเราจะเข้าไปทักทาย​ ช่วยเหลือ​ แต่รร.ใหม่เราไม่​ ในห้องเราทุกคนดูเฟรนลี่ช่วยเหลือ​ แต่จริงๆแล้ว​ แฝงไปด้วยความกดดันและการแข่งขันไว้สูงมาก​ ทั้งครูและเพื่อนต่างห้องจะหวังว่าห้องเราเป็นห้องคิงต้องเก่งต้องดีเลิศ​(เราอาจจะคิดมากไปเองด้วยขออภัย​)​


การที่คุณเป็นเด็กใหม่ต้องทำใจในระดับหนึ่งว่า​ นี้ไม่ใช่ถิ่นคุณ​ และแน่นอนว่า​ เราโดนมองแรงใส่​ เราก็พอเข้าใจว่าทุกคนมีกลุ่มกันหมดแล้ว​ คงไม่มีใครอยากรับเพื่อนใหม่เข้าไปเพิ่ม​ การที่เราเข้าไปนั่งในกลุ่มนั้นแล้วรู้ว่าเขาไม่ชอบเรา​ มันเป็นอะไรที่น่าอึดอัดมาก​ การถูกลดความสำคัญ​ มันไม่มีใครชอบอยู่แล้ว​ การที่เราเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่เขามีเพื่อนอยู่แล้ว​ มันเหมือนเราไปแย่งเพื่อ​นเขา​ บางกลุ่มอาจจะไม่เป็น​ แต่กลุ่มที่เราเข้าไปอยู่...เป็น!​ 

ในการเรียนวิทย์​คณิต​ คุณต้องเตรียมใจรับความกดดัน​ และประเมิน​ตนเองตลอดเวลา​ เพราะแผนการเรียน​นี้​ เรียนหนักกว่าคนอื่นเขา​ ถึงคุณจะไม่เครียดไม่กดดัน​ มันก็มีสิ่งที่มาทำให้คุณเครียดกดดันอยู่ดี​ มันขึ้นอยู่​ว่าจะมีมากหรือน้อย

ถ้ามีผู้ปกครอง​มาอ่านเราอยากจะบอกว่า​ การให้กำลัง​ใจ​ การทำให้เขารู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่เขาเหนื่อยบ้านคือที่พักใจของเขา​ บ้านเยียวยา​เขาจากทุกสิ่งทุกอย่าง​ ทำให้เขารู้สึก​อุ่นใจ​ เป็นสิ่งสำคัญ  เมื่อไหร่ก็ตามที่เขารู้สึกว่าบ้านไม่ทำให้เขาสบายใจขึ้น​ คุณไม่มีทางรู้สิ่งที่อยู่ในหัวเขา​ ว่าเขาคิดอะไร​ และจะทำอะไร​ ปัจจุบัน​เด็กอยู่ในภาวะจิตตกซึมเศร้า​เยอะขึ้น​ เพราะขาดการใส่ใจที่มากพอ​ ขาดที่พึ่ง​ ถ้าคุณยังทำให้เขาไว้ใจที่จะระบายกับคุณไม่ได้​ คุณต้องพิจารณา​ตัวสักนิดว่า​ มันเกิดจากอะไร​ ให้เขาระบายกับคุณยังดีกว่า​ เขาไประบายใครอื่น​ และแนะนำเขาในสิ่งที่คุณ​ ไม่มั่นใจว่าดีหรือร้าย

ในการรับฟัง​ คุณต้องไตร่ตรอง​ว่า​ ลูกหลานของคุณ​ ในตอนนั้นต้องการระบาย  หรือต้องการคำแนะนํา​ บางทีในตอนนั้นเขายังไม่ต้องการ​คำแนะนํา​ ต้องการแค่ระบาย​ และเมื่อเขาไว้ใจระบาย​กับคุณแล้ว​ คุณไม่ควรไประบายให้กับคนอื่นฟังต่อ​ คนอื่นไม่มีทางเข้าใจลูกหลานคุณดีไปกว่าคุณ​ ฟังประสบการณ์​เขาได้​ แต่อย่าไปเล่าเรื่องของลูกหลานคุณให้เขา​ เพราะถ้าวันใดวันหนึ่ง​คนอื่นเกิดอินแทนคุณ​ หรือเกิดอยากสั่งสอนแทนคุณ​ บางทีลูกหลานเขาไม่ได้อยากรับฟังคำแนะนํา​จากคนอื่น​ แทนคนที่เขาไว้ใจหรอกนะ


อันนี้เป็นเพียงคำแนะนํา​ จากประสบการณ์​ของเรา​ คนที่เข้ามาอ่านก็ลองปรับ​ ให้เข้ากับสถานการณ์​ของตนเอง​ หรือใครต้องการให้เขารับรู้​ถึงสิ่งที่กังวลก็ลองส่งไปให้เขาพิจารณา​ดูล่ะกันนะคะ

สรุปนะคะ
ใครที่เป็นเด็กใหม่ต้องพยายามปรับตัว​ ใจเย็น​ ถ้าเครียดอย่าเก็บไว้กับตัว​ พยายามระบายออกมา​ ดีกว่าเก็บไว้กับตัวแล้วเครียดนะคะ​ และอย่ามั่นเกินว่าเราเจ๋งสุด​ เพราะอาจมีคนที่เจ๋งกว่าเราอีกมากนะคะ

การเรียนแผนการ​เรียน​วิทย์​คณิต​ มันมีความยากในตัวของมัน​ ใครที่จะเรียนแผนการเรียน​นี้ก็ตั้งใจ​ และมุ่งมั่น​มากๆ​ พยายามผลักดันตัวเองเข้าไว้​ ให้กำลัง​ใจ​ตัวเองมากๆ​ อย่าไปกดดันตัวเองจนเกินไป​ 

ในส่วนที่ถึงผู้ปครองก็อยากให้เข้าใจและเอาใจใส่บุตรหลานของคุณให้มากๆ​ ถ้าคุณยังไม่เข้าใจเขาแล้วใครจะเข้าใจเขา​ พยายาม​ใจเย็นๆ​ ทุกอย่างต้องใช้เวลา​ รอเวลาเหมาะสมค่อยสอนเขาด้วยเหตุผล​ แม้เขาอาจจะไม่ยอมรับโดยทันที​ คุณก็ต้องใจเย็นๆและพยายามเข้า  การตีไม่ใช่ทางออกของปัญหา​ คนเราไม่ใช่หมูหมาที่จะต้องตีไปซะทุกอย่าง​ คุณต้องรู้จักพลิกแพลง​ในการให้คำปรึกษา​เขา​ เราเชื่อว่าคุณทำได้

สุดท้ายก็อยากให้ทุกคนสู้ๆในการดำเนินชีวิต​ อย่าเครียดอย่ากังวล​ การฆ่าตัวตายหรือการหนีปัญหา​ มันไม่ใช่ทางออกของปัญหา​ ใครที่มีปัญหา​ เราอยากให้คุณ​พยายามสู้ต่อไป​ เราก็มีปัญหา​เหมือนกัน​ แต่เราจะผ่านมันไปให้ได้   ใครผ่านได้แล้วก็เป็นกำลัง​ใจ​ให้เราด้วยน้า

กระทู้​แรกของเรา​ ผิดพลาด​ยังไงก็ขออภัย​ด้วยนะคะ​ เราอยากแชร์​ประสบการณ์​เฟลๆของเรา​ เผื่อคนที่เข้ามาอ่านจะได้ต้องเจอแบบเรา

แสดงความคิดเห็น

>