Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากเรียนแพทย์ เกรด3.8 มีสิทธ์ติดแพทย์ มั้ย!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อันนี้เป็นกระทู้แรกของเรา อาจจะเขียนได้เบลอๆนะ ต้องขออภัยล่วงหน้า555
คือตอนนี้เราเรียนอยู่ม.5 เป็นคนเรียนกลางๆไม่ได้
เก่งมาก คือตอนนี้เราสนใจที่จะเรียนแพทย์ แต่กลัวว่าจะสอบไม่ติด

ใครมีวิธีเตรียมตัวยังไงช่วยบอกด้วยนะครับ
และอยากให้ช่วยแนะนำหนังสือแต่ละวิชา

แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

น้ำฝนต้นฤดู 25 พ.ค. 62 เวลา 19:06 น. 1

มีโอกาสติดสูง ถ้าเตรียมตัวมาดีครับ และถ้า จขกท.ได้อยู่โรงเรียนที่ได้เกรดยากยิ่งมีโอกาสสูงใหญ่ที่จะติด แต่เกรดสูงอย่างเดียวไม่ได้การันตีทั้งหมดว่าจะสอบติดถ้าเตรียมตัวมาไม่ดี คนเกรดไม่สูงมาก แต่ได้เกรดยากมาก และได้เตรียมตัวมาดีก็สอบติดครับ วิธีเตรียมตัวสอบช่วงนี้มีพี่ๆ หลายคนเลยแนะนำอยู่ น่าอ่านทุกคนเลยครับ ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ..โชคดีครับ


1
เด็กวัดสิง์รุ่น62 25 พ.ค. 62 เวลา 19:59 น. 2

เราขอตอบเท่าที่่ จขกท.ให้ข้อมูลมานะครับ และจาก ปสก.ที่ตัวเองเพิ่งสอบติดไป (คะแนนสูงใช้ได้ ยื่นได้ 3 Top ก็เครียดเอาการอยู่)


ขอเรียกตัวเองว่าพี่นะครับ น้องคงเรียน ม.5 เทอม 1 จบก่อนเปิดเทอมแล้วนะครับ ตอนนี้โรงเรียนเปิดแล้วครับ ทำเกรดดีๆ เพื่อคัดห้องตอนม.6 (ถ้าเป็นเตรียมฯ,ถ้าเป็น โรงเรียนอื่นก็ดูว่าอยู่ต้นๆ โรงเรียนมั๊ย) ก้มหน้าก้มตาเรียนเนื้อหาให้จบและเกรดดีๆ ม.5 ช่วงปิดเทอม ต.ค. เรียนเนื้อหา ม.5 เทอม 2 ให้จบครับ มีเรียนพิเศษข้างนอกบ้างวิชาหลักๆยากๆ คู่กับเนื้อหาโรงเรียน เพื่อฝึกโจทย์แนวที่ยากขึ้นครับ ..ช่วงเปิดเทอม ขึ้น ม.5 เทอม 2 เรียนเนื้อหา ม.6 เทอม 1 วิชาหลักๆบางวิชา..และปิดเทอม มี.ค. ก่อนขึ้น ม.6 เทอม 1 เรียนเนื้อหา ม.6 เทอม 2 ให้จบ (ต้องจบ**) อาจมีบางวิชาเรียนคู่ไปกับ ม.6 เทอม 1 ได้บ้างครับเรียนไม่ทันเนื้อหาเยอะ


สอบแพทย์มีหลายวิชามากต้องเรียน ให้ดูภาพรวมเป็นหลักครับ ถ้าจัดตารางไม่ดี จะเรียนไม่จบ จะเรียนคอร์ส Entrance ไม่ได้ แล้วมาตลุยโจทย์เลยจะเรียนไม่รู้เรื่อง แล้วมาสอบจะทำข้อสอบได้ไม่ดี หรือไม่ได้ จะกระทบเป็นลูกโซ่เลยครับ


ม.6 เทอม1 เริ่มเรียนความถนัดแพทย์ บางคนใช้ 2 สถาบันดังๆ เทอม 1 เรียนที่1 , เทอม 2 ไปคลุยโจทย์อีกที่ก็ได้ครับ แล้วแต่ความชอบ เพื่อให้คุ้นแนวข้อสอบครับ


ทุกวิชาควรเรียนคอร์ส Entrance ก่อนตลุยโจทย์ ครับ จัดเวลาดีๆ บางคนเรียนหลายติวเตอร์คะแนนก็ไม่ดี (ถ้าไม่มาฝึกทำโจทย์เอง)


ม.6 เทอม 2 ควรเน้นฝึกทำโจทย์เองมากๆ จะดีกว่าครับ เหลือไปติวข้างนอกบ้างไม่ถึงกับเยอะนะครับ


การเลือกติวเตอร์ให้เลือกตามนักเรียนเตรียมฯเรียนกันเป็นส่วนใหญ่นะครับ เพราะนักเรียนกลุ่มนี้เรียนแนวยาก และใกล้เคียงข้อสอบมากสุดแล้วครับ


เรื่องเตรียมตัวรายวิชา สามารถเลือกอ่านได้ตาม web นี้เลยครับ พี่เริ่มมีเวลาว่างกันบ้างแล้วครับ หลังทยอยๆ รายงานตัวเข้ามหาวิทยาลัยกัน


การเรียนการติว ควรปรับให้เข้ากับตัวเองครับ พี่บอกเป็นแนวกว้างๆ ไว้นะครับ เพราะต้องเข้าไปดูเรื่องโรงเรียน การเดินทาง การเลือกติวเตอร์ ฯลฯ


พอมองเห็นภาพนะครับ


ขอให้น้องโชคดีครับ..




1
true 25 พ.ค. 62 เวลา 22:45 น. 4

พี่ขอตอบเลยว่า มีทั้งโอกาสติดและไม่ติดครับ


เกรดสูงก็ถือเป็นแนวโน้มว่าจะสอบติดมากหน่อย อย่างตอนนี้น้องพึ่งขึ้นม.5 เนื้อหาตอนม.ปลายหลายวิชา จะยากที่สุดตอนม.5 นี่แหละครับ ต้องพยายามรักษาเกรดไว้ดีๆ แต่จริงๆ ก็มีหลายปัจจัย เพราะมาตรฐานเกรดของแต่ละโรงเรียนก็ต่างกัน อย่างถ้า 3.8 โรงเรียนท็อปๆ อย่างเตรียมฯ ก็จะค่อนข้างแน่นอนว่าจะติด แต่ถ้าน้องบอกว่าฉันเกรดดีแล้ว ชะล่าใจ ไม่ทำโจทย์ ไม่เตรียมพร้อมก็มีโอกาสหลุดได้เหมือนกัน อาจจะยังติดแพทย์ แต่ไม่ใช่ที่ที่เราต้องการ หรือไม่ติดเลยก็เป็นได้ เพราะแพทย์คือสนามวัดพลังของคนเก่งทั่วประเทศมาประลองกัน แล้วอย่าลืมว่าพวกความถนัดแพทย์ต่างๆ มันไม่เคยมีการวัดเป็นเกรดในห้องเรียนมาก่อน หรือแม้กระทั่ง 9 วิชาสามัญ ซึ่งออกสอบเนื้อหาม.ปลายทั้งหมด น้องสอบตอนม.6 ถ้าไม่ทวนให้ดี ของม.4 อาจจะลืมแล้วก็ได้ แ


ส่วนถ้าให้แนะนำการเตรียมตัว อันนี้จากตัวพี่เอง และที่แนะนำน้องๆ หลายคนที่ติดจุฬา ศิริราช รามา ไป แล้วน้องๆ บอกว่าเวิร์ค (น้องลองไปปรับใช้กับตัวเองดูนะครับ เพราะแต่ละคนก็มี Condition ไม่เหมือนกัน)


พวกวิชากลุ่มวิทย์-คณิต (คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เลข) วิชาพวกนี้เป็นวิชาที่ค่อนข้างยากและอาศัยความเข้าใจสูงมาก พี่แนะนำว่าถ้าไม่เก่งระดับเทพจริงๆ ควรเรียนพิเศษช่วยครับ (ยกเว้นชีวะ ถ้าเป็นคนชอบอ่านหนังสืออาจจะพอทำความเข้าใจเองได้) น้องเพิ่งขึ้นม.5 เทอม 1 พี่แนะนำว่า ช่วงม.5 เทอม 1 - ปิดเทอมตุลาฯ - เทอม 2 ควรเรียนเก็บพวกพวกเนื้อหา ม.5 ตามที่ร.ร. น้องเรียน เพื่อช่วยเก็บเกรด และปูพื้นฐานไว้สำหรับเรียนคอร์สเอ็นทรานซ์จะได้ไม่เหนื่อยทำความเข้าใจมาก ส่วนปิดเทอมขึ้นม.6 ตอนนั้นช่วงมีนาฯ ก็เรียนเนื้อหาม.6 ไป จากนั้นก็ต่อคอร์สเอ็นทรานซ์ยาวๆ (คอร์สเอ็นท์ฯ ควรเรียนนะครับและต้องทำความเข้าใจดีๆ ไม่ควรข้ามไปตะลุยโจทย์เลย เพราะถ้าพื้นฐานยังไม่แน่น ไปเรียนตะลุยโจทย์เลยนี่พังแน่ครับ จะกลับมาแก้ก็ไม่ทัน) ส่วนพวกตะลุยมาเรียนช่วงม.6 เทอม 1 ก็ได้ครับ (ถ้าไม่ทันจริงๆ ตุลาฯ ยังพอไหว) ส่วนจะเรียนที่ไหน เนื่องจากเป็นกลุ่มวิชาที่อาศัยความเข้าใจสูงมากๆ พี่จะแนะแค่ไกด์ๆ นะครับ น้องต้องเลือกเรียนในสไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง อย่างอาจารย์บางคนที่คนอื่นว่าสอนดีมาก แต่น้องไปเรียนแล้วหลับ ก็ไม่มีประโยชน์ เลือกที่เหมาะกับเราครับ


เคมี - อันนี้ไม่รู้จะแนะนำใคร นอกจาก อ.อุ๊ คนเดียวเลยครับ

ฟิสิกส์ - ถ้าชอบไวๆ ก็ Applied ถ้าชอบค่อยเป็นค่อยไปก็ Neo ถ้ากลางๆ เน้นความทันสมัยมี Visual ประกอบก็พี่โหน่ง On Demand ครับ

ชีวะ - ถ้าชอบเฮฮาหน่อย โหวกเหวกโวยวายนิด ก็หมอบีม ถ้าชอบสไตล์ซอฟต์ก็หมออรครับ

คณิตศาสตร์ - อันนี้แนะนำยากมาก น้องๆ พี่ก็เรียนหลากหลาย ส่วนตัวพี่ชอบอ.อรรณพ (ถ้าน้องไม่กลัวนะ) ขนาดเทปตั้งนานแล้ว ยังใช้สอบได้ถึงปัจจุบัน หรือถ้ากลัวก็เรียนครูตูนก็ได้ครับ ที่ Annop เหมือนกัน แต่ถ้าชอบแบบช้าๆ พิสูจน์สูตรเยอะๆ มีลูกเล่นการจำเยอะๆ ก็ซุปเคครับ


ส่วนวิชาอีกกลุ่มนึง คือ ภาษาไทย สังคม ภาษาอังกฤษ วิชากลุ่มนี้หลายคนจะมองว่าไม่ยากมาก ซึ่งถ้าเทียบกับวิชาด้านบนก็ง่ายกว่าจริงๆ ทำให้บางคนเท หรือไม่ค่อยสนใจนักจนตกม้าตาย เพราะวิชาเหล่านี้มาก็เยอะครับ เช่น แทนที่จะได้มหาลัยที่ตัวเองต้องการก็หลุดไปอีกที่นึง เพราะวิชาเหล่านี้คะแนนไม่ดีเท่าเพื่อน การเตรียมตัววิชาพวกนี้แยกเป็นรายวิชานะครับ


ภาษาไทย - หลายคนบอกว่าเป็นวิชาท่องจำ พี่ก็จะเถียงว่า นั้นเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจจริงๆ เลยต้องท่องจำอย่างเดียว ถ้าเข้าใจจริงๆ จะจำได้ง่ายและยั่งยืนกว่ามาก ช่วยประหยัดเวลา เอาเวลาไปเตรียมวิชายากๆ ได้อีกเยอะครับ ส่วนวิธีเตรียมตัว อันนี้จากน้องๆ ที่พี่แนะนำ ได้ไทย 80+ กันหมดครับ ที่เรียนพิเศษ ก็เรียนกับครูลิลลี่ครับ สอนดีที่สุด เรียนเข้าใจ แล้วทริคการจำเยอะ สอนสนุก เรียนแล้วไม่เครียด ถ้าน้องอยู่ในกทม. ไปเรียนห้องสดเลยครับ ฮามาก แต่ถ้าไม่สะดวกเหมือนเดี๋ยวนี้จะมีคอร์สออนไลน์ ช่วงม.5 เทอม 1 เรียนคอร์สชื่อ “ม.4-ม.5 เล่ม 1” เลยครับ ส่วน ม.5 เทอม 2 เรียนคอร์ส “ม.4-ม.5 เล่ม 2” ครับ เรียน 2 คอร์สนี้คือได้เนื้อหาภาษาไทยม.ปลายครบหมดแล้ว แล้วพอ ม.6 เทอม 1 ก็เรียนคอร์ส “9 วิชาสามัญและ O-NET” เป็นคอร์สทำโจทย์แล้วครูจะสรุปสูตร เทคนิคจากโจทย์ครับ เรียนแค่นี้พอเลย แล้วก็ทวนจากของครูลิลลี่ซ้ำไปซ้ำมา ช่วงใกล้สอบหาโจทย์มาทำทวนอีกหน่อย รับรอง 80+ ชัวร์ครับ


สังคม - ตอนม.5 โรงเรียนส่วนใหญ่จะสอนภูมิศาสตร์+เศรษฐศาสตร์ (แล้วแต่ร.ร.) ซึ่งจะยากกว่า ม.4 ขึ้นมาหน่อย แต่พี่ว่ายังอยู่ในระดับที่อ่านเองได้ บางคนเรียนในห้องเรียนแล้วงง ลองกลับมาอ่านอีกทีที่บ้านครับ แล้วจะเข้าใจขึ้น ตอนจะขึ้นม.6 ค่อยเรียนพิเศษครับ ช่วงปิดเทอมมีนาฯ ขึ้นม.6 เรียนคอร์สประวัติศาสตร์ อ.ปิงเลยครับ เพราะเนื้อหาประวัติศาสตร์มันจำเยอะ ให้อ.สรุปให้ดีกว่า แล้วเปิดเทอม 1 มาเรียนคอร์สเข้ามหาลัยของ อ.ชัย หรือ พี่หมุยก็ได้ครับ แต่ถ้ามั่นใจจริงๆ ว่าอ่านเองได้ก็ไม่ต้องเรียนเลยก็ได้ครับ แล้วอ่านหนังสือเอา พี่แนะนำหนังสือของพี่บอลครับ มีขายตามร้านหังสือทั่วไป


ภาษาอังกฤษ - วิชานี้จะมี 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่รู้สึกว่าชิวๆ มาก กับกลุ่มที่รู้สึกว่ากลัววิชานี้มาก พี่อยากบอกเลยครับ อย่าไปกลัว พี่แนะนำว่า เวลาว่างแทนที่จะดู Youtube ภาษาไทย เปลี่ยนเป็นดูภาษาอังกฤษแทน ไม่ต้องดูเรื่องซีเรียสนะ ดูเรื่องที่เราสนใจนี่แหละ มันจะซึมซับไปเอง อย่างพี่เองเวลาสอบพี่ไม่เคยท่องกฎ Grammar อะไรเลยนะ เพราะอาศัยความคุ้นเคยจากการฟังเยอะๆ นี่แหละครับ สำหรับการเรียนพิเศษ ช่วงม.5 พี่แนะนำให้ปูพื้นเรื่องคำศัพท์ครับ กับ Grammar ถ้ามีพื้นไว้หน่อยก็ดี ส่วนตัว Vocab พี่แนะนำเรียนกับครูสมศรี ส่วน Grammar เรียนกับ Enconcept ครับ และช่วงปิดเทอมขึ้น ม.6 เรียนคอร์สเข้ามหาลัยกับครูสมศรีหรือ Enconcept ก็ได้ เลือกที่น้องชอบ


จะเห็นว่าการเตรียมตัวกับเรียนพิเศษ ส่วนที่เป็นเนื้อหาที่พี่แนะนำ จะจบตั้งแต่ม.6 เทอม 1 แล้วนะครับ ดังนั้นจะยังมีอีกส่วนสำคัญที่เหลือคือวิชาเฉพาะแพทย์ ที่พี่ว่าเตรียมช่วงตุลาฯ ก็ยังพอทัน แต่ถ้าฟิตๆ หน่อย เรียนตอน ม.6 เทอม 1 ที่นึง กับ ตุลาฯ อีกที่นึงก็ได้นะ (แต่จริงๆ แค่ตุลาฯ อย่างเดียวก็พอแล้วแหละ) ส่วนช่วง ม.6 เทอม 2 คือช่วงเวลา แห่งการทำโจทย์ ทำโจทย์ และทำโจทย์ครับ


พี่เป็นกำลังใจให้ พยายามเข้านะครับ ว่าที่คุณหมอ :)

1
น้ำใสใจจริง 26 พ.ค. 62 เวลา 05:17 น. 5

เท่าที่ดูๆ แนวๆ ข้อสอบ Entrance ออกมา 2 ปีหลังๆ นี้มีเปลี่ยนแปลงแนวข้อสอบ Entrance ตลอดครับ ถ้าเราพื้นฐานดี พื้นฐานแน่น โจทย์จะออกแนวไหนมาก็ไม่กลัว อย่างปีนี้ฟิสิกส์ ยากมากๆ ทุกวิชายากอยู่แล้ว ความถนัดแพทย์พาร์ทจริยธรรมก็ยาก แบบนี้ถ้าน้องเลือกสถสบันติว อย่างพี่ๆ ที่แนะนำน้องข้างบน พยายามเลือกสถาบันติวที่ใหญ่ ที่เก่าแก่ตั้งมานานครับ เพราะสถาบันพวกนี้ อ.จะสอนละเอียดทุกหัวข้อที่ข้อสอบออก จะใช้เวลาสอนนานมากหน่อย อย่างคอร์ส Entrance เรียนพวกนี้ได้ผลนะครับเวลามาตลุยโจทย์และทำข้อสอบจริง เห็นชั่วโมงเรียนเยอะๆ บางคนท้อแต่ถ้าเห็นคะแนนจริงออก จะรู้สึกหายเหนื่อยเลยครับ คนละเรื่องกับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เรียนมาเลยครับ เกรดในโรงเรียนก็สำคัญอย่าทิ้งนะครับ PAT1 ก็ควรเรียน ควรติวเพื่ิอมาสอบเหมือนกันครับ เราจะได้บรรยากาศ ก่อนสอบสนามจริง 9 สามัญ เรียนที่ไหนก็ไม่ได้ผล ถ้าเราไม่มาฝึกทำโจทย์เอง ม.ปลาย พี่เน้นนะครับ ..ขอให้น้องประสบความสำเร็จดังตั้งใจนะครับ

1
ได้ดังฝัน 26 พ.ค. 62 เวลา 11:49 น. 6

เกรด 3.8 เพิ่งขึ้น ม.5 อันนี้ยังตอบไม่ได้ว่า จะรักษาเกรดระดับ 3.8 ได้ตลอดมั๊ยครับ (ถ้าเป็นนักเรียนเตรียมฯ..ขอยกตัวอย่างโรงเรียนนี้นะครับ เพราะสอบแพทย์ได้เยอะมาก ได้มองเห็นภาพได้ง่ายหน่อย) ด่านแรก เพราะเกรด และเนื้อหา ม.5 เผาจริง ยากมากๆ ทุกวิชา ยากไปจนถึงวิชาพละ ถ้าน้องเรียนโรงเรียนนี้ รักษาระดับเกรดแบบนี้ ไปจนถึงได้เรียนห้อง King, Queen ม.6 พี่ค่อนข้างมั่นใจ และเตรียมตัวมาดีพี่ยิ่งมั่นใจใหญ่เกิน 90% น้องสอบติด กสพท.แน่นอน และพี่มั่นใจมากขึ้นถ้าน้องอยู่ในอันดับไม่เกิน 200 คนแรกในเตรียมฯ ถึงได้บอกเกรดในโรงเรียนอย่าทิ้ง (จากการสอบวัดระดับเกรดระหว่างเรียน ม.4 - ม.6)น้องจะสอบได้ Top 3 สบายๆ ครับ เพราะเรียนในเตรียมฯ ยากมาก กว่าจะได้สักคะแนนหินมากๆ ก็ไม่แปลกทำไมปีนี้โรงเรียนนี้ สอบเข้า แพทย์ กสพท.ปีนี้ได้เยอะมากๆ น้องพอมองเห็นภาพนะครับ ของการเรียนแบบเข้มข้น ของนักเรียนโรงเรียนแถวหน้าที่สอบ แพทย์ กสพท.ได้มากสุด ของปีนี้ (รอ Confirm อย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ) ส่วนการเตรียมตัวเท่าที่อ่าน พี่ๆ ทยอยๆ บอกกัน ก็ OKเลยครับ ใช้ได้ พี่ก็เน้นทำโจทย์ช่วงท้ายๆ ม.6 เทอม 2 อันนี้สำคัญ พอเป็น idea นะครับน้อง ..เกรดก็สำคัญ การเตรียมตัว การบริหารเวลา ม.ปลาย สำคัญมาก ยิ่งถ้าต้องการสอบ กสพท.ด้วย มีหลายวิชา ที่ต้องเก็บ ถ้าผ่านมาได้ก็สบายไปอีกขั้น...ขอให้น้องโชคดีนะครับ

1
เกรดบอกไม่ได้ 26 พ.ค. 62 เวลา 13:05 น. 7

เกรดที่โรงเรียนบอกไม่ได้เลยค่ะ โดยเฉพาะถ้าไม่ใช่โรงเรียนที่โหดๆท๊อปๆ เพราะเพื่อนเรา4.00จากโรงเรียนธรรมดา ก็ชวดหมอค่ะ แต่ยังได้ทันตะนะ

0
เด็ก62รุ่นวัดสิงห์ 26 พ.ค. 62 เวลา 21:12 น. 8

เท่าที่อ่านๆ ดู พวกพี่อธิบาย และแนะนำน้องไปหมดแล้วครับครอบคลุมสำหรับสิ่งที่น้องถามไปหมดแล้วครับ ดูๆ ระดับเทพๆ ทั้งนั้นเลยครับที่มาแนะนำน้อง แต่วันนี้พี่อยากจะแนะนำน้องอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน และไม่มีในตำราเรียน เช่น


1. การเลือกสนามสอบ ถ้าเป็นใน กทม. ก็รีบเลือกสนามสอบโรงเรียนเตรียมฯ ก่อน หรือโรงเรียนที่ติดรถไฟฟ้าก่อนเลยครับ ถ้ามีแอร์ได้ก็จะดี เพราะช่วงสอบเดือน ก.พ.-มี.ค. อากาศจะร้อนมาก ๆ ถ้าไม่ได้ก็ควรไปดูโรงเรียนที่เราจะสอบ มีก่อสร้างไหม ใกล้วัดไหม(คริคริคุ้นๆ) สมาธิ ช่วงสอบ กรรมการคุมสอบสำคัญมากๆ


2. เทคนิคในการทำข้อสอบแต่ละวิชา อันนี้ก็สำคัญ เนื่องจากมีเวลาน้อย ต้องทำแบบรวดเร็ว ไม่งั้นไม่ทัน เนื้อหา ความแม่น น้องได้หมดแล้ว ก็มาถึงเทคนิค แต่ละวิชามีเทคนิคไม่เหมือนกัน น้องต้องวิเคราะห์และหาทางทำแต่ละวิชาให้ได้คะแนนดี และให้ทันทุกวิชาด้วยครับ (ทำโจทย์เยอะๆ จะวิเคราะห์ออกเองครับ) แบ่งเวลาดีๆ


3. เนื่องจากสอบติดต่อกันทุกอาทิตย์และวันละหลายวิชา บางวิชาทำได้ถนัด บางวิชาทำไม่ค่อยได้ยากมาก (ช่วงหลังๆ มาแนวยากส่วนใหญ่) ถ้าเจอข้อสอบยากวิชาแรกเช้าเลยครับ ทำไม่ได้ แบบนี้ให้น้องทำใจถือว่าทำดีที่สุดแล้ว ปล่อยวางทิ้งอารมณ์ไว้ตรงนั้น อย่า/ห้าม นำมาปนกับวิชาถัดมา ไม่งั้นน้องจะ Fail วิชาถัดๆ มาอีก ซึ่งบางครั้งคนอื่นก็ทำไม่ได้เหมือนกัน แต่ทำใจได้ก่อน อันนี้น้องต้องระวัง** ปีนี้เห็นหลายคนพลาดแบบน่าเสียดายแบบนี้ครับ


4. ควรพักผ่อนให้พอก่อนสอบ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ระหว่างวันในการสอบควรทำใจสบายๆ ฯลฯ จะทำให้เราทำข้อสอบได้ดีขึ้นครับ น้องลองๆ ไปปรับใช้ดูนะครับ ....โชคดีครับ


0
สมหวัง 28 พ.ค. 62 เวลา 05:58 น. 9

และจากการดูพี่ๆ สรุปหัวใจสำคัญๆ ของการเตรียมตัวสอบ กสพท.มาให้น้องอย่างดีแล้วครับ ก็มาถึงช่วงสุดท้ายรอฟังผลสอบ...


กดดันมากๆ น้องเอ้ย น้องอยากร้องไห้กับใคร อยากระบายความในใจอะไรน้องทำได้เต็มที่เลยครับ กดดันมากหลังจากผ่านมหกรรมการสอบสนามต่างๆ มาครับ จะได้ปลดปล่อยออกไปครับ เพราะ สนามสอบ กสพท. มีสอบเยอะมาก หลายวิชามากๆ ครับ


จะติด/ไม่ติด กังวลตลอดเวลา ถ้าเรามั่นใจว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ใจก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายลงครับ การประกาศผลสอบก็จะเริ่มๆ ทยอยๆ ประกาศออกมาครับ..(อาจจะไม่เรียงวันเวลาเป๊ะครับ..ฟังเสร็จทิ้งเลย/55)


O-NET ใจชื้นเกิน 60%, จะชื้นมากขึ้น

ถ้าไปดูวิชาหลักๆ ทำได้ 90++

GAT,PAT คะแนนก็ OK ทุกตัวโดยเฉพาะ

PAT1 2xx ใจชื้น สามารถ

ยื่น วิศวะคอม จุฬาฯ ได้

24xxx คะแนน

ใจชื้นขึ้นมาเรื่อยๆ ครับ..


ความถนัดแพทย์ อ้าวทำไมคะแนนต่ำ

ร้องไห้ เกือบตาย 19.xx อ้าวไปดูคะแนน

สูงสุด ก็ต่ำ ใจชื้นขึ้นมาอีกนิด ไปดู

ตาม web ต่างๆ เราก็ใช้ได้นี่นา เลยพอยิ้ม

ออก ไม่ได้ต่ำอย่างที่คิด ปีนี้ยาก คะแนน

ไม่เฟ้อครับ..


9 สามัญคะแนนออกมาด่านสุดท้าย

ไปดูคะแนน มือไม้สั่นเลยครับ รีบ

บวกคะแนนดิบ เกิน 5xx เกือบ

550 (ตามคุณไอสไตล์แนะนำ)

รวมๆ แล้ว คะแนนใช้ได้เลยครับ

ติด Top 3 แต่เลือก ทุกที่ดีหมด

ครับที่ติด กสพท.ปีนี้เข้ามาครับ

แต่ขออนุญาตเลือกเรียยสถาบัน

เก่าแก่ที่สุดนะครับ..


ที่เล่าๆ มา น้องจะได้สัมผัสด้วยตัวเองนะครับ ถ้าน้องเตรียมตัวมาดี น้องจะมั่นใจมากขึ้นเมื่อคะแนนทยอยๆ ประกาศออกมาครับ..ขอให้น้องสมหวังตามที่น้องตั้งใจไว้นะครับ.












0
คหสต 29 พ.ค. 62 เวลา 18:39 น. 10

เท่าที่อ่านๆพวกพี่ๆ ที่ Comment น้องข้างบนน่าระดับเกรดเกิน 3.80 ทั้งนั้นนะครับ ครอบคลุมทุกด้านเลย ดูเทพๆ ทั้งนั้น ถือเป็นทางลัดที่สามารถนำมาใช้ได้ดีเลยครับ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันพี่อยากแนะนำน้องคือ การ Forecast ว่าข้อสอบจะออกอะไร วิชาไหนที่จะยาก (เดาใจกรรมการ) อันนี้ก็สำคัญ เพราะถ้าเดาถูก น้องก็โชคดี (การสอบอาศัยโชคช่วยด้วย เช่น


เมื่อ 2 ปีที่แล้ว วิชาวิทยาศาสตร์ที่ยาก ชีวะ เคมี ...ปีนี้อะไร (พี่เดาฟิสิกส์) หวยออกพอดี คือปีนี้ก็เน้นฟิสิกส์มากหน่อย เรียน ทำโจทย์เยอะๆ คะแนนถึงไม่เต็ม แต่ก็ใช้ได้ครับ


ปีหน้า..อะไร (พี่เดาชีวะ/ใช้วิจารณญาณนะครับ) แบบนี้ จะทำให้เรามีจุดเน้นครับ เราไม่รู้ข้อสอบปีไหนวิชาอะไรจะยาก แต่ถ้าเราเดา เราเน้นถูก คะแนนก็จะ Up ขึ้นมาเยอะมากๆ ครับ เพราะทุกวิชายากหมด แต่จะมีวิชาตัดแต่ละปี (เค๊าว่ากันมาครับ)


หรือวิชาความถนัดแพทย์

2 ปีที่ผ่านมาที่ยาก เชาว์ ..เชื่อมโยง..

ปีล่าสุด คือ จริยธรรม (อันนี้ยากมากจริงๆ ไม่มีใครเฉลยได้ตรงใจกรรมการ..ปล่อยไปครับ)..ปีหน้าพี่เดา เชาว์ น่าจะยาก ..

แบบนี้ครับ เราจะได้มีจุดเน้นในการอ่านหนังสือ ถ้าเดาถูก ออกตรงที่เราเน้น ก็โชคดีไปครับ..


ที่เค้าบอก ๆ กันมา

นอกจากเก่ง ขึ้นกับ เฮง ด้วยครับ


ขอให้น้องสมหวังดังตั้งใจนะครับ


(คหสต/ใช้วิจารณญาณครับ)




0
ฝนต้นฤดู 3 มิ.ย. 62 เวลา 20:35 น. 11

มีคนถามว่า คะแนน กสพท.เด็ก 63 จะเป็นอย่างไรจะสูงขึ้น หรือจะต่ำลง ช่วยวิเคราะห์ (เดา) ให้หน่อย..ส่วนตัวมองน่าจะสูงขึ้นนะ วิเคราะห์จากอะไร ดูจากปีนี้เด็กเกิดปีมังกร เด็กเกิดเยอะ และส่วนใหญ่เด็กเก่งๆ และฉลาดมากๆ (ปีอื่นๆ ก็ฉลาด) ยังทำได้เท่านี้ (เพราะข้อสอบยากมากๆ หลายวิชา) ...ข้อสำคัญเป็นปีที่ เด็กเตรียมฯ ทำข้อสอบ เดินออกมาแล้วร้องไห้ (หนักมากๆ) ไม่เคยเห็นเท่าที่เก็บสถิติภาคสนามมาแล้วหลายปี (ปีหน้ายกเว้นกรรมการออกข้อสอบชุดใหม่ หรือมีวิวัฒนาการอะไรใหม่ๆ ออกมา นักเรียนต้องทราบ แต่ส่วนใหญ่จะแจ้ง เป็น หัวข้อสอบให้ทราบอยู่แล้วครับ) ที่ร้องไห้เสียใจที่ไม่เต็ม หรือทำข้อสอบไม่ได้ ไม่ทราบ แต่ที่ทราบคะแนนปีนี้ลงเยอะมาก ครับ..ถ้า Plot เป็นกราฟ ก็อยู่บริเวณ Bottom รอบ 3 ปี ในภาพรวม และหลายๆ วิชาครับ...อันนี้ก็น่าสนใจครับ สำหรับเด็ก63 จะได้เน้นได้ถูกจุด และในการมองภาพรวม พี่ก็ได้ 3.8+ นะ (คุยหน่อย)นอกจากสนใจเรียนในห้องเรียนแล้ว การเรียนพิเศษข้างนอกก็สำคัญ เลือกติวเตอร์ที่ใช่ (ในความคิดเรา) ฝึกทำโจทย์ การแบ่งเวลา และวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ตาม web ที่น่าเชื่อถือบ้าง จากเพื่อนๆ บ้าง จากครู อาจารย์บ้าง จากคุณพ่อ คุณแม่บ้าง จากการสังเกตบ้าง ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้เราวิเคราะห์ แนวโน้มคะแนนปีถัดๆ ไปได้ครับ

0
นสพ.ปี1 8 มิ.ย. 62 เวลา 15:04 น. 12

เกรดบางทีวัดอะไรไม่ได้ค่ะ เราจบมาด้วยเกรด3.3xก็ติดหมอม.รัฐรอบ3ค่ะ แนะนำให้เอาความกลัวมาเป็นแรงผลักดันให้ตั้งใจดูหนังสือมากกว่าจะเอามากดดันตัวเองนะคะ เรามีเพื่อนที่กดดันตัวเองมากๆจนพลาดหวังไปแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้ว่าที่คุณหมอนะคะ

0