เคล็บ(ไม่)ลับกับการพิชิต Toeic : Listening แบบเร็วที่สุด
เคล็บ(ไม่)ลับกับการพิชิต Toeic : Listening แบบเร็วที่สุด
วันนี้กลับมากับกระทู้มีสาระ(นิดนึง) หลังจากเขียน Basic Trick แก้ไข Word วางภาพไม่ได้กันไปในกระทู้ที่แล้ว
วันนี้กับเคล็ดลับพิชิต Toeic พาร์ท Listening ที่อาจจะไม่ลับนักสำหรับคนที่จับจุดได้แล้ว แต่กับน้องๆที่ยังงงๆอยู่ว่าจะรับมือยังไงในเวลาสอบจริง พี่ก็จะขอแชร์เทคนิคที่พี่ใช้ในการสอบมาไว้นะที่นี้แล้วกันนะคะ ดีไม่ดีอย่างไรต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
หน้าตาของข้อสอบพาร์ทนี้ เท่าที่พี่จำได้ก็จะมีหน้าตาประมาณรูปด้านล่าง ข้อสอบแนว Listening แบบถามแล้วตอบเป็นข้อๆแยกกันนี้ จะมาเขย่าขวัญเราด้วยการอัด “โจทย์ 1 คำตอบ 4" มาเป็นกองพัน
-
ที่เราจะพลาดกันบ่อยๆคือ เราตั้งใจฟังมากไป
จนทำให้อ่านทั้งโจทย์ข้อปัจจุบันและโจทย์ข้อต่อไปไม่ทัน
ส่วนมากในพาร์ทนี้จะทำเราตกม้าตายตรงที่….
- อ่านโจทย์ (ข้อปัจจุบัน) ไม่ทันว่าโจทย์ถามอะไร?
- อ่านคำตอบ (ข้อปัจจุบัน) ไม่ทันว่ามันหมายถึงอะไร?
- อ่านโจทย์และคำตอบ (ของข้อต่อไป) ไม่ทัน
-------------------------------------
เทคนิคที่ต้องฝึกกันด้วยความเร็ว
พี่คิดถึงประโยคที่เขียนอยู่ในหนังสือของ “โคโนะ เก็นโตะ” อัฉริยะสมองเพชรคนล่าสุดของญี่ปุ่น ดีกรีนักศึกษาแพทย์ มหาฯลัยโตเกียว ที่สอบเนติบัณฑิตผ่านตั้งแต่ครั้งแรก เนื้อความประมาณว่า “ความเร็วในการอ่านสำคัญมาก แต่ถ้าอ่านเร็วแล้วไม่รู้เรื่องก็ใช้ไม่ได้”
หนังสือของเก็นโตะคุงออกวางแผง แปลเป็นฉบับภาษาไทยแล้ว โดยเครืออมรินทร์
พี่คิดว่าเก็นโตะคุงพูดไม่ผิด ในการทำพาร์ทนี้ก็เช่นกัน เทคนิคในการทำ Toeic : Listening คือ น้องต้องรีบอ่านโจทย์และคำตอบในข้อที่ใกล้จะถึงให้เร็วที่สุด เพราะส่วนมากเราจะติดนิสัยฟังก่อนแล้วค่อยหาคำตอบ แต่อย่าลืมว่าสำหรับคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ กว่าจะมานั่งอ่านโจทย์ ทบทวนเนื้อเรื่องอีกที เขาก็พูดเนื้อเรื่องของข้อต่อไปแล้ว
-------------------------------------
1.) พิชิต Listening ด้วยความเร็ว
น้องจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาช่วงที่เขากำลังอธิบาย Directions ซึ่งจะกินเวลาราวๆ 1 นาที ไป “อ่านโจทย์และคำตอบตั้งแต่ข้อแรกลงไป” (เท่าที่พอจะอ่านได้ และต้องจำได้ด้วย ไม่ใช่แค่อ่านไปเรื่อยๆ)
ในการสอบ Toeic เสียงคนพูดจะพูดตามคำสั่งในแต่ละพาร์ททุกครั้ง
ให้เราใช้โอกาสนี้ อ่านโจทย์และคำตอบของข้อแรกรอไว้เลย
เมื่อน้องพอจะจำเค้าโครงของคำถามและคำตอบได้ ตอนที่เขาเริ่มพูดเนื้อเรื่องข้อแรก ให้น้องตั้งใจฟัง และจดจ่อไปที่คำตอบทั้ง 4 ข้อ คำตอบข้อไหนที่ตรงกับคำถามและมีตรรกะตรงมากที่สุดก็ให้น้องเลือกเลย ไม่จำเป็นต้องนั่งทวนหรือรอเขาพูดจบ เพื่อจะได้รีบอ่านโจทย์และคำตอบของข้อถัดไปทันที น้องต้องมีความมั่นใจ และมีสติ ถ้าน้องรน ทุกอย่างจะพังทันที
การจับประเด็นเป็นสิ่งสำคัญ Key Word ถ้าจับพลาด
ความหมาย คำถาม และคำตอบจะเปลี่ยนทันที
เท่ากับว่าน้องต้องเร็วกว่าคนพูด 1 ก้าว เพื่อเตรียมตัวสำหรับตอบข้อต่อไป อย่ารน เพราะคำตอบมันไม่หนีไปจาก 4 ข้อนี้ แค่เราจับประเด็นถูก ก็เท่ากับว่าคำตอบรออยู่ตรงหน้าแล้ว แค่รอเราคอนเฟริมเท่านั้น วิธีการทำข้อสอบแบบนี้จะต้องอาศัยความเข้าใจ มั่นใจ และแน่ใจค่อนข้างสูง เพราะถ้าน้องไม่ฝึกฟังและจับประเด็นให้ดี น้องมีสิทธิ์จะตอบพลาด เพราะการด่วนสรุปและรีบตอบเร็วเกินไป
รูปภาพตารางความเร็วในการทำข้อสอบ
-------------------------------------
2.) พิชิต Listening ด้วย Key Words กันถูกหลอก
เราพูดถึงความเร็วกันไปแล้ว ตอนนี้เรามาดูเรื่อง Key Words กันบ้าง มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เรื่องของการ “จับประเด็น” อย่างเดียว แต่มีส่วนช่วยในการ “กันไม่ให้น้องถูกหลอก” ด้วย หลายครั้งที่เรามักจะพลาด ฟังวันผิด บางครั้งเขาไม่บอกวันด้วยซ้ำ แต่อาจจะพูดว่า วันนี้วันศุกร์ เมื่อสองวันที่แล้วคุณไปไหนมา? ก็ยังได้
จึงไม่ใช่ว่า คนพูดจะต้องพูดตรงเป๊ะๆ อาจจะเป็นคำพูดแฝงที่ต้องไปตีความอีกที เช่น อาจจะพูดว่า
"วันนี้แดดแรงจัง ทั้งๆที่ควรจะเป็นฤดูที่ต้องพกร่มแท้ๆ ถ้าเกิดคำถามถามว่าฤดูต่อไปควรเป็นฤดูอะไร?"
ที่นี้เราที่ไปโฟกัสแต่สิ่งที่เขาพูด เกี่ยวกับ แดด หรือ ร่ม ก็จะพลาดในทันที นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้อง “อ่านโจทย์และคำตอบก่อน” รวมไปถึงการหา Key Words ดักเอาไว้ก่อนด้วย
ทุกข้อมีสิทธิ์โดนหลอกได้เท่าๆกัน อยู่ที่ไหวพริบของเราเอง
-------------------------------------
แน่นอนไม่ว่าใครก็ต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้น อาจจะลนบ้าง ตื่นเต้นบ้าง พอฟังไม่ทันก็พยายามที่จะหาคำตอบให้ได้ จนสุดท้ายกลายเป็นว่าล่มทั้งขบวน พี่เลยจะบอกเป็นเคล็ดลับเล็กๆให้ว่า ยอมตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต (เสียคะแนนไป 1 ข้อ ดีกว่าเสียทั้งหมด) ถ้าฟังไม่ทันจริงๆ ให้ข้ามไปอ่านโจทย์และคำตอบข้อต่อไปเลย จากนั้นค่อยหาเวลาเท่าที่มา มาลองเดาบริบทในข้อนั้นว่าข้อไหนถึงจะตรงที่สุดก็ให้เลือกข้อนั้น
จำเอาไว้ว่า พลาดแล้วอย่ามัวแต่เสียใจ เสียดาย จนทำให้พลาดคะแนนอื่นๆที่เราสามารถทำได้ ตั้งสติ แล้วทำให้ดีที่สุดแบบที่เมื่อหันกลับมาแล้วจะไม่เสียใจทีหลัง
หวังว่าเทคนิคนี้พอจะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆที่กำลังจะเตรียมสอบ Toeic กันนะคะ ที่จริงมีแบบทดสอบใน YouTube มากมาย ให้เราได้ทดลองทำข้อสอบ Part Listening กันด้วยนะ โดยพิมพ์คำว่า “Toeic Listening” ก็สามารถลงมือทำ พร้อมกับดูเฉลยในตอนท้ายได้เลย!
Test มากมายที่ถ้าทำทั้งหมดแล้วต้องกลายเป็นเทพแห่ง Toeic Listening อย่างแน่นอน!
4.) "สุดท้ายในทุกสนาม ผู้ได้เปรียบคือผู้ที่หมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ"
สำหรับน้องๆคนไหนที่ยังไม่สอบ Toeic หรือวางแผนจะสอบในอีก 1–2 ปีข้างหน้า เป็นโอกาสดีที่น้องๆจะได้ฝึกทำข้อสอบวันละคลิป ครบ 1 ปี พี่วามั่นใจว่าน้องๆต้องได้คะแนนสูง โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปเรียนพิเศษอย่างแน่นอนค่ะ : )
เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนในการทำ Toeic พาร์ท Listening นะคะ!
ขอให้ผ่าน ได้คะแนนดีๆกันทุกคนนะ! ^^
แสดงความคิดเห็น