Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เคล็บ(ไม่)ลับกับการพิชิต Toeic : Listening แบบเร็วที่สุด

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เคล็บ(ไม่)ลับกับการพิชิต Toeic : Listening แบบเร็วที่สุด

            วันนี้กลับมากับกระทู้มีสาระ(นิดนึง) หลังจากเขียน Basic Trick แก้ไข Word วางภาพไม่ได้กันไปในกระทู้ที่แล้ว

            วันนี้กับเคล็ดลับพิชิต Toeic พาร์ท Listening ที่อาจจะไม่ลับนักสำหรับคนที่จับจุดได้แล้ว แต่กับน้องๆที่ยังงงๆอยู่ว่าจะรับมือยังไงในเวลาสอบจริง พี่ก็จะขอแชร์เทคนิคที่พี่ใช้ในการสอบมาไว้นะที่นี้แล้วกันนะคะ ดีไม่ดีอย่างไรต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

            หน้าตาของข้อสอบพาร์ทนี้ เท่าที่พี่จำได้ก็จะมีหน้าตาประมาณรูปด้านล่าง ข้อสอบแนว Listening แบบถามแล้วตอบเป็นข้อๆแยกกันนี้ จะมาเขย่าขวัญเราด้วยการอัด “โจทย์ 1 คำตอบ 4" มาเป็นกองพัน
 

  1. ที่เราจะพลาดกันบ่อยๆคือ เราตั้งใจฟังมากไป
    จนทำให้อ่านทั้งโจทย์ข้อปัจจุบันและโจทย์ข้อต่อไปไม่ทัน

  2.  



ส่วนมากในพาร์ทนี้จะทำเราตกม้าตายตรงที่….

  1. อ่านโจทย์ (ข้อปัจจุบัน) ไม่ทันว่าโจทย์ถามอะไร?
  2. อ่านคำตอบ (ข้อปัจจุบัน) ไม่ทันว่ามันหมายถึงอะไร?
  3. อ่านโจทย์และคำตอบ (ของข้อต่อไป) ไม่ทัน

-------------------------------------



เทคนิคที่ต้องฝึกกันด้วยความเร็ว

            พี่คิดถึงประโยคที่เขียนอยู่ในหนังสือของ “โคโนะ เก็นโตะ” อัฉริยะสมองเพชรคนล่าสุดของญี่ปุ่น ดีกรีนักศึกษาแพทย์ มหาฯลัยโตเกียว ที่สอบเนติบัณฑิตผ่านตั้งแต่ครั้งแรก เนื้อความประมาณว่า “ความเร็วในการอ่านสำคัญมาก แต่ถ้าอ่านเร็วแล้วไม่รู้เรื่องก็ใช้ไม่ได้”


 

หนังสือของเก็นโตะคุงออกวางแผง แปลเป็นฉบับภาษาไทยแล้ว โดยเครืออมรินทร์


            พี่คิดว่าเก็นโตะคุงพูดไม่ผิด ในการทำพาร์ทนี้ก็เช่นกัน เทคนิคในการทำ Toeic : Listening คือ น้องต้องรีบอ่านโจทย์และคำตอบในข้อที่ใกล้จะถึงให้เร็วที่สุด เพราะส่วนมากเราจะติดนิสัยฟังก่อนแล้วค่อยหาคำตอบ แต่อย่าลืมว่าสำหรับคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ กว่าจะมานั่งอ่านโจทย์ ทบทวนเนื้อเรื่องอีกที เขาก็พูดเนื้อเรื่องของข้อต่อไปแล้ว


 

-------------------------------------


 

1.) พิชิต Listening ด้วยความเร็ว

            น้องจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาช่วงที่เขากำลังอธิบาย Directions ซึ่งจะกินเวลาราวๆ 1 นาที ไป “อ่านโจทย์และคำตอบตั้งแต่ข้อแรกลงไป” (เท่าที่พอจะอ่านได้ และต้องจำได้ด้วย ไม่ใช่แค่อ่านไปเรื่อยๆ)

 

ในการสอบ Toeic เสียงคนพูดจะพูดตามคำสั่งในแต่ละพาร์ททุกครั้ง

ให้เราใช้โอกาสนี้ อ่านโจทย์และคำตอบของข้อแรกรอไว้เลย
 

            เมื่อน้องพอจะจำเค้าโครงของคำถามและคำตอบได้ ตอนที่เขาเริ่มพูดเนื้อเรื่องข้อแรก ให้น้องตั้งใจฟัง และจดจ่อไปที่คำตอบทั้ง 4 ข้อ คำตอบข้อไหนที่ตรงกับคำถามและมีตรรกะตรงมากที่สุดก็ให้น้องเลือกเลย ไม่จำเป็นต้องนั่งทวนหรือรอเขาพูดจบ เพื่อจะได้รีบอ่านโจทย์และคำตอบของข้อถัดไปทันที น้องต้องมีความมั่นใจ และมีสติ ถ้าน้องรน ทุกอย่างจะพังทันที
 


การจับประเด็นเป็นสิ่งสำคัญ 
Key Word ถ้าจับพลาด
ความหมาย คำถาม และคำตอบจะเปลี่ยนทันที


            เท่ากับว่าน้องต้องเร็วกว่าคนพูด 1 ก้าว เพื่อเตรียมตัวสำหรับตอบข้อต่อไป อย่ารน เพราะคำตอบมันไม่หนีไปจาก 4 ข้อนี้ แค่เราจับประเด็นถูก ก็เท่ากับว่าคำตอบรออยู่ตรงหน้าแล้ว แค่รอเราคอนเฟริมเท่านั้น วิธีการทำข้อสอบแบบนี้จะต้องอาศัยความเข้าใจ มั่นใจ และแน่ใจค่อนข้างสูง เพราะถ้าน้องไม่ฝึกฟังและจับประเด็นให้ดี น้องมีสิทธิ์จะตอบพลาด เพราะการด่วนสรุปและรีบตอบเร็วเกินไป
 

รูปภาพตารางความเร็วในการทำข้อสอบ

-------------------------------------

2.) พิชิต Listening ด้วย Key Words กันถูกหลอก

            เราพูดถึงความเร็วกันไปแล้ว ตอนนี้เรามาดูเรื่อง Key Words กันบ้าง มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เรื่องของการ จับประเด็น” อย่างเดียว แต่มีส่วนช่วยในการ “กันไม่ให้น้องถูกหลอก” ด้วย หลายครั้งที่เรามักจะพลาด ฟังวันผิด บางครั้งเขาไม่บอกวันด้วยซ้ำ แต่อาจจะพูดว่า วันนี้วันศุกร์ เมื่อสองวันที่แล้วคุณไปไหนมา? ก็ยังได้

            จึงไม่ใช่ว่า คนพูดจะต้องพูดตรงเป๊ะๆ อาจจะเป็นคำพูดแฝงที่ต้องไปตีความอีกที เช่น อาจจะพูดว่า

           "
วันนี้แดดแรงจัง ทั้งๆที่ควรจะเป็นฤดูที่ต้องพกร่มแท้ๆ ถ้าเกิดคำถามถามว่าฤดูต่อไปควรเป็นฤดูอะไร?"

           
ที่นี้เราที่ไปโฟกัสแต่สิ่งที่เขาพูด เกี่ยวกับ แดด หรือ ร่ม ก็จะพลาดในทันที นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้อง “อ่านโจทย์และคำตอบก่อน” รวมไปถึงการหา Key Words ดักเอาไว้ก่อนด้วย

 

ทุกข้อมีสิทธิ์โดนหลอกได้เท่าๆกัน อยู่ที่ไหวพริบของเราเอง

-------------------------------------


 

3.) ถ้าพลาด ฟังไม่ทัน ให้รีบข้ามไปข้อต่อไปทันที

            แน่นอนไม่ว่าใครก็ต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้น อาจจะลนบ้าง ตื่นเต้นบ้าง พอฟังไม่ทันก็พยายามที่จะหาคำตอบให้ได้ จนสุดท้ายกลายเป็นว่าล่มทั้งขบวน พี่เลยจะบอกเป็นเคล็ดลับเล็กๆให้ว่า ยอมตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต (เสียคะแนนไป 1 ข้อ ดีกว่าเสียทั้งหมด) ถ้าฟังไม่ทันจริงๆ ให้ข้ามไปอ่านโจทย์และคำตอบข้อต่อไปเลย จากนั้นค่อยหาเวลาเท่าที่มา มาลองเดาบริบทในข้อนั้นว่าข้อไหนถึงจะตรงที่สุดก็ให้เลือกข้อนั้น



            จำเอาไว้ว่า พลาดแล้วอย่ามัวแต่เสียใจ เสียดาย จนทำให้พลาดคะแนนอื่นๆที่เราสามารถทำได้ ตั้งสติ แล้วทำให้ดีที่สุดแบบที่เมื่อหันกลับมาแล้วจะไม่เสียใจทีหลัง

 

            หวังว่าเทคนิคนี้พอจะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆที่กำลังจะเตรียมสอบ Toeic กันนะคะ ที่จริงมีแบบทดสอบใน YouTube มากมาย ให้เราได้ทดลองทำข้อสอบ Part Listening กันด้วยนะ โดยพิมพ์คำว่า “Toeic Listening” ก็สามารถลงมือทำ พร้อมกับดูเฉลยในตอนท้ายได้เลย!

 

Test มากมายที่ถ้าทำทั้งหมดแล้วต้องกลายเป็นเทพแห่ง Toeic Listening อย่างแน่นอน!



4.) "สุดท้ายในทุกสนาม ผู้ได้เปรียบคือผู้ที่หมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ"



 

            สำหรับน้องๆคนไหนที่ยังไม่สอบ Toeic หรือวางแผนจะสอบในอีก 1–2 ปีข้างหน้า เป็นโอกาสดีที่น้องๆจะได้ฝึกทำข้อสอบวันละคลิป ครบ 1 ปี พี่วามั่นใจว่าน้องๆต้องได้คะแนนสูง โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปเรียนพิเศษอย่างแน่นอนค่ะ : )


เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนในการทำ Toeic พาร์ท Listening นะคะ!


ขอให้ผ่าน ได้คะแนนดีๆกันทุกคนนะ! ^^

แสดงความคิดเห็น

>